มาตรการเชิงรุกให้หักจากเงินเดือนแบบนี้ เห็นด้วยมากๆ จะได้มีเงินกลับเข้ากองทุน ให้น้อง ๆ รุ่นหลังสามารถกู้ต่อได้

ผ่านมา 6 ปีนี่มีงานทำมั้ยคะ ทำไมไม่จ่ายยยย
ยอดกู้จขกท.ใกล้เคียงเราเลย ปีแรกจ่ายแค่สามพันเอง (ปีละนะ ถูกมากๆ)
ตอนนี้เราจ่ายเข้าปีที่ 8 แล้วหักเดือนละพันกว่าบาทค่ะ

ถ้านับย้อนหลังที่จ่ายมา 6 ปี จะประมาณห้าหมื่น โดนเบี้ยปรับอีก
ไม่รู้ทางกยศ.คำนวณยังไง คงต้องเช็คกับเค้าโดยตรงแหละค่ะ

ขอย้ำอีกรอบคนที่กู้น่ะ จ่ายเถอะ ต่อให้ทำงานเงินเดือนหมื่นกว่ายังไงก็จ่ายไหว
ยอดจ่ายปีสุดท้ายที่แพงที่สุด ยังตกเดือนละสองพันกว่าเอง (ซึ่งคือทำงานมา 15 ปีแล้ว)
ถ้าเท่านี้จ่ายไม่ไหว เราว่าการศึกษาที่ลงทุนไปไม่คุ้มค่าเลย

ไม่มีสำนึกว่าต้องจ่ายคืนแต่แรก อยู่ได้ไงเฉยๆมา 6 ปี  คงต้องมีงานมีรายได้บ้างแหละ ถ้าไม่มีเลย คงอดข้าวตายไปตั้งนานละ นี่ถ้าไม่มีเรื่องถูกหักเงินเดือน  จะนึกได้มั้ยว่า ต้องคืนเงินเขา  สำนึกแย่นะ

เราเรียนจบทำงานมาสี่ปีละ  กู้เรียนเหมือนกัน  หลังเราเรียนจบมาปีแรกแม่ให้เงินน้อง 50,000 เพราะแม่ส่งเองไม่กู้ แต่ให้เรามา100,000 เพื่อคืนกองทุน ส่วนเกินแม่ขอให้เราออกเองช่วยแม่ แต่เราไม่เอาไปจ่ายนะ  
เก็บไว้เผื่อพ่อแม่มีเรื่องฉุกเฉิน เพราะนั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายของแม่  เราใช้วิธีผ่อนส่งทุกเดือน  เมื่อมีโบนัส ก็จ่ายเยอะหน่อย. ตอนนี้จากยอดหนี้เกือบสองแสน เราผ่อนจ่ายมาจะหมดราวเดือนมิย.ปีนี้แล้ว

อยากบอกว่า เป็นหนี้ต้องใช้  มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย  ไปติดต่อเจรจาธนาคาร เงินยืมจากคนรู้จัก เรายังต้องมีสำนึกคืนเขา  เขาอุตส่าห์มีน้ำใจให้ยืม นี่เงินจากภาษีของคนทั้งประเทศ แบ่งมาเพื่อช่วยลูกหลานทั้งประเทศที่อยากเรียน ให้มีโอกาสได้เรียน ยิ่งต้องมีสำนึกคืนเขา เขาจะได้มีเงินหมุนไปช่วยน้อง ๆ รุ่นต่อๆไป ไม่งั้นมันน่าเสียใจ น่าเสียดาย ยังมีคนอยากเรียนที่เข้าไม่ถึงกองทุนนี้อีกมากมาย คนเข้าถึงแล้ว ก็ไม่อยากจ่ายคืน มันไม่ใช่นะ เราว่า สำนึกที่ดี ไม่ต้องเรียน ก็มีได้  แต่เมื่อเรียนมา  ยิ่งต้องมีให้มากขึ้นนะ  

ไปจ่ายเถอะ อีกหน่อย จะได้เล่าให้ลูกหลานฟังด้วยความภาคภูมิใจว่า แม่เรียนจบด้วยทุนกู้ยืมนะ  แต่แม่จ่ายคืนครบละ

วิธีการคำนวณ ติดต่อธนาคารเลยค่ะ  เงินเดือนเท่าไร  สะดวกแค่ไหน  เขาคำนวณได้