สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการสั่งซื้อ iPhone SE 2020 จาก
Online Apple Store
จะเล่ารายละเอียดทั้งการสั่งซื้อของจากใน apple store แล้วก็การเปลี่ยนจาก android user เป็น apple user ด้วยนะคะ
ยาวไปไม่อ่าน
- สั่งซื้อง่ายสะดวกดี
- มีผ่อนจ่าย 0% อยู่หลายธนาคาร: SCB KBank Citi UOB (
รายละเอียดเพิ่มเติม)
- ได้รับของตรงเวลาตามที่ระบุไว้ในเว็บตอนสั่งซื้อ (จริงๆก็อยากได้ก่อนวันที่แจ้งไว้เหมือนกันนะ 55)
- ขนส่งเป็น DHL ของมาจากสิงคโปร์ มีอัปเดตเป็นระยะ ทั่วไปเลยค่ะ
- ไม่พอใจ/มีปัญหาสามารถเคลมได้ภายใน 14 วัน (ยังไม่เคยลองค่ะ เพิ่งได้รับเครื่องวันนี้เลย ก็ดูปกติดี)
ก่อนหน้านี้เป็น android user มาตลอด (?) เลยค่ะ เคยได้แตะ iPhone 3 กับ 4 แค่ของเพื่อน ก็ชอบความไอโฟนมากเลยนะคะ ทั้ง UX UI มันน่ารักมันสวยน่าใช้ไปหมด ทั้งดีไซน์ hardware และ software แต่ไม่มีงบค่ะ ตอนนั้นยังใช้โทรศัพท์กดๆอยู่เลย แอนดรอยด์ก็เพิ่งใช้ได้ประมาณ 6 ปีแหละ
อารัมภบท: ก่อนที่เราจะมาลงเอยที่ iPhone
section นี้ไม่มีพูดถึง apple store เลย เล่าแต่การเลือกโทรศัพท์ของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประสบการณ์การใช้แอนดรอยด์
ที่ใช้มาก็ของทรู (ยี่ห้อทรูเลยค่ะ) ราคาถูก 4-5000 บาท กล้องถ่ายรูปสีถูกใจเราค่ะ สีหน้าจอก็โอเค อะไรต่างๆก็โอเค ได้ไปจับ Sony Xperia Z อยู่ช่วงนึง ก่อนที่น้องจะลาไปเพราะจอแตกที่มุมนิดนึงแต่ทัชไม่ได้เลย แล้วก็กลับมาจับโทรศัพท์ของทรูใหม่ (ขโมยของคุณยายมาใช้) Smart 4G Max 5.5" จนน้องเริ่มไม่ไหวแล้ว รีตัวเองไปหลายรอบและอืดมาก
โทรศัพท์จะไปแล้ว แล้วจะไปใช้ยี่ห้ออะไรแทนดี
คิดอยู่ว่าจะใช้โทรศัพท์ของอะไรดีเพราะตอนนี้ในตลาดมีหลายยี่ห้อมากๆ
เราเองก็ไม่ได้ใช้โทรศัพท์อะไรมาก มีแค่ไถทวิตเป็นส่วนใหญ่ ถ่ายรูปบ้าง เล่นเกมไม่ได้เยอะ ฟังเพลงบ้าง ยูทูบก็ดูบ้างแต่น้อย หลักๆแค่ไถทวิตเลยแหละ
