ที่มาของเรื่อง

ผมได้มีโอกาสซื้อบ้านใหม่เป็นครั้งแรกครับ (ก่อนหน้าซื้อคอนโดอยู่มา 4 ปี และก่อนหน้านั้นเช่าอะพาร์ทเมนต์อยู่ 7 ปี) ครั้งนี้ซื้อเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ หลังมุม โดยซื้อพร้อมกันกับน้องสาวคนละหลัง ด้วยความที่เพิ่งเคยซื้อบ้านครั้งแรก เลยต้องศึกษาหาอ่านข้อมูลแบบนับ 1 ใหม่ทั้งหมด และรู้สึกว่ามันเยอะแยะหลายเรื่องมากๆครับ ต่อให้อ่านเยอะจนคิดว่าพอเข้าใจแล้วแต่มันก็รู้แค่ผิวเผิน พอไปคุยกับช่างหรือร้านเพื่อสั่งงานหรือสั่งของจริงๆ ก็ได้เจอโจทย์ใหม่ศัพท์ใหม่ ที่เรา blank ในหัวอยู่บ่อยๆ ต้องขอกลับมาทำความเข้าใจเพิ่มก่อนจะตัดสินใจในแต่ละครั้งอยู่บ่อยๆ

กระทู้นี้ผมตั้งใจจะเขียนข้อมูลทุกอย่างที่ได้จากประสบการณ์การซื้อบ้านครั้งนี้ ว่าการซื้อบ้าน 1 หลัง ต้องทำอะไรบ้างควรทำอะไรก่อนหลัง ทั้งสิ่งที่ทำแล้วคิดว่าดี และสิ่งที่คิดว่าตัวเองทำผิดพลาดและไม่อยากให้ใครพลาดแบบผม รวมถึงแทรกข้อมูลเล็กๆน้อยๆที่คิดว่าเป็นประโยชน์ รวมถึงรีวิวร้านต่างๆที่ใช้บริการ เพื่อเป็นเคสตัวอย่างให้ท่านที่กำลังจะมีบ้านหลังแรกได้มีข้อมูลไว้เตรียมตัวครับ สำหรับท่านที่มีประสบการณ์มาแล้ว หากเจอจุดบกพร่องของรีวิวนี้ หรือมีข้อมูลเพิ่มเติมที่ต้องการแบ่งปัน สามารถคอมเมนต์เพื่อแบ่งปันท่านอื่นได้เลยนะครับ

กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ผมเปิดกะลาออกจากห้องรัชดามาสู่ห้องชายคา หากมีอะไรผิดพลาดหรือมีการกระทำที่ไม่สอดคล้องกับวัฒนธรรมประจำกลุ่ม ผมต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ..

ตัวละครหลัก

1. ผู้เขียน - มีความรู้เกี่ยวกับการซื้อ ต่อเติมบ้าน และแต่งบ้าน แทบจะเป็นศูนย์เลยครับ ก็คือทำบ้านครั้งนี้ได้รู้ใหม่หมดเลย
2. แฟนผม - (กู้ร่วมกัน) มีพ่อเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างบ้านที่ต่างจังหวัด (งานนี้เลยได้พึ่งแฟนเต็มๆ)
3. น้องสาวผม - เป็นเซลล์ขายบ้านของอีกเจ้าหนึ่ง ก็ถือว่ารู้มากกว่าผมหน่อยครับ
4. แฟนน้อง - น่าจะมือใหม่เหมือนผมครับ

เนื่องจากข้อมูลมีเยอะมาก จะเขียนใส่ในกระทู้เดียวก็กลัวจะแน่นไป เลยขอแยกเป็นส่วนๆนะครับ กระทู้นี้จะเป็นพาร์ทแรกที่เกี่ยวกับการเลือกซื้อและต่อเติมบ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของตกแต่งบ้าน จะขอแยกเป็นพาร์ทที่ 2 อีกกระทู้นึงนะครับ

