หมอจุฬาฯ เผยภาพปอดเทียบ ผู้ติดเชื้อ โควิด รอบนี้ไม่เหมือนเดิม คนไข้รับ ติดจากบ่อนในกทม.
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5664574
หมอจุฬาฯ เผยภาพปอดเทียบ ผู้ติดเชื้อ โควิด รอบนี้ไม่เหมือนเดิม ซักประวัติจนยอมรับ ติดจากบ่อนในกรุงเทพ ชี้คนไม่มีอาการ มีเชื้อในจมูกเยอะ
วันที่ 4 ม.ค.63 ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย เผยภาพปอด ของผู้ป่วยโควิด-19 ใน เฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า Walking spreader รอบนี้คนไข้ไม่เหมือนเดิม
1. เชื้อแบ่งตัวได้ดีในจมูกและทางเดินหายใจ คนไม่มีอาการจะมีเชื้อในจมูกเยอะมากพร้อมที่จะแพร่กระจายเป็นวงกว้างเวลาไอ จาม หรือพูด
ในรูปภาพซ้าย ภาพถ่ายปอดผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเลย เดินไปเดินมา ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่เชื้อในจมูกค่า CT (cycle threshold) จากเครื่อง PCR บอกว่ามีปริมาณเชื้อในจมูกสูง มากเมื่อเทียบกับคนไข้ที่เคยเห็นในระลอกแรก ดังนั้นถ้าไม่ได้มาตรวจก็แพร่กระจายเชื้อคนอื่นได้อีกมาก
2. รูปขวา - เราเริ่มเห็นคนมีอาการไข้หวัดหรือปอดอักเสบมาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ยอมบอกประวัติความเสี่ยงเพื่อปกปิดการเดินทาง แพทย์อาจไม่ได้ส่งตรวจหาโควิด เพราะคิดว่าเป็นปอดอักเสบจากเชื้ออื่นที่พบได้บ่อยกว่า
ดังนั้นถ้ามีประวัติไปที่เสี่ยงตัองแจ้งแพทย์เสมอเพื่อแยกออกไปจากคนไข้คนอื่นที่มีโอกาสติดแล้วมีอาการรุนแรงหรืออาจติดต่อไปยังหมอและพยาบาล
เมื่อวานมีคนไข้เป็นปอดอักเสบมาตรวจ แต่ไม่ยอมบอกประวัติความเสี่ยง แต่แพทย์เห็นฟิล์มผิดปกติเหมือนปอดอักเสบจากไวรัสเลยส่ง ตรวจโควิดและตรวจเจอเชื้อ พอซักประวัติอีกรอบถึงยอมรับว่าไปบ่อนมา ซึ่งเป็นบ่อนใน"กรุงเทพ"นี่เอง
โชคดีที่ดักเคสนี้ได้เร็ววินิจฉัยได้เร็ว การไม่บอกประวัติเสี่ยงอาจทำให้บุคคลากรทางการแพทย์อาจติดโควิด เพราะในบางครั้งถ้าการดูแลรักษาอาจต้องใช้การพ่นยาการใช้ออกซิเจนทำให้เชื้อกระจายฟุ้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลอาจจะขาดกำลังแพทย์พยาบาลเพื่อรักษาคนไข้อื่น
https://www.facebook.com/opass.putcharoen/posts/4208846945799327
ประเดิมปีใหม่ ‘เรืองไกร’ ร้อง 2 เรื่อง ท้าแฉความผิดนายกฯ จี้กกต.เร่งสอบ ‘สิระ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_2512111
ประเดิมปีใหม่ ‘เรืองไกร’ ร้อง 2 เรื่อง ท้าแฉความผิดนายกฯ จี้กกต.เร่งสอบ ‘สิระ’
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นาย
เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ตนส่งจดหมายไปสองเรื่อง คือ ท้านายกฯ ให้แก้ข้อกล่าวหาต่อหน้าสื่อมวลชน เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 63 นายกฯ เคยถามสื่อมวลชนว่า ผมทำผิดอะไร ซึ่งเรื่องนี้นายเรืองไกร อ้างว่า ขณะนี้ตนมีหลักฐานที่จะแฉความผิดของนายกฯ แล้ว และเป็นหลักฐานของนายกฯ เอง ถ้านายกฯมั่นใจว่าไม่มีความผิด และเป็นชายชาติทหาร ฆ่าได้หยามไม่ได้ เชื่อว่านายกฯ ต้องรับคำท้านี้ แต่บอกได้เลยว่า งานนี้มีเสียวสันหลังแน่นอน อาจถึงกับต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกได้ โดยเสียงข้างมากในสภาก็ช่วยไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จการทุจริต แต่หากตนไม่มีหลักฐานหรือแสดงหลักฐานเท็จไม่มีมูลความจริง จะกราบขอโทษนายกฯต่อหน้าสื่อมวลชน และยินยอมถูกนายกฯฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด
และยังกล่าวต่ออีกว่า สองเรื่องคุณสมบัติของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เคยถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) ซึ่งเรื่องนี้จะอ้างพรบ.ล้างมลทินฯ 2550 มาเป็นประโยชน์ ไม่ได้เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดเคยวินิจฉัยไว้เมื่อปี 2559 ว่า พรบ.ล้างมลทิน ไม่มีมาตราใดให้ลบล้างคำพิพากษา และศาลฎีกาก็เคยวินิฉัยในทำนองเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านายสิระ ต้องพ้นจาก ส.ส. หรือไม่ พร้อมทั้งขอให้ กกต. ขยายผลการตรวจสอบไปยัง รมต. ส.ส. และ ส.ว. ทุกคนว่า มีผู้ใดขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) อีกหรือไม่
นาย
เรืองไกร กล่าวต่อว่า ตนจะคอยดูว่านายกฯจะกล้ารับคำท้าหรือไม่ และ กกต. จะรีบตรวจสอบนายสิระหรือไม่ รวมทั้งขยายผลการตรวจสอบรมต. ส.ส. ส.ว.ให้ครบทุกคนหรือไม่
JJNY : หมอจุฬาฯ เผย คนไข้รับติดจากบ่อนในกทม./ประเดิมปีใหม่ เรืองไกรร้อง2เรื่อง/ห่วงโควิดฉุดศก.เชื่อมั่น/PM2.5กลับมาแล้ว!
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_5664574
หมอจุฬาฯ เผยภาพปอดเทียบ ผู้ติดเชื้อ โควิด รอบนี้ไม่เหมือนเดิม ซักประวัติจนยอมรับ ติดจากบ่อนในกรุงเทพ ชี้คนไม่มีอาการ มีเชื้อในจมูกเยอะ
วันที่ 4 ม.ค.63 ผศ.นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย เผยภาพปอด ของผู้ป่วยโควิด-19 ใน เฟซบุ๊ก พร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า Walking spreader รอบนี้คนไข้ไม่เหมือนเดิม
1. เชื้อแบ่งตัวได้ดีในจมูกและทางเดินหายใจ คนไม่มีอาการจะมีเชื้อในจมูกเยอะมากพร้อมที่จะแพร่กระจายเป็นวงกว้างเวลาไอ จาม หรือพูด
ในรูปภาพซ้าย ภาพถ่ายปอดผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่มีอาการเลย เดินไปเดินมา ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ แต่เชื้อในจมูกค่า CT (cycle threshold) จากเครื่อง PCR บอกว่ามีปริมาณเชื้อในจมูกสูง มากเมื่อเทียบกับคนไข้ที่เคยเห็นในระลอกแรก ดังนั้นถ้าไม่ได้มาตรวจก็แพร่กระจายเชื้อคนอื่นได้อีกมาก
2. รูปขวา - เราเริ่มเห็นคนมีอาการไข้หวัดหรือปอดอักเสบมาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ยอมบอกประวัติความเสี่ยงเพื่อปกปิดการเดินทาง แพทย์อาจไม่ได้ส่งตรวจหาโควิด เพราะคิดว่าเป็นปอดอักเสบจากเชื้ออื่นที่พบได้บ่อยกว่า