ที่กังวลสุดคือเรื่องสีจอกับสีกล้องนี่แหละค่ะ ซีเรียสเรื่องนี้พอสมควร เพราะถ้าได้สีกล้องที่ไม่ถูกใจก็ไม่อยากใช้เลย คุณยายให้ Samsung Galaxy A8 มาใช้แทนเครื่องทรูที่อืดก็ไม่ไหวเลย กล้องไม่ได้เรื่อง สีแย่มาก แถมโหมดก็น้อย โทรศัพท์ทรูยังดีกว่าเยอะ (รู้สึกซัมซุงนางมีดีที่พวก galaxy gift อะไรพวกนี้) สุดท้ายก็กลับไปใช้ทรูต่อ (ตอนนี้ Samsung อืดแซงหน้าไปแล้ว)
โหมดในแอปกล้องถ่ายรูปของ True Smart 4g Max 5.5"
โหมดในแอปกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy A8
โหมดของ Samsung น้อยมาก กล้องก็สีไม่ถูกใจเรา WB ก็ไม่ไหว
โทรศัพท์ที่อยู่ในตัวเลือก
ตอนแรกลังเลระหว่าง Xiaomi Realme แล้วก็ Oppo คือยังไงก็จะไม่ซื้อ Samsung แน่ๆ ใช้แล้วไม่ถูกจริตเลย ได้ยินว่า Samsung ถ้าไม่ใช่รุ่นสูงๆดีๆไปเลยก็ไปใช้ยี่ห้ออื่นจะดีกว่า ยี่ห้ออื่นๆก็สเป็กแรงมาก แต่ราคาถูกจนน่าประหลาดใจ ราคาหลักพันปลายๆถึงหมื่นกลางๆเองด้วย
เราไม่ได้สนใจจะใช้แอปเปิ้ลเลยค่ะ เพราะสำหรับเราที่ไม่ใช่สาวกแอปเปิ้ล ราคามันเกินเบอร์ไปมาก overprice อะ สเป็กของแอนดรอยด์ยี่ห้ออื่นในราคาที่เท่าๆกันคือนำไปโน่น แอนดรอยด์แรม 8GB แอปเปิ้ลนางมี 3GB เอิ่มเอ่ออ่า (แต่ได้ยินว่า resource management ของแอปเปิ้ลดีนะ) แล้วไหนจะความจุกจิกประสาแอปเปิ้ล gadget ต่างๆ ความแอปเปิ้ลอะ นางก็เลยไม่อยู่ในลิสต์ของเรา
ลังเลอยู่ระหว่าง Xiaomi 10T กับ Realme 7 pro เพราะสเป็กก็พอๆกันเลย เลือกไม่ได้ แต่ไม่ชอบโทรศัพท์จีนอย่างนึงคือเรื่องการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องที่แอปเปิ้ลให้ความสำคัญมากกก แต่หาไม่ได้จากโทรศัพท์จีน (huawei ก็เลยโดนเราขมวดคิ้วใส่เพราะการณ์นี้) Xiaomi ก็เช่นกัน
แล้วก็ไปเจอ Realme X7 pro ค่ะ สเป็กไม่ต้องดูละ เพราะว่าสีเครื่องนางถูกจริตเรามากกกกกก iridescent มันแบบ นี่แหละ โทรศัพท์ที่เกิดมาเพื่อเรา เราจะซื้อโทรศัพท์ที่สีเครื่องได้ไหม ได้แหละเนอะ ประโยคที่อยู่บนตัวเครื่องก็เท่ดีค่ะ (แต่ก็มีคนไม่ชอบนะคะ เขาว่ารก) แต่จะกดซื้อเลยก็ยังไม่มั่นใจเพราะไม่เคยจับยี่ห้อนี้มาก่อน ไม่รู้กล้องเป็นยังไง สีจอจริงๆเป็นไง สีรูปกับสีจอสำคัญที่สุดแล้วจริง ว่าจะไปลองจับเครื่องจริงก็ไม่มีเวลาเพราะปกติเลิกงานช้า ร้านปิดหมดแล้ว
สีมันสวยมากจริงๆ
