[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้[สามารถกดไลค์ Facebook Page ได้เลยที่ลิ้งค์นี้เลยครับ: https://www.facebook.com/Go-Go-Go-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-105093898201267/]
Hotel Nikko Bangkok
โรงแรมของเครือ Okura Nikko ย่านทองหล่อที่เปิดได้ไม่ถึงสองปี เห็นโปรยั่วใจตั้งแต่ตอนโควิดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มาพักซักทีจนได้มาใช้สิทธิ์โครงการนี่แหละครับ เลี้ยงเข้าซอยทองหล่อจากถนนสุขุมวิทมาไม่ไกลก็จะเจอโรงแรมทางซ้ายมือครับ ใครขับรถมาก็ไปจอดรถชั้นใต้ดินฟรีได้ แต่ถ้าใครมา BTS ก็ลงสถานีทองหล่อแล้วเดินเข้ามาไม่ไกลครับ
มาถึงก็มาเช็คอินที่ Lobby ชั้น G กันก่อน โถงโปร่งดูโล่งสบายดีครับ พนักงานก็บริการดี เห็นเราถือของมาก็เสนอช่วยถือสัมภาระให้ แต่ไม่เป็นไรเพราะมันเบามากจริงๆ ใช้เวลาเช็คอินไม่นานมากครับ ส่วนใครที่ใช้สิทธิ์โครงการ ก็อย่าลืมสแกน QR Code ของทางโรงแรม เพื่อรับสิทธิ์คูปองส่วนลดอาหาร 600 บาท (จะได้รับตอน 17.00 น. ใน App เป๋าตัง)
วันนี้ได้พักชั้นที่ 20 ซึ่งเป็นชั้นเกือบจะบนสุดเลย ลิฟต์ที่นี่จะต้องแตะบัตรเพื่อกดชั้นนะครับ ไม่งั้นจะกดขึ้นมาไม่ได้ พอออกจากลิฟต์ก็เลี้ยวไปทางห้องเรากันเลย โถงทางเดินก็จะไฟก็จะดูครึ้มๆ หน่อยครับ
จองมาเป็น Superior King Bedroom ราคาประมาณ 2,740 บาท แต่ใช้ส่วนลดของโครงการเหลือแค่ 1,640 บาทเนทเท่านั้นครับ ห้องโปร่งโล่งสบายมากครับ ชอบโทนการตกแต่งเรียบๆ ที่ให้บรรยากาศเหมือนญี่ปุ่น
ไปสำรวจห้องน้ำกันก่อนเลย แน่นอนว่าโรงแรมญี่ปุ่นก็ต้องมีโถส้วมแบบญี่ปุ่นที่มาพร้อมฝารองนั่งที่อุ่นได้และที่ฉีดน้ำทำความสะอาดอัตโนมัติ โดยห้องส้วมจะแยกออกจากที่อาบน้ำ ซึ่งก็ถือว่าสะดวกดีเหมือนกันเพราะถ้าจะเข้าห้องน้ำจะได้ไม่ต้องรออีกคนอาบน้ำเสร็จ แถมมีอ่างล้างมือเล็กๆ ให้ใช้อีกด้วย
ห้องอาบน้ำถ่ายให้เห็นจากห้องนอนละกัน ห้องน้ำนี่กว้างพอสมควรครับ มีที่อาบน้ำแยกกับอ่างอาบน้ำ ดังนั้นไม่ต้องก้าวลงไปอาบในอ่างถ้าไม่ได้จะแช่ แถมถ้าใครจะแช่ก็เปิดน้ำรอระหว่างอาบน้ำไปด้วยได้เลย ส่วนกระจกไม่ต้องกลัวนะครับถ้าอายก็กดให้ม่านปิดตอนอาบน้ำได้
Amenity นี่เป็นอีกอย่างที่ประทับใจ เพราะใช้ของ Panpuri มีให้ทั้งครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม และ Body Lotion โดยเป็นกลิ่น Lemongrass & Mandarin หอมชื่นใจมาก นอกจากนี้ยังมีหวี ที่โกนหนวด แปรงสีฟันให้ครบครัน เรียกได้ว่าสามารถมาโรงแรมพร้อมกับเสื้อผ้าวันรุ่งขึ้นแค่นั้นก็พอแล้ว
