ความเดิมตอนที่แล้ว: Silk Road 8 วัน 8 คืน 3 พันกว่า กม.:ตอนกานซู มหัศจรรย์ภูเขาสีรุ้งกับทะเลทรายหมิงซาซาน #จีนก็มีแบบนี้ด้วย
https://ppantip.com/topic/37912527
**************************************************************************************************************
แผนการเดินทาง 16/09/17 - 23/09/17 เข้า Kanas Lake 21-22/09/17
Day 1 : BKK - Lanzhou ออกเดินทางตีหนึ่งแวะต่อเครื่องที่ปักกิ่ง แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงจากหลันโจวไปจางเย่ นอนโรงแรม
Day 2: Zhangye - Dunhuang เที่ยว Rainbow mountain และ Bing Gou Danxia นอนรถไฟ
Day 3: Dunhuang - Urumqi เที่ยวทะเลทราย Mingshashan ทะเลทรายหมิงซาซาน และ Mogao Caves ถ้ำโมเก่า นอนบนรถไฟ
Day 4 : Urumqi - Beitun เที่ยวพิพิธภัณท์ซินเจียง นอนบนรฤไฟ
Day 5 : Beitun - Hemu เที่ยวหมู่บ้านอนุรักษ์เหอมู่ นอนเหอมู่
Day 6 : Hemu - Kanasi เที่ยวทะเลสาปคานาสือ นอนคานาสือ
Day 7 : Beitun - Urumqi เที่ยวคานาสือเสร็จแล้วเหมารถแทคซี่ แวะทะเลสาปห้าสี ก่อนมาส่งที่สถานีรไฟ นอนบนรถไฟ
Day 8 :Urmqi - BKK แวะเที่ยวตลาดต้าปาจาก่อนกลับบ้าน
**************************************************************************************************************
Day 4 : Xinjiang >> Urumqi - Beitun เที่ยวพิพิธภัณท์ซินเจียง นอนบนรถไฟ
วันนี้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นเมื่อคืนเหมือนจะนอนหลับดี รู้สึกว่ารถไฟตู้นอนชั้นสองนี่มันช่างดีจริงๆ และที่ดีที่สุดคือตอนนี้ในห้องมีแค่เราสองคน เนื่องจากชายที่นอนชั้นบนเค้าลงไปแล้ววววว ดังนั้นเราจึงมีเวลาทำธุระส่วนตัวในรถไฟและนั่งพักผ่อน ชมวิวข้างทางพร้อนทานอาหารเช้าแสนอร่อย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางต่อ
สิบโมงครึ่งเราก็มาถึงเมืองอุรุมชี
.
.
ตามข้อมูลเกี่ยวกับซินเจียงในวิกิพีเดีย
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็นเขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร เมืองหลวงคือเมืองอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) มีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิซสถาน อัฟกานีสถาน ปากีสถานและอินเดีย นอกจากนี้ยังมีพรมแดนติดต่อกับทิเบต มีน้ำมันสำรองอุดมสมบูรณ์และเป็นภาคที่ผลิตแก๊สธรรมชาติใหญ่ที่สุดของจีน
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์มีพื้นที่ติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ประเทศคาซัคสถาน ประเทศรัสเซีย และประเทศมองโกเลีย
ทิศใต้ ติดต่อกับ เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน และรัฐชัมมูและกัษมีระ อินเดีย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ มณฑลชิงไห่ แล มณฑลกานซู ประเทศจีน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน และปากีสถาน
**************************************************************************************************************
ภาระกิจต่อไปคือไปเอาตั๋วรถไฟที่จองไว้และฝากกระเป๋า เราเดินหาทางที่จะเข้าไปเอาตั๋ว เดินวนอยู่สามรอบก็ยังหาจุดซื้อตั๋วไม่เจอ เนื่องจากที่ซินเจียงจะมีการตรวจที่เข้มข้นมาก ดังนั้นจุดซื้อ- ขายตั๋วจึงไม่เหมือนที่อื่นๆที่เคยซื้อ เพราะที่อื่นๆจุดขายตั๋วจะอยู่ด้านนอกแต่ที่สถานนีนี้จะต้องเข้าไปด้านในอาคารก่อน โดยการผ่านจุดตรวจพาสปอร์ตและสแกนกระเป๋ารวมทั้งค้นตัวก่อนจึงจะเข้าไปซื้อตั๋วได้ อะไรจะปานนั้น
