[CR] สอบ IELTS Academic กับ Computer เตรียมสอบ 3 วัน มีพื้นฐาน สอบผ่านแล้วแม่

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์สอบ IELTS แบบ​ Computer นะคะ เราเลือกสอบแบบ Academic กับทาง IDP Thailand ค่าสอบ 6,900 บาท โฆษณาว่าผลออก 5 วันหลังสอบ โดยกระทู้นี้จะไม่ได้เป็นลักษณะการอธิบายรายละเอียดลึกๆ ของ IELTS นะคะ เล่าที่พอจะจำได้และเผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังพิจารณาเลือกสอบในลักษณะนี้ค่ะ

Outline ตามนี้ค่ะ 

1.    เกี่ยวกับการสอบ IELTS
1.1      เลือกสอบ เลือกวัน
1.2      จองสอบ

2     การเตรียมตัว
2.1 IELTS หลักพื้นที่สุด คือพื้นฐานคำศัพท์
2.2 ฝึกทำข้อสอบภาพรวม
2.3 Listening พาร์ทฟัง
2.4 Reading พาร์ทอ่าน
2.5 Writing พาร์ทเขียน
2.5      Speaking พาร์ทพูด

3     ไปสอบ – แบ่งย่อยแต่ละพาร์ท Speaking + Listening, Reading, Writing
4. Results 
 
1.  เกี่ยวกับการสอบ IELTS

1.1        เลือกสอบ เลือกวัน
เราเลือกสอบจากตารางที่มัน Available ที่มันสะดวกต่อการเดินทางและสอบจบภายในวันเดียวค่ะ ตอนนั้นเช็คตารางแล้วเหมือนของ BC จะต้องสอบพูดแยกกับพาร์ทที่เหลือคนละสถานที่หรือคนละวันเนี่ยแหละค่ะ ของทาง IDP มันสามารถสอบให้เสร็จได้ภายในวันเดียวและที่เดียวกัน ไม่ต้องเดินทางไปมาค่ะ 

ข้อเสียและพึงคำนึงสำหรับการสอบกับ IDP สำหรับสถาบันที่จะต้องการคะแนนยื่นเป็นตัว Official จากศูนย์สอบ หรือที่เรียกว่า Additional Test Report Form (TRF) และไม่ได้ถูก Listed เพื่อส่งคะแนน Digital ตามลิงก์นี้ https://www.ielts.idp.co.th/request/extra-results-ecopy-a.aspx ปุ่ม Click คลิกจะมี ไฟล์ Excel ให้ตรวจสอบรายชื่อมหาวิทยาลัยที่รับแบบ E-Copy ถ้าหากไม่มีจะมีค่าใช้จ่ายแยกต่างหากหากว่าผู้สอบไม่ได้เลือกลงไว้ตอนกดสมัครสอบ (เลือกส่งคะแนนภายหลัง) โดยแบ่งเป็นค่าออกคะแนนอีกชุด + ค่าส่งคะแนนไปสถาบันในต่างประเทศ รวมกัน 1,700 บาท

*สามารถแจ้งชื่อสถาบันที่ต้องการยื่นคะแนนแบบ Hard Copy ได้ฟรีจนถึงวันที่สอบ – แต่ก็นั่นแหละใครจะรู้ว่าผลสอบมันเป็นอย่างที่เราอยากจะยื่นรึป่าว 
-- แต่อยากจะติงประเด็นนี้ของ IDP ว่าทำไมไม่แจ้งให้ชัดเจนตั้งแต่ระบบลงทะเบียนสอบ วันสอบด้วย ว่าจะมีให้เลือกใช้บริการฟรีได้จนถึงวันสอบ เผื่อผู้สอบคนไหนเตรียมตัวมาดีแล้วประมาณตัวเองได้ว่าจะผ่านแน่ๆ ใช้บริการตรงนี้เต็มที่ การเช็คก็คืออยู่ในหลืบเว็บเลย ค่าส่ง 1,700 บาท ก็ไม่ได้ถูกเลย
**ระยะเวลา ไม่แน่ใจว่าแบบ Digital ส่งเมื่อไรค่ะ เมื่อคะแนนออกเลยรึป่าวอาจจะต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับศูนย์

