ผมซื้อคอนโดใหม่ 34 ตรม ราคา 3 ล้าน เป็นตึกสูง ติดถนน ใกล้รถไฟฟ้า ขอไม่บอกชื่อโครงการนะครับ (กลัวโดนฟ้องครับ) มีปัญหาเรื่องเสียงท่อน้ำ จนเราเครียด และเสียใจอยู่ทุกวันที่ซื้อมา
นึกถึงตอนซื้อ เซลล์ก็บอกอะไรๆก็ดีไปหมด ถามอะไรไปก็บอกไม่มีปัญหา เราก็วาดฝันว่าจะได้มาอยู่ในคอนโดที่เป็นไปตามที่เซลล์บอก แต่พออยู่จริง เจอปัญหาระบบน้ำ ปัญหาผนังบาง ยิ่งอยู่ยิ่งเครียดโดยเฉพาะเรื่องเสียงรบกวน
เช่น
- เสียงดังจากถนน จากรถไฟฟ้า
- เสียงดังจากแม่บ้านทำความสะอาด
- เสียงดังจากคนเดินผ่านหน้าประตู
- เสียงดังจากห้องข้างๆเสียบปลั๊ก
- เสียงดังจากห้องน้ำเพื่อนบ้าน เวลาหยิบจับ ฝักบัว ที่ฉีดก้น ชักโครกแล้วมันกระแทกผนัง
-เสียงเพื่อนบ้านคุยกันผ่านผนัง
-เสียงมือถือดังปลุกผ่านผนังจากห้องข้าง ๆ
-เสียงคุยกันแว้ว ๆ ผ่านผนัง
-เสียงเปิดทีวีจากห้องอื่น
ไม่ได้โทษเพื่อนบ้านนะ เพราะเขาก็ใช้ชีวิตปกติ
เอาละเสียงทะลุจากผนังคงต้องทำใจจะต่อเติมผนังกันเสียง กระจกกันเสียง ก็ต้องใช้เงินอีกเป็นแสน แถมพื้นที่ห้องที่เล็กอยู่แล้วก็จะเล็กลงอีก
แต่ที่เลวร้ายที่สุดและรับไม่ได้จริงๆคือเสียงดังจากท่อน้ำ เวลาเพื่อนบ้านอาบน้ำ ใช้ห้องน้ำที่ติดห้องนอนของเรา นอนอยู่ อยู่ๆก็ต้องตื่นเพราะเพื่อนบ้านอาบน้ำ ไม่ได้โทษเพื่อนบ้านนะครับ โทษที่งานระบบท่อน้ำของโครงการ ทำไมต้องเดินท่อมาชิดกับห้องนอนห้องอื่น ทำไมท่อไม่เก็บเสียง เฮ้อ..
ยังไปนับเสียงปริศนาอื่น ๆ หรือเสียงของห้องบนทำของตก เสียงต่อเติมห้องที่มาเป็นระยะๆ (อันนี้เข้าใจว่าปกติก็ต้องมีบ้าง)
พอรวมทุกเสียงที่มาแบบ 360 องศาตลอดทั้งวัน ก็น่ารำคาญเหมือนกัน
พอแจ้งปัญหาเรื่องท่อน้ำเซลล์ไปว่ามันไม่ได้ดีเหมือนที่คุณคุยไว้ เซลล์บอกพวกนี้เรื่องปกติ แล้วก็ลอยตัว โยนให้ไปแจ้งนิติ..เอ้า! ทำไมตอนซื้อไม่บอกละครับ.. ตอนนั้นถามว่าผนังกันเสียงไหม ก็บอกกันเสียงดี มีเสียงรบกวนอะไรไหม ก็บอกไม่มี ..แล้วทีนี้มาบอกปกติที่จะมีเสียงท่อน้ำ ....(เสียงดังมากนะ ดังจนตื่น)
ก็ต้องทนอยู่ไปครับ แต่ก็ไม่มีความสุข สุขภาพจิตแย่ เครียด ถอนหายใจทุกวันจะขายก็ไม่ได้ตอนนี้มีคนปล่อยขาย ราคาอยู่ 2.5M แล้ว จาก 3M
ใครจะซื้อคอนโดอยู่จริงจัง ดูให้ดีกันนะครับ แนะนำว่าอย่าไปเชื่อเซลล์มาก บางทีก็มั่ว บางอย่างก็ไม่บอกตรงๆ เช่าอยู่ได้ก็ลองเช่าคอนโดที่จะซื้ออยู่ก่อน ไม่ต้องรีบ พลาดแล้วเสียใจทั้งชีวิต