ขั้นตอนแรก: เลือกซื้อบ้าน

ตอนแรก วางแผนกันว่าจะซื้อบ้านในช่วงกลางๆปี 2021 (2564) แต่พอมีช่วงโควิด น้องสาวที่เป็นเซลล์ขายบ้านเริ่มเห็นว่าดอกเบี้ยธนาคารช่วงนี้ถูกลงมาก เป็นโอกาสที่จะซื้อบ้านใหม่แล้วกู้ได้เรทผ่อนถูกๆ เลยเริ่มหาข้อมูลโครงการที่ขายบ้านทันที ในตอนนั้นราวๆเดือนตุลาคม 2020 น้องสาวยังบอกอีกว่าปีหน้า (2021) มีแนวโน้มว่าจะปรับดอกเบี้ยขึ้น เพราะสถานการณ์โควิดระลอกแรกในช่วงนั้นดีขึ้นแล้วครับ (ที่ไหนได้ ช่วงต้นปีมกรา 64 นี้เศรษกิจยิ่งดิ่งหนัก ดอกถูกกว่าตอนนั้นอีกครับ) สรุป ณ ตอนนั้นคือ ต้องซื้อบ้านให้ทันก่อนสิ้นปี มีเวลาศึกษาข้อมูลน้อยมากครับ

เรา 4 คนพยายามหาบ้านจากข้อมูลโฆษณาทางเน็ตเป็นหลักครับ ข้อจำกัดคืออยากได้บ้านไกล้ๆกัน 2 หลัง เพื่อให้แม่ได้เดินไปเดินมาออกบ้านลูกสาวเข้าบ้านลูกชายได้สะดวก และอีกข้อคือ เดินทางไปทำงานไม่ลำบากเกินไป แฟนผมมีรถรับส่งจากที่ทำงานมารับที่รามอินทรา บริษัทผมอยู๋แถวอโศก น้องสาวไซต์อยู่แถวปทุม และแฟนน้องที่ทำงานอยู่แถวห้วยขวาง (คนละทิศเลย) ทุกคนนอกจากแฟนผมมีรถส่วนตัวคนละคัน และเรทที่ผ่อนไหวไม่เกินหมื่นกลางๆค่อนไปทางหมื่นปลายครับ

หลังแรก - บ้านแฝดมือสอง (ตามกฎหมาย บ้านเดี่ยวต้องมีขนาด 50 ตรว ขึ้นไปถ้าเล็กกว่านี้จะเป็นบ้านแฝด ซึ่งมีขนาด 35-49 ตรว และต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น คาน ของบ้าน 2 หลังติดกัน) บ้านนี้ถูกใจครับ สะอาดเรียบร้อยและยังใหม่ ต่อเติมครัวด้านหลังดี ตกแต่งโอเค ไม่เจอจุดเสียหายที่รับไม่ได้ เจ้าของบ้านคุยดีมาก เพื่อนบ้าน ซอยบ้าน สะอาดและเงียบสงบดี มีเพียงเพื่อนบ้านที่เอาบิ๊กไบค์มาจอดหน้าบ้านนี้ (เพราะปกติบ้านนี้ไม่มีคนอยู่) 

รูป - บ้านหลังแรกที่ไปดูครับ

หลังจากเล็งหลังแรกไว้ ก็ไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าโซนนั้นการเดินทางเป็นไง มีตลาด มีห้าง มีซุปเปอร์มาร์เก็ตอะไรไกล้ๆบ้าง ไปเจอคนโพสต์ถามกันในพันทิปพอดีเป๊ะ เลยส่งหลังไมค์ไปถามข้อมูล user 3 ท่านที่น่าจะอยู่ที่โครงการนี้มาก่อนครับ (ตอนหลังมีท่านหนึ่งตอบกลับมาและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)
 
