กลับมาพบกับผมอีกครั้งในบทเรียนใหม่ของซีรีส์แฟนตาซีจากช่อง OCN เรื่อง The Uncanny Counter
ซีรีส์กระแสแรงที่เดินทางมาถึง EP13 เมื่อวานนี้ (16 มกราคม 64) และกำลังจะเข้าสู่ EP14 ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าสนุกทุกตอน ไม่มีแผ่วจังหวะให้น่าเบื่อเลย
ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ และต่อยอดความสำเร็จมาจากเว็บตูนชื่อดัง ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่านักล่าปีศาจชุดแดง
ที่ปลอมตัวกันแบบเนียนๆในคราบของคนธรรมดาทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของเมืองชุงจิน
แต่ในความเป็นจริง พวกเขาคือเหล่าเคาน์เตอร์ หรือก็คือ "นักล่าปีศาจ"
ที่อาสาทำงานเสี่ยงตายให้กับสวรรค์แลกกับการได้ใช้ชีวิตอีกครั้งหลังจากฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่านั่นเอง
แต่ก่อนที่เราจะเจาะลึกไปกับเหล่าตัวละคร และบทบาทของพวกเขาที่อยู่ในเรื่องราวเหล่านี้
เรามารู้จักทีมนักแสดงที่รับบทในซีรีส์เรื่องนี้กันก่อน เพราะซีรีส์เรื่องนี้ถือว่ามีจุดเด่นในการแคสท์นักแสดงมากๆ
เพราะแต่ละคนได้รับบทบาที่เหมาะสมกับตัวเองสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงมากประสบการณ์อย่าง ยูจันซัง ยอมฮเยรัน
หรือนักแสดงรุ่นเล็กอย่าง โชบยองกยู กับคิมเซจอง ที่เราเคยเห็นผลงานของพวกเขามาแล้วผ่านซีรีส์เรื่องต่างๆ
เช่น โชบยองกยู จาก Sky Castle และ Hot Stove League และคิมเซจอง จากซีรีส์เรื่อง school 2017
เรียกได้ว่าทั้ง 4 คน สามารถรับส่งบทกันได้อย่างลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งซีนแอ็คชั่น และซีนดราม่า
และเมื่อประกอบกับทีมนักแสดงสมทบที่มีประสิทธิภาพ ก็ยิ่งช่วยเสริมให้ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งความสนุกสนาน
และความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าครับ
:: ปฐมบทแห่งพลังของเคาน์เตอร์ ::
ณ ประเทศเกาหลีใต้ ย้อนกลับไป 7 ปี นับจากปี 2020
โซมุน ในวัยเด็กต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมๆกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
แม้ว่าตัวเขาจะรอดชีวิต แต่เขาก็ต้องเผชิญเคราะห์กรรมในการใช้ชีวิต
เขากลายเป็นเด็กพิการ มีปัญหาในการสื่อสาร และได้แต่โทษตัวเองซ้ำๆทุกวัน
ว่าการตายของพ่อและแม่นั้นมันเป็นเพราะเขาที่เป็นต้นเหตุ
แต่ดูเหมือนพระเจ้ายังมีความเมตตาต่อเด็กน้อยผู้โชคร้ายคนนี้อยู่บ้าง
เพราะสองคนที่อยู่เคียงข้างโซมุนมาตั้งแต่ยังเด็ก ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
คือ อิมจูยอน และคิมอุงมิน ด้วยมิตรภาพ และความสัมพันธ์เทียบเท่าครอบครัว
ทำให้พวกเขาทั้งสามคนกลายมาเป็นเพื่อนรักที่พร้อมจะปกป้องกันและกันเสมอมา
ตัดภาพกลับมายังมุมหนึ่งของเมืองชุงจิน ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เหล่าเคาน์เตอร์ใช้เป็นฐานที่มั่น
