เล่าเรื่องครอบครัวให้คนอื่นฟังก็เหมือนสุภาษิตที่ว่าสาวใส้ให้กากิน ถูกมะ?
เอาเถอะไม่มีใครรู้หรอกว่าเราเป็นใคร
เข้าเรื่องละกัน เราอายุ 26 ย่าง 27 อีกไม่กี่เดือน พึ่งแต่งงานไปและมีลูกแล้ว 1 คน
พื้นฐานครอบครัวพอกินพอใช้ไม่ถึงกับยากจนมาก บ้านอยู่ต่างจังหวัดทางภาคอีสานพ่อแม่ทำไร่ทำนาปลูกผัก มีน้องชาย 1 คน อายุ 24 แล้ว
เราเรียนจบอนุปริญญาตั้งแต่อายุ 19 แล้วออกไปหางานทำที่ต่างจังหวัดเลย ชีวิตสุดแสนลำเค็ญ ทำงานหาเงิน เริ่มต้นเงินเดือนไม่ถึงหมื่น เป็นวัยรุ่นเต็มตัวหาเงินได้ก้ใช้ตามใจปาก สิ้นเดือนกินมาม่า เป็นแบบนี้มาตลอด มีส่งให้พ่อแม่ทางบ้านบ้าง บางเดือนเหลือ 200 อีกสองอาทิตย์สิ้นเดือนเงินถึงออก เอาไรมากกับเงินเดือนเจ็ดแปดพัน จนอายุยี่สิบกว่าๆ ก้หางานใหม่ไปเรื่อยที่เงินเดือนเพิ่มขึ้นและหาประสบการณ์ใหม่ๆ จนอายุ 25 เงินเดือนเราแค่หมื่นสี่หมื่นห้า ไม่เกินนี้ บางปีเบื่องานมากๆก้เก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง แล้วลาออกจากงาน กลับมากินแกรบอีกตามเคยแล้วไปหางานใหม่อยู่อย่างนั้น จนอายุ 26 เราแต่งงานและมีลูก แล้วลาออกจากงานแล้วย้ายกลับมาอยู่ต่างจังหวัดจนถึงตอนนี้พึ่งคลอดลูกได้ไม่กี่เดือน ไม่มีรายได้อะไร มีแต่สามีให้อย่างเดียวอยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีให้อาทิตย์ละ 7000
พูดถึงเรื่องที่อยากระบาย คือ ตั้งแต่เราเรียนจบทำงานมาจนแต่งงาน เราลำบากมากๆ ผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวบางเดือนแทบไม่มีเงินเหลือถึงสิ้นเดือน แต่เราก้ไม่ไปขอยืมใคร โดยเฉพาะ พ่อกับแม่ญาติพี่น้อง เพราะคิดว่าแกไม่มีให้หรอก ทำแต่นาขายข้าวกิน เรากินมาม่าประทั่งชิวิตไปละกัน วันไหนไปทำงานก้กินข้าวฟรีที่ทำงานเพราะที่ทำงานเลี้ยงข้าวพนักงานฟรี ก้คือเดือนไหนเหลือเงิน 50 บาทอีกสองอาทิตย์สิ้นเดือนงี้ ก้รอดตายเพราะข้าวฟรีที่ทำงานนี่แหละ แต่ก้ถือว่าลำบากนะมีเงินติดตัวนิดเดียว จะไปไหนอยากกินอะไรก้ไม่ได้กิน แต่ก้เอาตัวรอดมาได้ไม่หวังพึ่งใคร เพราะเราเปนคนหน้าบางมาก จะยืมเงินเพื่อนก้ไม่กล้าจะโทรขอเงินพ่อแม่ก้ไม่ได้ เรียนจบมาโตเป็นควายจนทำงานแล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่ ก้ไม่ใช่อีก และตั้งแต่เด็กๆ เราจำได้ว่า เราเคยอยากได้ของเล่นกับพวกเสื้อผ้าสวยๆ ต่อให้ร้องไห้งอแงแค่ไหน แม่ก้ไม่ซื้อให้ เสื้อผ้ามีแต่ของที่ตกมาจากพี่สาวที่เป็นญาติกัน เราแทบจะไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆเลยจนโต โทรศัพท์มือถือโน๊ตบุ๊คก็เก็บเงินซื้อเองตอนอายุ 16
