...เพิ่งกลับมาเมื่อ อา 27/12/63 เลยต้องรีบมารีวิว เนื่องจากเทศกาลทุ่งทานตะวันเขาจีนแล จัดขึ้น 25 ธ.ค.63 ถึง 9 ม.ค.64 นี้ เผื่อมีใครสนใจจะได้มีข้อมูลในการเดินทาง พร้อมแล้ว ตามมาเลยค่ะ...
...ได้วางแผนการดินทางล่วงหน้าไว้ ประมาณ 2 เดือน ซึ่งข้อมูลไม่ค่อยมีและการเดินทางค่อนข้างลำบาก สอบถามกับ ทางโรงแรม ทางเพจต่างๆ ในจังหวัดลพบุรี ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน (จะพาลูกไปลำบากไหมเนี่ย) แต่จะทำยังไงได้ล่ะ อยากลองนั่งรถไฟไปบ้าง ก็ต้องลองเสี่ยงดู...
...เริ่มออกเดินทาง จากสถานีรถไฟดอนเมือง 07.49 น. โดยได้จองตั๋วผ่านทางของการรถไฟโดยตรง ไปกลับ 160 บาท 2 คนแม่ลูก ได้เที่ยวที่เช้าที่สุด ของวัน ส-อา ถึงสถานีลพบุรี 09.42 (ให้ลงสถานีลพบุรีนะคะ) แน่นอนว่าต้องมีเรทบ้าง ตามรถไฟเค้านั่นแหละ แต่ก็กะเวลาไว้สัก ประมาณไม่เกิน 10 โมง ที่จะสามารถไปดูดอกทานตะวันได้ทันเวลา (ซึ่งตรงนี้ได้สอบถามกับทางเพจทุ่งทานตะวันแล้วว่า สามารถไปได้ คอไม่ตก ถ่ายรูปได้สวยอยู่ เพิ่งทราบเหมือนกันคะว่า ที่คอตกเพราะดอกเกสรใหญ่เกินและปลูกไว้นานแล้ว)...
...เมื่อมาถึงสถานีรถไฟลพบุรีแล้ว และได้ศึกษาเส้นทางแล้ว และได้สอบถามกับ จนท สถานีรถไฟ แนะนำตรงตามที่ได้ศึกษามา ผลสุดท้ายก็ยังตกหลุมพลาง พี่วินอีกเช่นเคย 555+++ เดินออกมานอกสถานีนิดเดียว พี่วินพาเรามาส่ง บขส คิด 40 บาท บอกเราว่ามีรถสองแถว สีแดงและสีเขียว (ตอนนั้นยัง งงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก รถจะผ่านพระปรางค์สามยอด) ตอนแรกเราไปถามแม่ค้าแถวนั้น เค้าก็ให้เราไปถามพี่วินอีก ผลสุดท้าย ก็ให้พี่วินพาไปทุ่งทานตะวัน ด้วยค่ารถอีก 200 บาท (ในระหว่างทาง ก็เจอรถสองแถวล่ะคะ แต่คิดไปคิดมา ช่างมันเถอะ อย่าไปเสียดายมัน) รถสองแถวอาจจะไม่เข้าไปในทุ่งให้นะคะ แต่เห็นทางโรงแรมบอกว่า บอกให้เข้าไปส่งได้ บอกไว้สำหรับคนที่อยากจะไปค่ะ...
...ถึงแล้วววววววววววววว...
...สวยบ้างไม่สวยบ้าง ตามประสาเด็กถ่ายแหละคะ 555+++ ดอกอาจจะยังบานไม่เต็มทุ่ง และก็ร้อนจัดมาก (ใครว่าหนาว) ที่นี้มีกิจกรรม นั่งรถรางชมทุ่ง 30 บาท มีขี่ม้า 100 บาท ถ้าถ่ายรูปคู่กับม้า 20 บาท (เพิ่งรู้อีกว่าตรงนี้เป็นของทหาร มีทหารดูแล ถึงว่าล่ะ เข้าไปมีแต่ทหาร) น้ำดื่มบริการฟรี และก็มีตลาดคล้ายๆกับโอท็อป เล็กๆ...
...ตามใจเค้าหน่อย...
...เมื่อได้เวลาสักบ่ายแล้ว ก็คงต้องรีบไปอีกที่ ได้ลองสอบถามกับ จนท ว่าจะมีรถออกไปถนนใหญ่ไหม (โดยปกติไม่มีนะคะ อาจจะต้องหารถรับจ้างออกไป ถ้าเดินก็ไกลอยู่ค่ะ) เค้าก็ใจดี ขี่มอไซด์อีแต๊กพาไปส่ง ขอบพระคุณมากกกกกกค่าาาาาาาา...