ส่วนจุดฝากกระเป๋านี่ยิ่งแล้วใหญ่ กว่าจะผ่าด่านไปได้จะต้องเอาตั๋วที่ซื้อมาผ่านเข้าจุดตรวจทีชั้นสองเหมือนว่าเราจะเตรียมขึ้นรถไฟ กว่าจะฝากกระเป๋าเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว ดีที่วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรมาก ที่วางไว้คร่าวๆคือจะไปพิพิธภัณท์ซินเจียงแล้วเดินเล่นในเมือง
ออกมาหารถเมล์เพื่อไปพิพิธภัณท์ เจอรถเมล์ที่จอดมีหลายสาย เราเลือกถามคนขับรถสายที่อยู่ใกล้สุดคือสาย 5 ถามคนขับรถคนแรกว่าผ่านพิพิธภัณท์ไหม ไม่ได้คำตอบ ถามอีกคันนางตอบว่าไม่ผ่านโดยตรงคือต้องลงแล้วเดินต่ออีกหน่อย ขึ้นไปแบบงงๆว่าจะลงตรงไหนหว่า เอาไว้ไปถามคนในรถต่อก็ได้ ให้ลุงไปถามต่อในรถหลายคน แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนท้องถิ่น จึงไม่ได้คำตอบ จนมีพี่คนที่เพิ่งขึ้นรถมาใหม่นางบอกให้ลงป้ายหน้าแล้วเดินต่ออีกหน่อยก็ถึง เกือบแล้วไงถ้าไม่ได้พี่นี่เลยป้ายเลยนะ 555
พอลงไปก็ต้องไปถามอีกสองสามคน จนในที่สุดก็ถึงซะทีแต่จริงๆเดินไม่ไกลนะแค่ประมาณ 1 - 2 กม. ตอนที่ขึ้นรถเมล์จะมีช่วงที่ต้องเปลี่ยนเป็นรถ BRT สาย 5 ด้วย แต่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม (เราว่ามายากเหมือนกันนั่งรถแทคซี่น่าจะสะดวกสุด)
เราผ่านจุดตรวจเข้าไปด้านในพิพิธภัณท์ คือมันดีมาก ใหม่และมีการจัดการที่ดีรวมทั้งมีแต่ของที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมอย่างยิ่งและที่สำคัญคือ มันฟรี
.
.
.
.
หลังจากเต็มอิ่มกับของโบราณสมัยทางสายไหมแล้ว ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเราเห็นมีห้างและร้านอาหารสมัยใหม่ จึงแวะเข้าไปกินเบอร์เกอร์คิงและซื้อขนมปังเพื่อเป็นเสบียงสำหรับคืนนี้ เราจำไม่ได้ว่าเคยกินเบอร์เกอร์คิงหรือเปล่าแต่รู้สึกว่ามันอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินเบอร์เกอร์มา
ขากลับเดินออกมาตรงจุดที่ลงรถแล้วข้ามถนนมานั่งรถสายเดิม แล้วต่อรถ BRT สายเดียวกันแต่จ่ายเงินแค่ครั้งเดียวคือคนละ 2 หยวน
ได้เวลาพจญภัยต่อแล้ว คืนนี้ตามเวลาเราจองรถไฟไว้รอบสามทุ่ม จองได้ชั้นสามแถมคนละตู้อีกต่างหาก เนื่องจากเป็นช่วงพีคสำหรับการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะมีเวลาให้ชมความสวยสุดๆเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้นดังนั้นรถไฟชั้นสองจึงเต็มเร็วมาก (เต็มเร็วขนาดว่าเปิดจองล่วงหน้า 30 วัน พอเปิดให้จองวันแรกก็เต็มแล้ว) เราเข้าไปดูตั๋วล่วงหน้าตลอด เห็นเต็มมาตั้งแต่กลางเดือนกันยา
หลังจากที่ขึ้นรถไฟ เราไปที่ตู้ของลุงจุ้ยก่อนเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บเพราะเราจองให้ลุงได้เตียงล่าง เสร็จแล้วเดินไปหาตู้ของเราซึ่งอยู่ติดกันแต่มันดันเป็นหัวกะหางของคนละตู้ ใครเป็นคนเขียนระบบแรนด้อมเนี่ยเชื่อเค้าเลย จะให้อยู่ล็อกเดียวกันบ้างก็ไม่ได้กลัวเราไม่ตื่นเต้นหรือไงไม่รู้ แต่จริงๆมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะทั้งตู้เกิน 90% จะเป็นนักท่องเที่ยว
.
.
