ขอเริ่มจากหนังสือ Grammar ของ อ.สำราญ คำยิ่ง ก่อน เล่มนี้เป็นหนังสือ Grammar เล่มโปรดที่ชอบอ่านมาก เพราะเนื้อหาครบ เล่มเดียวจบ
ข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือ เหมาะสำหรับคนที่แบบไม่มีเวลาไปเรียน อยากอ่านเอง คนที่ไม่มีพื้นฐานมาเลย อ่านเล่มนี้ก็เข้าใจ เพราะอธิบายได้ละเอียดมากๆ และมีตัวอย่างชัดเจน
แต่ข้อเสีย คือ การใช้ภาษาดูโบราณ เป็นการทางการไปนิดนึง เล่มใหญ่ หนา เนื้อหาแน่น บางครั้งแค่หยิบขึ้นมาก็รู้สึกง่วงแล้ว 555 แต่ถ้าอยากทวนเนื้อหา Grammar คิดว่าเล่มนี้ตอบโจทย์เลยทีเดียว
ต่อมาคือ การเรียน IELTS ที่ Good Language อันนี้พูดจากความรู้สึกจริงๆ อันไหนชอบก็จะบอกว่าชอบ อันไหนไม่ชอบก็จะบอกไม่ชอบนะ
อันดับแรก เลือกเรียนที่นี่ เพราะเพื่อนสอบได้และแนะนำต่อมาอีกทีว่าสอนดี ใช้เวลาเรียนไม่นานก็จบ (ชอบตรงใช้เวลาไม่นานนี่แหละ)
ผมลงคอร์สเจาะข้อสอบแบบ 4 ทักษะ จบภายในห้าสัปดาห์ เรียนทั้งเสาร์ และอาทิตย์ โคตรเหนื่อย แต่สถานการณ์บังคับต้องเรียน และอยากรีบสอบ
ถ้าใครไม่รีบสอบแนะนำลงแบบเสาร์ 5 สัปดาห์ แล้วค่อยมาต่ออาทิตย์อีก 5 สัปดาห์ดีกว่า ไม่ค่อยเหนื่อยมาก
1. เริ่มจากส่วนของ Writing
- เนื้อหาคือแน่นมาก แนะนำวิธีการเขียนแต่ละแบบ+ศัพท์ที่ใช้ในแต่ละแบบ มีรูปแบบการเขียน ประโยคสวยๆเยอะเลย + โจทย์ & เนื้อหาเสริมเยอะมากๆ (แต่ทำไม่หมดหรอก เยอะเกิ๊น)
- ในห้องเรียน จะสอนเนื้อหาอย่างเดียว ส่วนฝึกเขียนให้หัวข้อกลับไปทำที่บ้าน
- ที่นี่สอนเขียนดีนะ มีการแบ่งกลุ่มการสอนและรูปแบบการเขียนที่ชัดเจน เทคนิคเยอะจริง การยกตัวอย่างและอธิบาย Essay หลังสอนทฤษฎี ทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น (มีอีกอย่างอยากจะบอก ตอนแรกนั่งงงว่า อาจารย์เค้าแบ่งรูปแบบ ทั้ง part 1 และ 2 อะไรอย่างไง มันก็เหมือนๆกันปะ แต่พอไปนั่งไล่อ่านโจทย์เก่าคราวๆถึงรู้ว่า เค้าแบ่งถูกแล้ว มันต่างกัน + ที่เค้าแบ่งมาคืออย่างครบแล้วเอาจริง)
- พาร์ทนี้สอนดีมาก แต่บางครั้งอาจารย์ก็มีพูดเร็วไป
2. Reading
- สไตล์การสอนคือตะลุยโจทย์ให้ห้อง + เฉลย -> ต้องไปตะลุยเองเพิ่มด้วยเพื่อจับเวลา
- พาร์ทนี้แบ่งสอนตามหมวดคำถาม รูปแบบการสอนมีทั้งแบบทำไปพร้อมกับอาจารย์ และจับเวลาทำด้วย
- ช่วงที่อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัดจะได้เทคนิคและศัพท์เยอะมากๆ รวมทั้งการเดาศัพท์จากบริบท เดาคำตอบล่วงหน้า (ตรงส่วนนี้ชอบมาก เพราะช่วยให้ประหยัดเวลาขึ้นเยอะ) และการตัด choice จากการดูความหมายเชิงบวกลบ
- ในส่วนของ Reading การสอนในห้องคือกดดัน กึ่งบังคับว่าเราจะต้องกลับไปอ่านและฝึกเพิ่มนะ ไม่งั้นทำข้อสอบไม่ทันแน่
3. Listening
- สไตล์การสอนคล้าย reading คือตะลุยโจทย์ให้ห้อง + เฉลย -> ต้องไปตะลุยเองเพิ่มเติมเองด้วยก็จะดี
- เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ควรทำคะแนนให้ได้ดีดี เพื่อทำให้ Overall สูงขึ้นไปอีก อาจารย์จะ guide โจทย์ บอกประเภทของคำก่อน ให้ฝึกฟังและเฉลยแบบละเอียดทีละข้อ