ระหว่างที่ลังเลก็มีอีก 1 ตัวเลือกเข้ามา Oppo Reno 5 ค่ะ มาอีกแร้ว สีสายรุ้งและยูนิคอร์นแบบที่ชอบ น่าสอยมากๆ Oppo กับ Realme นี่ก็แบรนด์แม่แบรนด์ลูกกัน ไม่ต้องคิดมาก แล้วเป็นตัวที่เพิ่งออกใหม่ด้วยเลย หวาว จะได้ใช้โทรศัพท์รุ่นใหม่เลยเหรอ
แล้วมาลงเอยที่ iPhone ได้ไง
ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะใช้ยี่ห้ออะไรดี คุณแม่ (ผู้ที่ใช้ iPhone7+) ก็บอกว่าใช้ไอโฟนสิ
ก็ไม่ได้อยากใช้เลยอะเพราะมันแพงมาก คือถ้าเราคิดว่ามันคุ้มค่าเราก็ไม่รู้สึกว่ามันแพง แต่เราไม่คิดว่ามันคุ้มไง
คุณแม่บอกว่าใช้ se ก็ได้ ราคาถูก ประหยัด เลยลองไปดู โอ้โห ราคาถูกจนน่าตกใจจริงๆ เริ่มต้นที่ 14,900 (64GB) นี่แอปเปิ้ลมีราคานี้จริงๆเหรอ สูงสุดที่ 20,900 (256GB) ซึ่งแฟนผู้ใช้ iPad อยู่ก็บอกว่า ถ้าจะใช้ apple ก็เลือกที่ mem เยอะๆไปเลย เพราะใช้ไปนานๆแล้วนางกินพื้นที่มาก
ไอโฟน 2 หมื่นเทียบกับแอนดรอยด์ 1 หมื่นปลายๆอะค่ะ (ตอนนั้นปักใจกับ Realme X7 pro แล้ว ราคา 16,990 บาท)
แต่พอเทียบราคาต่อปี แอปเปิ้ลถึงนางจะแพงแต่ก็ใช้ได้นาน 4-5 ปีเลย ไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจเหมือนแอนดรอยด์ด้วย ส่วนแอนดรอยด์ประมาณ 3 ปีก็เริ่มไม่ไหวแล้ว แล้วเราก็ไม่ใช่คนรักษาของเท่าไร ถ้าใช้ไอโฟนได้ 4 ปี ราคาต่อปีก็ 5000 เอง 5 ปีก็ 4000 แต่ถ้าใช้แอนดรอยด์ 3 ปีก็เกือบ 6000/ปี ยังไม่รวมสารพัดปัญหานู่นนี่นั่น
จบดีลที่ iPhone SE 2020 ไปแบบงงๆ คิดว่าจะซื้อโทรศัพท์ที่ราคาหมื่นนิดๆ จบที่สองหมื่น งงมาก
เหตุผลที่เราเลือก iPhone SE 2020
ตอนที่เลือก iPhone ก็ดูระหว่าง 11 12 mini แล้วก็ SE 2020 นี่แหละค่ะ แอนดรอยด์ที่ใช้จอ 5.5" เราอยากได้จอไม่ต้องใหญ่มาก เมื่อยมือ อยากถือถนัดๆ จริงๆอยากได้ 5" แต่มันไม่มี... 11 ก็ 6.1" เลย 12mini ก็ 5.4" ใกล้เคียงกับที่ใช้อยู่ ส่วน SE เครื่องจิ๋ว 4.7" เคยจับ 7 ของบริษัทอยู่ ก็กระทัดรัดดี ใช้ได้แหละ ดูสเป็กดูอะไรก็เลือก SE ละกัน จอเล็ก สเป็กก็ใกล้เคียง 11 เพิ่งปล่อยมาปีเดียว ยังไม่ทันตกรุ่นอะไร ราคาก็รับได้ (เมื่อหารต่อปี)
(ที่อยากได้ 11 เพราะสีนะ อยากได้สีม่วง SE ไม่มีสีม่วง 12 ก็ไม่มีสีม่วง...)