เดี๋ยวมาผจญภัยกันต่อที่เหอมู่ค่ะ
[CR] Silk Road 8 วัน 8 คืน 3 พันกว่า กม.:ตอนซินเจียง มหัศจรรย์น้ำสวยทะเลใสใบไม้เปลี่ยนสีที่ เหอมู่ คานาสือ บนเทือกเขาอัลไต
ความเดิมตอนที่แล้ว: Silk Road 8 วัน 8 คืน 3 พันกว่า กม.:ตอนกานซู มหัศจรรย์ภูเขาสีรุ้งกับทะเลทรายหมิงซาซาน #จีนก็มีแบบนี้ด้วย
https://ppantip.com/topic/37912527
**************************************************************************************************************
แผนการเดินทาง 16/09/17 - 23/09/17 เข้า Kanas Lake 21-22/09/17
Day 1 : BKK - Lanzhou ออกเดินทางตีหนึ่งแวะต่อเครื่องที่ปักกิ่ง แล้วต่อรถไฟความเร็วสูงจากหลันโจวไปจางเย่ นอนโรงแรม
Day 2: Zhangye - Dunhuang เที่ยว Rainbow mountain และ Bing Gou Danxia นอนรถไฟ
Day 3: Dunhuang - Urumqi เที่ยวทะเลทราย Mingshashan ทะเลทรายหมิงซาซาน และ Mogao Caves ถ้ำโมเก่า นอนบนรถไฟ
Day 4 : Urumqi - Beitun เที่ยวพิพิธภัณท์ซินเจียง นอนบนรฤไฟ
Day 5 : Beitun - Hemu เที่ยวหมู่บ้านอนุรักษ์เหอมู่ นอนเหอมู่
Day 6 : Hemu - Kanasi เที่ยวทะเลสาปคานาสือ นอนคานาสือ
Day 7 : Beitun - Urumqi เที่ยวคานาสือเสร็จแล้วเหมารถแทคซี่ แวะทะเลสาปห้าสี ก่อนมาส่งที่สถานีรไฟ นอนบนรถไฟ
Day 8 :Urmqi - BKK แวะเที่ยวตลาดต้าปาจาก่อนกลับบ้าน
**************************************************************************************************************
Day 4 : Xinjiang >> Urumqi - Beitun เที่ยวพิพิธภัณท์ซินเจียง นอนบนรถไฟ
วันนี้ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นเมื่อคืนเหมือนจะนอนหลับดี รู้สึกว่ารถไฟตู้นอนชั้นสองนี่มันช่างดีจริงๆ และที่ดีที่สุดคือตอนนี้ในห้องมีแค่เราสองคน เนื่องจากชายที่นอนชั้นบนเค้าลงไปแล้ววววว ดังนั้นเราจึงมีเวลาทำธุระส่วนตัวในรถไฟและนั่งพักผ่อน ชมวิวข้างทางพร้อนทานอาหารเช้าแสนอร่อย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางต่อ
สิบโมงครึ่งเราก็มาถึงเมืองอุรุมชี
.
.
ตามข้อมูลเกี่ยวกับซินเจียงในวิกิพีเดีย
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ เป็นเขตปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีพื้นที่กว่า 1.6 ล้านตารางกิโลเมตร เมืองหลวงคือเมืองอุรุมชี (อูหลู่มู่ฉี) มีพรมแดนติดต่อกับประเทศรัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิซสถาน อัฟกานีสถาน ปากีสถานและอินเดีย นอกจากนี้ยังมีพรมแดนติดต่อกับทิเบต มีน้ำมันสำรองอุดมสมบูรณ์และเป็นภาคที่ผลิตแก๊สธรรมชาติใหญ่ที่สุดของจีน
เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์มีพื้นที่ติดต่อดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ประเทศคาซัคสถาน ประเทศรัสเซีย และประเทศมองโกเลีย
ทิศใต้ ติดต่อกับ เขตปกครองตนเองทิเบต ประเทศจีน และรัฐชัมมูและกัษมีระ อินเดีย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ มณฑลชิงไห่ แล มณฑลกานซู ประเทศจีน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ประเทศคาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน และปากีสถาน
