เรื่องเล่า...ที่ซินเจียง

ท้าวความก่อนนะครับ  เป็นบันทึกเรื่องราว เมื่อ 4 ปีที่แล้วนะครับ  ช่วงปลายเดือน เมษายน ปี 60 ตอนนั้นไปเที่ยวจีน 20 วัน ไปแบบ Backpack คนเดียว ในเส้นทางสายไหม ช่วงที่จีน  มีเรื่องราวในการเดินทางเยอะมาก พอดีช่วงนี้ไม่ได้ไปไหน แล้วก็ หลายๆคน ก็คงไปเที่ยวไม่ได้ ยกเว้นแค่ในประเทศ ด้วยโรคโควิด 19 อย่างเราที่รู้ๆกัน คงอีกหลายปีกว่าเหตุการณ์จะปรกติ เลยอยากเล่าเรื่องราวที่ไปเจอมา จากหลายๆเหตุการณ์ในตอนนั้น โดยผมจะเน้นที่ซินเจียงนะครับ
       โดยตอนนั้น ผมบินจากไทย ดอนเมืองไป ลงซีอาน แล้วนั่งรถไฟต่อไปเมือง ตุนหวง นั่งรถไฟต่อไปเมือง คัชการ์ ในเขตซินเจียง นั่งรถไฟ กลับมา เมือง อุรุมชี นั่งรถไฟ ต่อมาเมือง คุนหมิง นั่งรถบัสนอน มาห้วยทรายลาว ต่อ รถกลับมา เชียงราย กรุงเทพ ช่วงที่ไปถึงเมือง ซีอาน ก็เที่ยวทั่วๆไป เหมือนคนอื่นครับ กำแพงเมืองซีอาน ถนนคนเดินมุสลิม สุสานทหารจินซี ฮ่องเต้ ฯลฯ ก็เหมือนๆคนอื่นครับ ไม่มีอะไรแตกต่าง อะข้ามไป😂.. แล้วผมก็นั่งรถไฟต่อไปเมืองตุนหวง เที่ยวทะเลทราย หมิงซาซาน สระเสี้ยวจันทร ที่เป็นโอเอซิส สระน้ำกลางทะเลทราย

          หลังจากนั้นผมก็ นั่งรถไฟจากเมืองตุนหวง ไปเมืองคัชการ์ ในเขตซินเจียงอุยกูร์ เป็นจุดเริ่มต้นหลายๆเหตุการณ์เลย ตอนนั้นต้องนั่งรถไฟ 2 วัน2 คืนด้วยกัน ผมซื้อตั๋วรถไฟชั้น3 ครับ เพราะมันราคาถูก แบบนั่งธรรมดา รถไฟก็วิ่งไปเรื่อยๆ เวลาเดินไปอย่างช้าๆ เมื่อยมาก นอนไม่ค่อยหลับ เพราะผมเป็นคนนั่งหลับยาก ถ้าจะหลับได้ต้องนอนยาวๆยืดขาถึงจะหลับ
         พอรถไฟวิ่งผ่านไปเรื่อยๆ เข้าเขตซินเจียง คนก็เริ่ม ทะยอยลง ไปตามเมืองรายทางต่างๆ ที่รถไฟผ่าน จนในแต่ละโบกี้ เหลือคนน้อยมากๆ  ทั้งๆที่ ตอนออกมาจาก ตุนหวง คนก็เยอะปรกติ แสดงว่าคนไปเมืองนี้กันน้อยมาก เป็นเมืองใก้ลๆชายแดน ติดปากีสถาน คีรกิซสถาน คาซัคสถาน แถวๆนั้น ตู้ผมเหลือ แค่ 4 คน มี ผม แล้วก็ เด็กผู้ชาย 2 คน มากับพ่อ หรือญาติเขาก็ไม่รู้ ของเขาอีก1 คน ที่นั่งจนสุดสายจน ไปลงเมืองคัชการ์
         มิตรภาพ และความประทับใจ เริ่มจาก เมล็ดทานตะวัน 5 เมล็ด จากเด็กเชื่อสายอุยกูร์ ที่นั่งมาตู้เดียวกัน  
         จะเห็นว่าคนในขบวนรถนี้ ว่างมาก ผมเคยนั่งรถไฟจีนมาหลายครั้ง ยังไม่เคยเจอคนน้อยขนาดนี้ เด็ก 2 คน ก็วิ่งเล่นกันปรกติ เดินไปเดินมาในขบวน  ผมก็เลยเอาขนมให้ไป1ซอง แล้วเด็กก็เดินไปหา พ่อของเขา ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก็ได้ยินเสียงคุยกันดัง ประมาณว่า ไปเอาขนมที่ไหนมา ใครให้มา เด็กก็ตอบชี้มาที่ผม ผมฟังไม่ออก ผมเดาเอานะ😂
         จากนั้น เด็ก2 คนก็เดินกลับมาที่ผม มายืนข้างหน้าแล้วเอาไข้วหลัง แล้วก็ยิ้มๆ ประมาณว่า มีอะไรจะให้ แล้วก็ชูมา เป็นเมล็ดทานตะวัน แล้วก็ส่งให้ผม คงเอามาแลก กับที่ผมให้ขนมไป แล้วก็มานั่งคุย วิ่งเล่น จนรถไฟถึงสถานีเมืองคัชการ์ ก็แยกกันลง





