อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน เวอร์ชั่น คนไม่ได้รับเชิญ

ต้องขออนุญาต คุณ ดินสอสีน้ำ และ คุณ นริลมณี เขียนเรื่องนี้ ณ ที่นี้  


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ตอน ในคืนฟ้าคะนอง ( Blue Thunder )



ท่ามกลางสายฝนในคืนเดือนแรม อาขิ่น หนุ่มชาวเขาที่จบการศึกษาจากอเมริกา กลับมาแต่งงานกับสาวชาวดอย และ ในวันนี้ภรรยาของเขากำลังจะคลอด ฉุกเฉิน หลังจากไปโรงพยาบาลมาเมื่อสามวันก่อน หมอบอกว่าเธอจะคลอดในอีก 7 วัน แต่ตอนนี้เธอเจ็บท้องมาก อาขิ่น จึงขับรถพาเธอมาโรงพยาบาลในเมืองท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักในเดือนกันยายน และแล้วรถก็มาเสียกลางทาง อีกสามกิโลจึงจะไปถึงโรงพยาบาล ภรรยาอาขิ่นร้องเจ็บท้อง ฝนก็ตกหนัก อาขิ่น มองฟ้าคะนองท่ามกลางพายุและสายฟ้า เหมือนกับเขาจะมาถึงทางตันของชีวิตแล้วหรือนี่ พระเจ้า

และแล้ว ไฟของรถยนต์คันนึง ก็เคลื่อนมาใกล้รถของอาขิ่น เป็นกระบะ สีน้ำเงิน มีชายวัยประมาณ 40 กว่าๆ จอดและถามว่าจะไปไหนและเมื่อทราบว่าอาขิ่นจะไปโรงพยาบาลพร้อมภรรยา ชายดังกล่าวจึงอาสาพา อาขิ่น และ ภรรยา ไปส่งโรงพยาบาล ในเวลานั้นท่ามกลางพายุ กระบะสีน้ำเงิน ขับบึ่งตะบึงแล่นเหมือนสายฟ้าสีน้ำเงิน ฝ่าพายุคะนองไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อถึงโรงพยาบาล อาขิ่น ประครองภรรยาลงจากรถ โดยมีบุรุษพยาบาล และ นางพยาบาล มาช่วยกันประครอง ท่ามกลางสายฝนและฟ้าคะนอง อาขิ่น หันกลับมาจะขอบคุณชายกระบะสีน้ำเงิน แต่เขาเห็นเพียงแสงไฟท้ายรถไกลๆ ซึ่ง อาขิ่น รู้สึกซึ้งใจและอยากขอบคุณ แต่ก็ไม่มีโอกาส

หมอเวรกับพยาบาลรีบพาเข้าห้องฉุกเฉิน แต่ต้องโทรตามหมอทำคลอดด่วน เพราะไม่มีใครทำได้  
เวลาผ่านไปไม่นานประมาณ 10 นาที หมอมาถึงที่ โรงพยาบาล หมอลงจากรถแล้ววิ่งเข้าห้องฉุกเฉิน

อาขิ่น รอหมอในห้องทำคลอดพร้อมภรรยา เป็นเวลานาน ด้วยความกังวล เดินไปเดินมา และแล้วหมอก็ออกมาบอกในสิ่งที่อาขิ่น  ต้องลำบากใจยิ่ง เนื่องจากภรรยามีร่างกายอ่อนแอ และเด็กก็ยังไม่ถึงกำหนดดี จำเป็นต้องผ่า และ สถานการณ์ที่หมอถามคือ คงจะมีความจำเป็นต้องเลือกคนนึง คือ แม่ หรือ ลูก ให้รอด และ ให้ อาขิ่น ตัดสินใจ  

อาขิ่น ถามหมอว่า อยากเก็บไว้ทั้งสองคนไม่ได้หรือ หมอไม่กล้ารับปาก แต่จะพยายามทำให้ดีสุด แต่หมอก็ถาม อาขิ่น ว่า ถ้าจะต้องช่วยคนนึง อาขิ่น จะให้ช่วยใคร เพราะหมอช่วยได้แน่ๆ คนนึง แต่อีกคนหมอไม่รับปาก 

อาขิ่น อยากร้องไห้ กลุ้มใจแทบบ้า ภรรยาก็รักมาก ลูกก็อยากให้เกิดมา แต่ความที่ใช้ชีวิตด้วยกันฝ่าฟันอุปสรรคมา ทำให้อาขิ่นนึกในใจว่า เขาจะให้หมอช่วยภรรยาเขา และยอมปล่อยให้ลูกจากไป และถ้ามีบุญจริง อาขิ่น คงได้เป็นพ่อของลูกคนนี้อีกครั้ง อาขิ่นตัดสินใจแล้ว ว่าจะพูดคำว่า ภรรยาครับ บอกหมอไปว่าให้ช่วยภรรยา