1.2        จองสอบ
จองสอบก่อนวันสอบช้าสุดได้ 5 วัน (จองวันนี้สอบ 5 วันถัดไป) <ของ BC จะ 4 วัน> ดังนั้นเพื่อนๆ จะต้องคำนวณวันที่คะแนนจะออก + เผื่อสอบใหม่หากคะแนนไม่ผ่าน + เผื่อเวลาสำหรับศูนย์สอบส่งคะแนนให้สถาบันด้วยนะคะ
เรากดสมัครเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2020 ลงสอบวันที่ 2 ธ.ค. 2020 เรามีเวลาเตรียมน้อยมาก ต้องมีคะแนนไปส่งถึงสถาบันภายในวันที่ 18 ธ.ค. พยายามจะเผื่อเวลาให้ตัวเองได้อ่านบ้างได้มากที่สุดที่จะทำได้แล้วแต่ไปทำงาน กลับบ้าน ก็หมดพลังชีวิตแล้วค่ะ คำนวณเวลาเผื่อมาได้ 2 สัปดาห์ อ่านแบบได้เรื่องจริงๆ ก็ 3 วันค่ะ
1.2.1        ของเราเลือกเป็นสอบพูดช่วงเช้า สอบคอมตอนบ่ายค่ะ
1.2.2        เพิ่มเติมที่ https://www.ielts.idp.co.th/computer_th.aspx  

2    การเตรียมตัว
โดยพื้นฐานนะคะ เราเรียนสายคณิต-อังกฤษตอนมัธยมปลาย โรงเรียนรัฐบาล สอบเข้าเรียนป.ตรี อินเตอร์เรียนเป็นภาษาอังกฤษ 4 ปี ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงาน ใดๆ เราไม่ได้มั่นใจการใช้ภาษาคิดแค่ว่ามีใช้เอาตัวรอดแต่ละช่วงเวลาก็พอมาตลอดเลย แล้วค่าสอบมันก็จุกจนทำให้เราผัดวันประกันพรุ่งมาเรื่อยๆ ไม่ได้สอบสักทีเพราะกลัวสอบไม่ผ่าน จนต้องใช้คะแนนจริงจังเลยต้องมาเตรียมจริงจังนิดนึงค่ะ 
เราจะขอข้ามเรื่องโครงสร้างข้อสอบนะคะ ทุกพาร์ทเหมือนกันกับสอบ Paper Based ไปหาดูตามอินเตอร์เน็ตข้างนอกได้เลย

2.1 IELTS หลักพื้นที่สุด คือพื้นฐานคำศัพท์
คำศัพท์ของเราใช้ของเดิมที่ท่องมาตั้งแต่มัธยม มันได้ใช้อยู่แล้วตอนที่เรียนปตรี ทำงาน ดังนั้นถ้าแบบจะท่องคำศัพท์ก็คือดี คิดว่าถ้าเพื่อนๆ ต้องเตรียมสอบ ONET GAT อยู่แล้วคิดว่ามันก็คือคำศัพท์ชุดเดียวๆ กันเลยค่ะ ดูพวก synonym เพราะมันเป็นพื้นเอาไว้อ่าน เขียนฟัง พวกคำว่าขึ้น ลง มากมาย หลากหลาย คำอธิบายทิศทาง เอา ไว้เขียน อ่าน ทำความเข้าใจ วิธีการใช้คำเชื่อม