หลังที่ 2 - บ้านแฝดใหม่ คนละโครงการกับหลังแรก ทำเลติดอู่รถเมล์ (แอบกลัวว่าจะมีคนพลุกพล่านและเสียงดัง) ตั้งแต่เลี้ยวเข้าหมู่บ้านสังเกตุว่าคนมาอยู่ไม่ถึงครึ่ง ทั้งที่เหมือนสร้างมานานแล้ว วางของเกะกะ (ก่อสร้าง) เข้าไปดูบ้านรู้สึกเฉยๆไม่ดีไม่แย่ แต่รู้สึกเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามไม่ค่อยโอเค เดินมาไล่ให้ไปจอดรถห่างๆหน้าบ้านเขา (ทั้งที่ไม่ได้จอดขวางหน้าบ้าน) หน้าตาบึ้งตึง เลยรู้สึกว่าถ้าซื้อบ้านนี้คงต้องอึดอัดกับเพื่อนบ้านแน่ๆ ไปดูต่อหลังที่ 3 และ 4 โครงการเดียวกัน ก็ยังรู้สึกเฉยๆ อาจจะเพราะว่าไม่ถูกใจภาพรวมหมู่บ้านเป็นทุนเดิมครับ

รูป - บ้านหลังที่ 3 ที่ไปดูครับ


หลังที่ 5 - ทาวน์โฮมใหม่ แถวซอยมิสทีน (เพื่อนของน้องสาวไปซื้ออยู่ก่อน) เลยได้เดินดูได้สะดวกครับ โดยรวมโอเค และยังเป็นโครงการเจ้าเดียวกับที่น้องผมทำงานอยู่ ถ้าซื้อก็คือจะได้ส่วนลดพนักงานเพิ่มอีก ติดอยู่นิดเดียวคือ ผมต้องขับรถไปส่งแฟนไปทำงานไกลหน่อย 20+ โล และน้องสาวผมก็ขับรถไปทำงานไกลกว่าโครงการอื่น ในมิติตัวบ้านเปิดประตูหน้าบ้านมาจะเจอบันไดขึ้นชั้น 2 เลย ซึ่งถือว่าผิดฮวงจุ้ยแต่ก็พอแก้ไขได้ครับไม่ซีเรียสนัก เลยเก็บไว้ในลิสต์ไว้คุยกันต่อทีหลังครับ

หลังที่ 6 - บ้านแฝดมือสอง โครงการเดียวกับหลังแรก ใช้วอลเปเปอร์ตกแต่งบ้าน แต่ลายไม่ค่อยถูกใจคนซื้อเท่าไร ต่อเติมด้านหลังทำเป็นห้องเพิ่ม มีรอยร้าวค่อนข้างใหญ่จากการต่อเติมไม่ดี ไม่มีช่องระบายอากาศ เลยทำให้ห้องนี้มีกลิ่นอับครับ

ในระหว่างที่ดูบ้านแต่ละหลัง ได้ติดต่อคุยกับนายหน้าบ้านหลังแรกโดยตลอด มีเจ้านึงที่เคยมาดูบ้านหลังแรกเหมือนผมแต่เงียบไปหลายเดือน แต่ตอนนี้ติดต่อกลับมาเพื่อนัดว่าจะเข้ามาจ่ายเงินมัดจำบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ด้วยความที่ผมกับแฟนกลัวบ้านหลุดมือ บวกกับถูกใจบ้านเป็นทุนเดิม เลยตกลงเซ็นสัญญาวางมัดจำตัดหน้าเจ้านั้นด้วยเงิน 5,000 บาท ตกลงซื้อขายกันที่ราคา 3.8 ล้านบาท แต่ยื่นกู้ธนาคารที่ 4 ล้านถ้วน (เท่ากับว่าจะเหลือเงินส่วนต่าง(ส่วนลด) 2 แสน แต่มีค่าโอน ค่าภาษี อะไรต่างๆประมาณแสนกว่า เท่ากับว่าจะเหลือเงินเอาไว้ตกแต่งบ้านไม่ถึงแสน)