**************************************************************************************************************
ภาระกิจต่อไปคือไปเอาตั๋วรถไฟที่จองไว้และฝากกระเป๋า เราเดินหาทางที่จะเข้าไปเอาตั๋ว เดินวนอยู่สามรอบก็ยังหาจุดซื้อตั๋วไม่เจอ เนื่องจากที่ซินเจียงจะมีการตรวจที่เข้มข้นมาก ดังนั้นจุดซื้อ- ขายตั๋วจึงไม่เหมือนที่อื่นๆที่เคยซื้อ เพราะที่อื่นๆจุดขายตั๋วจะอยู่ด้านนอกแต่ที่สถานนีนี้จะต้องเข้าไปด้านในอาคารก่อน โดยการผ่านจุดตรวจพาสปอร์ตและสแกนกระเป๋ารวมทั้งค้นตัวก่อนจึงจะเข้าไปซื้อตั๋วได้ อะไรจะปานนั้น
ส่วนจุดฝากกระเป๋านี่ยิ่งแล้วใหญ่ กว่าจะผ่าด่านไปได้จะต้องเอาตั๋วที่ซื้อมาผ่านเข้าจุดตรวจทีชั้นสองเหมือนว่าเราจะเตรียมขึ้นรถไฟ กว่าจะฝากกระเป๋าเสร็จก็เกือบเที่ยงแล้ว ดีที่วันนี้ไม่มีโปรแกรมอะไรมาก ที่วางไว้คร่าวๆคือจะไปพิพิธภัณท์ซินเจียงแล้วเดินเล่นในเมือง
ออกมาหารถเมล์เพื่อไปพิพิธภัณท์ เจอรถเมล์ที่จอดมีหลายสาย เราเลือกถามคนขับรถสายที่อยู่ใกล้สุดคือสาย 5 ถามคนขับรถคนแรกว่าผ่านพิพิธภัณท์ไหม ไม่ได้คำตอบ ถามอีกคันนางตอบว่าไม่ผ่านโดยตรงคือต้องลงแล้วเดินต่ออีกหน่อย ขึ้นไปแบบงงๆว่าจะลงตรงไหนหว่า เอาไว้ไปถามคนในรถต่อก็ได้ ให้ลุงไปถามต่อในรถหลายคน แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่คนท้องถิ่น จึงไม่ได้คำตอบ จนมีพี่คนที่เพิ่งขึ้นรถมาใหม่นางบอกให้ลงป้ายหน้าแล้วเดินต่ออีกหน่อยก็ถึง เกือบแล้วไงถ้าไม่ได้พี่นี่เลยป้ายเลยนะ 555
พอลงไปก็ต้องไปถามอีกสองสามคน จนในที่สุดก็ถึงซะทีแต่จริงๆเดินไม่ไกลนะแค่ประมาณ 1 - 2 กม. ตอนที่ขึ้นรถเมล์จะมีช่วงที่ต้องเปลี่ยนเป็นรถ BRT สาย 5 ด้วย แต่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม (เราว่ามายากเหมือนกันนั่งรถแทคซี่น่าจะสะดวกสุด)
เราผ่านจุดตรวจเข้าไปด้านในพิพิธภัณท์ คือมันดีมาก ใหม่และมีการจัดการที่ดีรวมทั้งมีแต่ของที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมอย่างยิ่งและที่สำคัญคือ มันฟรี
.
.
.
.
หลังจากเต็มอิ่มกับของโบราณสมัยทางสายไหมแล้ว ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเราเห็นมีห้างและร้านอาหารสมัยใหม่ จึงแวะเข้าไปกินเบอร์เกอร์คิงและซื้อขนมปังเพื่อเป็นเสบียงสำหรับคืนนี้ เราจำไม่ได้ว่าเคยกินเบอร์เกอร์คิงหรือเปล่าแต่รู้สึกว่ามันอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินเบอร์เกอร์มา
ขากลับเดินออกมาตรงจุดที่ลงรถแล้วข้ามถนนมานั่งรถสายเดิม แล้วต่อรถ BRT สายเดียวกันแต่จ่ายเงินแค่ครั้งเดียวคือคนละ 2 หยวน
ได้เวลาพจญภัยต่อแล้ว คืนนี้ตามเวลาเราจองรถไฟไว้รอบสามทุ่ม จองได้ชั้นสามแถมคนละตู้อีกต่างหาก เนื่องจากเป็นช่วงพีคสำหรับการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งจะมีเวลาให้ชมความสวยสุดๆเพียง 2 อาทิตย์เท่านั้นดังนั้นรถไฟชั้นสองจึงเต็มเร็วมาก (เต็มเร็วขนาดว่าเปิดจองล่วงหน้า 30 วัน พอเปิดให้จองวันแรกก็เต็มแล้ว) เราเข้าไปดูตั๋วล่วงหน้าตลอด เห็นเต็มมาตั้งแต่กลางเดือนกันยา
หลังจากที่ขึ้นรถไฟ เราไปที่ตู้ของลุงจุ้ยก่อนเพื่อเอากระเป๋าไปเก็บเพราะเราจองให้ลุงได้เตียงล่าง เสร็จแล้วเดินไปหาตู้ของเราซึ่งอยู่ติดกันแต่มันดันเป็นหัวกะหางของคนละตู้ ใครเป็นคนเขียนระบบแรนด้อมเนี่ยเชื่อเค้าเลย จะให้อยู่ล็อกเดียวกันบ้างก็ไม่ได้กลัวเราไม่ตื่นเต้นหรือไงไม่รู้ แต่จริงๆมันก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะทั้งตู้เกิน 90% จะเป็นนักท่องเที่ยว
.
.
เดี๋ยวมาผจญภัยกันต่อที่เหอมู่ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้