*ทีนี้มาถึงน้องชายเรา เรียนจบมาจนอายุ 24 แล้ว แต่ก้ยังแบมือขอเงินแม่ใช้มาตลอดทั้งผ่อนรถมอไซค์ทั้งค่าจัดฟันคือทำงานเงินเดือนไม่พอใช้ยังจะหาพาระเพิ่มให้ตัวเอง เวลาแม่ไม่มีให้แล้วขอใคร ก้มาขอจากเราไง ให้ก็ให้ได้นะ แต่ว่ามันหลายครั้งเกินไป โตจนขนาดนี้แล้วยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรได้ ช่วงนี้โควิดระบาดหางานยาก ก้ออกจากงานมาขับแกร็บฟู๊ด บางวันได้สองสามรอบ ได้วันละไม่ถึงร้อยบาท แล้วก็ก็กลับบ้าน คือ ไม่มีความอดทนรอรับงานเลย เห็นคนอื่นเค้าขับทั้งวันเขาถึงได้ แล้วเงินมันจะพอใช้ได้ไง ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอบ่นให้ก็โกรธ ขนาดเราเป็นผู้หญิงตั้งแต่เรียนจบมายังไม่ขอใครใช้เลย เรามีช่วงตกงานชีวิตลำบากเหมือนกัน ยิ่งอยู่ต่างจังหวัดไม่มีใครพึ่งพาแต่ก้เอาตัวรอด แต่น้องเราคือเขาคิดว่ามีคนให้เขาพึ่งพาไง ก้เลยไม่คิดจะทำอะไรจริงจัง ไม่มีเงินใช้ก็ขอคนอื่น โตจนป่านนี้แล้ว แม่ก็อีกคนนึงน้องขอก้ให้ตลอด แต่ทำไมเราไม่กล้าขอแม่ตอนเราลำบากเพราะเราคิดว่าแม่ไม่มี แม่จนทำแต่ไร่นา แต่ทำไมมีให้น้องตลอด ขอทีละสองสามพันก็ให้ น้องอยากได้อะไรขอตังแม่ไม่เคยปฏิเสธ ทั้งซื้อโทรศัพท์ทั้งจ่ายค่าจัดฟันให้บ้าง ให้เงินค่าผ่อนรถบ้าง น้องใช้โทรศัพท์ไอโฟน แต่เรายังใช้แอนดรอยอยู่เลย เพราะเราไม่ชอบใช้อะไรเกินตัว แต่น้องเราไม่มีเงินแล้วยังชอบใช้อะไรเกินตัวอีก ล่าสุดแม่มาขอให้เราโป๊ะค่าผ่อนรถให้น้องให้มันจบไป แต่เราก้ยังไม่ได้ให้ เราก้ไม่อยากจะพูด ที่จริงให้เงินแม่ให้เงินน้องใช้มันก้ได้บุญแหละ แต่มันจะทำให้เขาติดนิสัยพึ่งพาแต่คนอื่นอยู่อย่างนั้น จะบ่นให้แฟนฟังก็กลัวแฟนจะรู้สึกไม่ดีกับคนรอบครัวเรา ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
*ทีนี้มาถึงเรื่องสามีอีก เราแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน สามีค่อนข้างมีเงินเดือนสูงอยู่ ประมาณขั้นต่ำเดือนละสองแสนได้มั้ง เราสองคนใช้ด้วยกันเดือนนึง ตกเดือนละเกือบหกหมื่นรวมค่าเช่าบ้าน คือตอนนี้เรากับสามีเช่าบ้านที่ต่างจังหวัดเดือนละหมื่น คือ ยังไม่มีบ้าน+รถ เป็นของตัวเอง ไปไหนก้เรียกแต่แท็กซี่ ที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อบ้านเพราะเราอาจไม่ได้อยู่ประเทศไทย แต่จะไปๆกลับๆบ้านสามีที่ต่างประเทศ เรื่องคือเราปรึกษากันตั้งแต่ยังไม่คลอดลูกแล้วว่าเราต้องมีรถยนต์สักคันนะเพราะเราไม่อยากนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนกับลูกเล็กๆ ยิ่งช่วงนี้มีแต่โรคติดต่อ นั่งแท็กซี่คาร์ซีทก้ไม่มี สามีไม่ชอบนั่งรถยนต์ชอบแว้นแต่แมงกะไซค์ แล้วพอคลอดลูก