เรากับสามีแต่งงานกันมาได้ 2 ปี มีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน อายุ 1ขวบ5 เดือน เรารับราชการทั้งคู่
- สามีไม่ชอบพ่อกับแม่เรา ให้เหตุผลว่า แม่เราเป็นคนพูดโผงผางพูดไม่รักษาน้ำใจใคร
- แม่เรามีที่ดินยกให้ไว้ปลูกบ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านของพ่อแม่
- ตอนแรกตกลงกับสามีแล้วว่าจะทำบ้านในที่ดินผืนนี้ เราเลยเอาเงินของสามีมาเป็นค่าถมที่
และแล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น คืนวันนึง สามีเราไปซ้อมกีฬาชนิดนึง ซึ่งจะมีแข่งในวันรุ่งขึ้น แต่พอซ้อมเสร็จก็ตั้งวงกินเหล้ากัน เมา ขับมอไซต์กลับบ้านตอนดึกเกือบ 5 ทุ่ม รถล้ม มีแผลถลอก ตามตัว เจ็บอก กลับมาอ้วกเต็มห้องน้ำ เช้ามาพ่อเรามาอาบน้ำก็ต้องมาล้างอ้วก
-คืนนั้น เรานอนกับลูกอยู่ในห้อง ต้องคอยผยุงพาไปอ้วก แต่รอบท้ายเราต้องคอยเอานมให้ลูกกินด้วยเลยไม่ได้ลุกไป
-เช้ามาสามีเราบ่นเจ็บอก แต่เราเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นอะไรมากเลยไม่ได้พาไปหาหมอ สามีเราเกิดอาการน้อยใจ ที่เราไม่ใส่ใจเขา
-สามีเราแสดงอาการออกมาโดยการวันนั้นไม่ช่วยเราดูลูก ดูมีแงงอน
-แม่เราผิดสังเกตจึงเข้ามาถามเรา ว่าเป็นอะไร ด้วยความที่เราเหนื่ิอยทั้งเหนื่อยเลี้ยงลูก เหนื่อยจากงาน เราจึงตอบแม่เราไปทั้งน้ำตา ว่า "หนูเหนื่อยแม่ เขาว่าหนูไม่ใส่ใจเขา" ด้วยความเป็นแม่ และแม่เรามีนิสัยโผงผาง ตอบกลับมาหาเราด้วยความโมโหว่า จะทนอยู่แบบนี้ได้ไหม ชีวิตคู่มันคือทั้งชีวิตนะ เราจะไปเฝ้าเอาอกเอาใจได้ยังไง โตๆกันแล้ว ขณะนั้นแฟนเราก็มาได้ยิน
-จากเหตุการณ์วันนั้นสามีเรายิ่งทวีคูณ ความไม่ชอบพ่อแม่เรามากขึ้น
-เขาจึงไม่อยากปลูกบ้านใกล้ๆพ่อแม่เรา
- เราแก้ปัญหาด้วยการย้ายไปนอนหอพักของที่ทำงานเรา เพื่อให้สามีสบายใจ
ทำไมเราถึงอยากปลูกบ้านใกล้ๆพ่อแม่เรา
1. เราทำงานเป็นกะถ้าวันไหนเราหรือสามีไม่อยู่บ้าน ก็จะได้ฝากลูกและก็ฝากบ้านไว้กับพ่อแม่เราได้
((สามีเราให้เหตุผลว่า ถ้าอยู่ที่อื่นเขาจะเอาแม่เขามาอยู่ด้วย เวลาเราไม่อยู่บ้าน แม่สามีจะได้คอยดูลูกเราให้ ซึ่งเหตุผลนี้ เรามีความคิดแย้งตรงที่
:::แม่สามีเราเป็นคนต่างจังหวัด พูดภาษากลางไม่ได้เลย อาจทำให้การสื่อสารลำบาก
:::แม่สามีไม่ได้เลี้ยงลูกเราแม่ตั้งแต่เล็ก อาจจะยากในการเลี้ยงดู