จบอารัมภบทมาเข้าเว็บ Apple Store ได้แล้ว
เลือกโทรศัพท์ในเว็บ apple
รำคาญเว็บแอปเปิ้ลมาก เพราะจะเข้าไปดูข้อมูลแต่มัน scroll น่ารำคาญมาก อยากอ่านข้อมูลรวดเดียวปรื๊ดๆๆ แต่นางเล่นลูกเล่นโน่นนี่นั่น พอ กดปิด ก็ไปหาอ่านในเว็บอื่นเอา
กลับเข้ามาในเว็บแอปเปิ้ล เราลองกดซื้อเล่นๆ ด้านล่างสุดมีให้จิ้มไปเลือกเปรียบเทียบโทรศัพท์รุ่นต่างๆได้ก็กดตามไปดู ซึ่ง เราชอบหน้านี้มากกกกก สรุปมาให้แล้ว อยากรู้อะไรก็จิ้มเลือกรุ่นแล้วเปรียบเทียบได้ง่ายๆเลย มันดีมากกกกสำหรับคนที่ลังเลว่าจะซื้อรุ่นไหนดี รุ่นไหนที่เหมาะกับเรากันนะ
ก็ตัดสินใจซื้อ SE เพราะหน้านี้ด้วยแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สั่งซื้อสินค้า
เลือกรุ่นได้ก็กดซื้อ เลือกสีเลือกเมม จะเอาแอปเปิ้ลแคร์ไหม (เราไม่เอา) ล็อกอินด้วย apple id (ไม่จำเป็น แต่เราอยากเก็บประวัติไว้) จิ้มๆจ่ายตังตัดบัตรเรียบร้อยรอของมาส่งตามวันที่เขาแจ้งไว้ได้เลย
ซึ่งวันที่แจ้งไว้นี่ก็คิดว่าจะถึงแน่นอนเพราะจิ้มวันมาเลย ไม่ระบุเป็นช่วงวันด้วยนะ ประมาณ 1-3 ไม่ นางจิ้มเลย วันที่ 2 ได้ของนะจ๊ะ เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นอะ แต่ก็มาถึงตามวันที่แจ้งจริงๆนั่นแหละ (ไม่ยอมมาก่อนด้วยนะ ของมาถึงไทยตั้งแต่วันก่อน แต่ต้องนอนรออยู่ที่โกดัง ฮื่อ)
ได้รับของแล้ว
ด้านนอกก็เป็นกล่องพัสดุธรรมดา สภาพมาดีมาก ไม่มีบุบสบาย กล่องมาเนี้ยบเหมือนตั้งใจวางเรียงสวยๆรอเรารับ
ชอบตอนแกะกล่องมาก ชอบที่มันมีการยึดกล่องไอโฟนด้านในไว้อย่างดี ไม่กลิ้งเขย่าไปก็ไม่โลกหมุนแน่นอน
เราชอบแพ็คเกจจิ้งของไอโฟนมากจริงๆ มันเป็น ux ที่ดีมากเลย ประทับใจ ทั้งตอนแกะกล่องพัสดุ แกะกล่องโทรศัพท์ มีฟิล์มแปะรอบตัวเครื่อง (ดีมาก นั่งลอกทีละฝั่งจะได้แปะฟิล์มได้โดยไม่ต้องแตะเครื่องให้เปื้อนเลย) ชอบมากๆก็คงเป็นกระดาษที่รัดสายเคเบิ้ล เราว้าวมากเลย เป็นกระดาษทั้งหมด แกะกริ๊ก ประทับใจสุดแล้ว ส่วนโทรศัพท์เหรอ... ก็เคยเห็นแล้วงี้ 55
สรุปไทม์ไลน์
- 28/1 สั่งของ
- 29/1 DHL รับของที่สิงคโปร์
- 30/1 ของส่งจากสิงคโปร์ถึงไทย (แล้วก็รอๆๆ ในลิงค์สถานะของ DHL มันขึ้นว่า "สินค้าอยู่ในช่วงการรอ" จริงๆ)
- 2/2 ได้รับของ
รวมทั้งสิ้น 5 วัน
นอนอยู่บ้านเฉยๆก็เสียตังได้ ไม่ต้องออกไปไหนเลย (ไม่ต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคด้วย)
ข้อดี-ข้อเสียของการสั่งออนไลน์
ข้อดีของการสั่งซื้อจาก Online Apple Store ก็คือสะดวกนี่แหละ สะดวกสบายมาก
ข้อเสียก็คงเป็นการไม่ได้ทดลองแตะเครื่องจริง ไม่ได้ตรวจดูตัวเครื่องก่อนซื้อ ถ้ามีปัญหาต้องเคลมก็ต้องใช้เวลา (กว่าจะส่งของกลับไป แล้วแอปเปิ้ลส่งเครื่องใหม่กลับมา)
ข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบระหว่าง apple กับ android
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในฐานะ (อดีต) android user...
