ต้องบอกก่อนว่า เราต้องการผลสอบ IELTS ไปประกอบการขอวีซ่า WAH ซึ่งตามที่รู้กันว่าเขากำหนดเอาทุกพาร์ทและ Overall ไม่ต่ำกว่า 4.5 (ไม่ได้กำหนดว่า Academic หรือ General เราเลยเลือก General  ดีกว่า เพราะไม่มีเวลาเตรียมตัวมากนัก กลัวพลาดแล้วเสียดายเงิน)

โครงการนี้เราเคยสนใจเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว แล้วพับโครงการไป เพราะตอนนั้นไม่อยากสอบ ไม่เก่ง กลัวไม่ผ่าน กลัวกดโควต้าไม่ได้ ไม่พร้อมเรื่องเงิน ไม่มีแรงจูงใจ มาตอนนี้จะอายุ 30 ปีนี้แล้ว เกือบจะหมดสิทธิ์ละ มีแรงบรรดาลใจคือออกไปอยู่ที่ใหม่ๆ อยากไปจากที่นี่ แม้จะไปได้ชั่วคราวด้วยวีซ่านี้ก็เถอะ

คือตอนที่เราตัดสินใจสอบนี้ คือต้นเดือนมกราคม แล้วเรารู้มาว่า โควต้ารอบถัดไปของรอบ (2/2020) จะให้กดเดือนกุมภา ซึ่งยังไม่ได้บอกวัน ไอ้เราก็เลยรีบสอบ กลัวจะประกาศกดต้นเดือนกุมภาแล้วจะไม่ทัน เราเลือกสอบแบบคอม มีวันให้เลือกเยอะกว่าสอบแบบกระดาษ จะได้เลือกสอบปลายเดือนได้ และผลสอบก็ออกไวกว่า 
(ซึ่งตอนนี้ทาง ด.ย. ก็เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด)

เริ่มแรก พอคิดว่าจะสอบปุ้บ เราก็กังวลว่าจะต้องหาหนังสืออ่านยังไง แอปไหน เว็บไหนดี จับต้นชนปลายไม่ถูก เลยซื้อคอร์สออนไลน์ แบบ 1 เดือนของ IELTS Practice ราคา $79.99 

ที่เราจะได้คือตามในภาพเลย  ในโปรแกรมมีจับเวลาให้ด้วย
เราดูข้อมูลและลองฝึกทำ Reading 1 อาทิตย์ และก็ Listening อีก 1 อาทิตย์ สองพาร์ทนี้ใช้เวลาเยอะสุด แล้วพอตรวจคำตอบก็ออกมาได้น้อยสุด งง

มารู้ตัวก็เหลือเวลาอาทิตย์เดียว ยังไม่ได้ลองฝึก Writing and Speaking เลย ตอนนั้นรนมาก กลัวจะเตรียมตัวไม่ทัน คิดว่าจะเลื่อนสอบ แต่ต้องจ่าย 1,750 เลยสอบก็สอบวะ

เราแบ่ง 4 วัน ฝึกเขียน ทั้ง 2 part ในโปรแกรมจะให้หัวข้อมาให้ บอกเลยว่าใช้เวลาในการคิดและเขียนแต่ละพาร์ทเกิน 1 ชั่วโมง เพราะคิดไม่ออก ไม่รู้ทริค และพอตรวจแกรมม่าแล้ว ผิดกระจายเลย 
เราเลยดูวีดีโอของสองคนนี้ เป็นแนวทางการเขียน Introduction, body and conclusion  อธิบายได้ดี ช่วยให้เข้าใจได้เยอะ
IELTS Writing Task 2: How to write an introduction