:::ข้อนี้ สำคัญมาก ปัจจุบันแม่สามีอยู่กับหลานชายอายุประมาณ 8 ขวบ ซึ่งแม่สามีเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก แม่สามีไปไหน หลานชายคนนี้ก็ต้องไปด้วย ข้อนี้เป็นอีกเหตุผลนึงซึ่งเราไม่อยากให้แม่มาอยู่ด้วยเพราะ เราเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกเรา เด็กผู้ชายกับผู้หญิงมาอยู่บ้านเดียวกัน เราเป็นห่วงลูกเรา ข้อนี้เราบอกกับสามีแล้ว ถ้าเอาแม่มาอยู่ ขอแค่แม่คนเดียว แต่สามีก็ไม่พอใจเรา เขาบอกว่าถ้าเราเป็นผู้ชายเขาจะต่อยเราให้คว่ำเลย ที่มีความคิดแบบนี้
2.มีที่ดินแล้วจะได้ไม่ต้องไม่เสียเงินซื้อที่อีก อีกหน่อยลูกก็เข้าโรงเรียนต้องจำเป็นใช้เงิน((สามีให้เหตุผลว่า ก็ค่อยๆซื้อไปทีละน้อยไม่ต้องรีบ))
3. พ่อแม่เราเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็จะคอยช่วยเหลือดูแลพ่อแม่เราได้ ((สามีให้เหตุผลว่าทีตัวเขาเองยังสละเลือกเราแล้วทิ้งแม่มาอยู่กับเราได้เลย )) ซึ่งสามีเรามีพี่น้อง 5 คน อีกหน่อยก็ต้องมีคนไปอยู่ดูแลแม่อยู่แล้ว
4. เรามีน้องชาย ซึ่งถ้าน้องชายเราแต่งงานก็ต้องออกไปอยู่บ้านแฟนเขา เพราะแฟนเขามีแค่ยาย
สถานการณ์ตอนนี้คือ
-สามีเราไม่พอใจเรา ที่เราไม่ทำตามใจที่เขาต้องการ เราคุยกันเฉพาะอยู่ต่อหน้าลูก
-เราใช้ชีวิตคู่แค่เหมือนทำหน้าที่พ่อกับแม่เท่านั่น
-สามีเราทวงเงินที่เรายืมไปเป็นค่าถมที่ ให้เหตุผลว่า เป็นเงินก้อนที่จะเอาไปต่อเติมให้แม่เขา
-หลายๆครั้ง เขาให้เหตุผลว่า แต่งงานมาแล้วคิดว่าจะสบายกลับลำบากกว่าเดิม ทั้งๆทีตั้งแต่คบกันมาจนแต่งงาน อาหารการกินข้าวของเครื่องใช้ เราออกเงินให้ทุกอย่าง หรือแม่กระทั่งค่าใช้จ่ายในการเลี่ยงลูก เราเห็นว่าเงินเดือนเขาน้อยเราก็ออกเองหมด ค่านม ค่าแพมเพิส เสื้อผ้าลูก ค่าไฟ ค่าเน็ต เราอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง
-บางครั้งเขาทำเหมือนเราไม่ใช่ภรรยาเขา บางทีเราบอกหรือแนะนำอะไรไป เขาไม่เคยเชื่อเราเลย เหมือนเราช่วยอะไรเขาไม่ได้ เหมือนเราไม่ใช่ส่วนนึงของชีวิตเขา
ไม่เคยถามว่าทำงานเหนื่อยไหม เลี่ยงลูกเหนื่อยไหม,อยากกินอะไร กินข้าวหรือยังไม่เคยมีเลย (เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก)
-ช่วงนี้จะไม่พูดกับเราก่อน ถ้าเราถามถึงจะตอบ แต่ก็ตอบแบบเสียงกระแทกๆ
- เขาบอกว่า "ในเมื่อเธอเลือกที่จะเชื่อครอบครัวเธอ เธอก็ต้องรับความเฉยชาจากผัวเธอไปแบบนี่" พอเราได้ยินคำนี้ เรารู้เลยว่า เขารักตัวเขาเอง เขาไม่ได้รักครอบครัว เพราะสิ่งที่เราทำไป เราคิดถึงอนาคตวันข้างหน้า ของลูกเรา
เราเลยจะหาเงินมาคืนเขาให้ครบ
ให้เวลาเป็นตัวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
เราไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไง เรารู้แค่ว่าเราทำเพื่อลูกเรา เพราะค่าเลี้ยงดูทุกอย่างเราออกเองทั้งหมด
