เครดิต : ลงทุนแมน 
                                                                                                                                                                                                                          กรณีศึกษา ฟองสบู่หุ้นกัญชา /โดย ลงทุนแมน
“ลงทุนในธุรกิจกัญชาแล้วขาดทุนมหาศาล”
อาจจะฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อ
แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วกับ
หุ้นกัญชาทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
ดัชนี North American Marijuana Index
ที่เป็นตัวแทนของหุ้นกัญชาขนาดใหญ่
ปรับลดลงกว่า 60% จากจุดสูงสุด
ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 7 เดือน
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าใครลงทุนในหุ้นกัญชา
จะขาดทุนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60%
เกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจกลุ่มนี้ ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง                                                                                                                                                           
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2018
กัญชาเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง
จากเหตุการณ์รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศให้ใช้
กัญชาเพื่อนันทนาการ
เรื่องนี้สร้างความหวังให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก
เพราะในอดีตส่วนใหญ่แล้ว
กัญชาถูกบังคับให้ใช้สำหรับการแพทย์เท่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว หุ้นกัญชาทั่วโลกจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
โดยบริษัทกัญชา Canopy Growth Corporation
ที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าตัว
ในระยะเวลาเพียงครึ่งปี ตั้งแต่ก่อนการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการ
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ แม้จะมีการประกาศให้ใช้กัญชาเพื่อนันทนาการได้อย่างถูกกฎหมายในรัฐอื่นๆ อีกจำนวนมากในเวลาต่อมา
แต่ปรากฏว่า มูลค่าหุ้นของบริษัทกัญชากลับไม่ได้เพิ่มขึ้นอีกต่อไป
ถ้าเราลองไปดูผลประกอบการของบริษัท Canopy Growth Corporation
ปี 2017 รายได้ 1,200 ล้านบาท ขาดทุน 500 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 2,400 ล้านบาท ขาดทุน 2,100 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 6,900 ล้านบาท ขาดทุน 20,800 ล้านบาท
มูลค่าบริษัท
ปี 2017 อยู่ที่ 37,600 ล้านบาท
ปี 2018 อยู่ที่ 131,000 ล้านบาท
ปี 2019 อยู่ที่ 452,000 ล้านบาท
แต่ปัจจุบันราคาตกลงมาอยู่ที่ 264,000 ล้านบาท
จะเห็นว่า แม้รายได้ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นตามนโยบายเสรีกัญชา
แต่บริษัทก็กำลังขาดทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
ซึ่งแนวโน้มของผลประกอบการลักษณะนี้ได้เกิดขึ้นกับบริษัทกัญชาเป็นจำนวนมาก
สาเหตุหลักเกิดจาก
ช่องทางค้าปลีกที่ยังมีความคลุมเครือของกฎหมาย ทำให้ยังไม่สามารถขายสินค้าในบางรัฐได้
 
และเรื่องของอัตราภาษีกัญชาเพื่อการนันทนาการ
ที่ถูกเก็บสูงถึง 40% ในบางรัฐของสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย
ทั้งหมดนี้เองทำให้ ภาพของบริษัทกัญชา
ที่ถูกคาดว่าจะสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น ดูเลือนลางออกไป
แต่โลกของการลงทุนไม่เคยรอใคร..
เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามความคาดหวัง
หุ้นกัญชาจำนวนมากจึงถูกเทขายอย่างรวดเร็ว
จนอาจเรียกได้ว่าเป็น วิกฤตฟองสบู่หุ้นกัญชา
และในอนาคตก็คงมีฟองสบู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกิดขึ้นอีกเป็นระยะ
เพราะตราบใดที่มนุษย์มีความโลภ
มันก็จะผลักดันให้ราคานั้นสูงเกินจริง
เมื่อพบว่ามันไม่เป็นอย่างที่คิด
สุดท้ายก็จะตกกลับด้วยแรงโน้มถ่วงของความผิดหวัง
ดังนั้น การศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อ
เหมือนเหตุการณ์ฟองสบู่กัญชานี้ นั่นเอง..                                                                                                                                                               https://www.longtunman.com/20966