2.2 ฝึกทำข้อสอบภาพรวม
l  ทำข้อสอบเก่า Cambridge แบบจับเวลา เราอุดหนุนเขาเล่ม 12 แต่เราได้ไฟล์เล่มอื่นๆ จากเพื่อนๆ เคยสอบอีกที (ไม่ควรสนับสนุนของผิดลิขสิทธิ์แบบเรานะคะ) เราฝึกกับแบบนี้เป็นหลัก เล่มนึงมี 4 Tests   เพื่อนที่เคยสอบแนะนำว่าให้ จับเวลาทำวันละ Test วันละ 3-4 ชม. เคยมีรีวิวจากเพื่อนอีกคนว่าเทียบตัวเล่ม IELTS Barrons จะง่ายกว่าข้อสอบจริง จริงๆ เราก็จะอ่านแต่ก็ข้ามไปค่ะ  กับ เล่มที่เป็นคู่มือที่เขาอ่านๆ กันเราก็เคยมีเก็บตอนที่จะเตรียมสอบตอนป.ตรีแต่ไม่ได้สอบ แต่เราก็ไม่ได้เตรียมจากเล่มนี้ประกอบมากนักนะคะเพราะไม่มีเวลาอ่าน  ถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ก็ทำแบบเราอย่างน้อยก็ run through ข้อสอบสักสามชุด 
l  ส่วนแบบฝึกเข้าไปในเว็บ IELTS material https://ieltsmaterial.com/ แนะนำให้เพื่อนๆ เอาอีเมลไป subscribe มันจะส่งแบบฝึกเข้าเมลทุกๆ 2-3 วัน ว่างๆ ก็ทำเล่นๆ ขำๆ ก็ได้ ตอนนั้นเราจะสอบตอนปี 2017 เปิดดูบ้าง ไม่เปิดบ้างค่ะ มีทุกพาร์ท มีให้หัดหลายรูปแบบข้อสอบ มีคำตอบให้ในอีเมลนั้นเลยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์เขากดดูให้วุ่นวายเลย แบบฝึก + ข้อสอบจากเว็บนี้ ใกล้เคียงข้อสอบจริงมากๆ ค่ะ

2.3 Listening ส่วนฟัง
l  ต้องลองฝึกกับข้อสอบ Cambridge แบบฝึกของเก่าๆ จะใกล้เคียงสุด เพิ่มเติมคืออย่าคิดนานเราต้องตอบเลย
l  ถ้าเน้นให้ชินเสียงเราว่า BBC กับ THE ECONOMIST PODCAST เสริชเลยใน Spotify ฟังอันไหนก็ได้ จับใจความเก็บรายละเอียด้วยสำเนียงต่างๆ ตอนนั้นเราฝึกไม่ทันแล้วเลยเอาแบบนี้ไปแทนค่ะ 

2.4 Reading ส่วนพาร์ทอ่าน
l  เราฝึกทำข้อสอบเก่าโดยพยายามจับเวลา พาร์ทอ่านตอนเราซ้อมทำข้อสอบคือทำไม่ทันเลย มันแล้วแต่ความคุ้นเคยกับเนื้อเรื่องเลย อย่างถ้าเราทำงานประสบการณ์ก็จะไม่ได้ความคุ้นชินเรื่องคำศัพท์ทางการแพทย์ ชีววิทยา วิทยาศาสตร์ มากนัก วิธีการทำความเข้าใจบทความก็จะน้อยกว่าคนที่อยู่ในสายนี้โดยตรง ฝึกเท่านั้นค่ะ เราแนะนำแค่ว่าทำยังไงก็ได้ให้ทำทันคะแนนน่าจะตามมาเอง