เราคิดถูกแล้วใช่ไหม
สามีไม่ยอมสร้างบ้านใกล้ๆบ้านพ่อแม่เรา
- สามีไม่ชอบพ่อกับแม่เรา ให้เหตุผลว่า แม่เราเป็นคนพูดโผงผางพูดไม่รักษาน้ำใจใคร
- แม่เรามีที่ดินยกให้ไว้ปลูกบ้านซึ่งอยู่ติดกับบ้านของพ่อแม่
- ตอนแรกตกลงกับสามีแล้วว่าจะทำบ้านในที่ดินผืนนี้ เราเลยเอาเงินของสามีมาเป็นค่าถมที่
และแล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น คืนวันนึง สามีเราไปซ้อมกีฬาชนิดนึง ซึ่งจะมีแข่งในวันรุ่งขึ้น แต่พอซ้อมเสร็จก็ตั้งวงกินเหล้ากัน เมา ขับมอไซต์กลับบ้านตอนดึกเกือบ 5 ทุ่ม รถล้ม มีแผลถลอก ตามตัว เจ็บอก กลับมาอ้วกเต็มห้องน้ำ เช้ามาพ่อเรามาอาบน้ำก็ต้องมาล้างอ้วก
-คืนนั้น เรานอนกับลูกอยู่ในห้อง ต้องคอยผยุงพาไปอ้วก แต่รอบท้ายเราต้องคอยเอานมให้ลูกกินด้วยเลยไม่ได้ลุกไป
-เช้ามาสามีเราบ่นเจ็บอก แต่เราเองก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นอะไรมากเลยไม่ได้พาไปหาหมอ สามีเราเกิดอาการน้อยใจ ที่เราไม่ใส่ใจเขา
-สามีเราแสดงอาการออกมาโดยการวันนั้นไม่ช่วยเราดูลูก ดูมีแงงอน
-แม่เราผิดสังเกตจึงเข้ามาถามเรา ว่าเป็นอะไร ด้วยความที่เราเหนื่ิอยทั้งเหนื่อยเลี้ยงลูก เหนื่อยจากงาน เราจึงตอบแม่เราไปทั้งน้ำตา ว่า "หนูเหนื่อยแม่ เขาว่าหนูไม่ใส่ใจเขา" ด้วยความเป็นแม่ และแม่เรามีนิสัยโผงผาง ตอบกลับมาหาเราด้วยความโมโหว่า จะทนอยู่แบบนี้ได้ไหม ชีวิตคู่มันคือทั้งชีวิตนะ เราจะไปเฝ้าเอาอกเอาใจได้ยังไง โตๆกันแล้ว ขณะนั้นแฟนเราก็มาได้ยิน
-จากเหตุการณ์วันนั้นสามีเรายิ่งทวีคูณ ความไม่ชอบพ่อแม่เรามากขึ้น
-เขาจึงไม่อยากปลูกบ้านใกล้ๆพ่อแม่เรา
- เราแก้ปัญหาด้วยการย้ายไปนอนหอพักของที่ทำงานเรา เพื่อให้สามีสบายใจ
ทำไมเราถึงอยากปลูกบ้านใกล้ๆพ่อแม่เรา
1. เราทำงานเป็นกะถ้าวันไหนเราหรือสามีไม่อยู่บ้าน ก็จะได้ฝากลูกและก็ฝากบ้านไว้กับพ่อแม่เราได้
((สามีเราให้เหตุผลว่า ถ้าอยู่ที่อื่นเขาจะเอาแม่เขามาอยู่ด้วย เวลาเราไม่อยู่บ้าน แม่สามีจะได้คอยดูลูกเราให้ ซึ่งเหตุผลนี้ เรามีความคิดแย้งตรงที่
:::แม่สามีเราเป็นคนต่างจังหวัด พูดภาษากลางไม่ได้เลย อาจทำให้การสื่อสารลำบาก
:::แม่สามีไม่ได้เลี้ยงลูกเราแม่ตั้งแต่เล็ก อาจจะยากในการเลี้ยงดู