พอลงจากสถานีรถไฟ ผมก็ ออกมาซื้อตั๋วรถไฟ ขากลับไว้เลย ตั๋วจาก คัชการ์ ไป อุรมชี ผมอยู่เมืองนี้ 4 วัน ตอนต่อแถวซื้อตั๋ว ก็ต่อแถวกันปรกติ  แล้วก็มีคนมาแซงคิวผม เป็นคนท้องถิ่น คงเห็นผมเป็นนักท่องเที่ยวมั้ง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่อยากมีปัญหา
       โดยคนที่มาแซงคิวผม เดินมาทำเป็นยืนคุยกับอีกคน แล้วเนียนเแทรกตัวต่อแถวเลย แล้วมีคนที่ต่อคิว ข้างหลังผมเขาไม่ยอม เดินไปบอกชี้ให้ไปต่อคิว  ยืนเถียงกันอยู่พักนึง  ตอนนั้นรู้สึกดีครับ แบบว่ามีคนมาท้องถิ่นมาช่วยปกป้องด้วย😂
เขาบอกให้ไปต่อคิวชี้ไปข้างหลัง ผมก็ยืนดูไม่ได้ว่าอะไร สุดท้ายคนที่แซง ไม่ยอมไป  เถียงกันเสียงดัง สุดท้ายคนที่มาบอกให้อีกคนไปต่อคิว เห็นว่าคนนั้นไปยอมไป ก็ตัดสินใจ ยืนข้างหน้า แซงคิว คนนั้นต่อเลย แบบหน้าตาเฉย แบบยิ้มไม่ไปงั้นตูแซงยิ้ม อีกต่อ ผมยืน งง555 ไม่นึกว่าจะเจอไม้นี้ สรุปโดนแซง2 คนเลย😂 พอซื้อตั๋วได้เสร็จก็นั่งรถบัสจากสถานีรถไฟไปโฮสเทลครับ ที่เมืองคัชการ์ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์  

         ผมไปพักโฮสเทลเดียวกับ ขิม กับ หลิว ที่เขาเคยไปพักมา เพราะเมืองนี้ มีโฮสเทล แค่ไม่กี่ที่ ถ้าใครเคยดูรายการ สองข้างทาง Along way home ตอนที่ขิมกับหลิว โบกรถมาจากเมือง ออส คีร์กิซสถาน เข้ามาจีน ที่เมือง คัชการ์ นั้นละครับ
ล็อบบี้โรงแรม จองมาก่อนแล้ว  มาถึงก็แจ้งชื่อ จ่ายเงิน เชคอิน เตียงรวม  คืนละ 200 บาท

เดินเข้าไปใน โฮสเทล เป็น 2 ชั้น

เข้ามาในห้อง ตกใจเล็กน้อย😂😂 แต่นอนได้ไม่ใช่ปัญหา  ขอแค่มีที่ซุกหัวนอน มีคนจีน อยู่ก่อนแล้ว 4คน