แต่แล้ว ก็มมีเงาลึกลับของคน คนนึงผ่านมา และมองอาขิ่น และยิ้มให้ โดยที่มีเพียงอาขิ่นเท่านันมองเห็นคนนั้น หมอไม่เห็น และไม่รู้เลย แต่และแล้ว หมอก็ถามอาขิ่นอีกครั้ง คุณ ขิ่น คุณขิ่น เสียงหมอดังก้องในหู แต่ขณะนั้น อาขิ่น มีชั่วเวลาแว่บนึงคิดขึ้นมาและได้ให้คำตอบกับหมอไปว่า " ลูกครับ " 

หมออึ้งไปชั่วขณะ ก่อนตั้งสติได้และบีบแขนสองข้างของอาขิ่นพร้อมพูดว่า ตกลง หมอจะทำตามนั้น และแล้วหมอก็รีบรุดเข้าห้องฉุกเฉินไป ภาพด้านหลังของหมอที่วิ่งเข้าห้องฉุกเฉินไป คล้ายพนักงานดับไฟบุกฝ่ากองเพลิง อาขิ่น รู้สึกเช่นนั้น ขอให้หมอช่วยได้ทีเถอะ

จากนั้น อาขิ่น นั่งลงทรุดตัวกับเก้าอี้โรงพยาบาล และคิดกับตัวเองว่า เขาทำอะไรลงไป เขาทำอะไรลงไป ....

สามวันก่อนหน้านั้น ....
.

เมื่อสามวันก่อนหน้านั้น อาขิ่นพาภรรยามาตรวจครรภ์ และขณะที่คุยกับหมอ อาขิ่น ปวดท้องต้องไปห้องน้ำ จึงขอตัวปล่อยให้ภรรยาคุยกับหมอ และอาขิ่นไปห้องน้ำ และ ระหว่างทาง ตรงทางเดินไปห้องน้ำ เป็นทางเดินยาวประมาณ 200 เมตร และก่อนถึงห้องน้ำ มีเก้าอี้ตัวนึง อาขิ่น มองเห็น คุณแม่คนนึงนั่งอุ้มลูก และพูดคุยหยอกล้อกับลูกซึ่งเหมือนเด็กเพิ่งเกิด เขาคิดในใจว่า ภาพนี้คงจะเป็นภาพที่จะมาอยุ่ในชีวิตเขาอีกไม่นานนี้ หญิงสาวที่อุ้มลูก เงยหน้าขึ้นมาพบและยิ้มให้อาขิ่น ทำให้ อาขิ่น หยุดและถามว่า ลูกเพิ่งเกิดหรือครับ และหญิงสาวก็ยิ้มและพยักหน้าให้ และอาขิ่นก็สังเกตุเห็นว่าหญิงสาวคนนั้นขาพิการ ก่อนเข้าห้องน้ำไป และเมื่ออาขิ่น เสร็จธุระ เดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบหญิงสาวยังนั่งอยู่ แต่คราวนี้เธอมองหน้าอาขิ่น และพูดว่า " ฉันรักลูกมากค่ะ รักมากกว่าชีวิตของฉันเองด้วย " อาขิ่น ฟังแล้วซึ้งใจ และคิดว่านี่แหล่ะหนอ ความรักของคนเป็นแม่ และอาขิ่น ก็เดินกลับไปห้องตรวจที่ภรรยาอยู่ และคำว่า แม่รักลูกมากกว่าชีวิตนี่เอง ทำให้อาขิ่น ตัดสินใจ เลือกลูกของเขา เพราะคิดว่า ภรรยาเขาก็ควรจะคิดเหมือนกัน 

กลับมาเวลาปัจจุบัน อาขิ่น ยังคงนั่งกระวนกระวายใจกับการช่วยชีวิตของภรรยาและลูกของ หมอ จนกระทั่ง หมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน

อาขิ่น รีบเดินเข้าไปหาคุณหมอทันที หมอยืนนิ่ง อาขิ่น ยืนนิ่งตาม ต่างคนต่างพูดไม่ออก อาขิ่น ยืนลุ้น จน คุณหมอก้มหน้าลง และค่อยๆหยิบผ้ามาเช็ดแว่นตา โดยยังไม่พูดอะไร ทำให้อาขิ่น เริ่มใจไม่ดี หรือว่า ภรรยาและ ลูกของเขาจะ ....

หมอ : คุณขิ่น ผม ผม .... ผมพยายามทำดีที่สุดแล้ว ( น้ำตาคุณหมอไหลอาบแก้ม ) 
อาขิ่น : ตกลงเป็นไงครับ คุณหมอ ? 
หมอ : คือ ผมเสียใจด้วยครับ คุณขิ่น ( หมอพูดเสียงเบามาก )
อาขิ่น : เริ่มซึมแทบทรุด เขาต้องเสียทั้งภรรยา และ ลูกเลยเหรอ