อุทาหรณ์ซื้อคอนโดแล้วต้องมาเสียใจ
นึกถึงตอนซื้อ เซลล์ก็บอกอะไรๆก็ดีไปหมด ถามอะไรไปก็บอกไม่มีปัญหา เราก็วาดฝันว่าจะได้มาอยู่ในคอนโดที่เป็นไปตามที่เซลล์บอก แต่พออยู่จริง เจอปัญหาระบบน้ำ ปัญหาผนังบาง ยิ่งอยู่ยิ่งเครียดโดยเฉพาะเรื่องเสียงรบกวน
เช่น
- เสียงดังจากถนน จากรถไฟฟ้า
- เสียงดังจากแม่บ้านทำความสะอาด
- เสียงดังจากคนเดินผ่านหน้าประตู
- เสียงดังจากห้องข้างๆเสียบปลั๊ก
- เสียงดังจากห้องน้ำเพื่อนบ้าน เวลาหยิบจับ ฝักบัว ที่ฉีดก้น ชักโครกแล้วมันกระแทกผนัง
-เสียงเพื่อนบ้านคุยกันผ่านผนัง
-เสียงมือถือดังปลุกผ่านผนังจากห้องข้าง ๆ
-เสียงคุยกันแว้ว ๆ ผ่านผนัง
-เสียงเปิดทีวีจากห้องอื่น
ไม่ได้โทษเพื่อนบ้านนะ เพราะเขาก็ใช้ชีวิตปกติ
เอาละเสียงทะลุจากผนังคงต้องทำใจจะต่อเติมผนังกันเสียง กระจกกันเสียง ก็ต้องใช้เงินอีกเป็นแสน แถมพื้นที่ห้องที่เล็กอยู่แล้วก็จะเล็กลงอีก
แต่ที่เลวร้ายที่สุดและรับไม่ได้จริงๆคือเสียงดังจากท่อน้ำ เวลาเพื่อนบ้านอาบน้ำ ใช้ห้องน้ำที่ติดห้องนอนของเรา นอนอยู่ อยู่ๆก็ต้องตื่นเพราะเพื่อนบ้านอาบน้ำ ไม่ได้โทษเพื่อนบ้านนะครับ โทษที่งานระบบท่อน้ำของโครงการ ทำไมต้องเดินท่อมาชิดกับห้องนอนห้องอื่น ทำไมท่อไม่เก็บเสียง เฮ้อ..
ยังไปนับเสียงปริศนาอื่น ๆ หรือเสียงของห้องบนทำของตก เสียงต่อเติมห้องที่มาเป็นระยะๆ (อันนี้เข้าใจว่าปกติก็ต้องมีบ้าง)
พอรวมทุกเสียงที่มาแบบ 360 องศาตลอดทั้งวัน ก็น่ารำคาญเหมือนกัน
พอแจ้งปัญหาเรื่องท่อน้ำเซลล์ไปว่ามันไม่ได้ดีเหมือนที่คุณคุยไว้ เซลล์บอกพวกนี้เรื่องปกติ แล้วก็ลอยตัว โยนให้ไปแจ้งนิติ..เอ้า! ทำไมตอนซื้อไม่บอกละครับ.. ตอนนั้นถามว่าผนังกันเสียงไหม ก็บอกกันเสียงดี มีเสียงรบกวนอะไรไหม ก็บอกไม่มี ..แล้วทีนี้มาบอกปกติที่จะมีเสียงท่อน้ำ ....(เสียงดังมากนะ ดังจนตื่น)
ก็ต้องทนอยู่ไปครับ แต่ก็ไม่มีความสุข สุขภาพจิตแย่ เครียด ถอนหายใจทุกวันจะขายก็ไม่ได้ตอนนี้มีคนปล่อยขาย ราคาอยู่ 2.5M แล้ว จาก 3M
ใครจะซื้อคอนโดอยู่จริงจัง ดูให้ดีกันนะครับ แนะนำว่าอย่าไปเชื่อเซลล์มาก บางทีก็มั่ว บางอย่างก็ไม่บอกตรงๆ เช่าอยู่ได้ก็ลองเช่าคอนโดที่จะซื้ออยู่ก่อน ไม่ต้องรีบ พลาดแล้วเสียใจทั้งชีวิต