How to write a good essay: Paraphrasing the question

เราลองตรวจแกรมม่าจากเว็บนี้ พอช่วยได้บ้าง
https://app.grammarly.com

เวลา 4  วันผ่านไปไวเหมือนโกหก เหลืออีก 3 วัน ต้องฝึก Speaking
ในคอร์สโปรแกรม มีให้ฝึกแค่ Part 2 ดังนั้น เราต้องหาหัวข้อของ Part 1 ฟังเอง
เราหาวีดีโอตามดูทูปดูการสอบ Speaking เราดูมากกว่า 10 คลิป พอเขาถามผู้สอบในคลิป เราก็มาลองตอบของเราเอง เราจะเลือกฟัง Band 4.5 ถึง 6 ก่อน เพราะเราจะได้เทียบถูกว่าเราพอจะได้ไหม
เราว่า Speaking เราก็แย่มาก พูดช้ามาก คิดนาน พูดตะกุกตะกัก แกรมม่าผิด โอ้ยท้อใจ
(เรามีแฟนต่างชาติ หลักๆคุยอังกฤษกัน มีพูดไทยปนบ้าง แต่ภาษาหลักเขาคือฝรั่งเศส แต่ก็ยังที่ที่เขาเกิดในประเทศที่ใช้อังกฤษมาก่อน เลยช่วยสอนช่วยติวให้ทุกพาร์ท)

แล้วก็มีสองแอปแนะนำ

Writing Tutor มีหัวข้อและตัวอย่างของแต่ละพาร์ทให้อ่านเยอะมากๆ ส่วน IELTSpeaking นี้มีให้เราอัดเสียงลงไปได้ด้วย 

พอลองฝึกทำข้อสอบทั้งหมด ได้คะแนนมาแล้วก็ลองเอามาคำนวณได้นะ ว่าน่าจะได้เท่าไหร่ 


ก่อนวันสอบ 3 วัน ทางสถาบันจะส่งเมลแจ้งอีกที 
ตอนแรกเราเลือกสอบพูดตอนบ่ายสองครึ่ง เขาส่งเมลมาเลื่อนให้สอบรอบ 13:20 แทน

ในที่สุดวันสอบก็มาถึง เครียดๆ กดกันสุด ไปถึงสถาบันสอบตั้งแต่ 8 โมง เราสอบที่จามจุรีย์ สแคว์
ไม่รู้ว่าต้องถ่ายเอกสารบัตรประชาชนไปด้วย ต้องเตรียมไปด้วยนะ

ฝากของทุกอย่าฝในล็อคเกอร์ เอาแค่เสื้อคลุมกับบัตร ปชช เข้าไป ได้ยินมาว่าแอร์หนาวมาก และก็หนาวจริงๆ 
 พาร์ทแรกที่สอบคือพาร์ทฟัง
ผลคือ ตื่นเต้น สติแตก ไม่มีสมาธิ ฟังไม่ทัน ถึงข้อต่อไปแล้วก็ยังมองข้อเดิมอยู่ จนต้องทิ้งไป แล้วตั้งใจฟังข้อต่อไป เดาไปหลายข้อเหมือนกัน ในใจแบบร้องไห้แล้ว ตกแน่พาร์ทนี้

พาร์ทสองคือ อ่าน
รู้สึกว่าทำไมพารากราฟมันยาวกว่าที่ฝึกมา มองๆแล้วไม่เข้าใจ ต้องอ่าน แต่อ่านแบบลวกๆเร็วๆ เพื่อหาคำตอบ เวลาจะหมด ก็ต้องเดา พาร์ทนี้ก็เฟลอีก

พาร์ทสามคือเขียน
ได้ Task 1 คือเราทำงานในร้านอาหารแล้วหัวหน้าอยากจะเปลี่ยนยูนิฟอร์ม ให้เราเสนอไอเดีย ทำไมถึงเสนอแบบนี้ แล้วลูกค้าจะได้อะไรจากตรงนี้
Task 2 ถามว่า บางครั้งเราควรสนับสนุน ให้กำลังใจเด็กออกไปเยี่ยมประเทศอื่นๆ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพราะอะไร
โชคดีได้หัวข้อไม่ยาก หัวข้อแรกคือแต่งเรื่องเลย มั่วสุด หัวข้อสองเข้าทางหน่อย เราชอบเที่ยว เราเห็นด้วย เขียนข้อดีไปสามข้อพร้อมยกตัวอย่าง เขียนจน 275 คำ มั่นใจมาก จนเวลาเหลือ 2 นาที ก็ตรวจหาคำผิด มารู้ตัวทีหลัง อ้าววว กรุลืมเขียน Conclusion เข่าแทบทรุด