ข้างหน้าโฮศเทล ตรงข้ามเป็นโรงเรียนประถม เช้าๆ เย็นๆ ก็จะมีเด็กๆ ผู้ปกครองมาส่งเด็กกันเยอะ

เด็กๆ ก็คงคุ้นกับนักท่องเที่ยวดี ตอนผมเดินออกจากโฮสเทล ไปเดินเล่นในเมืองตอนเช้า  น้องก็พูดทักว่า ฮัลโหล แล้วยิ่มๆ ผมก็เลยเอาโทรศัพท์ถ่ายรูป พอน้องเห็น ก็ยิ่มโพสท่าให้ถ่าย

      แล้วเดินไปดูที่ต่างๆตลาด บ้านเมืองเขา




ร้านค้า ขายของในเมือง




[img]แล้วก็เดินไปมัสยิดเก่าแก่ที่สุดในเมืองคัชการ์ ตั้งแต่สมัย เส้นทางสายไหมโบราณ  
ถ้าใครเคยดูรายการ หนังพาไป ของ ยอดกับบอล ตอนคัชการ์ นี่หรือคือจีน โฮสเทล ที่ ทั้ง2 คน พัก อยู่ติดกับมัสยิดเลย




ลานหน้ามัสยิด ก็จะมีคนเอาสัตว์ พวกจามรี อูฐ แพะ มาให้นักท่องเที่ยวรูป นั่งรถลาก เดินดูเฉยๆครับ  เวลาไปยืนดู เขาก็จะชวนให้ถ่ายรูป นั่งรถม้า แต่ไม่กินเงินผมหรอก😂





        ช่วงที่อยู่ 4 วัน ก็แค่อยู่ในเมือง ไม่ได้ไปไหนมาก ประหยัด555 วันที่ 3 ก็เลยนึกอยากจะไป ทะเลสาป คารูกูลิ ถนน คาราโครัมไฮเวย์ ถนนที่ไป เชื่อมต่อกับ ปากีสถาน แต่ว่า ผมไปคนเดียวมันแพง ก็เลยไม่ได้  เพราะส่วนมากต้องซื้อทัวร์ หรือไม่ก็หารกับคนอื่น แต่มันไม่มีคนไป ก็เลยอดครับ ไปคนเดียวแพงมากๆ
        
        ก็เดินเล่นในเมือง ไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงดัง เพี้ยๆ ดังมาก และ เสียงดนตรี ก็เลยเดินตามเสียงนั้นไปตามถนน จนไปเจอ เป็นสวนสาธารณะ  มีคนเยอะมาก ทั้งคนจีนแท้ ทั้งคนท้องถิ่นอุยกูร์ มาเต้นรำ ร้องเพลง เล่นลูกข่าง ที่ดังเพี้ยๆ คือเสียตีลูกข่าง นี่เอง คนจีนแท้ๆ ที่เป็นชาวฮั่น จับกลุ่ม เปิดเพลง รำไทเก๊ก  เล่นไพ่  ตีปิงปอง เต้นรำ


ผมก็ไปยืนๆดู ไปขอต่อคิวเขาตีปิงปองกับคนที่นั้นด้วย  


คนเสื้อน้ำเงิน ผิวคล้ำๆ หน้าตาเอเซีย นั้นละคือผมเอง😂😂 ต้องยอมรับ พื้นฐานคนจีน ตีปิงปองกันเก่งจริงๆ555 ขนาดคนแก่ยังเก่ง ตีโต้ กัน ตบกัน ผมนี่เป็นเด็กหัดเล่นเลย   ก็เจอคนที่นั้นเขาก็ถามว่า มาจากประเทศอะไร มาทำอะไร พอบอกว่ามาจากประเทศไทย มาเที่ยว คนที่ผมคุยด้วย เขาบอกว่ารู้จักประเทศไทย เขาบอกผม ว่า เขารู้จัก คนชื่อ เกียรติพงษ์ คนนี้เก่งมาก ดังมากที่จีน ผมก็ได้พยัคหน้า อืมๆ พยามนึกว่าเขาคือใคร ตอนนั้นนึกไม่ออกจริงๆ ใครหว่าาา.. คิดในใจ เหมือนเขาจะรู้ ว่าผมนึกไม่ออก เขาก็กระโดดทำท่าตีวอลเล่ห์บอล...  พอเห็นแบบนี้นึกออกเลยครับ ผมบอก อ่อๆ คนไทยเรียกโค้ช อ๊อด โค้ชวอลเลห์บอลหญิงทีมชาตินั้นเอง

