การเปิดเรียนตามปกติ ในสถานการณ์โควิดปัจจุบัน

ตามคำสั่งของท่านรัฐมนตรี เกี่ยวกับการให้เปิดเรียนตามปกติในวันที่ 1 กุมภาพันธ? 2564 นี้ จะว่าไปถือเป็นสิ่งที่ดีที่ให้เด็กได้มาโรงเรียนตามปกติ ได้รับการเล่าเรียน ได้รับความรู้ แต่ในมุมกลับกัน คือ ความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะเด็กในเขตเมือง ที่เดินทางไป-กลับโรงเรียนด้วยขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็น BTS MRT  รวมไปถึงระหว่างทางที่เดินทาง ซึ่งต้องผ่านสถานที่ชุมชนต่างๆ อีกทั้ง ผู้ปกครองจำนวนไม่น้อย ที่ไม่สามารถไปส่งบุตรหลานได้ด้วยรถส่วนตัว โอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อของเด็ก จึงแทบไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ถึงแม้ว่าจะมีแมสก็ตาม เป็นปมที่ใหญ่มากที่อยากฝากให้ท่านรัฐมนตรีต้องนำมานั่งคิด
อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อเปิดเรียนแล้ว นักเรียน และบุคลากรในโรงเรียนจากแหล่งต่างๆ ต้องมารวมกัน ถึงแม้ว่าจะมีการแบ่งวันเรียน เพื่อลดความแออัดในโรงเรียนก็ตาม แต่...ทราบได้อย่างไรว่า คนที่มาโรงเรียน ณ เวลานั้นๆ ไม่มีเชื้อ หรือเป็นพาหะ ซึ่งจะไม่แสดงอาการ นอกจากตรวจพบเท่านั้น ถ้ามีการติดเชื้อในโรงเรียน หรือแค่คนที่ติดเชื้อมาในเขตโรงเรียน ก็ปิด 3 วัน ทำความสะอาด แล้วก็เปิด พอมีคนมีเชื้อมาในเขตโรงเรียน ก็สั่งปิดอีก เปิดๆ ปิดๆ สนุกดีนะครับ แทนที่จะสามารถสอนได้ต่อเนื่อง เด็กได้ความรู้ คราวนี้ ขาดๆเกินๆ เลย 

ตามความคิดอันเท่าหางอึ่งของผม และแคบๆ ของผม ในเมื่อท่านรัฐมนตรีเห็นควรแล้วว่าจะต้องเปิดเรียนทั้งที ก็เลื่อนออกไป 2 สัปดาห์ แล้ว ก็ป้องกันกันแบบเชิงรุกไปเลยจะได้ไหม คือ ให้บุคลากรทางการศึกษา ทำการตรวจโควิด และออกใบรับรองเลย ว่าไม่ติด ไม่มีเชื้อ ใครที่มีเชื้อ ก็ให้เข้ากระบวนการกักตัวไปเลย  บุคลากรที่ปลอดเชื้อ ปลอดภัย ก็ให้มาทำงาน แล้ววางมาตรการป้องกัน  ในส่วนคนที่ติดเชื้อ กักตัวรักษา พอหายดี ก็ค่อยกลับเข้ามาทำงาน นักเรียนก็น่าจะทำได้เช่นกัน 

ที่ผมเสนอ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซนต์ แต่ผมคิดในมุมที่ว่า รัฐสามารถให้แรงงานต่างดาวตรวจโควิดได้ฟรี และมีการไล่ตรวจเชิงรุกอย่างหนัก  แล้วทำไมคนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาโดยตรง ซึ่งต้องคลุกคลีกันมากที่สุดในเขตโรงเรียนที่ไม่ได้กว้างเลย ถึงตรวจคัดกรองไม่ได้

ปล. เป็นความเห็นส่วนตัวที่คับแคบของผมนะครับ

กลมกลิ้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่