...ซึ่งที่เราจะไปอีกที่ก็อยู่ตรงหน้าปากทางเข้านี่แหละ นั่นคือ ร้าน กระเพรา & Coffee ที่นั่น จะมุ่งทุ่งคอสมอส หรือ ดอกดาวกระจายค่ะ...
...ที่ขาดไม่ได้ของเด็ดร้านนี่คือ กระเพราะค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะ แต่คอฟฟี่เราไม่ได้กิน เพราะเรากินไปแล้ว เราค่อนข้างห่วงสุขภาพนิดนึง ถ้ากินน้ำพวกนี้แล้ว จะกินแค่วันละแก้วก็พอค่ะ...
...ค่าเสียหายอยู่ที่ 240 บาท ใช้สิทธิ์คนละครึ่งค่ะ...
...กินอิ่มแล้ว ก็มาถ่ายรูปกันต่อ ตามใจคนถ่ายรูปเค้านะคะ ถ่ายสวยไม่สวยห้ามว่าค่ะ เธอจะหน้าหงิกทันที...
...ได้เวลาเย็นแล้วต้องกลับเข้าที่พัก กลัวจะเย็นเกินเดี๋ยวจะไม่มีรถกลับ เพราะว่ารถค่อนข้างหายาก กว่าจะมาอีก แต่เราโชคดี รอรถไม่เกิน 10 นาที ได้นั่งรถสองแถว บอกให้จอดตรงหน้าศูนย์ฟอร์ดหรือโฮมโปรก็ได้ ที่พักของเราอยู่ที่นั้นค่ะ...
...ก่อนจะขึ้นรถกลับที่พัก เราเห็นทุ่งทานตะวันอีกทุ่งนึง คือแบบว่าาาา...
...ดันสวยกว่าทุ่งเขาจีนแลที่เราดั้งด้นเข้าไปอีก แต่อาจจะยังโตไม่เต็มที่ ถ้าปีใหม่ เราคิดว่าน่าจะบานสะพรั่งกว่านี้อีกค่ะ...
...ถึงแล้วค่ะ ที่พักเรา จองผ่านเราเที่ยวด้วยกัน คืนละประมาณ 200 กว่าบาท เข้าซอยไปอีก 200 เมตร จากหน้าศูนย์ฟอร์ด...
...ขอนอนพักเอาแรงพรุ่งนี้ ต้องกลับแล้วววว...
...อาหารเช้าของที่นี้ค่ะ...
...เช็คเอ้าท์ออกแล้ว ก็ข้ามฝั่งมารอรถอีกฝั่งนึงโบกรถสองแถวคันเดิม บอกว่าจะไปลงศาลพระกาฬ เค้าจอดให้ถึงที่เลย คันนี้ คิดคนละ 8 บาท เหมือน ใน กทม นี่แหละคะ แต่ คันเมื่อวาน ดันคิดคนละ 10 บาท ทั้งๆที่เราถาม ผดส คนอื่นๆนะคะ เค้าก็ว่า 8 บาท เรากะรอตังทอน แต่ออกรถไปอย่างไว แต่ช่างเถอะค่ะ อย่าไปเสียดายมัน...
....ถึงแล้วจ้าาาาา ศาลพระกาฬ ลิงเต็มเลย เราบนไว้ค่ะ ขอให้ได้รับราชการภายในปีหน้า จะต้องมีโอกาสได้กลับมาอีกแน่...
...ใกล้ๆกัน ก็พระปรางค์สามยอด ค่าเข้า 10 บาท...
...เดินไปเรื่อยๆก็ไปต่อที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จะอยู่ในระแวกเดียวกัน เหมือนเป็นวงกลม ไม่ต้องไปพึ่งวินนะคะ เดินเลาะถามคนแถวนั้นค่ะ...
...เราตกใจเวลาลิงทะเลาะกัน อยากจะบอกว่า คนที่นี้ เหมือนชินกับลิงมากเลย เค้ามีความสามารถอยู่ด้วยกันได้ ลิงไต่ไปไต่มา ตามรถ ยั่วเยี้ยไปหมด...
...ถึงแล้ววววววว ออเจ้า...
...เสียค่าเข้าชม 30 บาท ไม่มีอะไรมาก อาจจะด้วยโควิดหรือไม่มีกิจกรรมหรือหมดกระแส ออเจ้า แล้ว...