หลังจากตกลงมัดจำบ้านหลังแรกแล้ว โจทย์ต่อมาคือหาบ้านอีกหลังที่อยู่ไกล้ๆกันให้น้องสาวครับ ไปๆมาๆได้ทราบว่าภายในโครงการเดียวกันมีทาวน์โฮมที่กำลังเปิดขายเฟสใหม่เลยพาน้องไปดู เห็นแล้วน้องถูกใจ แปลนบ้านและดีไซน์การออกแบบห้องคล้ายกับบ้านแฝดที่ผมจองไปเลย ขนาดพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านก็เท่ากัน แตกต่างกันเพียงพื้นที่ว่างข้างบ้านที่ทาวน์โฮมจะมีฝั่งเดียว แต่บ้านแฝดจะมี 2 ฝั่งเท่านั้นเอง

หลังจากปรึกษากันจริงจัง เอา requirement ข้อดีข้อเสียมาเปรียบเทียบกัน ผมกับแฟนตัดสินใจเปลี่ยนใจจากบ้านแฝดมาจองทาวน์โฮมแทน ทำให้กลายเป็นผมกับน้องสาวจองทาวน์โฮมกันคนละหลังในเฟสเดียวกัน เพื่อให้สะดวกแม่เดินไปเดินมาเองได้ไม่ต้องขับรถรับส่งระหว่างบ้านผมกับบ้านน้อง ทุกคนโอเคกับสิ่งที่เลือกไป แต่ผมกับแฟนก็ได้แต่เสียดายเงิน 5,000 ที่จองหลังแรกไปครับ >.<" บ้านหลังที่จะเอาหลังใหม่นี้อาจเพราะเป็นหลังมุม ราคาที่ยื่นกู้เลยไกล้เคียงกับบ้านแฝดที่จองไปเลยครับ แต่ส่วนต่าง (ส่วนลด) ที่ได้รวมกิฟท์ทุกอย่างอยู่ที่ 4 แสนกว่า เพื่อเอาไปต่อเติมและตกแต่งบ้านครับ วางมัดจำกับหลังใหม่เรียบร้อยครับ..

ข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน
- หมู่บ้านอยู่ห่างซอยใหญ่ประมาณ 400 เมตร (เสียงจราจรไม่รบกวนมาก)
- โครงการขนาดใหญ่ ค่อยๆสร้างและเปิดขายเฟสย่อยๆ เฟสผมประมาณ 50 ยูนิต
- ราคาหลังกลาง 2-3 ล้าน หลังมุม 3-4 ล้าน (คาดหวังก่อนซื้อว่า น่าจะได้เพื่อนบ้านที่มีคุณภาพระดับนึง เพราะบ้านแพ๊งแพง)
- มีมัสยิดอยู่ในระแวกนั้น (แต่เช็คกับ user ในพันทิปท่านหนึ่งที่อยู่มาก่อนแล้วว่า เสียงไม่ดัง ขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)
- บ้านผมหันหน้าไปทางทิศไต้ บ้านน้องสาวหันหน้าไปทางทิศเหนือ

ของแถม (เท่าที่จำได้)
1. ค่าโอนฟรี ค่าจดจำนองฟรี ซึ่งรวมๆก็น่าจะเกือบแสนครับ (ขึ้นอยู่กับราคาบ้าน)
2. แถมแอร์ 3 ตัว 12,000 BTU 1 ตัว และ 9,000 อีก 2 ตัว
3. กิฟท์ 4+4 หมื่น (4 หมื่นแรกเป็น voucher ไปซื้อของในโฮมโปร อีก 4 เป็นเงินสดเข้าบัญชี)
4. ฟรีค่าส่วนกลาง 1 ปี

รูป - บ้านสภาพเดิมๆจากโครงการ (ก่อนซ่อม)