         กลับมาที่โฮสเทลต่อ วันสุดท้ายก่อนที่จะเดินทางออกจากเมืองนี้ ก็เจอ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ เขาบอกปั่นจักรยานมาจากตุรกี ปั่นมาเรื่อยๆ เข้าจอร์เจีย อาเซอร์ไบจัน คาซัค อุสเบ คีร์กิซ แล้วมาที่คัชการ์ และจะปั่นไปถึงฮ่องกง แล้วบินกลับอังกฤษ

.................


ไปต่อครับ วันสุดท้ายที่เมืองคัชการ์  ได้เวลา นั่งรถไฟกลับบ้าน ไปเมือง อุรุมชีต่อ ผมซื้อตั๋วขากลับเอาไว้แล้ว ก็นั่งรถบัสไปสถานีรถไฟ พอถึงสถานีรถไฟ ผมก็เดินไปเข้าด่านสแกน เอ็กซเรย์ กระเป๋าเลย  ด่านแรก ต้องผ่านทั้งหมด3 ด่าน มี จนท. ทหาร กวักมือเรียกผม แต่ผมไม่ได้เดินไปหา ตอนนั้นเรื่มปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำมาก ก็เลยรีบ จะไปเข้าห้องน้ำในสถานีรถไฟ ถึงด่านตรวจตั๋ว และพาสปอร์ต ก่อนเข้าไปในอาคาร จนท บอกผมว่า ยังเข้าไปไม่ได้ ต้องเอาพาสปอร์ต ไปให้ทหารตรงข้างหน้าตรวจก่อน ผมชี้ๆ บอกปวดท้อง  บอกทอยเล็ตๆ จะไม่ไหวแล้ว จะเข้าห้องน้ำ ขอเข้าไปในสถานีก่อนได้ไหม เพราะข้างนอกไม่มีห้องน้ำ เดี่ยวเข้าเสร็จแล้ว จะออกไปให้ทหารจรวจ และปั้มตรา เพราะถ้าทหารไม่ปั้มตรา ผมก็ขึ้นรถไฟไม่ได้อยู่ดี แม้จะมีตั๋วแล้ว
        จนท. ก็ยังไม่ให้เข้าไป ยังทำหน้าคิดๆอยู่ ผมเลย เอาตั๋วรถไฟ กับ พาสปอร์ต ให้ จนท เก็บไว้ เดี่ยว เข้าห้องน้ำเสร็จ จะออกมาเอา และเอาไปให้ ทหารปั้มตรา ด้านนอกอีก เพราะ คิวมันยาวตรงนั้น ผมปวดท้อง  จนท ก็ ยอมให้ผมเข้าไป
         พอเข้าห้องน้ำเสร็จ  ออกมา ผมมาหา จนท. คนนั้นเพื่อมาเอาตั๋ว กับ พาสปอร์ต  แต่หาไม่เจอ ตกใจครับ เดินหา ถามคนแถวๆนั้น ว่า จนท คนที่ยืนตรวจตรงทางเข้าทคนนั้นไปไหน ไม่มีใครรู้ สักพัก จนท ก็เดินออกมา จากห้อง  เขาบอกเอาพาสปอร์ต ผมไปตรวจ แล้วก็คืนให้ผม ผมก็ต้องออกไปให้ ด่านแรกปั้มพาสฯ แล้วต่อคิว เอ็กเรย์กระเป๋า ต่อคิว ตรวจตั๋ว ใหม่ กว่าจะเข้าไปในตัวอาคารสถานีรถไฟ หลายด่านเลยครับ ถ้าคนเคยขึ้นรถไฟจีนจะรู้ ยิ่งในเขตนี้ ด่านตรวจจะเพิ่มขึ้นอีก
    แล้วก็ได้ขึ้นรถไฟไปเมืองอุรุมชี ตั๋วนั่งชั้น 3 ประหยัดครับ ในรถไฟบันเทิงมากๆขบวนนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่