เราไปไหนมาไหนกับลูกข้างนอกบ่อยมาก ไปโรงบาลบ้างไปบ้านยายบ้าง และมันเสี่ยงมากกับเด็กพึ่งคลอดที่ต้องขึ้นแต่แท็กซี่ แล้วเราก้มาคุยกับสามีอีกว่าจะเอาไง จะซื้อไหมรถ นางก้เหมือนไม่อยากซื้อเพราะไม่อยากเสียเงินก้อนใหญ่ เราก้บอกว่าผ่อนเอาก็ได้ แต่ทำไมถึงเหมือนไม่อยากซื้อรถ แต่พอทีตัวเองกลับจะไปซื้อมอไซค์คันใหม่คันละตั้งเกือบแสน แล้วลูกล่ะ คุณจะพาลูกนั่งมอไซค์ไปกับคุณหรอ ลูกเล็กๆเนี่ย คิดแล้วก็โมโห แล้วพอถามกลับ แล้วลูกล่ะจะให้ขึ้นแต่แท็กซี่หรอ คาร์ซีทก้ไม่มี แล้วนางบอก งั้นไปซื้อคาร์ซีทกัน เรายิ่งโมโหอีก ไปซื้อคาร์ซีทมาไว้ขึ้นแท็กซี่เนี่ยนะ เราไปไหมมาไหนก้ต้องแบกคาร์ซีทไปด้วยน่ะหรอ เอาความคิดมาจากไหน แล้วก้เป็นงี้ เราก้บอกว่าเราจะผ่อนเองเราจะหักจากเงินที่เธอให้เราแต่ล่ะเดือนนั่นแหละ เธอไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ๆๆ เราไม่มีงานทำ และสลิปเงินเดือนจากบริษัท ถ้าจะดาวน์รถต้องดาวน์ก้อนใหญ่ๆ ซึ่งเราก้ยังไม่มีเงินเก็บขนาดนั้น แต่เราสงสารลูกมากและกลัวมากๆเวลาพาขึ้นแท็กซี่ไปโรงบาล ไม่รู้แต่ละวันมีคนขึ้นมากี่คน ไม่รุใครเป็นโรคอะไร ติดโควิดมารึยังอีก ทำไมเขาคิดไม่ได้อ่าคะ คิดแล้วก็โมโหๆๆ จะกลับไปทำงานก้ไม่มีคนเลี้ยงลูกให้อีก เห่อ ชีวิตนี้มีอะไรได้ดั่งใจบ้างไหม
นี่ละค่ะเรื่องที่อยากจะระบายยาวเหยียด ไประบายให้ใครฟังก้ไม่ได้ก้มาลงพันทิปนี่แหละ T.T
แค่อยากระบายเรื่องครอบครัว
เอาเถอะไม่มีใครรู้หรอกว่าเราเป็นใคร
เข้าเรื่องละกัน เราอายุ 26 ย่าง 27 อีกไม่กี่เดือน พึ่งแต่งงานไปและมีลูกแล้ว 1 คน
พื้นฐานครอบครัวพอกินพอใช้ไม่ถึงกับยากจนมาก บ้านอยู่ต่างจังหวัดทางภาคอีสานพ่อแม่ทำไร่ทำนาปลูกผัก มีน้องชาย 1 คน อายุ 24 แล้ว
เราเรียนจบอนุปริญญาตั้งแต่อายุ 19 แล้วออกไปหางานทำที่ต่างจังหวัดเลย ชีวิตสุดแสนลำเค็ญ ทำงานหาเงิน เริ่มต้นเงินเดือนไม่ถึงหมื่น เป็นวัยรุ่นเต็มตัวหาเงินได้ก้ใช้ตามใจปาก สิ้นเดือนกินมาม่า เป็นแบบนี้มาตลอด มีส่งให้พ่อแม่ทางบ้านบ้าง บางเดือนเหลือ 200 อีกสองอาทิตย์สิ้นเดือนเงินถึงออก เอาไรมากกับเงินเดือนเจ็ดแปดพัน จนอายุยี่สิบกว่าๆ ก้หางานใหม่ไปเรื่อยที่เงินเดือนเพิ่มขึ้นและหาประสบการณ์ใหม่ๆ จนอายุ 25 เงินเดือนเราแค่หมื่นสี่หมื่นห้า ไม่เกินนี้ บางปีเบื่องานมากๆก้เก็บเงินไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง แล้วลาออกจากงาน กลับมากินแกรบอีกตามเคยแล้วไปหางานใหม่อยู่อย่างนั้น จนอายุ 26 เราแต่งงานและมีลูก แล้วลาออกจากงานแล้วย้ายกลับมาอยู่ต่างจังหวัดจนถึงตอนนี้พึ่งคลอดลูกได้ไม่กี่เดือน ไม่มีรายได้อะไร มีแต่สามีให้อย่างเดียวอยู่บ้านเลี้ยงลูก สามีให้อาทิตย์ละ 7000
