สวัสดีค่ะ เนื่องจากเราและสามีเพิ่งช่วยลูกค้างคาวที่ตกลงมาที่พื้นได้สำเร็จ จากการค้นหาข้อมูลออนไลน์ ซึ่งไม่ค่อยมี และ ใช้เวลาหาข้อมูลและลงมือทดลองทำไปด้วยอยู่หลายชั่วโมงจนสำเร็จ เพราะอยากให้ลูกค้างคาวได้คืนสู่อกแม่ ไม่อยากเลี้ยงค่ะสงสาร แต่ทั้งนี้สถานการณ์ของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป ขอให้ข้อมูลนี้ไว้เป็นอีกหนึ่งข้อมูลอ้างอิงนะคะ
แบบสรุป (ดูแบบละเอียดได้ข้างล่างค่ะ)
1) ค้างคาวมีเชื้อโรคเยอะ (อ่านมา) อย่าไปโดนตัวมัน ใส่ถุงมือตอนเข้าช่วยเหลือจะดีมาก
2) เอากิ่งไม้หรือทิชชู่หรือผ้า ยื่นไปให้ลูกค้างคาวเกาะ ทำค่อยๆ เบาๆ ช้าๆ แล้วเอาไปวางที่กิ่งไม้ใกล้ๆจุดเกิดเหตุ เลือกกิ่งไม้ที่อยู่สูงหน่อยนึง มีใบไม้ ไม่โล่งแจ้ง ที่สำคัญต้องเป็นกิ่งไม้ที่แข็งแรงพอรับน้ำหนักลูกค้างคาวและแม่มัน ไม่มีมด ไม่มีแมว นก หรือสัตว์ที่จะเป็นอันตรายแก่ลูกค้างคาว อยู่ในจุดที่แม่ค้างคาวเข้าถึงได้
3) ถ้าลูกค้างคาวร้องจะดีมาก ถ้าไม่ร้องให้เขย่าเล็กน้อย ให้ส่งเสียงหาพ่อแม่มัน ส่วนตัวเราก็ไปแอบดู
ข้อมูลอ้างอิงแบบเต็มสูบ ดูได้จาก
https://batworld.org/what-to-do-if-you-found_a_bat/
ดูสั้นและง่ายเนอะคะ แต่ตอนเราทำ เราใช้เวลาสิริรวมได้สองชั่วโมงกว่า รวมการทดลองด้วย เรื่องมีอยู่ว่า (เผื่ออยากได้ข้อมูลจากบริบทในเหตุการณ์)
ตอนตีหนึ่งกว่า สามีเรามาปลุกเบาๆ เสียงอยู่ในลำคอ บอก ช่วยด้วย ช่วยด้วย พอทราบว่าเจอลูกค้างคาว เราและสามีก็เตรียม
-กล่องทิชชู่ที่ตัดด้านบนออกแล้ว
-พร้อมกระดาษทิชชู่ปูๆไว้ด้านใน
-ถุงมือยาง
-ไฟฉาย
แล้วตามกันลงไปข้างล่าง พื้นข้างล่างเป็นซีเมนต์ ไม่สว่าง คือ ถ้าไม่ชี้จุด ก็มองไม่เห็นเลย สีกลมกลืนกับพื้นมาก เป็นลูกค้างคาว ยังไม่ลืมตา ตัวยาวประมาณนิ้วครึ่ง (เราไม่เคยเห็นลูกค้างคาว หน้าเหมือนลูกหมาเลย น่ารักจัง) นอนคว่ำ ปีกสองข้างกางออก แปะคว่ำอยู่ที่พื้น เป็นจุดอันตรายเพราะ เป็นจุดที่ลมโกรกมาก และเป็นทางสัญจร เนื่องจากอยู่ตรงจุดเชื่อมระหว่างซอกตึกทางเข้าบ้านและลานจอดรถ สามีเราใส่ถุงมือแล้วยื่นทิชชู่ไปที่ข้างๆมันเหมือนจะหยิบ แต่มันก็เกาะทิชชู่เลย เลยเอาขึ้นมาหย่อนใส่ในกล่อง