ก่อนจะออกไปปฏิบัติการไล่ล่าปีศาจ พวกเขาได้ตรวจพบเข้าสิ่งผิดปกติ
มันคือปีศาจระดับสามที่มีพลังกล้าแกร่งจนสามารถใช้พลังจิตเล่นงานเหล่าเคาน์เตอร์ได้
ซึ่งการออกปฏิบัติการในครั้งนี้เอง ได้นำพาความสูญเสียมาสู่เคาน์เตอร์คนสำคัญของทีม
ถ้าใครเคยดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือรู้จักเรื่องราวของ Green lantern
น่าจะคุ้นเคยกับรูปแบบของการส่งต่อพลังที่เกิดขึ้นในเรื่อง The Uncanny Counter ได้ไม่ยากเลย
เพราะทันทีที่เคาน์เตอร์สิ้นใจ พลังของผู้ตรวจการวิญญาณในตัวเคาน์เตอร์ก็ออกตามหาผู้สืบทอดคนใหม่ในทันที
และมันบังเอิญกับที่ โซมุน กลายมาเป็นผู้ถูกเลือกให้ได้รับพลังของการเป็นเคาน์เตอร์คนต่อไป
แต่พลังก็มาพรน้อมกับเงื่อนไขเช่นกัน เพราะการได้รับพลังในการเป็นเคาน์เตอร์ ไม่สามารถใช้พลังไปกับการแก้แค้นเรื่องส่วนตัวได้
ต้องไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของมนุษย์ รวมถึงไม่สามารถบอกใครได้เกี่ยวกับโลกของ เคาน์เตอร์
หากนักล่าปีศาจคนใดผิดเงื่อนไขนี้ จะถูกปลดจากการเป็นเคาน์เตอร์ และถูกลบความทรงจำ
ในกรณีของคนที่เคยโคม่ามาก่อนก็จะกลับไปโคม่าอีกครั้ง และตายไปหลังจากนั้นครับ
:: โซมุน ::
เป็นธรรมดาที่หลังจากที่ได้รับพลังไป คนที่เป็นเคาน์เตอร์จะไม่รู้ถึงพลังของตัวเอง
โซมุน ก็เช่นกัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังมากขนาดไหน และไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร
จนในที่สุด โซมุน ก็ได้รับการติดต่อจาก โดฮานา เพื่ออธิบายเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ความน่าสนใจ ของตัวละครโซมุน คือ เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้เยอะมาก
นับตั้งแต่ที่ยังเป็นแค่เด็กชายขาพิการ จนกลายมาเป็นเคาน์เตอร์สายเลือดใหม่ของทีม
โซมุน ไม่ได้เติบโต หรือแข็งแกร่งขึ้นแค่ทางด้านร่างกาย แต่สภาพจิตใจ และทักษะต่างๆ
เพื่อคู่ควรกับการเป็นเคาน์เตอร์เราก็จะได้เห็นจากตัวละครนี้เช่นกัน
นอกจากนั้น ตัวละครโซมุน ยังมีพื้นฐานด้านจิตใจที่สุดยอดมาก เพราะแม้ว่าเขาจะพิการ
แต่เขาไม่เคยทอดทิ้งเพื่อนรักอย่าง อิมจูยอน และคิมอุงมินเลย ซึ่งมันอาจเป็นเพราะลึกๆแล้ว
เขาต้องการปกป้องผู้คนรอบตัวจากอันตรายทุกรูปแบบ เพื่อชดเชยที่เขาไม่สามารถปกป้องพ่อแม่จากอุบัติเหตุครั้งนั้นได้
ถือว่าเป็นตัวละครที่มีแสดงออกทางอารมณ์ได้ชัดเจนมากๆตัวหนึ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังเป็นตัวเดินเกมที่สำคัญของเรื่องนี้ด้วย
เพราะถึงแม้ว่า โซมุน จะเป็นเคาน์เตอร์มือใหม่ แต่พลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวขบองเขากลับมีค่ามากที่สุดกับทีมเคาน์เตอร์ทุกคน
:: โดฮานา ::
โดฮานา ถือว่าเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆตัวหนึ่งในจักรวาล The Uncanny Counter
