ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน
เข้าไปเริ่มทำงานในหน่วยงานแห่งนึงเกือบๆ 2 ปีก่อน ทำไป 3 เดือน มีพี่ผู้ชายคนนึง เดินมาขอยืมเงินที่โต๊ะ มาขอแบบเงียบๆ อย่าไปบอกใครนะ เงินไม่ได้เยอะมาก จำไม่ได้ 2-3000 บาท แค่ก็ไม่ให้ยืมเพราะไม่สะดวก และมีภาระเยอะเหมือนกัน
หลังจากนั้นเพื่อนสนิทของคนนี้ก็เคยมาขอยืม เคยช่วยไปหนนึง เงินไม่เยอะ พันกว่าบาท ก็คืนตามปกติ
ผ่านไปนานพอควร คนที่เราเคยให้ยืม มาขอยืมใหม่ หนนี้เราไม่สะดวกให้
รู้สึกว่าหลังๆ สองคนนี้เปลี่ยนไป ทั้งในแง่การทักทาย รวมถึงเรื่องงาน ซึ่งถ้าเป็นงานที่ไม่ใช่หัวหน้าสั่งเขาให้ทำและเราต้องใช้ข้อมูลต่อ เขาจะอิดๆออดๆ ปัดไปหาคนอื่น ก็เข้าใจว่าถ้าไม่ใช่งานที่หัวหน้าสั่งเขา เขามีสิทธิ์บ่ายเบี่ยง
สรุปแบบนี้การคบเพื่อหวังผลประโยชน์หรือไม่ พอไม่ได้ดั่งใจก็เปลี่ยนนิสัย
ส่วนตัวหลังจากที่เคยช่วยเหลือไปหนนึง บอกกับตนเองว่าจะไม่ยุ่งกับเงินทองกับใครและไม่ให้ใครยุ่งกับเงินทองของเรา ยกเว้นครอบครัวของเรา
ท่านไหนเคยเจอลักษณะแบบนี้บ้างครับ
คนที่กล้ามาขอยืมเงินทั้งที่รู้จักกันไม่นาน
เข้าไปเริ่มทำงานในหน่วยงานแห่งนึงเกือบๆ 2 ปีก่อน ทำไป 3 เดือน มีพี่ผู้ชายคนนึง เดินมาขอยืมเงินที่โต๊ะ มาขอแบบเงียบๆ อย่าไปบอกใครนะ เงินไม่ได้เยอะมาก จำไม่ได้ 2-3000 บาท แค่ก็ไม่ให้ยืมเพราะไม่สะดวก และมีภาระเยอะเหมือนกัน
หลังจากนั้นเพื่อนสนิทของคนนี้ก็เคยมาขอยืม เคยช่วยไปหนนึง เงินไม่เยอะ พันกว่าบาท ก็คืนตามปกติ
ผ่านไปนานพอควร คนที่เราเคยให้ยืม มาขอยืมใหม่ หนนี้เราไม่สะดวกให้
รู้สึกว่าหลังๆ สองคนนี้เปลี่ยนไป ทั้งในแง่การทักทาย รวมถึงเรื่องงาน ซึ่งถ้าเป็นงานที่ไม่ใช่หัวหน้าสั่งเขาให้ทำและเราต้องใช้ข้อมูลต่อ เขาจะอิดๆออดๆ ปัดไปหาคนอื่น ก็เข้าใจว่าถ้าไม่ใช่งานที่หัวหน้าสั่งเขา เขามีสิทธิ์บ่ายเบี่ยง
สรุปแบบนี้การคบเพื่อหวังผลประโยชน์หรือไม่ พอไม่ได้ดั่งใจก็เปลี่ยนนิสัย
ส่วนตัวหลังจากที่เคยช่วยเหลือไปหนนึง บอกกับตนเองว่าจะไม่ยุ่งกับเงินทองกับใครและไม่ให้ใครยุ่งกับเงินทองของเรา ยกเว้นครอบครัวของเรา
ท่านไหนเคยเจอลักษณะแบบนี้บ้างครับ