ควรจะทำตัวอย่างไรดีเมื่อผู้ปกครองมี ego ที่สู๊งสูง

เคยได้ยินว่า ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า แต่ตัวเราเองก็รับอีโก้ของแต่ละฝ่ายไม่ค่อยจะไหวเหมือนกัน เลยต้องขอนำออกมาเล่าสักนิดนึงค่ะ เผื่อจะได้รับคำแนะนำกลับไปใช้บ้าง จขกท.อายุ 17 ปีค่ะ ไม่สนิทกับพ่อแม่เท่าไหร่ เก็บตัวเงียบเชียบ เวลาที่พ่อกับแม่สนทนากันก็เหมือนกับการโต้วาทีค่ะ มีขึ้นเสียงใส่อารมณ์เพื่อให้เกิดอรรถรสและบรรยากาศที่มาคุ ส่วนตัวจากความคิดของเราเองแล้วเหตุการณ์เหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นจากคำว่า 'อีโก้' ค่ะ พ่อก็คิดว่าตัวเองฉลาด และจะมองคนอื่นด้อยกว่าเสมอ แม่ก็ยึดมั่นในคำที่ว่าไม่จำเป็นต้องจบสูงก็มีกินได้ ส่วนลูกก็คือ จขกท.กับน้องชาย เปรียบเสมือนคนกลาง ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้เลย นั่งเงียบเป็นเป่าสาก เพราะเวลาที่ท่านทั้งสองกำลังโต้วาทีกันอย่างดุเดือดดุจดั่งกองไฟที่ลุกโชติช่วงดั่งดวงสุริยาอยู่นั้น การที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่างเขาก็เลยเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ เลยนั่งเงียบๆรับชมการปะทะฝีปากของสองท่านมากกว่า การอบรมสั่งสอนลูกของท่านทั้งสองก็ต่างกันค่ะ ทางพ่อจะแนะนำตัวจขกท.ให้ไปเรียนทางนั้นนู้นนี้ และสอนให้คิดอย่างยิ่งใหญ่ใฝ่สูง เป็นเจ้าใหญ่นายโต เพื่อให้มีการงานและการเงินที่มั่นคง และก็มีการวางแผนใส่กรอบชีวิตของจขกท.ไว้แล้วเป็นอย่างดีว่ายูต้องทำแบบนั้นแบบนี้นะ แล้วก็จะพาดพิงไปถึงบุคคลที่สามนั่นก็คือแม่ค่ะ ท่านพ่อก็จะเปรียบว่าท่านฉลาดกว่าแม่ แม่ก็เป็นแค่พนักงานคนนึงที่ไม่เคยออกไปไหน ทำแต่งาน (แต่ท่านพ่อกลับไม่เคยทำอะไรเลย) ส่วนทางท่านแม่ก็จะสอนจขกท.ว่า สามารถทำอะไรก็ได้ที่มั่นคงและอย่ามักใหญ่ใฝ่สูงจนเกินเหตุ เพราะมันจะทำให้เราไม่รู้จักพอ ท่านพ่อสอนอีกอย่าง ท่านแม่สอนอีกอย่าง เราเองเป็นลูกซึ่งเปรียบเหมือนโซ่ทองคล้องใจระหว่างพ่อและแม่ ซึ่งการเป็นลูกที่กตัญญูจะต้องเชื่อฟังพ่อแม่ แต่จะเลือกเชื่อฟังใครในเมื่อทั้งพ่อและแม่ต่างมีความคิดที่ต่างกัน ยึดมั่นถือมั่นในหลักของตนเอง ไม่เคยเปิดใจแล้วสนทนากันดีๆ อีกคนย่อมมุ่งดูถูกคนต่ำต้อยกว่า อีกคนย่อมมุ่งเน้นให้ยึดมั่นในศักดิ์ศรีและภูมิใจในสิ่งที่ตนเองเป็น คนกลางนั่นก็คือ จขกท.ที่ต้องมีหน้าที่แบกรับความอีโก้ทั้งสองฝ่ายรวมกับต้องบูรณาการคำสอนทั้งสองท่านเข้าด้วยกัน มันทำให้ตัวเราเองรู้สึกว่าอยากที่จะอยู่คนเดียว ไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับใคร อยากจะหนีจากความวุ่นวายไปให้ไกล ไม่อยากแม้แต่จะเปิดใจพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของเราให้ท่านทั้งสองรู้ ไม่อยากจะเดินเข้าไปบอกกับท่านว่ามันอึดอัดและไม่มีความสุขแค่ไหนที่ต้องอยู่นั่งฟังการปะทะฝีปากและคำด่าว่าทอกันและกันของท่านทั้งสอง เพราะเราเองรู้สึกว่าไม่อยากให้ท่านต้องเสียใจกับคำว่าไม่มีความสุขในครอบครัวนี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
จขกท. ยังเด็ก ทำถูกแล้วที่ไม่แทรกเวลาเขาถกกัน
เพราะถ้าคุณกำลังเถียงหรือถกกับใคร คงไม่ชอบที่มีคนอื่นมาเบรค

พ่อแม่ก็เหมือนทุกคนในโลกนี้ที่ไม่เพอร์เฟคไปเสียทุกอย่าง
รวมทั้งเราและจขกท. ที่ต้องมีพฤติกรรมอะไรที่คนอื่นไม่ชอบ
ไม่ใช่แค่มีเราที่ต้องทนเขานะ

พ่อและแม่สอนคุณถูกทั้งคู่ พ่อสอนให้ใฝ่สูง ส่วนแม่สอนว่า
อย่าใฝ่สูง "เกินเหตุ" มันก็เป็นเรื่องเดียวกันนี่แหละ คิดดูใหม่ดี ๆ

คนเราทุกคนเติบโตมาได้โดยการผ่านคำสอนจากหลาย ๆ ทาง
จากพ่อแม่บ้าง จากการอ่านการดูคนรอบข้าง
คุณโชคดีแล้วที่มีคนสอนเพราะความหวังดีอย่างจริงใจ
แต่สุดท้าย คุณก็จะต้องนำมาไตรตรอง คัดสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณอีกครั้งอยู่ดี

อย่าไปสับสนกับคำสอนหลากหลาย แต่จงสนุกที่จะเลือกใช้มัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่