ด้วยความเพียบพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสวย ความเก่ง ทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
ความสุขุมไม่พูดมาก และมีประสาทที่ฉับไว ทำให้เธอกลายเป็นที่พึ่งที่ไว้ใจได้เวลาออกรบ
พรสวรรค์อย่างหนึ่งที่เธอมี คือ การเปิดประสาทสัมผัสออกไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร
และสามารถจับสัมผัสได้ว่า มีปีศาจอยู่กี่ตัว ที่เข้ามาในเขตพื้นที่ของยุง
แต่ถึงจะเก่งครบเครื่องขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน
เพราะปมหนึ่งที่ติดค้างในใจของ ฮานา มาตลอด ก็คืออดีตของครอบครัวเธอ
เหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจ ทำให้เธอไม่ชอบให้ใครแตะตัว
หรืออ่านความทรงจำของเธอ แต่หลังจาก โซมุน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม
ก็เหมือนกับว่ากำแพงที่เธอตั้งเอาไว้สูงมากๆนั้น ค่อยๆถูกเด็กหนุ่มคนนี้ทลายลงมา
แต่ถ้าถามว่าตัวละครนี้มีความน่าประทับใจตรงไหน ก็คงต้องตอบว่า "ฉากต่อสู้" เป็นจุดเด่นของ ฮานา จริงๆ
ขอชื่นชมการแสดงของ คิมเซจอง ที่ทุ่มเทกับการฝึกซ้อม สามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างแข็งแรง
จนเรารู้สึกอินไปกับความเก่งกาจของตัวละครนี้ได้ไม่ยากเลย
:: กาโมทัก ::
มาถึงเคาน์เตอร์คนที่ 3 กาโมทัก ต้องบอกว่าปมชีวิตของตัวละครนี้ค่อนข้างทับซ้อนกับ โซมุน
เพราะเขาสูญเสียความทรงจำไปนานกว่า 7 ปี แต่เป็น 7 ปี ที่เราในฐานะผู้ชมได้เห็นตัวละครนี้ตั้งแต่ EP แรก
และต้องช่วยกันลุ้นให้เขาสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้ เนื่องจากความทรงจำของ กาโมทัก
มีความสำคัญต่อการคลี่คลายปมปริศนาในเรื่องไม่ต่างจากของ โซมุน
พลังของตัวละครนี้ เรียกได้ว่าเน้นแรงกายเป็นหลัก เพราะมีพละกำลังมากกว่าเคาน์เตอร์ทั่วไป
หมัดเดียวของ โมทัก สามารถต่อยปีศาจให้สลบได้ภายในครั้งเดียว และสามารถแบกเสาหินหนักหลายตันได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ข้อเสียของ โมทัก คือเขาค่อนข้างหัวกบฏ ไม่ค่อยฟังใคร
ต่อให้เป็นผู้ตรวจการวิญญาณประจำตัว
เขาก็ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย หลายครั้งในเรื่องเราจะได้เห็นฉากเปิดตัวแบบล้ำหน้าชาวบ้านจากเขาเสมอ
แต่ความน่าสนใจของตัวละครไม่ใช่การใช้พลังในฐานะของเคาน์เตอร์ แต่เป็นการตามหาตัวตนที่แท้จริง
หลังจากสูญเสียความทรงจำไปนานกว่า 7 ปี การพบกันระหว่างเขากับ โซมุน ได้เรียกเอาความสงสัยบางอย่างออกมา
และความสงสัยนั้น ได้นำไปสู่การเปิดโปงคดีฆาตกรรมในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
:: ชูแมอ๊ก ::
อีกหนึ่งตัวละครที่มีความเป็น "แม่" สูงมากของซีรีส์เกาหลี เธอเป็นเคาน์เตอร์เพียงคนเดียวที่มีพลังรักษา
เธอสามารถเยียวยาบาดแผล สมานกระดูกที่แตกหักของคนอื่นได้ แต่พลังนั้นก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกัน
เพราะทุกครั้งที่เธอใช้พลังรักษา การแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้น อายุขัยของเธอจะสั้นลง
ความพิเศษอีกอย่างของตัวละครนี้ คือ ผู้ตรวจการวิญญาณประจำตัว เป็นดวงวิญญาณของลูกเธอ
และเขาได้เลือกให้แม่ของเขา รับภารกิจการเป็นเคาน์เตอร์ จนเธอฟื้นกลับมาจากอาการโคม่า
ด้วยความเป็นแม่ที่สูงมากขนาดนี้ เราจึงจะได้เห็นฉากประทับใจหลายๆฉาก ที่เธอมีร่วมกับ โซมุน
เพราะเธอไม่ได้มอง โซมุน ในฐานะเพื่อนร่วมทีม แต่มองโซมุน ในฐานะลูกชายคนหนึ่งตลอดมา
ถ้าคุณดูเรื่องนี้ไปจนถึงช่วงกลางเรื่อง คุณจะเข้าใจความหมาย และประทับใจไปกับความรัก
ความผูกพัน ที่คุณชู มีต่อเคาน์เตอร์มือใหม่อย่าง "โซมุน"
:: ผู้ตรวจการวิญญาณวีเก็น ::
ใน The Uncanny Counter คนที่สำคัญไม่แพ้กันกับตัวเคาน์เตอร์ ก็คือผู้ตรวจการวิญญาณ
หรือจะพูดให้ง่ายๆ คือ แหล่งพลังงานที่อยู่กับตัวของเคาน์เตอร์นั่นเอง
พวกเขาสามารถสื่อจิตมาพูดคุยกับเคราน์เตอร์ของตัวเองได้
และถ้าจำเป็น เคาน์เตอร์ก็สามารถถอดจิตเพื่อขึ้นไปพุดคุย
ปรึกษาปัญหากับ เหล่าผู้ตรวจวิญญาณข้างบนสวรรค์ได้เช่นกัน
ความสัมพันธ์หนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งซีรีส์ใส่เงื่อนไขเข้ามา คือ หากเคานืเตอร์ตกอยู่ในอันตราย
ผู้ตรวจการวิญญาณก็มีความเสี่ยงที่จะสูญสลายไปเช่นกัน
ในเคสของ วีเก็น ถือว่ารับความเสี่ยงเยยอะมาก เพราะการอยู่ในจิตของเด็กอย่าง โซมุน
ทำให้เขาพาตัวเองไปเสี่ยงตายหลายครั้งจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตบนสวรรค์
อีกประเด็นนึง ที่ถือว่าเป็นข้อผูกพันกันระหว่าง ผู้ตรวจการ กับเคาน์เตอร์ คือตอนทำสัญญารับงาน
ในกรณีของ โซมุน กับวีเก็น จะมีความแตกต่างจากคู่อื่น เพราะ ตอนที่วีเก็นเข้าร่าง โซมุน นั้น
เขาไม่ได้ตกอยู่ในอาการโคม่า เหมือนกับเคาน์เตอร์คนอื่นๆ ดังนั้น สัญญาการเป็นเคาน์เตอร์ของ โซมุน
จึงไม่ใช่การชดเชยชีวิตที่ได้รับกลับมา แต่เป็นการขอสัญญาจาก วีเก็น
ให้เขาได้พบกับดวงวิญญาณของพ่อและแม่อีกครั้ง เพื่อบอกลากันครั้งสุดท้าย
:: ชีช็องชิน ::
ก่อนที่เราจะไปพูดถึงตัวละครนี้ เราควรทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า
ปีศาจในจักรวาลของ The Uncanny Counter ไม่ใช่ปีศาจที่มีหน้าตาแบบซอมบี้ในเรื่อง Kingdom
หรือหน้าตาชวนแหวะแบบ Sweet Home แต่เป็นดวงจิตของปีศาจที่ไปสิงสู่อยู่ในร่างของคนที่มีความต้องการที่จะฆ่าคนอย่างรุนแรง
โดยขั้นของปีศาจ ก็จะถูกแบ่งย่อยไปอีก ตามระดับของการเข้าสิงร่างนั้นๆ ในกรณีของ ชีช็องชิน
ซีรีส์เปิดตัวมาด้วยดีกรีความโหดระดับที่สามารถใช้พลังจิตได้ และเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นสองเสียง
ซึ่งความโหดระดับนี้เอง ที่ทำให้หนึ่งในเคาน์เตอร์ของทีมต้องตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง
แต่ความสูญเสียนั้น ก็เปิดที่ว่างให้ โซมุน ได้เข้ามาร่วมศึกอันยาวนานในครั้งนี้
ความน่าสนใจที่ซีรีส์ใส่เข้าไปให้กับตัวละครวายรายตัวนี้ ไม่ใช่แค่ระดับของการใช้พลัง
แต่ซีรีส์เลือกจะใส่ปมในวัยเด็กเข้าไปเพิ่มด้วย และมีการตัดสลับไปมา ให้เราเห็นเส้นทางชีวิตของตัวละครนี้
ควบคู่ไปกับชีวิตของ โซมุน แทบจะตลอดเส้นเรื่อง อีกทั้งยังมีมุมอ่อนโยน มุมที่ไม่น่ากลัวสอดแทรกอยู่ด้วยแบบเนียนๆ
ถือว่าเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างมีมิติ และไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นไอ้คลั่งที่เกิดมาพื่อไล่ฆ่าตัวเอกเพียงอย่างเดียว
:: วิชา The Uncanny Counter 101 - เปิดจักรวาลนักล่าปีศาจชุดแดง และเรื่องราวของเหล่า "เคาน์เตอร์" :: By Nottchakun
ซีรีส์กระแสแรงที่เดินทางมาถึง EP13 เมื่อวานนี้ (16 มกราคม 64) และกำลังจะเข้าสู่ EP14 ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าสนุกทุกตอน ไม่มีแผ่วจังหวะให้น่าเบื่อเลย
ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ และต่อยอดความสำเร็จมาจากเว็บตูนชื่อดัง ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่านักล่าปีศาจชุดแดง
ที่ปลอมตัวกันแบบเนียนๆในคราบของคนธรรมดาทำงานในร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังของเมืองชุงจิน
แต่ในความเป็นจริง พวกเขาคือเหล่าเคาน์เตอร์ หรือก็คือ "นักล่าปีศาจ"
ที่อาสาทำงานเสี่ยงตายให้กับสวรรค์แลกกับการได้ใช้ชีวิตอีกครั้งหลังจากฟื้นขึ้นมาจากอาการโคม่านั่นเอง
แต่ก่อนที่เราจะเจาะลึกไปกับเหล่าตัวละคร และบทบาทของพวกเขาที่อยู่ในเรื่องราวเหล่านี้
เรามารู้จักทีมนักแสดงที่รับบทในซีรีส์เรื่องนี้กันก่อน เพราะซีรีส์เรื่องนี้ถือว่ามีจุดเด่นในการแคสท์นักแสดงมากๆ
เพราะแต่ละคนได้รับบทบาที่เหมาะสมกับตัวเองสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดงมากประสบการณ์อย่าง ยูจันซัง ยอมฮเยรัน
หรือนักแสดงรุ่นเล็กอย่าง โชบยองกยู กับคิมเซจอง ที่เราเคยเห็นผลงานของพวกเขามาแล้วผ่านซีรีส์เรื่องต่างๆ
เช่น โชบยองกยู จาก Sky Castle และ Hot Stove League และคิมเซจอง จากซีรีส์เรื่อง school 2017
เรียกได้ว่าทั้ง 4 คน สามารถรับส่งบทกันได้อย่างลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมากๆ ทั้งซีนแอ็คชั่น และซีนดราม่า
และเมื่อประกอบกับทีมนักแสดงสมทบที่มีประสิทธิภาพ ก็ยิ่งช่วยเสริมให้ซีรีส์เรื่องนี้มีทั้งความสนุกสนาน
และความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าครับ
โซมุน ในวัยเด็กต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปพร้อมๆกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
แม้ว่าตัวเขาจะรอดชีวิต แต่เขาก็ต้องเผชิญเคราะห์กรรมในการใช้ชีวิต
เขากลายเป็นเด็กพิการ มีปัญหาในการสื่อสาร และได้แต่โทษตัวเองซ้ำๆทุกวัน
ว่าการตายของพ่อและแม่นั้นมันเป็นเพราะเขาที่เป็นต้นเหตุ