ส่วนโซน Minibar นั้น ที่นี่จะไม่มีอะไรใส่ไว้เลยนอกจากน้ำเปล่าฟรี 2 ขวด ใครอยากสั่งอะไรก็โทรสั่งได้เลยครับ เอาจริงๆ ผมชอบนะ เพราะจะได้มีที่ในตู้เย็นเผื่อไว้แช่ของอย่างอื่นที่ซื้อมาได้ ส่วนใครอยากทานชากาแฟก็สามารถชงทานได้ ทางโรงแรมเตรียมกาน้ำร้อนมาไว้ให้พร้อมเรียบร้อยแล้วครับ
มุมฝั่งติดหน้าต่างก็จะมีโต๊ะทำงานให้เผื่อใครจะต้องนั่งทำงาน มีปลั๊กด้านข้างให้พร้อมสำหรับชาร์จโน๊ตบุ๊ค หรือใครจะดูทีวีก็กดเปิดดูแล้วดูเมนูช่องได้บนสมุดด้านหน้าเลย จะบอกว่ามีเสียงเข้าไปถึงในห้องน้ำด้วยเลยเพราะมีลำโพงเชื่อมเข้าไปในห้องน้ำด้วยครับ จริงๆ อยากลองเอาเพลงมาต่อแล้วเปิดเหมือนกัน ถ้าทำได้นี่ แช่น้ำไปฟังเพลงไปแบบชิวๆ เลย
และมาที่ส่วนหลักของเรา ก็คือเตียงนั่นเอง เตียงกว้างแบบให้นอนสองคนได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวอีกคนดิ้น เตียงนุ่มกำลังดี ไม่ได้บุ๋มยวบจนนอนไม่สบาย แต่ก็ไม่ได้แข็งจนปวดหลัง ส่วนหมอนนั้น เป็นแบบนุ่มครับ มีหมอนลูกเล็กๆ ให้กอดด้วย
แต่ถ้าใครไม่พอใจ อยากได้หมอนเพิ่ม เลือกเพิ่มจาก Pillow Menu ข้างๆ หัวเตียงได้เลย ขอหมอนข้าง หรือหมอนโซบะไปลองเลือกดูกันได้ แล้วถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร กดโทรศัพท์หัวเตียงได้เลยครับ เจ้าหน้าที่โรงแรมพร้อมให้บริการ
ผมมาเช็คอินตอนบ่าย เสร็จแล้วก็ลงไปชั้นสระว่ายน้ำที่ชั้น 6 ไปว่ายน้ำซักหน่อย วิวอาจจะไม่ได้มีอะไรแต่สระกว้างพอสมควร คนวันนี้ก็ไม่ค่อยมีอาจจะเพราะฟ้าค่อนข้างครึ่ม เลยได้เป็นสระส่วนตัวไปเลย ฮ่าๆๆ จริงๆ มีฟิตเนสด้วยแต่ไม่ได้ไปครับ ดูมีอุปกรณ์พอใช้ได้อยู่
หลังออกไปทานอาหารเย็นนอกโรงแรมเสร็จ ก็ไปแช่น้ำก่อนเข้านอน ปิดท้ายด้วยภาพสุดท้ายของคืนกับวิวมุมสูงของทองหล่อจากห้องนอนครับ
ตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงกว่าแล้ว กลิ้งๆ อยู่บนเตียงก่อนจะลงไปทานอาหารเช้าครับ ก่อนลงก็ไม่พลาดจะถ่ายวิวทองหล่อยามเช้ามาฝากครับ วิวตึกอาจจะไม่ได้แน่นอลังการเหมือนใจกลางกรุงเทพฯ แต่ก็โล่งๆ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไปครับ
สำหรับอาหารเช้า ลงมาทานที่ห้องอาหาร Oasis ชั้น 6 ครับ อยู่ตรงข้ามสระว่ายน้ำเลย น่าเสียดายที่ตอนโควิด โรงแรมเลยยกเลิกไลน์บุฟเฟ่ท์อาหารเช้าไป (จริงๆ บุฟเฟ่ท์อาหารเช้าเป็นอะไรที่ชอบที่สุดอย่างนึงเวลามานอนโรงแรมเลย)