พูดถึงเรื่องที่อยากระบาย คือ ตั้งแต่เราเรียนจบทำงานมาจนแต่งงาน เราลำบากมากๆ ผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวบางเดือนแทบไม่มีเงินเหลือถึงสิ้นเดือน แต่เราก้ไม่ไปขอยืมใคร โดยเฉพาะ พ่อกับแม่ญาติพี่น้อง เพราะคิดว่าแกไม่มีให้หรอก ทำแต่นาขายข้าวกิน เรากินมาม่าประทั่งชิวิตไปละกัน วันไหนไปทำงานก้กินข้าวฟรีที่ทำงานเพราะที่ทำงานเลี้ยงข้าวพนักงานฟรี ก้คือเดือนไหนเหลือเงิน 50 บาทอีกสองอาทิตย์สิ้นเดือนงี้ ก้รอดตายเพราะข้าวฟรีที่ทำงานนี่แหละ แต่ก้ถือว่าลำบากนะมีเงินติดตัวนิดเดียว จะไปไหนอยากกินอะไรก้ไม่ได้กิน แต่ก้เอาตัวรอดมาได้ไม่หวังพึ่งใคร เพราะเราเปนคนหน้าบางมาก จะยืมเงินเพื่อนก้ไม่กล้าจะโทรขอเงินพ่อแม่ก้ไม่ได้ เรียนจบมาโตเป็นควายจนทำงานแล้วยังแบมือขอเงินพ่อแม่ ก้ไม่ใช่อีก และตั้งแต่เด็กๆ เราจำได้ว่า เราเคยอยากได้ของเล่นกับพวกเสื้อผ้าสวยๆ ต่อให้ร้องไห้งอแงแค่ไหน แม่ก้ไม่ซื้อให้ เสื้อผ้ามีแต่ของที่ตกมาจากพี่สาวที่เป็นญาติกัน เราแทบจะไม่มีเสื้อผ้าใหม่ๆเลยจนโต โทรศัพท์มือถือโน๊ตบุ๊คก็เก็บเงินซื้อเองตอนอายุ 16
*ทีนี้มาถึงน้องชายเรา เรียนจบมาจนอายุ 24 แล้ว แต่ก้ยังแบมือขอเงินแม่ใช้มาตลอดทั้งผ่อนรถมอไซค์ทั้งค่าจัดฟันคือทำงานเงินเดือนไม่พอใช้ยังจะหาพาระเพิ่มให้ตัวเอง เวลาแม่ไม่มีให้แล้วขอใคร ก้มาขอจากเราไง ให้ก็ให้ได้นะ แต่ว่ามันหลายครั้งเกินไป โตจนขนาดนี้แล้วยังเลี้ยงตัวเองไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรได้ ช่วงนี้โควิดระบาดหางานยาก ก้ออกจากงานมาขับแกร็บฟู๊ด บางวันได้สองสามรอบ ได้วันละไม่ถึงร้อยบาท แล้วก็ก็กลับบ้าน คือ ไม่มีความอดทนรอรับงานเลย เห็นคนอื่นเค้าขับทั้งวันเขาถึงได้ แล้วเงินมันจะพอใช้ได้ไง ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน พอบ่นให้ก็โกรธ ขนาดเราเป็นผู้หญิงตั้งแต่เรียนจบมายังไม่ขอใครใช้เลย เรามีช่วงตกงานชีวิตลำบากเหมือนกัน ยิ่งอยู่ต่างจังหวัดไม่มีใครพึ่งพาแต่ก้เอาตัวรอด แต่น้องเราคือเขาคิดว่ามีคนให้เขาพึ่งพาไง ก้เลยไม่คิดจะทำอะไรจริงจัง ไม่มีเงินใช้ก็ขอคนอื่น โตจนป่านนี้แล้ว แม่ก็อีกคนนึงน้องขอก้ให้ตลอด แต่ทำไมเราไม่กล้าขอแม่ตอนเราลำบากเพราะเราคิดว่าแม่ไม่มี แม่จนทำแต่ไร่นา แต่ทำไมมีให้น้องตลอด ขอทีละสองสามพันก็ให้ น้องอยากได้อะไรขอตังแม่ไม่เคยปฏิเสธ ทั้งซื้อโทรศัพท์ทั้งจ่ายค่าจัดฟันให้บ้าง ให้เงินค่าผ่อนรถบ้าง น้องใช้โทรศัพท์ไอโฟน แต่เรายังใช้แอนดรอยอยู่เลย เพราะเราไม่ชอบใช้อะไรเกินตัว แต่น้องเราไม่มีเงินแล้วยังชอบใช้อะไรเกินตัวอีก ล่าสุดแม่มาขอให้เราโป๊ะค่าผ่อนรถให้น้องให้มันจบไป แต่เราก้ยังไม่ได้ให้ เราก้ไม่อยากจะพูด ที่จริงให้เงินแม่ให้เงินน้องใช้มันก้ได้บุญแหละ แต่มันจะทำให้เขาติดนิสัยพึ่งพาแต่คนอื่นอยู่อย่างนั้น จะบ่นให้แฟนฟังก็กลัวแฟนจะรู้สึกไม่ดีกับคนรอบครัวเรา ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