4. speaking
- ที่นี่มีทั้งแบบคนไทยและต่างชาติให้เลือกเรียน
- ผมได้มีโอกาสเรียนทั้งกับคนไทยและต่างชาติ
- ชอบเรียนกับอาจารย์คนไทยมากกว่าเพราะได้เทคนิคเยอะกว่า มีการแก้ให้ว่าจะต้องพูดอย่างไรในบริบทที่เราอยากพูด
- ส่วนอาจารย์ต่างชาติ จะเน้นเรื่องไอเดีย ส่วนนี้มีได้ฝึกพูดทั้งกับเพื่อนในห้องและพูดกับอาจารย์โดยตรงทีละคน
สรุปรวมๆ -> เข้มข้นกระชับ ต้องมีเวลาทวน + ตะลุยโจทย์ กับตัวเองเยอะหน่อยถึงดี เอกสารเค้าจะปรับปรุงอยู่ตลอด มีแบบฝึกหัดแบะศัพท์เสริมให้เยอะมากทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน
เหมาะกับใครเรียน ->
- คนที่มีพื้นอังกฤษดีระดับนึง,คนที่เคยสอบ IELTSแล้วยังไม่พอใจกับคะแนน
- คนที่มีเวลาน้อย หรือ ถ้าคนพื้นไม่ดีมากก็ต้องใจสู้หน่อยนะ เพราะเนื้อหาคอร์สเจาะข้อสอบของที่นี่ค่อนข้างแน่นและยากเท่าของจริงเลย (บางชุดยากกว่าของจริงด้วยซ้ำ)
- เอาจริงๆ ถ้าตั้งใจเรียน + มีเวลาทวนกับตัวเองหน่อย จบคอร์สไปที่ได้แน่ๆคือ จับจุดได้เยอะ และอย่างไงก็เก่งขึ้นชัวร์ๆ)
- อีกเรื่องสงสัยอะไร ต้องใจกล้าๆถาม อาจารย์หน่อย
(หรือจริงๆ บางจุด ผมงงๆอยู่คนเดียวก็เลยถามตอนเรียน 555)
ก่อนสอบ ที่นี่มี mock test ให้ลองทำอยู่
แต่ใครที่ลงสอบ IELTS แบบ computer ไว้
แนะนำไปฝึกทำข้อสอบผ่านคอมเพิ่มเติมที่ www.ieltsonlinetests.com มีการจับเวลาเหมือนจริงและข้อสอบให้ฝึกหลายชุด
รีวิวตามความเห็นส่วนตัวนะ ต่างคนต่างวาระ
[CR] รีวิวการเรียน IELTS ที่ Good Language และหนังสือ Grammar ของ อ.สำราญ คำยิ่ง
ข้อดีของหนังสือเล่มนี้คือ เหมาะสำหรับคนที่แบบไม่มีเวลาไปเรียน อยากอ่านเอง คนที่ไม่มีพื้นฐานมาเลย อ่านเล่มนี้ก็เข้าใจ เพราะอธิบายได้ละเอียดมากๆ และมีตัวอย่างชัดเจน
แต่ข้อเสีย คือ การใช้ภาษาดูโบราณ เป็นการทางการไปนิดนึง เล่มใหญ่ หนา เนื้อหาแน่น บางครั้งแค่หยิบขึ้นมาก็รู้สึกง่วงแล้ว 555 แต่ถ้าอยากทวนเนื้อหา Grammar คิดว่าเล่มนี้ตอบโจทย์เลยทีเดียว
ต่อมาคือ การเรียน IELTS ที่ Good Language อันนี้พูดจากความรู้สึกจริงๆ อันไหนชอบก็จะบอกว่าชอบ อันไหนไม่ชอบก็จะบอกไม่ชอบนะ
อันดับแรก เลือกเรียนที่นี่ เพราะเพื่อนสอบได้และแนะนำต่อมาอีกทีว่าสอนดี ใช้เวลาเรียนไม่นานก็จบ (ชอบตรงใช้เวลาไม่นานนี่แหละ)
ผมลงคอร์สเจาะข้อสอบแบบ 4 ทักษะ จบภายในห้าสัปดาห์ เรียนทั้งเสาร์ และอาทิตย์ โคตรเหนื่อย แต่สถานการณ์บังคับต้องเรียน และอยากรีบสอบ
ถ้าใครไม่รีบสอบแนะนำลงแบบเสาร์ 5 สัปดาห์ แล้วค่อยมาต่ออาทิตย์อีก 5 สัปดาห์ดีกว่า ไม่ค่อยเหนื่อยมาก
1. เริ่มจากส่วนของ Writing
- เนื้อหาคือแน่นมาก แนะนำวิธีการเขียนแต่ละแบบ+ศัพท์ที่ใช้ในแต่ละแบบ มีรูปแบบการเขียน ประโยคสวยๆเยอะเลย + โจทย์ & เนื้อหาเสริมเยอะมากๆ (แต่ทำไม่หมดหรอก เยอะเกิ๊น)
- ในห้องเรียน จะสอนเนื้อหาอย่างเดียว ส่วนฝึกเขียนให้หัวข้อกลับไปทำที่บ้าน