โรงแรมเลยเปลี่ยนให้เลือกระหว่าง Western Set กับ Japanese Set เรามาโรงแรมญี่ปุ่น ก็คงหนีไม่พ้น Japanese Set แน่นอนครับ (จริงๆ น่าจะทำเป็น A La Carte Buffet ก็ได้นะ อยากชิมอาหารของโรงแรมให้หลากหลายกว่านี้)
พนักงานก็เอาชา กาแฟ มาบริการให้ครับ เรียกได้ว่าให้มาทั้งกาเลย อยากทานเท่าไหร่ก็เทไปตามใจชอบเลย (คิดว่าคงเพราะเพื่อลดการ Contact จากโควิด) ชาใช้เป็น English Breakfast ของ Dilmah (ที่ผมไม่ได้ชิม ฮ่าๆๆ) ส่วนกาแฟก็เข้มข้นพอสมควร ตามมาตรฐานโรงแรมทั่วไปครับ
และแล้ว Japanese Set ของเราก็มาเสิร์ฟครับ หน้าตาพอใช้ได้ ยอมให้อภัยก็ได้ที่ไม่มีบุฟเฟ่ต์ อันนี้ถ่ายของเพื่อนที่มาถึงก่อนครับ ลืมถ่ายเต็มเซทของตัวเอง แต่หน้าตามันก็เหมือนกันแหละ
ปริมาณอาหารไม่เยอะมาก แต่ก็พออิ่มครับ เริ่มต้นที่มุมแรก กับนัตโตะ (หรือที่เรียกกันว่าถั่วเน่า) เวลากินมันจะยืดๆ เลอะๆ ได้หน่อย แต่ไม่ได้มีรสชาติที่แหยะอะไรนะ ลองทานกันดูได้ ส่วนเต้าหู้เย็นก็ตามปกติ เต้าหู้นุ่มดี
ผักดองไว้ทานกับข้าว ดองมากรอบๆ เค็มๆ ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ อร่อยครับ ไข่หวานก็ทำมาได้เนียนนุ่ม รสชาติเบาๆ ไม่หวานจนเกินไป ถือว่าโอเคเลย
แซลมอนย่าง ปลาย่างมาโอเคเลย หนังกรอบ เนื้อปลาไม่แห้ง จิ้มกินกับโชยุก็เค็มกำลังดี แล้วก็มีไชเท้าบีบเลมอนใส่เปรี้ยวๆ ช่วยตัดความคาวได้อยู่ครับ
ยังดีที่มีเจ้านี่มาเสิร์ฟ ก็คือเมนไทโกะนั่นเอง ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ คืออร่อยมาก เค็มๆ ได้ความกรุบของไข่ปลานัวๆ โอย คือเป็นเมนูที่ชอบมากๆ แค่ไข่ปลากับข้าวก็พอแล้ว ฮ่าๆๆ
ปิดท้ายด้วยผลไม้ แตงโมไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ สับปะรดไม่เปรี้ยวเกิน ส่วนเมลอนก็หวานพอได้
โดยรวมแอบเสียใจที่ไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์ เพราะคาดหวังกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่จะมีอาหารญี่ปุ่นด้วยอยู่ไว้เยอะ แต่รสชาติอาหารที่เสิร์ฟมาก็ไม่ผิดหวังครับ โรงแรมทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่เสียชื่อที่เป็นโรงแรมญี่ปุ่น
[ภาพรวม]
