สวัสดีค่ะทุกคน ช่วงนี้ก็จะมาเขียนกระทู้บ่อยหน่อยน้า อย่าพึ่งเบื่อกัน ทริปเที่ยวก่อนโควิคเราดองรูปไว้เยอะมากช่วงนี้มีเวลาก็จะมาเขียนให้ได้อ่านกัน

เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังจะไปนะคะกระทู้ที่แล้วก็กาญจนบุรี กระทู้นี้ก็กาญจนบุรี

ถ้าพูดถึงกาญจนบุรีที่เที่ยวก็พุดขึ้นมาเยอะไปหมด

วันนี้นี้เราไม่ได้นั่งรถไฟไปเหมือนกับกระทู้ที่แล้วนะ แต่เราขับรถยนตร์ไปวันนี้เราจะพาไปเที่ยวคาเฟ่ที่อยู่ติดกับทางรถไฟสายมรณะ และ พาเดินชมวัดลงไปในถ้ำว่าจะมีอะไรบ้างนะอ่าวไปชมกัน

อย่าลืมใส่แมสล้างมือกันด้วยนะทุกคน (เจ้าโควิคตัวร้ายแกทำให้ฉันต้องพกแมสและเจลตลอด5555)

เราจะขอข้ามการเดินทางมาเลยนะคะการเดินทางก็มาง่ายๆ เพียงตั้งGps ว่า "วัดถ้ำเขาปูน" เค้าก็จะนำเส้นทางเรามาถึงที่วัดเลย

วัดถ้าเขาปูนอยู่ใกล้ๆกับในเมืองเลยหละ เราออกจากรุงเทพก็ตั้งแต่เช้า มาถึงก็รู้สึกหิวเลยขออนุญาติหาไรกินก่อนนะคะ

ถึงหน้าวัดเค้าจะมีป้ายเขียนบอกไว้ว่ามีคาเฟ่ และ ร้านก๋วยเตี๋ยว เราไม่รอช้าดิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวก่อน ซึ่งร้านนั้นอยู่ข้างๆร้านคาเฟ่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขานั่งมองวิว แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปร้านก๋วยเตี๋ยวไว้เลย เอาเป็นว่าร้านก๋วยเตี๋ยวนี้อร่อย เอ้อแล้วเค้าก็มีขานพวกข้างตามสั่งด้วยนะ ใครไปต้องไปลอง

ไหนๆๆก็กินก๋วยเตี๋ยวแล้วขอตบด้วยของหวานคาเฟ่ร้านข้างๆเลยละกัน นั้นคือ เดอะเคริฟ คาเฟ่

ร้านนี้เค้ามีวิวที่ดีนะ มีหลายโซนด้วยกันเลยไม่รอช้า เข้าร้านกัน (อย่าลืมล้างมือสวมแมสด้วยหละ)

สั่งขนมและเครื่องดื่มกัน ที่นี่ราคาเครื่องดื่มเริ่มตั้งแต่ประมาณ60บาทนะถ้าจำไม่ผิด (ถ้าผิดต้องอภัย) ที่นี่เค้ารับโครงการคนละครึ่งด้วยนะบอกไว้ก่อน

หลังจากสั่งเสร็จแล้วก็มาเดินถ่ายรูปร้านเค้ารอของกินกัน มีหลายโซนน่ารักมากไม่ว่าจะเป็นโซนนี้

โซนนี้ก็สวย

มีน้ำเปล่าบริการสำหรับคนกระหาย อากาศตอนกลางวันค่อนข้างร้อนเราสามารจิบน้ำเปล่ารอก่อนก็ได้

ลืมบอกไปคาเฟ่นี้เค้าอยู่ติดทางรถไฟ แล้วจะมีเวลาของขบวนรถไฟที่ผ่านเพื่อที่เราจะสามารถออกไปยืนถ่ายรูปตอนรถไฟมาได้ (ถ่ายรูปติดรถไฟ) เวลาตามนี้เลยเค้ามีบอกว่าจะมาตอนไหนบ้าง ตรงนี้เค้าเรียกว่าช่องเขาขาดหละ

อันนี้เค้ก น่ากินแบบสุดๆๆไปเลยแม่

เครื่องดื่มมาแล้ว หลายคนก็ต้องหลายแก้วสิเนอะ5555

จะบอกว่าคาเฟ่ร้านนี้เค้าใช้ความหวานจากอินทผาลัม ซิกเนอเจอร์เค้าคืออินทผาลัมเลยหละ ไม่ว่าจะเป็นเค้กอินทผาลัม เบค่อยพันอินทผาลัมแบบนี้ก็ตาม

เมนูเค้าเยอะมากมีทั้งคาวและหวาน ลองไปเลือกชมกันนะ

เค้าอยู่ติดกับทางรถไฟแบบนี้เลย

เจอน้องแมวหนึ่งอัตรานอนแบบไม่สนใจนุดเลยนะ (เจ้านุดปันซึ่งบอกปันไม่ชอบแมวแต่ก็เข้าไปลูบแมวทุกตัว)

ปะอิ่มท้องแล้วก็ไปอิ่มบุญกันบ้าง

เริ่มต้นเลยต้องไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าถ้ำกันก่อน เพียงคนละ20บาท

มีป้ายบอกทางเข้าอยู่ไม่ต้องกลัวหลง และจะมีน้องๆมัคคุเทศน์น้อยเดินให้ความรู้เราด้วยนะ