- ที่นี่สอนเขียนดีนะ มีการแบ่งกลุ่มการสอนและรูปแบบการเขียนที่ชัดเจน เทคนิคเยอะจริง การยกตัวอย่างและอธิบาย Essay หลังสอนทฤษฎี ทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น (มีอีกอย่างอยากจะบอก ตอนแรกนั่งงงว่า อาจารย์เค้าแบ่งรูปแบบ ทั้ง part 1 และ 2 อะไรอย่างไง มันก็เหมือนๆกันปะ แต่พอไปนั่งไล่อ่านโจทย์เก่าคราวๆถึงรู้ว่า เค้าแบ่งถูกแล้ว มันต่างกัน + ที่เค้าแบ่งมาคืออย่างครบแล้วเอาจริง)
- พาร์ทนี้สอนดีมาก แต่บางครั้งอาจารย์ก็มีพูดเร็วไป
2. Reading
- สไตล์การสอนคือตะลุยโจทย์ให้ห้อง + เฉลย -> ต้องไปตะลุยเองเพิ่มด้วยเพื่อจับเวลา
- พาร์ทนี้แบ่งสอนตามหมวดคำถาม รูปแบบการสอนมีทั้งแบบทำไปพร้อมกับอาจารย์ และจับเวลาทำด้วย
- ช่วงที่อาจารย์เฉลยแบบฝึกหัดจะได้เทคนิคและศัพท์เยอะมากๆ รวมทั้งการเดาศัพท์จากบริบท เดาคำตอบล่วงหน้า (ตรงส่วนนี้ชอบมาก เพราะช่วยให้ประหยัดเวลาขึ้นเยอะ) และการตัด choice จากการดูความหมายเชิงบวกลบ
- ในส่วนของ Reading การสอนในห้องคือกดดัน กึ่งบังคับว่าเราจะต้องกลับไปอ่านและฝึกเพิ่มนะ ไม่งั้นทำข้อสอบไม่ทันแน่
3. Listening
- สไตล์การสอนคล้าย reading คือตะลุยโจทย์ให้ห้อง + เฉลย -> ต้องไปตะลุยเองเพิ่มเติมเองด้วยก็จะดี
- เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ควรทำคะแนนให้ได้ดีดี เพื่อทำให้ Overall สูงขึ้นไปอีก อาจารย์จะ guide โจทย์ บอกประเภทของคำก่อน ให้ฝึกฟังและเฉลยแบบละเอียดทีละข้อ
4. speaking
- ที่นี่มีทั้งแบบคนไทยและต่างชาติให้เลือกเรียน
- ผมได้มีโอกาสเรียนทั้งกับคนไทยและต่างชาติ
- ชอบเรียนกับอาจารย์คนไทยมากกว่าเพราะได้เทคนิคเยอะกว่า มีการแก้ให้ว่าจะต้องพูดอย่างไรในบริบทที่เราอยากพูด
- ส่วนอาจารย์ต่างชาติ จะเน้นเรื่องไอเดีย ส่วนนี้มีได้ฝึกพูดทั้งกับเพื่อนในห้องและพูดกับอาจารย์โดยตรงทีละคน
สรุปรวมๆ -> เข้มข้นกระชับ ต้องมีเวลาทวน + ตะลุยโจทย์ กับตัวเองเยอะหน่อยถึงดี เอกสารเค้าจะปรับปรุงอยู่ตลอด มีแบบฝึกหัดแบะศัพท์เสริมให้เยอะมากทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน
เหมาะกับใครเรียน ->
- คนที่มีพื้นอังกฤษดีระดับนึง,คนที่เคยสอบ IELTSแล้วยังไม่พอใจกับคะแนน
- คนที่มีเวลาน้อย หรือ ถ้าคนพื้นไม่ดีมากก็ต้องใจสู้หน่อยนะ เพราะเนื้อหาคอร์สเจาะข้อสอบของที่นี่ค่อนข้างแน่นและยากเท่าของจริงเลย (บางชุดยากกว่าของจริงด้วยซ้ำ)
- เอาจริงๆ ถ้าตั้งใจเรียน + มีเวลาทวนกับตัวเองหน่อย จบคอร์สไปที่ได้แน่ๆคือ จับจุดได้เยอะ และอย่างไงก็เก่งขึ้นชัวร์ๆ)
- อีกเรื่องสงสัยอะไร ต้องใจกล้าๆถาม อาจารย์หน่อย
(หรือจริงๆ บางจุด ผมงงๆอยู่คนเดียวก็เลยถามตอนเรียน 555)
ก่อนสอบ ที่นี่มี mock test ให้ลองทำอยู่
แต่ใครที่ลงสอบ IELTS แบบ computer ไว้
แนะนำไปฝึกทำข้อสอบผ่านคอมเพิ่มเติมที่ www.ieltsonlinetests.com มีการจับเวลาเหมือนจริงและข้อสอบให้ฝึกหลายชุด
รีวิวตามความเห็นส่วนตัวนะ ต่างคนต่างวาระ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้