ถือว่าเป็นโรงแรมเครือของญี่ปุ่นที่ดีราคาอีกแห่งนึงครับ ยิ่งช่วงโควิดนี่ทางโรงแรมลดราคาลงมาเยอะเลย ล่าสุดลองกดไปดูก็คือเหลือคืนละไม่ถึงหนึ่งพันบาท (แบบไม่รวมอาหารเช้า+ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน) ใครอยากไป Staycation ก็เป็นอีกที่ที่แนะนำครับ เพราะทำเลที่อยู่ทองหล่อก็เดินทางสะดวก จะไปทานอาหารในทองหล่อหรือนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปทานที่อื่นก็ยังสะดวกเหมือนกัน ยังไงลองมาพักกันดูได้นะครับ
[สุดท้าย ถ้าชอบสไตล์รีวิว ขอฝาก Facebook Page ไว้หน่อยนะครับ จะพยายาม Update เรื่อยๆ บางทีรีวิวสั้นๆ อาจไม่ได้มาโพสต์ในพันทิปครับ
กดไลค์ได้เลยที่ลิ้งค์นี้เลย ขอบคุณมากครับ:
https://www.facebook.com/Go-Go-Go-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-105093898201267/]
[CR] Staycation in BKK “เราเที่ยวด้วยกัน” ในกทม. at Hotel Nikko Bangkok
Hotel Nikko Bangkok
โรงแรมของเครือ Okura Nikko ย่านทองหล่อที่เปิดได้ไม่ถึงสองปี เห็นโปรยั่วใจตั้งแต่ตอนโควิดแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้มาพักซักทีจนได้มาใช้สิทธิ์โครงการนี่แหละครับ เลี้ยงเข้าซอยทองหล่อจากถนนสุขุมวิทมาไม่ไกลก็จะเจอโรงแรมทางซ้ายมือครับ ใครขับรถมาก็ไปจอดรถชั้นใต้ดินฟรีได้ แต่ถ้าใครมา BTS ก็ลงสถานีทองหล่อแล้วเดินเข้ามาไม่ไกลครับ
มาถึงก็มาเช็คอินที่ Lobby ชั้น G กันก่อน โถงโปร่งดูโล่งสบายดีครับ พนักงานก็บริการดี เห็นเราถือของมาก็เสนอช่วยถือสัมภาระให้ แต่ไม่เป็นไรเพราะมันเบามากจริงๆ ใช้เวลาเช็คอินไม่นานมากครับ ส่วนใครที่ใช้สิทธิ์โครงการ ก็อย่าลืมสแกน QR Code ของทางโรงแรม เพื่อรับสิทธิ์คูปองส่วนลดอาหาร 600 บาท (จะได้รับตอน 17.00 น. ใน App เป๋าตัง)
วันนี้ได้พักชั้นที่ 20 ซึ่งเป็นชั้นเกือบจะบนสุดเลย ลิฟต์ที่นี่จะต้องแตะบัตรเพื่อกดชั้นนะครับ ไม่งั้นจะกดขึ้นมาไม่ได้ พอออกจากลิฟต์ก็เลี้ยวไปทางห้องเรากันเลย โถงทางเดินก็จะไฟก็จะดูครึ้มๆ หน่อยครับ
จองมาเป็น Superior King Bedroom ราคาประมาณ 2,740 บาท แต่ใช้ส่วนลดของโครงการเหลือแค่ 1,640 บาทเนทเท่านั้นครับ ห้องโปร่งโล่งสบายมากครับ ชอบโทนการตกแต่งเรียบๆ ที่ให้บรรยากาศเหมือนญี่ปุ่น
ไปสำรวจห้องน้ำกันก่อนเลย แน่นอนว่าโรงแรมญี่ปุ่นก็ต้องมีโถส้วมแบบญี่ปุ่นที่มาพร้อมฝารองนั่งที่อุ่นได้และที่ฉีดน้ำทำความสะอาดอัตโนมัติ โดยห้องส้วมจะแยกออกจากที่อาบน้ำ ซึ่งก็ถือว่าสะดวกดีเหมือนกันเพราะถ้าจะเข้าห้องน้ำจะได้ไม่ต้องรออีกคนอาบน้ำเสร็จ แถมมีอ่างล้างมือเล็กๆ ให้ใช้อีกด้วย