เสร็จเกือบเที่ยง  ลงไปหาไรกินเบาๆ ก็เลยข้ามไปทำบุญวัดหัวลำโพง เสี่ยงเซียมซีบอกว่า คิดจะทำอะไรตอนนี้ล้มเลิกซะ ไม่สำเร็จหรอก ชั้นกรี้ดเลย ลางดีมาก

จนบ่าย เราขึ้นมารอสอบ ได้สอบกับผู้หญิง
Part 1 ถามเราเกี่ยวกับที่อยู่ ชอบที่อยู่ตอนนี้ไหม เพราะอะไร, คิดว่าเหมาะกับเด็กๆหรือครอบครัวที่จะอยู่ไหม, ถ้าอยากปรับปรุง จะปรับปรุงอะไรในบ้าน, ไปปิคนิกบ่อยไหม, คนส่วนใหญ่ไปที่ไหนกัน, เคยรีไซเคิลอะไรบ้าง, ตอนเด็กรีไซเคิลอะไร, คิดว่าเด็กๆควรรู้ไหมว่ารีไซเคิลคือไร 
Part 2 ได้หัวข้อ ให้เขียนถึงวัฒนธรรมไทย ทำไมถึงเลือกอันนี้ มีความสำคัญยังไง  

เราฟังไม่ค่อยเข้าใจบางคำ ถามซ้ำสองสามรอบได้ คิดในใจ จะรอดมั้ยเนี่ย

เสร็จแล้ว ออกมาก็รู้สึกลอยๆ เครียดนะ เพราะรู้สึกว่าเราพลาดอ่ะ ควรจะทำได้ดีกว่านี้ 

รอผลสอบ 3 วัน ก็ได้อีเมลช่วงค่ำ ผลออกมาคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Listening and Reading นี่ได้น้อยตามคาดเลย 
แต่เกินคาดคือ Writing and Speaking คือคิดว่าได้ 5 ก็ดีแล้วอ่ะ

แต่ก็ดีใจแล้วนะ ที่ผ่านเกณฑ์ที่ต้องการ แต่ก็จะฝึกต่อไปเรื่อยๆ จะลองสอบ Academic และอยากได้ Band 6+

ทริคของเรา 
Listening ฝึกฟังเยอะๆ บทความ หรือบทสนทนา มันจะชินหู ชินสำเนียง แล้วถ้ายิ่งฝึกติวบ่อยๆ ก็ยังพอเดาคำตอบได้
Reading ต้องติวเยอะๆ ฝึกอ่านแบบ Scanning Skimming หาคำตอบให้ได้เร็วๆ ถ้าไม่ได้ ไม่ทัน ก็เดาคำตอบเอาให้มันสัมพันธ์กัน
Writing ฝึกเขียน paraphrasing +  synonym  แล้วต่อด้วย Body 1,2 และ conclusion (แนะนำให้จำคำศัพท์ให้ได้มากที่สุด เพื่อความหลากหลาย)
Speaking พอฝึกฟังบ่อยๆ ก็จะเข้าใจคำถามง่ายขึ้น แต่ต้องฝึกตอบให้ตรงประเด็น ไม่ออกนอกประเด็น ฝึกออกเสียงให้ชัด ใช้แกรมม่าให้ถูก

ช่วงเวลาที่ติวนี้ แทบไม่ได้ทำอะไรบรรเทิงเลย ไม่ดูหนังหรือซีรี่ย์เลย 
พื้นฐานเราธรรมดามาก ไม่ได้เก่งมาก่อนเลย แต่ก็ต้องพยายาม
เราทำงานออฟฟิศ โชคดี ช่วงกลางเดือนมกรา บริษัทให้ WFH เลยมีเวลาติวมากหน่อย

จบรีวิวแล้วค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้าง