ปลายปี 62 เราอัลตร้าซาวด์ตรวจพบช็อกโกแลตซีสในมดลูก และได้ทำการผ่าตัด เป็นการผ่าเปิดหน้าท้อง ทำบล็อกหลัง เพราะก่อนผ่าจะมีการวินิจฉัยซ้ำ ไปเจอกับก้อนเนื้องอกขนาด 3 ซม. อีก 3 ชิ้น ซีสต์ขนาด 6 ซม. และพังผืดด้านหลังมดลูก พักฟื้นที่รพ. 2-3 วันกลับบ้านได้ เดินได้ตั้งแต่ฟื้น ไม่เจ็บเลย
สองสามเดือนแรกไม่ได้ขยับร่างการเท่าไหร่ เรียกว่านั่งๆนอนๆเลยแหละ อีกอย่างก่อนผ่าตัด คุณหมอได้ฉีดยาเตรียมผ่าตัด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร เค้าให้ฉีดก็ฉีด เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นยาคุมกำเนิด (ไม่ค่อยรู้เรื่องการรักษาอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยป่วย แม่พาไปหาหมอตลอด ตั้งแต่จบม.ปลายก็ครั้งนี้ครั้งแรกที่เข้ารพ. ไปเองติดต่อเองหมด) ทำให้กินเยอะมากๆ น้ำหวานคือหยุดไม่ได้ วันละ2-3แก้ว มันหักห้ามใจเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ไหว พอหมดฤทธิ์ยาคุมถึงหยุดกินได้
ประมาณครึ่งปีหลังเรารู้สึกไม่สบายตัว อึดอัด เลยพยายามออกกำลังกายเบาๆ แต่ก็รู้สึกเจ็บๆ อยู่ เลยหยุดไปก่อน จนประมาณเดือนตุลาคมมานี้ เริ่มออกกำลังกายจริงจัง แต่ไม่หักโหม ไม่มีกระโดดอะไร รู้สึกไม่มีแรงเท่าเดิม แทรมโบลีนคือราวตากผ้า
บางครั้งรู้สึกเจ็บตรงแผล ด้านใน จี๊ดๆ บางครั้งก็เจ็บจุกๆ เหมือนตอนมีปจด. ที่สำคัญคือ คันแผลมากๆ ทุกวันนี้ยังคันอยู่ สีแผลก็แปลกๆมั้งคะ ออกสีน้ำตาลๆ และเป็นคีรอยด์เรียบร้อย ไม่ได้ทายาอะไร ไม่รู้ทายาอะไรดีทาสมูธอีอย่างเดียว
น้ำหนักตอนนี้ไม่ทราบเลยไม่กล้าขึ้นตาชั่ง ตอนนี้สัดส่วนทุกอย่าง บวก2-3 นิ้ว สะโพก 36 เอว 28 ต้นขา 22 แล้วเราสูง 156 เองค่ะ กางเกงยีนส์คือนอนแน่นิ่ง ชักไม่ขึ้นติดต้นขา ใส่ได้แค่กางเกงยางยืด อย่างกับเรจิน่า จอร์จ จากเรื่อง mean girls
ไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ อีกอย่างไม่รู้ว่าแผลหายดีไหม เราดูแลแผลไม่ดีหรือเปล่า หรือข้างในเน่าไปแล้ว (ฮา)
ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง 1 ปีไม่หายเจ็บ แถมอ้วนกว่าเดิม
สองสามเดือนแรกไม่ได้ขยับร่างการเท่าไหร่ เรียกว่านั่งๆนอนๆเลยแหละ อีกอย่างก่อนผ่าตัด คุณหมอได้ฉีดยาเตรียมผ่าตัด ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร เค้าให้ฉีดก็ฉีด เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นยาคุมกำเนิด (ไม่ค่อยรู้เรื่องการรักษาอะไรเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยป่วย แม่พาไปหาหมอตลอด ตั้งแต่จบม.ปลายก็ครั้งนี้ครั้งแรกที่เข้ารพ. ไปเองติดต่อเองหมด) ทำให้กินเยอะมากๆ น้ำหวานคือหยุดไม่ได้ วันละ2-3แก้ว มันหักห้ามใจเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ไหว พอหมดฤทธิ์ยาคุมถึงหยุดกินได้
ประมาณครึ่งปีหลังเรารู้สึกไม่สบายตัว อึดอัด เลยพยายามออกกำลังกายเบาๆ แต่ก็รู้สึกเจ็บๆ อยู่ เลยหยุดไปก่อน จนประมาณเดือนตุลาคมมานี้ เริ่มออกกำลังกายจริงจัง แต่ไม่หักโหม ไม่มีกระโดดอะไร รู้สึกไม่มีแรงเท่าเดิม แทรมโบลีนคือราวตากผ้า
บางครั้งรู้สึกเจ็บตรงแผล ด้านใน จี๊ดๆ บางครั้งก็เจ็บจุกๆ เหมือนตอนมีปจด. ที่สำคัญคือ คันแผลมากๆ ทุกวันนี้ยังคันอยู่ สีแผลก็แปลกๆมั้งคะ ออกสีน้ำตาลๆ และเป็นคีรอยด์เรียบร้อย ไม่ได้ทายาอะไร ไม่รู้ทายาอะไรดีทาสมูธอีอย่างเดียว
น้ำหนักตอนนี้ไม่ทราบเลยไม่กล้าขึ้นตาชั่ง ตอนนี้สัดส่วนทุกอย่าง บวก2-3 นิ้ว สะโพก 36 เอว 28 ต้นขา 22 แล้วเราสูง 156 เองค่ะ กางเกงยีนส์คือนอนแน่นิ่ง ชักไม่ขึ้นติดต้นขา ใส่ได้แค่กางเกงยางยืด อย่างกับเรจิน่า จอร์จ จากเรื่อง mean girls
ไม่มีความมั่นใจเลยค่ะ อีกอย่างไม่รู้ว่าแผลหายดีไหม เราดูแลแผลไม่ดีหรือเปล่า หรือข้างในเน่าไปแล้ว (ฮา)