:::ข้อนี้ สำคัญมาก ปัจจุบันแม่สามีอยู่กับหลานชายอายุประมาณ 8 ขวบ ซึ่งแม่สามีเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก แม่สามีไปไหน หลานชายคนนี้ก็ต้องไปด้วย ข้อนี้เป็นอีกเหตุผลนึงซึ่งเราไม่อยากให้แม่มาอยู่ด้วยเพราะ เราเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกเรา เด็กผู้ชายกับผู้หญิงมาอยู่บ้านเดียวกัน เราเป็นห่วงลูกเรา ข้อนี้เราบอกกับสามีแล้ว ถ้าเอาแม่มาอยู่ ขอแค่แม่คนเดียว แต่สามีก็ไม่พอใจเรา เขาบอกว่าถ้าเราเป็นผู้ชายเขาจะต่อยเราให้คว่ำเลย ที่มีความคิดแบบนี้
2.มีที่ดินแล้วจะได้ไม่ต้องไม่เสียเงินซื้อที่อีก อีกหน่อยลูกก็เข้าโรงเรียนต้องจำเป็นใช้เงิน((สามีให้เหตุผลว่า ก็ค่อยๆซื้อไปทีละน้อยไม่ต้องรีบ))
3. พ่อแม่เราเจ็บไข้ได้ป่วย เราก็จะคอยช่วยเหลือดูแลพ่อแม่เราได้ ((สามีให้เหตุผลว่าทีตัวเขาเองยังสละเลือกเราแล้วทิ้งแม่มาอยู่กับเราได้เลย )) ซึ่งสามีเรามีพี่น้อง 5 คน อีกหน่อยก็ต้องมีคนไปอยู่ดูแลแม่อยู่แล้ว
4. เรามีน้องชาย ซึ่งถ้าน้องชายเราแต่งงานก็ต้องออกไปอยู่บ้านแฟนเขา เพราะแฟนเขามีแค่ยาย
สถานการณ์ตอนนี้คือ
-สามีเราไม่พอใจเรา ที่เราไม่ทำตามใจที่เขาต้องการ เราคุยกันเฉพาะอยู่ต่อหน้าลูก
-เราใช้ชีวิตคู่แค่เหมือนทำหน้าที่พ่อกับแม่เท่านั่น
-สามีเราทวงเงินที่เรายืมไปเป็นค่าถมที่ ให้เหตุผลว่า เป็นเงินก้อนที่จะเอาไปต่อเติมให้แม่เขา
-หลายๆครั้ง เขาให้เหตุผลว่า แต่งงานมาแล้วคิดว่าจะสบายกลับลำบากกว่าเดิม ทั้งๆทีตั้งแต่คบกันมาจนแต่งงาน อาหารการกินข้าวของเครื่องใช้ เราออกเงินให้ทุกอย่าง หรือแม่กระทั่งค่าใช้จ่ายในการเลี่ยงลูก เราเห็นว่าเงินเดือนเขาน้อยเราก็ออกเองหมด ค่านม ค่าแพมเพิส เสื้อผ้าลูก ค่าไฟ ค่าเน็ต เราอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง
-บางครั้งเขาทำเหมือนเราไม่ใช่ภรรยาเขา บางทีเราบอกหรือแนะนำอะไรไป เขาไม่เคยเชื่อเราเลย เหมือนเราช่วยอะไรเขาไม่ได้ เหมือนเราไม่ใช่ส่วนนึงของชีวิตเขา
ไม่เคยถามว่าทำงานเหนื่อยไหม เลี่ยงลูกเหนื่อยไหม,อยากกินอะไร กินข้าวหรือยังไม่เคยมีเลย (เป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก)
-ช่วงนี้จะไม่พูดกับเราก่อน ถ้าเราถามถึงจะตอบ แต่ก็ตอบแบบเสียงกระแทกๆ
- เขาบอกว่า "ในเมื่อเธอเลือกที่จะเชื่อครอบครัวเธอ เธอก็ต้องรับความเฉยชาจากผัวเธอไปแบบนี่" พอเราได้ยินคำนี้ เรารู้เลยว่า เขารักตัวเขาเอง เขาไม่ได้รักครอบครัว เพราะสิ่งที่เราทำไป เราคิดถึงอนาคตวันข้างหน้า ของลูกเรา
เราเลยจะหาเงินมาคืนเขาให้ครบ
ให้เวลาเป็นตัวดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
เราไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไง เรารู้แค่ว่าเราทำเพื่อลูกเรา เพราะค่าเลี้ยงดูทุกอย่างเราออกเองทั้งหมด
เราคิดถูกแล้วใช่ไหม