...ที่นั่นมี ร้านกาแฟ อินทนินท์นะคะ...
...จากนั้นเดินไปอีก ทางตรงจนสุดแล้วเลี้ยวขวา จะเจอ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ไม่ใช่บางเขนนะคะ 555+++...
...เสียค่าเข้าอีก 10 บาท...
...สถานีรถไฟอยู่ตรงข้ามกับวัด ก็คือข้างหลังสถานีรถไฟแหละคะ 555+++...
...เที่ยวเสร็จก็หาอะไรกิน หลังสถานีรถไฟ ค่าเสียหายอีก 95 บาท...
...ก่อนจะกลับ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาลุ้นกันค่ะ (ลูกเป็นคนหยิบนะคะ)...
...รถรถไฟมา 14.39 น.ถึงดอนเมือง 17.05 น.กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ...
...คำแนะนำ คร่าวๆ ในการเดินทาง...
...มาจากสถานีรถไฟ ให้ออกไปทางข้างหลังสถานีรถไฟ จะเจอวัดพระศรีมหาธาตุ ออกมาจากวัด ให้ไปทางซ้ายอย่างเดียว จะเจอซอยใหญ่ (จริงๆ เข้าซอยเล็กซอยแรกก็ได้ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป แต่อาจจะ งง) แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปอย่างเดียว จะเจอ วังพระนารายณ์ ออกมาหน้าวัง ให้เดินทางซ้ายอย่างเดียว พอเจอแยกไฟแดง ให้ข้ามถนนไปทางขวาตรงไป จะเจอ พระปรางค์สามยอด ออกจากพระปรางค์ข้ามถนน ตรงไปนิดนึงจะเจอ ศาลพระกาฬ แต่ถ้าหากจะไปทุ่งเขาจีนแล ให้ข้ามถนน ทางวงเวียน รอรถสองแถวสีแดง ไปดงจำปา หรือ สีเขียวไป วังม่วง-หนองค่ำ ไม่ต้องไปถามวิน ให้ถามคนแถวนั้นแทนค่ะ...
...ค่าใช้จ่ายคร่าวๆ...
ค่าห้อง 300
ค่ารถไฟ ไป-กลับ 160
ค่ารถไปกลับจากบ้าน 200
รถประจำทางลพบุรี 275
ค่ากิน+กิจจาปะถะ 765
ค่านั่งรถไฟชมทุ่งทานตะวันเขาจีนแล 30
ค่าขี่ม้า 100
ค่าชมพระปรางค์สามยอด,ค่าเข้าชมวังพระนารายณ์,ค่าเข้าชมวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ 70
หวย 80
รวม 1,980 ประมาณ 2 พัน
...ปีใหม่ไปเที่ยวกันป้องกันตัวเองกันด้วยนะคะ...
...ขอบคุณค่ะ...
รีวิว นั่งรถไฟไปเที่ยวลพบุรี แบบไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว 2 วัน 1 คืน
...ได้วางแผนการดินทางล่วงหน้าไว้ ประมาณ 2 เดือน ซึ่งข้อมูลไม่ค่อยมีและการเดินทางค่อนข้างลำบาก สอบถามกับ ทางโรงแรม ทางเพจต่างๆ ในจังหวัดลพบุรี ก็ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน (จะพาลูกไปลำบากไหมเนี่ย) แต่จะทำยังไงได้ล่ะ อยากลองนั่งรถไฟไปบ้าง ก็ต้องลองเสี่ยงดู...
...เริ่มออกเดินทาง จากสถานีรถไฟดอนเมือง 07.49 น. โดยได้จองตั๋วผ่านทางของการรถไฟโดยตรง ไปกลับ 160 บาท 2 คนแม่ลูก ได้เที่ยวที่เช้าที่สุด ของวัน ส-อา ถึงสถานีลพบุรี 09.42 (ให้ลงสถานีลพบุรีนะคะ) แน่นอนว่าต้องมีเรทบ้าง ตามรถไฟเค้านั่นแหละ แต่ก็กะเวลาไว้สัก ประมาณไม่เกิน 10 โมง ที่จะสามารถไปดูดอกทานตะวันได้ทันเวลา (ซึ่งตรงนี้ได้สอบถามกับทางเพจทุ่งทานตะวันแล้วว่า สามารถไปได้ คอไม่ตก ถ่ายรูปได้สวยอยู่ เพิ่งทราบเหมือนกันคะว่า ที่คอตกเพราะดอกเกสรใหญ่เกินและปลูกไว้นานแล้ว)...