แต่ดูเหมือนพระเจ้ายังมีความเมตตาต่อเด็กน้อยผู้โชคร้ายคนนี้อยู่บ้าง
เพราะสองคนที่อยู่เคียงข้างโซมุนมาตั้งแต่ยังเด็ก ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
คือ อิมจูยอน และคิมอุงมิน ด้วยมิตรภาพ และความสัมพันธ์เทียบเท่าครอบครัว
ทำให้พวกเขาทั้งสามคนกลายมาเป็นเพื่อนรักที่พร้อมจะปกป้องกันและกันเสมอมา
ตัดภาพกลับมายังมุมหนึ่งของเมืองชุงจิน ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เหล่าเคาน์เตอร์ใช้เป็นฐานที่มั่น
ก่อนจะออกไปปฏิบัติการไล่ล่าปีศาจ พวกเขาได้ตรวจพบเข้าสิ่งผิดปกติ
มันคือปีศาจระดับสามที่มีพลังกล้าแกร่งจนสามารถใช้พลังจิตเล่นงานเหล่าเคาน์เตอร์ได้
ซึ่งการออกปฏิบัติการในครั้งนี้เอง ได้นำพาความสูญเสียมาสู่เคาน์เตอร์คนสำคัญของทีม
ถ้าใครเคยดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ หรือรู้จักเรื่องราวของ Green lantern
น่าจะคุ้นเคยกับรูปแบบของการส่งต่อพลังที่เกิดขึ้นในเรื่อง The Uncanny Counter ได้ไม่ยากเลย
เพราะทันทีที่เคาน์เตอร์สิ้นใจ พลังของผู้ตรวจการวิญญาณในตัวเคาน์เตอร์ก็ออกตามหาผู้สืบทอดคนใหม่ในทันที
และมันบังเอิญกับที่ โซมุน กลายมาเป็นผู้ถูกเลือกให้ได้รับพลังของการเป็นเคาน์เตอร์คนต่อไป
แต่พลังก็มาพรน้อมกับเงื่อนไขเช่นกัน เพราะการได้รับพลังในการเป็นเคาน์เตอร์ ไม่สามารถใช้พลังไปกับการแก้แค้นเรื่องส่วนตัวได้
ต้องไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับความสัมพันธ์ของมนุษย์ รวมถึงไม่สามารถบอกใครได้เกี่ยวกับโลกของ เคาน์เตอร์
หากนักล่าปีศาจคนใดผิดเงื่อนไขนี้ จะถูกปลดจากการเป็นเคาน์เตอร์ และถูกลบความทรงจำ
ในกรณีของคนที่เคยโคม่ามาก่อนก็จะกลับไปโคม่าอีกครั้ง และตายไปหลังจากนั้นครับ
โซมุน ก็เช่นกัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังมากขนาดไหน และไม่รู้ว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร
จนในที่สุด โซมุน ก็ได้รับการติดต่อจาก โดฮานา เพื่ออธิบายเรื่องราวต่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง
ความน่าสนใจ ของตัวละครโซมุน คือ เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครนี้เยอะมาก
นับตั้งแต่ที่ยังเป็นแค่เด็กชายขาพิการ จนกลายมาเป็นเคาน์เตอร์สายเลือดใหม่ของทีม
โซมุน ไม่ได้เติบโต หรือแข็งแกร่งขึ้นแค่ทางด้านร่างกาย แต่สภาพจิตใจ และทักษะต่างๆ
เพื่อคู่ควรกับการเป็นเคาน์เตอร์เราก็จะได้เห็นจากตัวละครนี้เช่นกัน
แต่เขาไม่เคยทอดทิ้งเพื่อนรักอย่าง อิมจูยอน และคิมอุงมินเลย ซึ่งมันอาจเป็นเพราะลึกๆแล้ว
เขาต้องการปกป้องผู้คนรอบตัวจากอันตรายทุกรูปแบบ เพื่อชดเชยที่เขาไม่สามารถปกป้องพ่อแม่จากอุบัติเหตุครั้งนั้นได้
ถือว่าเป็นตัวละครที่มีแสดงออกทางอารมณ์ได้ชัดเจนมากๆตัวหนึ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังเป็นตัวเดินเกมที่สำคัญของเรื่องนี้ด้วย