*ทีนี้มาถึงเรื่องสามีอีก เราแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 1 คน สามีค่อนข้างมีเงินเดือนสูงอยู่ ประมาณขั้นต่ำเดือนละสองแสนได้มั้ง เราสองคนใช้ด้วยกันเดือนนึง ตกเดือนละเกือบหกหมื่นรวมค่าเช่าบ้าน คือตอนนี้เรากับสามีเช่าบ้านที่ต่างจังหวัดเดือนละหมื่น คือ ยังไม่มีบ้าน+รถ เป็นของตัวเอง ไปไหนก้เรียกแต่แท็กซี่ ที่ยังไม่ตัดสินใจซื้อบ้านเพราะเราอาจไม่ได้อยู่ประเทศไทย แต่จะไปๆกลับๆบ้านสามีที่ต่างประเทศ เรื่องคือเราปรึกษากันตั้งแต่ยังไม่คลอดลูกแล้วว่าเราต้องมีรถยนต์สักคันนะเพราะเราไม่อยากนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนกับลูกเล็กๆ ยิ่งช่วงนี้มีแต่โรคติดต่อ นั่งแท็กซี่คาร์ซีทก้ไม่มี สามีไม่ชอบนั่งรถยนต์ชอบแว้นแต่แมงกะไซค์ แล้วพอคลอดลูก เราไปไหนมาไหนกับลูกข้างนอกบ่อยมาก ไปโรงบาลบ้างไปบ้านยายบ้าง และมันเสี่ยงมากกับเด็กพึ่งคลอดที่ต้องขึ้นแต่แท็กซี่ แล้วเราก้มาคุยกับสามีอีกว่าจะเอาไง จะซื้อไหมรถ นางก้เหมือนไม่อยากซื้อเพราะไม่อยากเสียเงินก้อนใหญ่ เราก้บอกว่าผ่อนเอาก็ได้ แต่ทำไมถึงเหมือนไม่อยากซื้อรถ แต่พอทีตัวเองกลับจะไปซื้อมอไซค์คันใหม่คันละตั้งเกือบแสน แล้วลูกล่ะ คุณจะพาลูกนั่งมอไซค์ไปกับคุณหรอ ลูกเล็กๆเนี่ย คิดแล้วก็โมโห แล้วพอถามกลับ แล้วลูกล่ะจะให้ขึ้นแต่แท็กซี่หรอ คาร์ซีทก้ไม่มี แล้วนางบอก งั้นไปซื้อคาร์ซีทกัน เรายิ่งโมโหอีก ไปซื้อคาร์ซีทมาไว้ขึ้นแท็กซี่เนี่ยนะ เราไปไหมมาไหนก้ต้องแบกคาร์ซีทไปด้วยน่ะหรอ เอาความคิดมาจากไหน แล้วก้เป็นงี้ เราก้บอกว่าเราจะผ่อนเองเราจะหักจากเงินที่เธอให้เราแต่ล่ะเดือนนั่นแหละ เธอไม่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ๆๆ เราไม่มีงานทำ และสลิปเงินเดือนจากบริษัท ถ้าจะดาวน์รถต้องดาวน์ก้อนใหญ่ๆ ซึ่งเราก้ยังไม่มีเงินเก็บขนาดนั้น แต่เราสงสารลูกมากและกลัวมากๆเวลาพาขึ้นแท็กซี่ไปโรงบาล ไม่รู้แต่ละวันมีคนขึ้นมากี่คน ไม่รุใครเป็นโรคอะไร ติดโควิดมารึยังอีก ทำไมเขาคิดไม่ได้อ่าคะ คิดแล้วก็โมโหๆๆ จะกลับไปทำงานก้ไม่มีคนเลี้ยงลูกให้อีก เห่อ ชีวิตนี้มีอะไรได้ดั่งใจบ้างไหม
นี่ละค่ะเรื่องที่อยากจะระบายยาวเหยียด ไประบายให้ใครฟังก้ไม่ได้ก้มาลงพันทิปนี่แหละ T.T