...เมื่อมาถึงสถานีรถไฟลพบุรีแล้ว และได้ศึกษาเส้นทางแล้ว และได้สอบถามกับ จนท สถานีรถไฟ แนะนำตรงตามที่ได้ศึกษามา ผลสุดท้ายก็ยังตกหลุมพลาง พี่วินอีกเช่นเคย 555+++ เดินออกมานอกสถานีนิดเดียว พี่วินพาเรามาส่ง บขส คิด 40 บาท บอกเราว่ามีรถสองแถว สีแดงและสีเขียว (ตอนนั้นยัง งงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก รถจะผ่านพระปรางค์สามยอด) ตอนแรกเราไปถามแม่ค้าแถวนั้น เค้าก็ให้เราไปถามพี่วินอีก ผลสุดท้าย ก็ให้พี่วินพาไปทุ่งทานตะวัน ด้วยค่ารถอีก 200 บาท (ในระหว่างทาง ก็เจอรถสองแถวล่ะคะ แต่คิดไปคิดมา ช่างมันเถอะ อย่าไปเสียดายมัน) รถสองแถวอาจจะไม่เข้าไปในทุ่งให้นะคะ แต่เห็นทางโรงแรมบอกว่า บอกให้เข้าไปส่งได้ บอกไว้สำหรับคนที่อยากจะไปค่ะ...
...ถึงแล้วววววววววววววว...
...สวยบ้างไม่สวยบ้าง ตามประสาเด็กถ่ายแหละคะ 555+++ ดอกอาจจะยังบานไม่เต็มทุ่ง และก็ร้อนจัดมาก (ใครว่าหนาว) ที่นี้มีกิจกรรม นั่งรถรางชมทุ่ง 30 บาท มีขี่ม้า 100 บาท ถ้าถ่ายรูปคู่กับม้า 20 บาท (เพิ่งรู้อีกว่าตรงนี้เป็นของทหาร มีทหารดูแล ถึงว่าล่ะ เข้าไปมีแต่ทหาร) น้ำดื่มบริการฟรี และก็มีตลาดคล้ายๆกับโอท็อป เล็กๆ...
...ตามใจเค้าหน่อย...
...เมื่อได้เวลาสักบ่ายแล้ว ก็คงต้องรีบไปอีกที่ ได้ลองสอบถามกับ จนท ว่าจะมีรถออกไปถนนใหญ่ไหม (โดยปกติไม่มีนะคะ อาจจะต้องหารถรับจ้างออกไป ถ้าเดินก็ไกลอยู่ค่ะ) เค้าก็ใจดี ขี่มอไซด์อีแต๊กพาไปส่ง ขอบพระคุณมากกกกกกค่าาาาาาาา...
...ซึ่งที่เราจะไปอีกที่ก็อยู่ตรงหน้าปากทางเข้านี่แหละ นั่นคือ ร้าน กระเพรา & Coffee ที่นั่น จะมุ่งทุ่งคอสมอส หรือ ดอกดาวกระจายค่ะ...
...ที่ขาดไม่ได้ของเด็ดร้านนี่คือ กระเพราะค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วเนอะ แต่คอฟฟี่เราไม่ได้กิน เพราะเรากินไปแล้ว เราค่อนข้างห่วงสุขภาพนิดนึง ถ้ากินน้ำพวกนี้แล้ว จะกินแค่วันละแก้วก็พอค่ะ...
...ค่าเสียหายอยู่ที่ 240 บาท ใช้สิทธิ์คนละครึ่งค่ะ...
...กินอิ่มแล้ว ก็มาถ่ายรูปกันต่อ ตามใจคนถ่ายรูปเค้านะคะ ถ่ายสวยไม่สวยห้ามว่าค่ะ เธอจะหน้าหงิกทันที...
...ได้เวลาเย็นแล้วต้องกลับเข้าที่พัก กลัวจะเย็นเกินเดี๋ยวจะไม่มีรถกลับ เพราะว่ารถค่อนข้างหายาก กว่าจะมาอีก แต่เราโชคดี รอรถไม่เกิน 10 นาที ได้นั่งรถสองแถว บอกให้จอดตรงหน้าศูนย์ฟอร์ดหรือโฮมโปรก็ได้ ที่พักของเราอยู่ที่นั้นค่ะ...
...ก่อนจะขึ้นรถกลับที่พัก เราเห็นทุ่งทานตะวันอีกทุ่งนึง คือแบบว่าาาา...
...ดันสวยกว่าทุ่งเขาจีนแลที่เราดั้งด้นเข้าไปอีก แต่อาจจะยังโตไม่เต็มที่ ถ้าปีใหม่ เราคิดว่าน่าจะบานสะพรั่งกว่านี้อีกค่ะ...