ห้องอาบน้ำถ่ายให้เห็นจากห้องนอนละกัน ห้องน้ำนี่กว้างพอสมควรครับ มีที่อาบน้ำแยกกับอ่างอาบน้ำ ดังนั้นไม่ต้องก้าวลงไปอาบในอ่างถ้าไม่ได้จะแช่ แถมถ้าใครจะแช่ก็เปิดน้ำรอระหว่างอาบน้ำไปด้วยได้เลย ส่วนกระจกไม่ต้องกลัวนะครับถ้าอายก็กดให้ม่านปิดตอนอาบน้ำได้
Amenity นี่เป็นอีกอย่างที่ประทับใจ เพราะใช้ของ Panpuri มีให้ทั้งครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม และ Body Lotion โดยเป็นกลิ่น Lemongrass & Mandarin หอมชื่นใจมาก นอกจากนี้ยังมีหวี ที่โกนหนวด แปรงสีฟันให้ครบครัน เรียกได้ว่าสามารถมาโรงแรมพร้อมกับเสื้อผ้าวันรุ่งขึ้นแค่นั้นก็พอแล้ว
มุมฝั่งติดหน้าต่างก็จะมีโต๊ะทำงานให้เผื่อใครจะต้องนั่งทำงาน มีปลั๊กด้านข้างให้พร้อมสำหรับชาร์จโน๊ตบุ๊ค หรือใครจะดูทีวีก็กดเปิดดูแล้วดูเมนูช่องได้บนสมุดด้านหน้าเลย จะบอกว่ามีเสียงเข้าไปถึงในห้องน้ำด้วยเลยเพราะมีลำโพงเชื่อมเข้าไปในห้องน้ำด้วยครับ จริงๆ อยากลองเอาเพลงมาต่อแล้วเปิดเหมือนกัน ถ้าทำได้นี่ แช่น้ำไปฟังเพลงไปแบบชิวๆ เลย
และมาที่ส่วนหลักของเรา ก็คือเตียงนั่นเอง เตียงกว้างแบบให้นอนสองคนได้สบายๆ ไม่ต้องกลัวอีกคนดิ้น เตียงนุ่มกำลังดี ไม่ได้บุ๋มยวบจนนอนไม่สบาย แต่ก็ไม่ได้แข็งจนปวดหลัง ส่วนหมอนนั้น เป็นแบบนุ่มครับ มีหมอนลูกเล็กๆ ให้กอดด้วย
แต่ถ้าใครไม่พอใจ อยากได้หมอนเพิ่ม เลือกเพิ่มจาก Pillow Menu ข้างๆ หัวเตียงได้เลย ขอหมอนข้าง หรือหมอนโซบะไปลองเลือกดูกันได้ แล้วถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร กดโทรศัพท์หัวเตียงได้เลยครับ เจ้าหน้าที่โรงแรมพร้อมให้บริการ
ผมมาเช็คอินตอนบ่าย เสร็จแล้วก็ลงไปชั้นสระว่ายน้ำที่ชั้น 6 ไปว่ายน้ำซักหน่อย วิวอาจจะไม่ได้มีอะไรแต่สระกว้างพอสมควร คนวันนี้ก็ไม่ค่อยมีอาจจะเพราะฟ้าค่อนข้างครึ่ม เลยได้เป็นสระส่วนตัวไปเลย ฮ่าๆๆ จริงๆ มีฟิตเนสด้วยแต่ไม่ได้ไปครับ ดูมีอุปกรณ์พอใช้ได้อยู่
ตื่นมาอีกทีก็เก้าโมงกว่าแล้ว กลิ้งๆ อยู่บนเตียงก่อนจะลงไปทานอาหารเช้าครับ ก่อนลงก็ไม่พลาดจะถ่ายวิวทองหล่อยามเช้ามาฝากครับ วิวตึกอาจจะไม่ได้แน่นอลังการเหมือนใจกลางกรุงเทพฯ แต่ก็โล่งๆ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไปครับ
สำหรับอาหารเช้า ลงมาทานที่ห้องอาหาร Oasis ชั้น 6 ครับ อยู่ตรงข้ามสระว่ายน้ำเลย น่าเสียดายที่ตอนโควิด โรงแรมเลยยกเลิกไลน์บุฟเฟ่ท์อาหารเช้าไป (จริงๆ บุฟเฟ่ท์อาหารเช้าเป็นอะไรที่ชอบที่สุดอย่างนึงเวลามานอนโรงแรมเลย)