ดังนั้นถ้ามีประวัติไปที่เสี่ยงตัองแจ้งแพทย์เสมอเพื่อแยกออกไปจากคนไข้คนอื่นที่มีโอกาสติดแล้วมีอาการรุนแรงหรืออาจติดต่อไปยังหมอและพยาบาล
เมื่อวานมีคนไข้เป็นปอดอักเสบมาตรวจ แต่ไม่ยอมบอกประวัติความเสี่ยง แต่แพทย์เห็นฟิล์มผิดปกติเหมือนปอดอักเสบจากไวรัสเลยส่ง ตรวจโควิดและตรวจเจอเชื้อ พอซักประวัติอีกรอบถึงยอมรับว่าไปบ่อนมา ซึ่งเป็นบ่อนใน"กรุงเทพ"นี่เอง
โชคดีที่ดักเคสนี้ได้เร็ววินิจฉัยได้เร็ว การไม่บอกประวัติเสี่ยงอาจทำให้บุคคลากรทางการแพทย์อาจติดโควิด เพราะในบางครั้งถ้าการดูแลรักษาอาจต้องใช้การพ่นยาการใช้ออกซิเจนทำให้เชื้อกระจายฟุ้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลอาจจะขาดกำลังแพทย์พยาบาลเพื่อรักษาคนไข้อื่น
https://www.facebook.com/opass.putcharoen/posts/4208846945799327
ประเดิมปีใหม่ ‘เรืองไกร’ ร้อง 2 เรื่อง ท้าแฉความผิดนายกฯ จี้กกต.เร่งสอบ ‘สิระ’
https://www.matichon.co.th/politics/news_2512111
ประเดิมปีใหม่ ‘เรืองไกร’ ร้อง 2 เรื่อง ท้าแฉความผิดนายกฯ จี้กกต.เร่งสอบ ‘สิระ’
เมื่อวันที่ 4 มกราคม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า วันนี้ตนส่งจดหมายไปสองเรื่อง คือ ท้านายกฯ ให้แก้ข้อกล่าวหาต่อหน้าสื่อมวลชน เนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 63 นายกฯ เคยถามสื่อมวลชนว่า ผมทำผิดอะไร ซึ่งเรื่องนี้นายเรืองไกร อ้างว่า ขณะนี้ตนมีหลักฐานที่จะแฉความผิดของนายกฯ แล้ว และเป็นหลักฐานของนายกฯ เอง ถ้านายกฯมั่นใจว่าไม่มีความผิด และเป็นชายชาติทหาร ฆ่าได้หยามไม่ได้ เชื่อว่านายกฯ ต้องรับคำท้านี้ แต่บอกได้เลยว่า งานนี้มีเสียวสันหลังแน่นอน อาจถึงกับต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกได้ โดยเสียงข้างมากในสภาก็ช่วยไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นกรณีที่มีหลักฐานเป็นใบเสร็จการทุจริต แต่หากตนไม่มีหลักฐานหรือแสดงหลักฐานเท็จไม่มีมูลความจริง จะกราบขอโทษนายกฯต่อหน้าสื่อมวลชน และยินยอมถูกนายกฯฟ้องร้องดำเนินคดีจนถึงที่สุด
และยังกล่าวต่ออีกว่า สองเรื่องคุณสมบัติของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เคยถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ อันเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (10) ซึ่งเรื่องนี้จะอ้างพรบ.ล้างมลทินฯ 2550 มาเป็นประโยชน์ ไม่ได้เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดเคยวินิจฉัยไว้เมื่อปี 2559 ว่า พรบ.ล้างมลทิน ไม่มีมาตราใดให้ลบล้างคำพิพากษา และศาลฎีกาก็เคยวินิฉัยในทำนองเดียวกัน ดังนั้น จึงขอให้ กกต. ตรวจสอบว่านายสิระ ต้องพ้นจาก ส.ส. หรือไม่ พร้อมทั้งขอให้ กกต. ขยายผลการตรวจสอบไปยัง รมต. ส.ส. และ ส.ว. ทุกคนว่า มีผู้ใดขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(10) อีกหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า ตนจะคอยดูว่านายกฯจะกล้ารับคำท้าหรือไม่ และ กกต. จะรีบตรวจสอบนายสิระหรือไม่ รวมทั้งขยายผลการตรวจสอบรมต. ส.ส. ส.ว.ให้ครบทุกคนหรือไม่