เพราะถึงแม้ว่า โซมุน จะเป็นเคาน์เตอร์มือใหม่ แต่พลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวขบองเขากลับมีค่ามากที่สุดกับทีมเคาน์เตอร์ทุกคน
ด้วยความเพียบพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสวย ความเก่ง ทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
ความสุขุมไม่พูดมาก และมีประสาทที่ฉับไว ทำให้เธอกลายเป็นที่พึ่งที่ไว้ใจได้เวลาออกรบ
พรสวรรค์อย่างหนึ่งที่เธอมี คือ การเปิดประสาทสัมผัสออกไปไกลหลายร้อยกิโลเมตร
และสามารถจับสัมผัสได้ว่า มีปีศาจอยู่กี่ตัว ที่เข้ามาในเขตพื้นที่ของยุง
แต่ถึงจะเก่งครบเครื่องขนาดนี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน
เพราะปมหนึ่งที่ติดค้างในใจของ ฮานา มาตลอด ก็คืออดีตของครอบครัวเธอ
เหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจ ทำให้เธอไม่ชอบให้ใครแตะตัว
หรืออ่านความทรงจำของเธอ แต่หลังจาก โซมุน เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีม
ก็เหมือนกับว่ากำแพงที่เธอตั้งเอาไว้สูงมากๆนั้น ค่อยๆถูกเด็กหนุ่มคนนี้ทลายลงมา
ขอชื่นชมการแสดงของ คิมเซจอง ที่ทุ่มเทกับการฝึกซ้อม สามารถถ่ายทอดตัวละครออกมาได้อย่างแข็งแรง
จนเรารู้สึกอินไปกับความเก่งกาจของตัวละครนี้ได้ไม่ยากเลย
เพราะเขาสูญเสียความทรงจำไปนานกว่า 7 ปี แต่เป็น 7 ปี ที่เราในฐานะผู้ชมได้เห็นตัวละครนี้ตั้งแต่ EP แรก
และต้องช่วยกันลุ้นให้เขาสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆได้ เนื่องจากความทรงจำของ กาโมทัก
มีความสำคัญต่อการคลี่คลายปมปริศนาในเรื่องไม่ต่างจากของ โซมุน
พลังของตัวละครนี้ เรียกได้ว่าเน้นแรงกายเป็นหลัก เพราะมีพละกำลังมากกว่าเคาน์เตอร์ทั่วไป
หมัดเดียวของ โมทัก สามารถต่อยปีศาจให้สลบได้ภายในครั้งเดียว และสามารถแบกเสาหินหนักหลายตันได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่ข้อเสียของ โมทัก คือเขาค่อนข้างหัวกบฏ ไม่ค่อยฟังใคร ต่อให้เป็นผู้ตรวจการวิญญาณประจำตัว
เขาก็ไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย หลายครั้งในเรื่องเราจะได้เห็นฉากเปิดตัวแบบล้ำหน้าชาวบ้านจากเขาเสมอ
แต่ความน่าสนใจของตัวละครไม่ใช่การใช้พลังในฐานะของเคาน์เตอร์ แต่เป็นการตามหาตัวตนที่แท้จริง
หลังจากสูญเสียความทรงจำไปนานกว่า 7 ปี การพบกันระหว่างเขากับ โซมุน ได้เรียกเอาความสงสัยบางอย่างออกมา
และความสงสัยนั้น ได้นำไปสู่การเปิดโปงคดีฆาตกรรมในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย
เธอสามารถเยียวยาบาดแผล สมานกระดูกที่แตกหักของคนอื่นได้ แต่พลังนั้นก็ค่อนข้างน่ากลัวเหมือนกัน
เพราะทุกครั้งที่เธอใช้พลังรักษา การแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้น อายุขัยของเธอจะสั้นลง
ความพิเศษอีกอย่างของตัวละครนี้ คือ ผู้ตรวจการวิญญาณประจำตัว เป็นดวงวิญญาณของลูกเธอ
