คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
มันคือทัศคติของผู้เล่น และวิธีการสอนของโค้ชครับ
คุณเคยได้ยินคำว่า อย่าเข้าพรวด มั้ย ผมได้ยินมาตั้งแต่เตะบอลเป็น จนถึงทุกวันนี้
มันก็ยังอยู่คู่ประเทศไทยมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว เผลอๆจะมากกว่านั้นด้วย
มันเลยทำให้นักบอล ไม่กล้าวิ่งเข้าไปแย่งบอล เพราะกลัวผิดพลาด
พอเข้าพรวดจริงๆ ก็ยืนส่ายหัวเสียอารมณ์ เพราะไม่รู้จะจัดการกับความผิดพลาดยังไง
แต่พวกเกาหลี ญี่ปุ่น คือ เวลาทีมอื่นได้บอล เขาวิ่งเข้าใส่ วิ่งเข้าแย่งทันที ไม่กลัวพรวด
เพราะ ถือทัศคนคติที่ว่า ต้องทำให้ฝ่ายตรงข้าม เล่นยากมากที่สุด คุณไม่ได้มาเลี้ยงบอลครองบอลง่ายๆแน่นอน
ถ้าพรวดก็แค่พลิกตัววิ่งไปไล่ต่อ ถึงแย่งเอามาไม่ได้ ก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเล่นยากมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ของเราคือ ไม่เข้าบอล เพราะกลัวพรวด ยืนกางขาคุมเชิง บางคนก็ย่อตัวหยองๆดูบอล
แบบนี้ไอ้คนที่ได้ครองบอลก็ยิ้มสิครับ ไม่เข้าบอลแบบนี้ เค้าก็มีเวลาเลี้ยง มีเวลาเงยหน้าดูเพื่อน มีเวลาเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะจ่ายได้
เอาง่ายๆ วันไหนว่างๆ คุณลองสังเกตกองหน้าไทยเวลาเล่นเพรสซิ่งใส่ผู้รักษาประตูหรือกองหลังฝ่ายตรงข้ามดูสิ
คุณจะเห็นวิ่งเหยาะๆ เข้าไป เพราะในหัวของเขามีชุดความคิดที่ฝังเอาไว้แล้วว่า วิ่งไปงั้นๆ ยังไงก็แย่งผู้รักษาประตูกับกองหลังไม่ได้หรอก
แต่กลับกัน เวลาคุณดูทีมมารินอสเล่น คุณจะเห็น อิริก ลิม่า มาร์กอส จูเนียร์ หรือนาคากาวะ 3 ตัวนี้ วิ่งเข้าใส่ GK กับกองหลังแบบเต็มฝีเท้า
คุณคิดว่า GK กับกองหลัง จะทำงานลำบากมาก เวลาเจอกับการกดดันแบบไหน ระหว่างวิ่งแบบเหยาะๆเข้าไป กับเต็มฝีเท้าเข้าไป
เอาแค่นี้ก็เห็นความต่างแบบสุดๆแล้ว
(ปล. นักบอลไทยกองหน้าที่เล่นเพรสบางคนก็ทำได้ดีนะ ถ้าเปิดลีกมาก็ลองสังเกตเอาแล้วกัน)
คุณเคยได้ยินคำว่า อย่าเข้าพรวด มั้ย ผมได้ยินมาตั้งแต่เตะบอลเป็น จนถึงทุกวันนี้
มันก็ยังอยู่คู่ประเทศไทยมาไม่ต่ำกว่า 30 ปีแล้ว เผลอๆจะมากกว่านั้นด้วย
มันเลยทำให้นักบอล ไม่กล้าวิ่งเข้าไปแย่งบอล เพราะกลัวผิดพลาด
พอเข้าพรวดจริงๆ ก็ยืนส่ายหัวเสียอารมณ์ เพราะไม่รู้จะจัดการกับความผิดพลาดยังไง
แต่พวกเกาหลี ญี่ปุ่น คือ เวลาทีมอื่นได้บอล เขาวิ่งเข้าใส่ วิ่งเข้าแย่งทันที ไม่กลัวพรวด
เพราะ ถือทัศคนคติที่ว่า ต้องทำให้ฝ่ายตรงข้าม เล่นยากมากที่สุด คุณไม่ได้มาเลี้ยงบอลครองบอลง่ายๆแน่นอน
ถ้าพรวดก็แค่พลิกตัววิ่งไปไล่ต่อ ถึงแย่งเอามาไม่ได้ ก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเล่นยากมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ของเราคือ ไม่เข้าบอล เพราะกลัวพรวด ยืนกางขาคุมเชิง บางคนก็ย่อตัวหยองๆดูบอล
แบบนี้ไอ้คนที่ได้ครองบอลก็ยิ้มสิครับ ไม่เข้าบอลแบบนี้ เค้าก็มีเวลาเลี้ยง มีเวลาเงยหน้าดูเพื่อน มีเวลาเลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะจ่ายได้
เอาง่ายๆ วันไหนว่างๆ คุณลองสังเกตกองหน้าไทยเวลาเล่นเพรสซิ่งใส่ผู้รักษาประตูหรือกองหลังฝ่ายตรงข้ามดูสิ
คุณจะเห็นวิ่งเหยาะๆ เข้าไป เพราะในหัวของเขามีชุดความคิดที่ฝังเอาไว้แล้วว่า วิ่งไปงั้นๆ ยังไงก็แย่งผู้รักษาประตูกับกองหลังไม่ได้หรอก
แต่กลับกัน เวลาคุณดูทีมมารินอสเล่น คุณจะเห็น อิริก ลิม่า มาร์กอส จูเนียร์ หรือนาคากาวะ 3 ตัวนี้ วิ่งเข้าใส่ GK กับกองหลังแบบเต็มฝีเท้า
คุณคิดว่า GK กับกองหลัง จะทำงานลำบากมาก เวลาเจอกับการกดดันแบบไหน ระหว่างวิ่งแบบเหยาะๆเข้าไป กับเต็มฝีเท้าเข้าไป
เอาแค่นี้ก็เห็นความต่างแบบสุดๆแล้ว
(ปล. นักบอลไทยกองหน้าที่เล่นเพรสบางคนก็ทำได้ดีนะ ถ้าเปิดลีกมาก็ลองสังเกตเอาแล้วกัน)
แสดงความคิดเห็น
สงสัยบอลไทยกับเกาหลีใต้ กับ ญี่ปุ่น?
และอีกอย่างครับ. ตอนเจอ Germany เกาหลีใต้เล่นแบบโหดแข็งแรงเหมือนฝรั่งเลย ญีปุ่น เจอเบลเยียม ก็โหดแข็งแรงเหมือนกัน แล้วไทยเจออุรุกวัย. ดูและไม่กล้าเข้าบอล เล่นธรรมดามาก เจอเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ กล้าเล่นก็แค่ ชนาธิป !!!