2.5 Writing พาร์ทเขียน
l  คือการสอบกับคอมพิวเตอร์คือเราพิมพ์ข้อเขียนของเราลงในข้อสอบ โดยส่วนตัวพิมพ์แป้น QWERTY asdf jkl; สืบนิ้วแป้นเหย้ามาแต่ประถมชินมากเรื่องึความช้าในการเคาะแป้นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเรา แต่หากเพื่อนๆ คนไหนไม่ถนัดเราว่าซ้อมพิมพ์กับคอมฯไปเลยค่ะ จะได้ไวๆ
l  ข้อดี การสอบแบบคอมพิวเตอร์ยังคงมีตัวจับเวลาเช่นเดิม เพิ่มเติมความชีวิตดีด้วยตัวช่วยนับคำ คือตอนเราฝึกเขียนเราฝึกเขียน Offline กับ Physical notebook/paper เรามีปัญหาที่เราเขียนหนังสือช้า เป็นคนที่จับปากกาเขียนผิดวิธีตั้งแต่เด็ก แล้วก็เขียนตัวใหญ่มาก ความคิดสะเปะสะปะ พอเขียนแล้วอยากแทรกก็ต้องขีดฆ่าแล้วแทรกหรือลบ กังวลเรื่องจำนวนคำ ต้องเผื่อเวลานับคำ การสอบแบบคอมทำให้เราตัดความช้านี้ออกไปได้เกลี้ยงเลย
l  เขียนให้จบ ใช้คำเชื่อม แตกประเด็น มีประเด็นหลักแล้วต้องมีประเด็นสนับสนุนในย่อหน้า ทำการเปรียบเทียบ ทำให้มีเหมือนมีความขัดแย้ง แต่ก็มีเหตุผลที่ฉลาดๆ ไปหักล้างข้อขัดแย้งที่ตัวเองยกขึ้นมา ใช้แกรมมาร์ให้หลากหลาย either … or … // not only … but (also) … /// preposition /// collocation ให้ถูก verb phrase ต้องมา tense /// if clause พยายามมีให้ครบ /// paraphrasing  
l  โดยต้องยกตัวอย่าง. ทำประโยค transition ระหว่างย่อหน้าในย่อหน้าก่อนหน้า เขียนสรุปใจความที่เราตอบอีกทีที่เราให้ความเห็นใน thesis statement (main idea) ที่เราให้ไว้ย่อหน้าแรกๆ ใช้คำศัพท์ไม่วนมาใช้คำเดิมมากเกินไป
l  เพิ่มเติม ตอนฝึกถ้าใครมีเวลาน้อยให้ฝึกเขียนมากๆ ไม่ทัน ตอนดู Guide เฉลยการเขียนอะ ให้ดูอันที่ band สูงๆ หน่อย เราจะได้ชินกับ pattern การเขียน และแกรมมาร์ที่ไม่ป่วยและไม่พิมพ์ผิด และพอจะเห็นแนวทางการให้ความเห็น (Idea) ตรงท้ายเล่ม หรือจาก IELTS Material อันนี้ค่ะ

2.6 Speaking พาร์ทพูด
l  Part 1 เราดู YouTube ช่อง English Speaking Success คลิปนี้เลยมากเพียงพอ ตามคลิปนี้ไป
l  พาร์ทอื่นเราดูอันที่เขา mock up test แบบมีคอมเม้นท์ในคลิปเลย เพื่อปรับปรุงการพูดของเราด้วยค่ะ ดูตาม band ที่ต้องการ + .5 หรือ 1
l  ดูคำถาม จดคำตอบที่เราคิดออกมาแล้ว Speak out loud นะคะ ถ้ายังไม่ค่อยมี idea เพื่อพูดไม่มีคนช่วยฟัง ก็เปิดเสียงอัดหรือพูดหน้ากระจก + จับเวลา เราจะ correct ตัวเองอยู่แล้วโดยธรรมชาติค่ะ พอเรามีพื้นฐานเรื่องโครงสร้างประโยค grammar tense จากการเตรียมการเขียน อ่าน

3    ไปสอบ – แบ่งย่อยแต่ละพาร์ท Speaking + Listening, Reading , Writing
ไปถึงเขาจะเช็คชื่อ ลงทะเบียน สแกนนิ้ว แล้วก็ฝากกระเป๋า ขอติงตรงนี้นิดนึงว่าเขานัดเช้ามากเกินไปคอยประมาณ 2 ชั่วโมงแบบไม่ได้ทำอะไร แปดโมงครึ่ง คือเราก็ต้องออกจากบ้านประมาณหกเจ็ดโมงเช้าอะนึกออกปะ รถไฟฟ้าเบียดๆ แต่ดีที่วันนั้นคนไม่เยอะเท่าไร