และเขาได้เลือกให้แม่ของเขา รับภารกิจการเป็นเคาน์เตอร์ จนเธอฟื้นกลับมาจากอาการโคม่า
ด้วยความเป็นแม่ที่สูงมากขนาดนี้ เราจึงจะได้เห็นฉากประทับใจหลายๆฉาก ที่เธอมีร่วมกับ โซมุน
เพราะเธอไม่ได้มอง โซมุน ในฐานะเพื่อนร่วมทีม แต่มองโซมุน ในฐานะลูกชายคนหนึ่งตลอดมา
ถ้าคุณดูเรื่องนี้ไปจนถึงช่วงกลางเรื่อง คุณจะเข้าใจความหมาย และประทับใจไปกับความรัก
ความผูกพัน ที่คุณชู มีต่อเคาน์เตอร์มือใหม่อย่าง "โซมุน"
หรือจะพูดให้ง่ายๆ คือ แหล่งพลังงานที่อยู่กับตัวของเคาน์เตอร์นั่นเอง
พวกเขาสามารถสื่อจิตมาพูดคุยกับเคราน์เตอร์ของตัวเองได้
และถ้าจำเป็น เคาน์เตอร์ก็สามารถถอดจิตเพื่อขึ้นไปพุดคุย
ปรึกษาปัญหากับ เหล่าผู้ตรวจวิญญาณข้างบนสวรรค์ได้เช่นกัน
ความสัมพันธ์หนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งซีรีส์ใส่เงื่อนไขเข้ามา คือ หากเคานืเตอร์ตกอยู่ในอันตราย
ผู้ตรวจการวิญญาณก็มีความเสี่ยงที่จะสูญสลายไปเช่นกัน
ในเคสของ วีเก็น ถือว่ารับความเสี่ยงเยยอะมาก เพราะการอยู่ในจิตของเด็กอย่าง โซมุน
ทำให้เขาพาตัวเองไปเสี่ยงตายหลายครั้งจนเกิดเป็นเรื่องราวใหญ่โตบนสวรรค์
อีกประเด็นนึง ที่ถือว่าเป็นข้อผูกพันกันระหว่าง ผู้ตรวจการ กับเคาน์เตอร์ คือตอนทำสัญญารับงาน
ในกรณีของ โซมุน กับวีเก็น จะมีความแตกต่างจากคู่อื่น เพราะ ตอนที่วีเก็นเข้าร่าง โซมุน นั้น
เขาไม่ได้ตกอยู่ในอาการโคม่า เหมือนกับเคาน์เตอร์คนอื่นๆ ดังนั้น สัญญาการเป็นเคาน์เตอร์ของ โซมุน
จึงไม่ใช่การชดเชยชีวิตที่ได้รับกลับมา แต่เป็นการขอสัญญาจาก วีเก็น
ให้เขาได้พบกับดวงวิญญาณของพ่อและแม่อีกครั้ง เพื่อบอกลากันครั้งสุดท้าย
ปีศาจในจักรวาลของ The Uncanny Counter ไม่ใช่ปีศาจที่มีหน้าตาแบบซอมบี้ในเรื่อง Kingdom
หรือหน้าตาชวนแหวะแบบ Sweet Home แต่เป็นดวงจิตของปีศาจที่ไปสิงสู่อยู่ในร่างของคนที่มีความต้องการที่จะฆ่าคนอย่างรุนแรง
โดยขั้นของปีศาจ ก็จะถูกแบ่งย่อยไปอีก ตามระดับของการเข้าสิงร่างนั้นๆ ในกรณีของ ชีช็องชิน
ซีรีส์เปิดตัวมาด้วยดีกรีความโหดระดับที่สามารถใช้พลังจิตได้ และเสียงเริ่มเปลี่ยนเป็นสองเสียง
ซึ่งความโหดระดับนี้เอง ที่ทำให้หนึ่งในเคาน์เตอร์ของทีมต้องตายไปตั้งแต่ต้นเรื่อง
แต่ความสูญเสียนั้น ก็เปิดที่ว่างให้ โซมุน ได้เข้ามาร่วมศึกอันยาวนานในครั้งนี้
ความน่าสนใจที่ซีรีส์ใส่เข้าไปให้กับตัวละครวายรายตัวนี้ ไม่ใช่แค่ระดับของการใช้พลัง
แต่ซีรีส์เลือกจะใส่ปมในวัยเด็กเข้าไปเพิ่มด้วย และมีการตัดสลับไปมา ให้เราเห็นเส้นทางชีวิตของตัวละครนี้
ควบคู่ไปกับชีวิตของ โซมุน แทบจะตลอดเส้นเรื่อง อีกทั้งยังมีมุมอ่อนโยน มุมที่ไม่น่ากลัวสอดแทรกอยู่ด้วยแบบเนียนๆ
ถือว่าเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างมีมิติ และไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นไอ้คลั่งที่เกิดมาพื่อไล่ฆ่าตัวเอกเพียงอย่างเดียว