ขั้นตอนที่ 2: ยื่นกู้ธนาคาร

เราสามารถแจ้งเซลล์ได้เลยว่าต้องการกู้แบงค์ไหนบ้าง เซลล์เองก็จะแนะนำเจ้าที่เซลล์สะดวกสามารถช่วยดำเนินการยื่นให้เราได้เลย ซึ่งผมยื่นกู้ KBANK, SCB, TMB, และ ธอส. (แนะนำให้ยื่นประมาณ 4 แบงค์นะครับ) หลังทำเรื่องไป จะมีพนักงานของธนาคารโทรมาสอบถามข้อมูลเราเพิ่มเติม เกี่ยวกับเงินเดือน โบนัส และอื่นๆ เพื่อที่เขาจะสามารถช่วยดันให้เรากู้ได้เยอะๆตามหลักเกณฑ์ครับ (ถ้าไม่ติดปัญหาอะไรจะไม่ค่อยถามเยอะ) หลังจากนั้นก็รอผล ไม่กี่วันผ่านไป ธนาคารที่ติดต่อกลับมาไวมากเลยคือ KBANK ครับ แต่ดอกเบี้ยค่อนข้างแพง ผ่อนต่อเดือนราวๆ 18,xxx ซึ่งผมไม่ไหวกับเรทนี้ครับ แต่เซลล์ก็ทำหน้าที่ของเซลล์ต่อไป นั่นคือ เร่งให้เรารีบเอาเจ้าแรกนี้เลย ให้รีบเซนต์สัญญา รบเร้าเช้า เที่ยง เย็น ทั้งๆที่เราบอกชัดเจนว่าอยากรอผลของ SCB และ TMB ก่อนในตอนนั้น

อีก 2 ธนาคารตรวจสอบข้อมูลค่อนข้างเข้มนิดครับ โดยที่ TMB รู้สึกจะปัญหาในการติดต่อประสานงานเยอะแยะที่สุด ส่วนหนึ่งเนื่องจากบริษัทผม Work from home จึงไม่มี HR เข้าไปทำงานที่ออฟฟิซด้วย ทำให้ผลของ SCB ออกมาก่อน ดอกเบี้ย 2 ปลายๆ ผ่อนต่อเดือน 14,xxx เลยแฮปปี้ครับ บวกกับที่เซลล์เร่งมากก็เลยตกลงเลือกที่นี่ กำลังทำเรื่องเลย แต่ทันใดนั้นธนาคารที่คิดว่าจะปล่อยผ่านไปแล้วอย่าง TMB เพราะมีปัญหาในการติดต่อกับ HR บริษัทผมค่อนข้างยากเพราะเป็นช่วง Work from home ก็ติดต่อมาบอกว่าผลอนุมัติผ่านพอดี เลยได้ใช้บริการของ TMB แทน เป็น flat rate 2.6% คงที่ 3 ปีแรก ผ่อนเรทเดือนละ 14,900 (ตกล้านละประมาณ 3,650 บาท) เรทเดียวตลอด 3 ปีครับ ที่ตัดสินใจเลือกธนาคารนี้เพราะค่าประกันถูกกว่า SCB ครับแค่หลักหมื่นเท่านั้น และเรทดอกเบี้ยก็ถูกกว่าด้วยครับ

เพิ่มเติมในส่วนของประกันที่ทางธนาคารเสนอนะครับ อยากให้พิจารณาดีๆว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม เพราะการซื้อประกันราคาเกือบแสนไปจนถึงเกือบ 2 แสนบาท ทำให้เรทดอกเบี้ยถูกลงประมาณ 0.3% หรือผ่อนถูกลงประมาณพันเดียวเท่านั้น หรือถ้าคิดว่าเป็นการซื้อเพื่อประกันความเสี่ยงก็ทำใจซื้อได้ หรืออาจจะเปลี่ยนไปซื้อประกันอย่างอื่นภายนอกจะคุ้มกว่าไหม ลองดูดีๆละกันนะครับ ส่วนตัวผมที่ซื้อเพราะมีเวลาให้ศึกษาน้อยเกินไป มีพี่ที่รู้จักเบรคแล้ว แต่เบรคไม่ทันเพราะผมดำเนินการไปแล้วเรียบร้อยครับ