แอปเปิ้ลเสียตังซื้อของจุกจิกเยอะมาก ฟิล์ม เคส อแดปเตอร์ที่ไม่มีแถมแล้ว อยากใช้หูฟังเหรอ ไม่มีรู 3.5mm ให้นะ แต่ไม่แถมแจ็คให้แล้ว (หน็อย) จะไม่เสียบก็ได้แต่ซื้อ airpod เอาเองละกัน (...) อยากได้ประกันเพิ่มไหม แอปเปิ้ลแคร์สนเปล่า ฯลฯ คือ ยุ่บยั่บมาก
ช็อกสุดก็คงเป็นสาย usb-c to lightning กะว่าไม่มีอแดปเตอร์แถมก็ไม่เป็นไร ปลั๊กเราเสียบ usb ชาร์จได้ จบเลย (ยังดีที่เสียบคอม/พาวเวอร์แบงค์ได้)
เทียบกับแอนดรอยด์ที่กดสั่งซื้อ 1 ครั้ง ใน 1 กล่องแถมให้หมด สายชาร์จ อแดปเตอร์ หูฟัง ฟิล์ม เคส ฯลฯ คือเคยซื้อแอนดรอยด์ยี่ห้อทรู ไม่ใช่ยี่ห้อที่ใช้กันทั่วๆไปไง เคสอย่าหวังว่าจะหาซื้อได้ ใช้จนพังแล้วโยนทิ้ง ฟิล์มมีแปะมาให้แล้วแล้วก็แถมให้อีก 1 อัน จบ ใช้ยาวๆจนฟิล์มอันที่ 2 ถลอกปอกเปิกแล้วก็เครื่องอืดนอนรอความตาย (อาจจะใช้ของรุ่นอื่นแทนได้แหละ แต่เราขี้เกียจหา)
แต่ข้อดีของแอปเปิ้ลคือตัวเครื่องไม่มีปัญหาจุกจิก เท่าที่เห็นคนใช้แอปเปิ้ล ไม่ค่อยเจอปัญหาแบบที่ชาวแอนดรอยด์เจอ (ค้าง บลาๆๆ) แต่เราก็รู้สึกว่ามันมีปัญหากับเพื่อนร่วมโลกนิดหน่อยเพราะความแอปเปิ้ลอะ จะพัฒนาอะไรก็ต้องมาใช้แอปเปิ้ลโน่นนั่นนี่ (อืม...) มันรู้สึกยากในการเข้าถึง (และราคาก็ด้วย)
จบแล้วค่ะ ค่อนข้างยาวเพราะมีแต่น้ำ (ซึ่งหลายประเด็นก็ไม่ตรงกับหัวกระทู้เท่าไร เราก็เลยยัดใส่สปอยล์ไว้ จะได้ไม่ต้องนั่งไถค่ะ)
ที่มารีวิวเพราะตอนจะหารีวิวการสั่งของจากเว็บแอปเปิ้ลแล้วไม่ค่อยมีรีวิว ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลอะไรก็เผื่อจะเจอในกระทู้เรา (เราอยากรู้แค่ว่าจะได้ของตรงตามวันที่มันระบุไหม แค่นั้นเลย ซึ่งบางกระทู้ก็บอกได้ตรง แต่ก็มีคนที่บอกได้ก่อน)
ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามได้นะคะ
จบการรีวิวแค่นี้ ขอบคุณค่ะ
[CR] รีวิวสั่ง iPhone SE 2020 จาก Online Apple Store
จะเล่ารายละเอียดทั้งการสั่งซื้อของจากใน apple store แล้วก็การเปลี่ยนจาก android user เป็น apple user ด้วยนะคะ
ยาวไปไม่อ่าน
- สั่งซื้อง่ายสะดวกดี