ลงไปถึงห้งแรกเราก็จะเจอพระพุทธรูปให้สักการะ ห้องนี้เรียกว่าห็องพระพุทธไสยยาสน์ และมีตู้ทำบุญต่างๆ

(บอกไว้ก่อนเลยตรงนี้ว่า ในถ้ำมีทั้งหมด 9 ห้องแต่เราถ่ายมาไม่ครบเพราะด้วยแสงในถ้ำไม่พอบวกกับเราถ่ายไปถ่ายมาภาพไม่ชัดเยอะ55555ลงเท่าที่ได้นะขออภัยด้วยนะคะทุกคน)

อ่ะไหนๆรูปก็ไม่ครบรู้ประวัติกันสักหน่อยละกัน

วัดถ้ำเขาปูนเคยเป็นที่ตั้งของค่ายเชลยศึกขนาดใหญ่ในสมัยสงครามโลครั้งที่2 ซึ่งมีทหารญี่ปุ่น ใช้เป็นศูนย์พยาบาล

อันนี้เป็นห้องที่2 ชื่อห้องจ๊ะเอ๋ ในห้องนี้จะมีรูปเทพเจ้าอยู่หลานองค์ และห้องนี้ยังมีช่องรับพลังอยู่ด้วย

(ถ้าเดินคนเดียวนี่ก็แอบหลอนอยู่นะ แต่เราไปหลายคนรอด55555)

ห้องที่3คือห้องไม้เท้าเราไม่มีรูปแต่จะเล่าให้ฟังละกัน ห้องนี้จะมีผลึกแท่งปูนรูปร่างเหมือนไม้เท้าของฤาษีค้ำยันพยุงเพดานอยู่กลางถ้ำ

ห้องที่4 ห้องไทรย้อย มีลากต้นไทรห้อยแผ่ไปทั่วเพดานห้อง

ทางเดินก็มีทั้งแคบและกว้างปะปนกันไปแบบในรูปเลย 

ห้องที่5 รูปก็ไม่ชัดอีกแหละ  ห้องนี้ชื่อว่าห้องพ่อปู่ฤาษี จะมีรูปปั้นพ่อปู่ฤาษีนั่งสวดมนตร์อยู่ในห้องนี้และหน้าห้องก็มีแท่งหิน เตี้ยๆห่มผ้าลายเสือดาวอยู่ด้วย

ห้องที่6 ห้องจระเข้ มีหินปูนรูปทรงคล้ายจระเข้ในสระน้ำที่พบกลางห้อง แต่หินจระเข้ได้ถูกขโมยไปแล้ว (ไม่เห็นหินปูนจระเข้เห็นป้ายก็ยังดีเนอะ)

ห้องที่7 ห้องเทพนิมิตร จะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในห้องนี้หลายองค์ (อันนี้ไม่ได้ถ่ายเพราะเริ่มเดินตามเพื่อนไม่ทันรีบจ้ำไม่ได้มองอะไรแล้ว)

ห้องนี้คือห้องแก้วน้องมัคคุเทศน์น้อยบอกว่ามันจะมีทางเล็กๆเดินไปได้อีกนิดนึง แต่จะไปได้ไม่เกิน3คน เพราะอากาศค่อนข้างน้อย แต่เราไม่ใช่ผู้กล้า เชิญผู้กล้าเข้าเลยค่ะ55555

ใจเจ้ากรรมห้องสุดท้ายก็ไม่ได้ถ่าย ห้องนี้คือห้องเทพประสิทธิโสภณ ห้องนี้มีผลึกหินปูนคล้ายเศียรช้าง มีงวงยาว ไม่มีงา

ใครไปลองไปชมดูว่าเหมือนไหม

เดินชมถ้ำมาทั้งหมด9 ห้องแล้ว ก็จะมีป้ายบอกทางออกอยู่ 

ออกมาจากถ้ำแล้ว จะมีพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่2อยู่ สามารถเดินชมได้ มีทั้งรูปและเครื่องใช้ต่างๆ (ดูแต่ตามืออย่าต้องนะจ้ะทุกคน)

อย่างเช่นเป็นภาพแบบนี้

เครื่องพิมดีดแบบนี้

สรุปเลยคือเราใช้เวลาเดินประมาณ30นาทีนะตั้งแต่ถ้ำแรก ยันถ้ำที่9

อากาศค่อนข้างน้อย อบอ้าว(ในถ้ำอ่ะเนอะ)

แต่ก็ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ต่างๆเยอะเลย เราอธิบายคงไม่หมดต้องให้น้องๆมัคคุเทศน์อธิบายให้ฟังครบถ้วนมาก ถ้าไม่มีน้องๆก็คงลงไปเดินชมแบบเฉยๆ555555 ถ้าว่างแล้ว โควิคซาพอมีตังหน่อย ลองไปดูนะทุกคน มันดี เหมือนได้ผจญภัยด้วย

สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปก่อน ทริปกาญจะมีมาอีกแน่แต่เมื่อไหร่ต้องค่อยว่ากันเพราะกาญมีที่เที่ยวเยอะมากๆๆๆ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงนี่นะคะ แล้วเจอกันใหม่ในกระทู้หน้า

ใครอยากได้อรรถรสสามารถชมได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ

ฝากกดลไค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ

ผิดพลาดประการใดต้องขออภัย (รูปไม่ครบเรียงถ้ำไม่ถูกต้องขออภัยด้วยนะคะ)

อย่าลืมใส่แมสล้างมือบ่อยๆนะคะ สวัสดีค่ะ