หมอเงยหน้าขึ้น และ พูดเสียงเบาๆว่า ลูกคุณปลอดภัยครับ แต่ ภรรยา คุณไม่หายใจแล้ว 

อาขิ่น ยืนนิ่ง เหมือนโลกทลาย เขาแทบทรุดลงตรงหน้าหมอ และอีกครั้ง ที่เขามองเห็น เงาคนๆนึง เหมือนตอนที่หมอถามว่าจะให้เลือกช่วยใคร และนั่นคือ ผู้หญิงคนที่เขาพบเมื่อสามวันก่อนที่ใกล้ห้องน้ำ เธอนั่งรถเข็นผ่านมา และยิ้มให้ เธอเหมือนกับนั่งรถเข็นเพราะขาพิการ แต่คราวนี้เธอไม่มีลูกมาด้วย และยังไม่ทันอาขิ่น จะเอ่ยทักหรือพูดอะไร อาขิ่น เห็นหญิงคนนั้น กับรถเข็น เข้าไปในห้องฉุกเฉิน และเช่นเคย ไม่มีใครเห็น นอกจากอาขิ่น และเมื่อหญิงคนนั้นเข้าไปในห้องฉุกเฉินที่ภรรยาอาขิ่น นอนสิ้นลมอยู่เพียงแว่บเดียว ฟ้าก็ร้องคำรามลั่น ไฟฟ้าในโรงพยาบาล กระพริบ พร้อมเสียงฟ้าร้อง สองครั้ง แล้วไฟฟ้าก็กลับมาติดเหมือนเดิม อาขิ่น เอามือปิดหูด้วยเสียงฟ้าร้องดังสนั่น แต่ตายังมองไปยังห้องฉุกเฉินอยู่

และไม่กี่อึดใจ ก็มีนางพยาบาลออกมาหน้าห้องตะโกนเรียกคุณหมอและพูดว่า คุณหมอ คนป่วยหายใจแล้วค่ะ 

เสียงฟ้าคะนอง แสงฟ้าแล่บสะท้อนหน้าต่างโรงพยาบางเป็นแสงวาบไปทั่ว และแล้ว ภรรยาของอาขิ่น ก็ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง และ ทั้งแม่ลูกปลอดภัย หลังจากนั้น คุณหมอตรวจจนมั่นใจว่า ทั้งสองคนแม่ลูก อยู่ในอาการ เสถียรแล้ว รอพักฟื้นไม่นานก็กลับบ้านได้

เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดลงเอยด้วยดี อาขิ่น ได้นั่งอยุ่ในร้านกาแฟในโรงอาหารของโรงพยาบาล แล้ว คุณหมอก็เดินมานั่งด้วย และพูดว่า คุณขิ่น คุณโชคดีมากเลยนะ คุณเก็บไว้ได้ทั้งสองคน ทั้งลูกและภรรยา เพราะเมื่อสามปีก่อน เคยมีหมออีกท่านนึง เจอเคสแบบนี้ ต้องเลือกช่วยคนไข้เพียงคนเดียวเป็นแม่ลูกนี่แหล่ะ แต่เคสนั้นเสียชีวิตที่ รพ นี้ทั้งแม่และลูก รู้สึกแม่จะขาเสียด้วยนะ เป็นเคสสะเทือนใจกับหมอและ จนท โรงพยาบาลมาก จนหมอเจ้าของไข้เขาตัดสินใจลาออกไป 

อาขิ่น ได้ฟังดังนั้น ทำให้เขาถามต่อไปว่า แล้ว คุณหมอคนนั้น ปัจจุบันไปไหนแล้วละครับ 

หมอตอบว่า ก็เขาไปทำไร่ปลูกพืช แทนแล้วล่ะ ขับรถกระบะสีน้ำเงิน มีอยู่คันเดียวแถวนี้แหล่ะคุณ ทั้งอำเภอไม่มีใครขับกระบะสีนั้นเลย ส่วนใหญ่ก็ใช้สีดำ สีขาว สีพื้นๆ กัน ผมยังใช้สีดำเลย ตจว ทางไม่ค่อยดี ก็กระบะกันส่วนใหญ่เนอะ ว่าแล้ว หมอ ก็ขอตัวจากไป 

อาขิ่น รับรุ้เรื่องราว และ เขาก็เริ่มสอบถามนางพยาบาลต่างๆว่า มี ผู้หญิงมาฝากครรภ์สามวันก่อนไหม ปรากฎว่า ไม่มีเลย ภรรยาเขาเป็นคนเดียวที่ท้องใกล้คลอดในช่วง 1 เดือนมานี้ และรับรองว่าไม่มีผู้หญิงแม่ลูกอ่อนคนไหน มาโรงพยาบาลในรอบ 1 เดือนเช่นกัน 

อาขิ่น ปกติไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่วันนั้น คืนฟ้าคะนอง เขาเชื่อสุดใจว่า สองชีวิตของภรรยาและลูกเขา ได้ถูกช่วยไว้ด้วยหญิงสาวและลูกเธอคนนั้น รวมถึง ดลบรรดาลให้คุณหมอคนเก่าที่รักษาเคสนั้น ผ่านมาและช่วยพาภรรยาและเขามาที่โรงพยาบาลในคืนนี้ 

ในคืนที่ฟ้าร้อง ฝนคะนอง ไม่แน่สิ่งอัศจรรย์อาจเกิดขึ้นได้ ... คุณเชื่อหรือไม่ 

---------------------------------------------------------------------------  จบ  ---------------------------------------------------------------------------------------





พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่