3.1   พูด – พอถึงเวลาสอบจะมีเจ้าหน้าที่พาเราไปที่ห้องสอบจะมี Examiner คอยเราอยู่หน้าห้อง ก็เข้าห้องห้องเงียบมากเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าเสียงเราจะดังไม่ชัด เขาจะถามเราว่าพร้อมสอบแล้วรึยัง เขาก็จะเริ่มพูดอัดสอบ แล้วก็ถามคำถามไปเรื่อยๆ เลยค่ะ หัวข้อคล้ายๆ กับที่เราเตรียมมาแต่พูดได้ไม่ค่อยราบรื่นเท่าไร ติดๆ ขัดๆ ไปหมดเลย 55555555 พาร์ทที่ต้องพูดยาวๆ 2-3 นาทีก็ทำได้ไม่ดีเท่าไรค่ะ พูดสั้นไปคุณเขาก็ถามต่อไปเรื่อยๆ ให้เราพยายามตอบให้ยาวขึ้นๆ พยายามไม่นึกนานมาก ถ้าให้เราแก้ไขครั้งหน้าเราจะพูดไม่ติดขัด ใช้คำให้หลากหลาย เพิ่ม idiom กับ expression ไปอีก ไม่กังวลกับการพยายามทำให้โครงสร้างซับซ้อนมากนัก ตอบให้ดูมีอะไร แต่ Keep it spoken เนื้อเรื่องพาร์ทหลังจะต่อกันกับพาร์ทแรกค่ะ 
 
พอเสร็จก็เป็นพัก เจ้าหน้าที่จะนัดเวลารอสอบกับคอมช่วงบ่าย ระหว่างนี้เราเอากระเป๋ามาแล้วไปกินข้าวค่ะ ก่อนเข้าห้องสอบก็เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย
 
3.2   ฟัง – IDP ใช้หูฟังของโซนี่ค่ะ ชัดเจนเต็มหู เลือกปรับความดังเบาได้ มีกระดาษให้ ฟังเสร็จต้องตอบเลยไม่มีเวลาให้ Transfer คำตอบเราต้องพยายามเลือกตอบให้ไวและดูคำตอบเพื่อเดาคำถามของข้อถัดไปล่วงหน้า พาร์ทนี้หลุดกระจายค่ะ สติหลุดค่ะ เก็บรายละเอียดตอนที่เขาพูดไม่ทันพอเราช้าข้อนึงก็หลุดไปหมดเลยเพราะมัวแต่ไปกังวลว่าควรตอบอันไหนดี ไม่เอานะคะ อย่าเป็นแบบเราเลย

3.3   อ่าน – สอบกับคอมจะมีตัวจับเวลาและสามารถปรับขนาดตัวอักษร กด Highlight และทดในบทความได้เลย ส่วนนี้จะช่วยเราให้ไม่ lost ไปกับตัวอักษรเป็นพรืดตอนเราจะเลือกคำตอบไปตอบคำถาม เช่นทดไว้ว่าตรงนี้สำหรับตอบข้อไหน Scanning & Skimming เอาค่ะ ละจะมีลักษณะแบบเลือก 1 จาก 4 คำตอบ เลือกจับคู่ เลือกหัวข้อของเนื้อเรื่องทั้งหมด ของแต่ละย่อหน้า โดยจำนวนตัวเลือกที่ให้มาตอบจะไม่พอดีเป๊ะค่ะ พอไปทำจริงคืออ่านได้แต่คำตอบดูเป็นไปได้หมดเลย เอาจริงเราก็เดาๆ มาอันที่น่าจะใช่ พยายามวางแผนทำข้อสอบว่าแต่ละ Passage เราจะใช้เวลาเท่าไร จัดสรรไปเลย
ชื่อสินค้า:   IELTS idp
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่