- มีผ่อนจ่าย 0% อยู่หลายธนาคาร: SCB KBank Citi UOB (รายละเอียดเพิ่มเติม)
- ได้รับของตรงเวลาตามที่ระบุไว้ในเว็บตอนสั่งซื้อ (จริงๆก็อยากได้ก่อนวันที่แจ้งไว้เหมือนกันนะ 55)
- ขนส่งเป็น DHL ของมาจากสิงคโปร์ มีอัปเดตเป็นระยะ ทั่วไปเลยค่ะ
- ไม่พอใจ/มีปัญหาสามารถเคลมได้ภายใน 14 วัน (ยังไม่เคยลองค่ะ เพิ่งได้รับเครื่องวันนี้เลย ก็ดูปกติดี)
ก่อนหน้านี้เป็น android user มาตลอด (?) เลยค่ะ เคยได้แตะ iPhone 3 กับ 4 แค่ของเพื่อน ก็ชอบความไอโฟนมากเลยนะคะ ทั้ง UX UI มันน่ารักมันสวยน่าใช้ไปหมด ทั้งดีไซน์ hardware และ software แต่ไม่มีงบค่ะ ตอนนั้นยังใช้โทรศัพท์กดๆอยู่เลย แอนดรอยด์ก็เพิ่งใช้ได้ประมาณ 6 ปีแหละ
อารัมภบท: ก่อนที่เราจะมาลงเอยที่ iPhone
section นี้ไม่มีพูดถึง apple store เลย เล่าแต่การเลือกโทรศัพท์ของเรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จบอารัมภบทมาเข้าเว็บ Apple Store ได้แล้ว
เลือกโทรศัพท์ในเว็บ apple
รำคาญเว็บแอปเปิ้ลมาก เพราะจะเข้าไปดูข้อมูลแต่มัน scroll น่ารำคาญมาก อยากอ่านข้อมูลรวดเดียวปรื๊ดๆๆ แต่นางเล่นลูกเล่นโน่นนี่นั่น พอ กดปิด ก็ไปหาอ่านในเว็บอื่นเอา
กลับเข้ามาในเว็บแอปเปิ้ล เราลองกดซื้อเล่นๆ ด้านล่างสุดมีให้จิ้มไปเลือกเปรียบเทียบโทรศัพท์รุ่นต่างๆได้ก็กดตามไปดู ซึ่ง เราชอบหน้านี้มากกกกก สรุปมาให้แล้ว อยากรู้อะไรก็จิ้มเลือกรุ่นแล้วเปรียบเทียบได้ง่ายๆเลย มันดีมากกกกสำหรับคนที่ลังเลว่าจะซื้อรุ่นไหนดี รุ่นไหนที่เหมาะกับเรากันนะ
ก็ตัดสินใจซื้อ SE เพราะหน้านี้ด้วยแหละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สั่งซื้อสินค้า
เลือกรุ่นได้ก็กดซื้อ เลือกสีเลือกเมม จะเอาแอปเปิ้ลแคร์ไหม (เราไม่เอา) ล็อกอินด้วย apple id (ไม่จำเป็น แต่เราอยากเก็บประวัติไว้) จิ้มๆจ่ายตังตัดบัตรเรียบร้อยรอของมาส่งตามวันที่เขาแจ้งไว้ได้เลย
ซึ่งวันที่แจ้งไว้นี่ก็คิดว่าจะถึงแน่นอนเพราะจิ้มวันมาเลย ไม่ระบุเป็นช่วงวันด้วยนะ ประมาณ 1-3 ไม่ นางจิ้มเลย วันที่ 2 ได้ของนะจ๊ะ เอาอะไรมามั่นใจขนาดนั้นอะ แต่ก็มาถึงตามวันที่แจ้งจริงๆนั่นแหละ (ไม่ยอมมาก่อนด้วยนะ ของมาถึงไทยตั้งแต่วันก่อน แต่ต้องนอนรออยู่ที่โกดัง ฮื่อ)