...ถึงแล้วค่ะ ที่พักเรา จองผ่านเราเที่ยวด้วยกัน คืนละประมาณ 200 กว่าบาท เข้าซอยไปอีก 200 เมตร จากหน้าศูนย์ฟอร์ด...
...ขอนอนพักเอาแรงพรุ่งนี้ ต้องกลับแล้วววว...
...อาหารเช้าของที่นี้ค่ะ...
...เช็คเอ้าท์ออกแล้ว ก็ข้ามฝั่งมารอรถอีกฝั่งนึงโบกรถสองแถวคันเดิม บอกว่าจะไปลงศาลพระกาฬ เค้าจอดให้ถึงที่เลย คันนี้ คิดคนละ 8 บาท เหมือน ใน กทม นี่แหละคะ แต่ คันเมื่อวาน ดันคิดคนละ 10 บาท ทั้งๆที่เราถาม ผดส คนอื่นๆนะคะ เค้าก็ว่า 8 บาท เรากะรอตังทอน แต่ออกรถไปอย่างไว แต่ช่างเถอะค่ะ อย่าไปเสียดายมัน...
....ถึงแล้วจ้าาาาา ศาลพระกาฬ ลิงเต็มเลย เราบนไว้ค่ะ ขอให้ได้รับราชการภายในปีหน้า จะต้องมีโอกาสได้กลับมาอีกแน่...
...ใกล้ๆกัน ก็พระปรางค์สามยอด ค่าเข้า 10 บาท...
...เดินไปเรื่อยๆก็ไปต่อที่ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จะอยู่ในระแวกเดียวกัน เหมือนเป็นวงกลม ไม่ต้องไปพึ่งวินนะคะ เดินเลาะถามคนแถวนั้นค่ะ...
...เราตกใจเวลาลิงทะเลาะกัน อยากจะบอกว่า คนที่นี้ เหมือนชินกับลิงมากเลย เค้ามีความสามารถอยู่ด้วยกันได้ ลิงไต่ไปไต่มา ตามรถ ยั่วเยี้ยไปหมด...
...ถึงแล้ววววววว ออเจ้า...
...เสียค่าเข้าชม 30 บาท ไม่มีอะไรมาก อาจจะด้วยโควิดหรือไม่มีกิจกรรมหรือหมดกระแส ออเจ้า แล้ว...
...ที่นั่นมี ร้านกาแฟ อินทนินท์นะคะ...
...จากนั้นเดินไปอีก ทางตรงจนสุดแล้วเลี้ยวขวา จะเจอ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ไม่ใช่บางเขนนะคะ 555+++...
...เสียค่าเข้าอีก 10 บาท...
...สถานีรถไฟอยู่ตรงข้ามกับวัด ก็คือข้างหลังสถานีรถไฟแหละคะ 555+++...
...เที่ยวเสร็จก็หาอะไรกิน หลังสถานีรถไฟ ค่าเสียหายอีก 95 บาท...
...ก่อนจะกลับ วันที่ 30 ธ.ค.63 มาลุ้นกันค่ะ (ลูกเป็นคนหยิบนะคะ)...
...รถรถไฟมา 14.39 น.ถึงดอนเมือง 17.05 น.กลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ...
...คำแนะนำ คร่าวๆ ในการเดินทาง...
...มาจากสถานีรถไฟ ให้ออกไปทางข้างหลังสถานีรถไฟ จะเจอวัดพระศรีมหาธาตุ ออกมาจากวัด ให้ไปทางซ้ายอย่างเดียว จะเจอซอยใหญ่ (จริงๆ เข้าซอยเล็กซอยแรกก็ได้ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป แต่อาจจะ งง) แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงไปอย่างเดียว จะเจอ วังพระนารายณ์ ออกมาหน้าวัง ให้เดินทางซ้ายอย่างเดียว พอเจอแยกไฟแดง ให้ข้ามถนนไปทางขวาตรงไป จะเจอ พระปรางค์สามยอด ออกจากพระปรางค์ข้ามถนน ตรงไปนิดนึงจะเจอ ศาลพระกาฬ แต่ถ้าหากจะไปทุ่งเขาจีนแล ให้ข้ามถนน ทางวงเวียน รอรถสองแถวสีแดง ไปดงจำปา หรือ สีเขียวไป วังม่วง-หนองค่ำ ไม่ต้องไปถามวิน ให้ถามคนแถวนั้นแทนค่ะ...