และแล้ว Japanese Set ของเราก็มาเสิร์ฟครับ หน้าตาพอใช้ได้ ยอมให้อภัยก็ได้ที่ไม่มีบุฟเฟ่ต์ อันนี้ถ่ายของเพื่อนที่มาถึงก่อนครับ ลืมถ่ายเต็มเซทของตัวเอง แต่หน้าตามันก็เหมือนกันแหละ
ปริมาณอาหารไม่เยอะมาก แต่ก็พออิ่มครับ เริ่มต้นที่มุมแรก กับนัตโตะ (หรือที่เรียกกันว่าถั่วเน่า) เวลากินมันจะยืดๆ เลอะๆ ได้หน่อย แต่ไม่ได้มีรสชาติที่แหยะอะไรนะ ลองทานกันดูได้ ส่วนเต้าหู้เย็นก็ตามปกติ เต้าหู้นุ่มดี
ผักดองไว้ทานกับข้าว ดองมากรอบๆ เค็มๆ ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ อร่อยครับ ไข่หวานก็ทำมาได้เนียนนุ่ม รสชาติเบาๆ ไม่หวานจนเกินไป ถือว่าโอเคเลย
แซลมอนย่าง ปลาย่างมาโอเคเลย หนังกรอบ เนื้อปลาไม่แห้ง จิ้มกินกับโชยุก็เค็มกำลังดี แล้วก็มีไชเท้าบีบเลมอนใส่เปรี้ยวๆ ช่วยตัดความคาวได้อยู่ครับ
ยังดีที่มีเจ้านี่มาเสิร์ฟ ก็คือเมนไทโกะนั่นเอง ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ คืออร่อยมาก เค็มๆ ได้ความกรุบของไข่ปลานัวๆ โอย คือเป็นเมนูที่ชอบมากๆ แค่ไข่ปลากับข้าวก็พอแล้ว ฮ่าๆๆ
ปิดท้ายด้วยผลไม้ แตงโมไม่ค่อยหวานเท่าไหร่ สับปะรดไม่เปรี้ยวเกิน ส่วนเมลอนก็หวานพอได้
โดยรวมแอบเสียใจที่ไม่ได้ทานบุฟเฟ่ต์ เพราะคาดหวังกับบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าที่จะมีอาหารญี่ปุ่นด้วยอยู่ไว้เยอะ แต่รสชาติอาหารที่เสิร์ฟมาก็ไม่ผิดหวังครับ โรงแรมทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่เสียชื่อที่เป็นโรงแรมญี่ปุ่น
[ภาพรวม]
ถือว่าเป็นโรงแรมเครือของญี่ปุ่นที่ดีราคาอีกแห่งนึงครับ ยิ่งช่วงโควิดนี่ทางโรงแรมลดราคาลงมาเยอะเลย ล่าสุดลองกดไปดูก็คือเหลือคืนละไม่ถึงหนึ่งพันบาท (แบบไม่รวมอาหารเช้า+ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน) ใครอยากไป Staycation ก็เป็นอีกที่ที่แนะนำครับ เพราะทำเลที่อยู่ทองหล่อก็เดินทางสะดวก จะไปทานอาหารในทองหล่อหรือนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปทานที่อื่นก็ยังสะดวกเหมือนกัน ยังไงลองมาพักกันดูได้นะครับ
[สุดท้าย ถ้าชอบสไตล์รีวิว ขอฝาก Facebook Page ไว้หน่อยนะครับ จะพยายาม Update เรื่อยๆ บางทีรีวิวสั้นๆ อาจไม่ได้มาโพสต์ในพันทิปครับ
กดไลค์ได้เลยที่ลิ้งค์นี้เลย ขอบคุณมากครับ: https://www.facebook.com/Go-Go-Go-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%9B-105093898201267/]
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น