ได้รับของแล้ว
ด้านนอกก็เป็นกล่องพัสดุธรรมดา สภาพมาดีมาก ไม่มีบุบสบาย กล่องมาเนี้ยบเหมือนตั้งใจวางเรียงสวยๆรอเรารับ
ชอบตอนแกะกล่องมาก ชอบที่มันมีการยึดกล่องไอโฟนด้านในไว้อย่างดี ไม่กลิ้งเขย่าไปก็ไม่โลกหมุนแน่นอน
เราชอบแพ็คเกจจิ้งของไอโฟนมากจริงๆ มันเป็น ux ที่ดีมากเลย ประทับใจ ทั้งตอนแกะกล่องพัสดุ แกะกล่องโทรศัพท์ มีฟิล์มแปะรอบตัวเครื่อง (ดีมาก นั่งลอกทีละฝั่งจะได้แปะฟิล์มได้โดยไม่ต้องแตะเครื่องให้เปื้อนเลย) ชอบมากๆก็คงเป็นกระดาษที่รัดสายเคเบิ้ล เราว้าวมากเลย เป็นกระดาษทั้งหมด แกะกริ๊ก ประทับใจสุดแล้ว ส่วนโทรศัพท์เหรอ... ก็เคยเห็นแล้วงี้ 55
สรุปไทม์ไลน์
- 28/1 สั่งของ
- 29/1 DHL รับของที่สิงคโปร์
- 30/1 ของส่งจากสิงคโปร์ถึงไทย (แล้วก็รอๆๆ ในลิงค์สถานะของ DHL มันขึ้นว่า "สินค้าอยู่ในช่วงการรอ" จริงๆ)
- 2/2 ได้รับของ
รวมทั้งสิ้น 5 วัน
นอนอยู่บ้านเฉยๆก็เสียตังได้ ไม่ต้องออกไปไหนเลย (ไม่ต้องเสี่ยงกับเชื้อโรคด้วย)
ข้อดี-ข้อเสียของการสั่งออนไลน์
ข้อดีของการสั่งซื้อจาก Online Apple Store ก็คือสะดวกนี่แหละ สะดวกสบายมาก
ข้อเสียก็คงเป็นการไม่ได้ทดลองแตะเครื่องจริง ไม่ได้ตรวจดูตัวเครื่องก่อนซื้อ ถ้ามีปัญหาต้องเคลมก็ต้องใช้เวลา (กว่าจะส่งของกลับไป แล้วแอปเปิ้ลส่งเครื่องใหม่กลับมา)
ข้อดีข้อเสียเปรียบเทียบระหว่าง apple กับ android
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จบแล้วค่ะ ค่อนข้างยาวเพราะมีแต่น้ำ (ซึ่งหลายประเด็นก็ไม่ตรงกับหัวกระทู้เท่าไร เราก็เลยยัดใส่สปอยล์ไว้ จะได้ไม่ต้องนั่งไถค่ะ)
ที่มารีวิวเพราะตอนจะหารีวิวการสั่งของจากเว็บแอปเปิ้ลแล้วไม่ค่อยมีรีวิว ถ้าใครอยากรู้ข้อมูลอะไรก็เผื่อจะเจอในกระทู้เรา (เราอยากรู้แค่ว่าจะได้ของตรงตามวันที่มันระบุไหม แค่นั้นเลย ซึ่งบางกระทู้ก็บอกได้ตรง แต่ก็มีคนที่บอกได้ก่อน)
ถ้ามีคำถามอะไรก็ถามได้นะคะ
จบการรีวิวแค่นี้ ขอบคุณค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้