ขณะปรึกษากันว่าทำไงดี เจ้าตัวเล็กก็ร้อง แล้วก็มีค้างคาวสองตัวบินผ่านไปมาแล้วก็ร้องด้วย จึงเดาว่าสองตัวนี้เป็นพ่อแม่มันแน่ๆ เราเอากล่องใส่เจ้าตัวเล็กไปวางบนฝากระโปรงรถ แล้วตัวเราไปแอบดู แต่เจ้าตัวเล็กมันเงียบแล้ว สงสัยอุ่นสบายในทิชชู่ เราเลยไปยองๆอยู่ข้างรถ เขย่าๆกล่องหน่อย มันก็ร้อง แล้วพ่อกะแม่ก็บินผ่านมาและร้องอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบมากๆ แต่พ่อแม่ก็ไม่ลงมาซะที มันโฉบมาใกล้มากๆเกือบถึงหลังคารถ แต่ไม่ลงจอด เราเลยไปหลบในรถที่อยู่ห่างไปประมาณสี่เมตร (ในขณะที่เราเขย่ากล่อง ยองข้างรถ หลบค้างคาว สามีเราก็จิ้มโทรศัพท์หาข้อมูลไป) เราก็ย้ายที่ลูกค้างคาวไปอีกนิด ตรงที่คิดว่ามันจะลงจอดได้ง่ายขึ้นก็ไม่เป็นผล (พ่อแม่ค้างคาวจะโฉบมาใกล้ทุกประมาณสิบนาที ไม่แลนดิ้ง บินผ่านไปที่อื่นแล้วกลับมาใหม่) สามีเราเริ่มตามัวด้วยความง่วง เราก็ด้วย คือสามีเราเค้าหาเจอแต่วิธีเลี้ยง จนเราเริ่มท้อใจว่าสงสัยต้องเลี้ยงหรือนี่ จนสุดท้ายเจอเว็บไซต์
https://batworld.org/what-to-do-if-you-found_a_bat/
ซึ่งข้อมูลจากที่นี่ทำให้เราช่วยค้างคาวได้สำเร็จค่ะ
ขออนุญาตแปลแบบกระชับ และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เพราะออริจินัลเค้าเน้นไปทางค้างคาวโต
ถ้าคุณเจอลูกค้างคาวที่พื้นนอกบ้าน
1) ดูให้ดีว่าปลอดภัยจากสัตว์นักล่า (บ้านเราก็มีประมาณ มด นก แมว) ยืนเฝ้าไว้
2) อย่า!!ใช้มือ ให้ใช้กิ่งไม้ยาวประมาณ2-3ฟุต แหย่ไปที่เท้าค้างคาว ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ค้างคาวจะทำท่าเกาะ (เราใช้ทิชชู่ยื่นไปมันก็เกาะ เราวางกล่องทิชชู่ลงข้างๆ แล้วเอามันลงกล่องเลย)
3) ค่อยๆเคลื่อนที่ค้างคาวไปยังต้นไม้ที่มีกิ่งไม้และใบไม้อย่างช้าๆและระวังมากๆ ควรเลือกกิ่งที่อยู่สูงจากพื้น8ฟุตขึ้นไป สำรวจดีๆว่าไม่มีสัตว์นักล่า มด รังนก มีใบไม้ช่วยพรางได้ (หลังจากที่เราทำแบบไม่รู้เรื่องอยู่นานมาก ก็เอากล่องไปที่ต้นแก้ว เป็นต้นแก้วอายุมาก กิ่งก้านเยอะ ลูงจากพื้นประมาณ4ฟุต ตอนนั้นตามัวแล้ว อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็ไม่เห็นว่าเป็น8ฟุต แต่คือ8ฟุตมันสำหรับค้างคาวโตให้มันบินขึ้นได้ อันนี้ลูกค้างคาว ก็ดูให้ดีๆชัวร์ๆว่าให้ปลอดภัยจากสัตว์อันตรายต่างๆ แล้วเราเอากล่องตะแคงเบาๆ ลากทิชชู่ออกมา ลูกค้างคาวก็ออกไปที่อยู่ที่กิ่งไม้ แล้วเราก็ย่องเบาๆเร็วๆจู๊ดออกมาขึ้นรถที่ห่างออกไปประมาณ5เมตร แล้วก็เห็นพ่อแม่บินมาร้องๆ กิ่งไม้เขย่าเล็กน้อย แล้วก็เงียบไป เรารออีกซัก5นาทีได้ ก็เดินไปดูที่ต้นไม้ พ่อแม่มารับลูกน้อยไปแล้วจ้าา เย่ แล้วเราและสามีก็ไปนอนอย่างเป็นสุข สลบเลยจะตีสี่แล้ว)
4) ถ้าค้างคาวไม่ขยับ อาจมีการบาดเจ็บภายใน ต้องรับการรักษา 5)โทรแจ้งศูนย์ (ข้อสี่และข้อห้านี้ใช้ไม่ได้กับสถานการณ์เราค่ะ แปลไว้เฉยๆ)
ถ้าทำตามข้อมูลจากเว็บแต่ต้น คงได้กลับไปนอนตั้งแต่ตีสองแล้ว 555 เอาใจช่วยทุกคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ
วิธีช่วยลูกค้างคาวที่ตกอยู่บนพื้น (แบ่งปันประสบการณ์ค่ะ)
แบบสรุป (ดูแบบละเอียดได้ข้างล่างค่ะ)
1) ค้างคาวมีเชื้อโรคเยอะ (อ่านมา) อย่าไปโดนตัวมัน ใส่ถุงมือตอนเข้าช่วยเหลือจะดีมาก
2) เอากิ่งไม้หรือทิชชู่หรือผ้า ยื่นไปให้ลูกค้างคาวเกาะ ทำค่อยๆ เบาๆ ช้าๆ แล้วเอาไปวางที่กิ่งไม้ใกล้ๆจุดเกิดเหตุ เลือกกิ่งไม้ที่อยู่สูงหน่อยนึง มีใบไม้ ไม่โล่งแจ้ง ที่สำคัญต้องเป็นกิ่งไม้ที่แข็งแรงพอรับน้ำหนักลูกค้างคาวและแม่มัน ไม่มีมด ไม่มีแมว นก หรือสัตว์ที่จะเป็นอันตรายแก่ลูกค้างคาว อยู่ในจุดที่แม่ค้างคาวเข้าถึงได้
3) ถ้าลูกค้างคาวร้องจะดีมาก ถ้าไม่ร้องให้เขย่าเล็กน้อย ให้ส่งเสียงหาพ่อแม่มัน ส่วนตัวเราก็ไปแอบดู
ข้อมูลอ้างอิงแบบเต็มสูบ ดูได้จาก https://batworld.org/what-to-do-if-you-found_a_bat/
ดูสั้นและง่ายเนอะคะ แต่ตอนเราทำ เราใช้เวลาสิริรวมได้สองชั่วโมงกว่า รวมการทดลองด้วย เรื่องมีอยู่ว่า (เผื่ออยากได้ข้อมูลจากบริบทในเหตุการณ์)
ตอนตีหนึ่งกว่า สามีเรามาปลุกเบาๆ เสียงอยู่ในลำคอ บอก ช่วยด้วย ช่วยด้วย พอทราบว่าเจอลูกค้างคาว เราและสามีก็เตรียม
-กล่องทิชชู่ที่ตัดด้านบนออกแล้ว
-พร้อมกระดาษทิชชู่ปูๆไว้ด้านใน
-ถุงมือยาง
-ไฟฉาย
แล้วตามกันลงไปข้างล่าง พื้นข้างล่างเป็นซีเมนต์ ไม่สว่าง คือ ถ้าไม่ชี้จุด ก็มองไม่เห็นเลย สีกลมกลืนกับพื้นมาก เป็นลูกค้างคาว ยังไม่ลืมตา ตัวยาวประมาณนิ้วครึ่ง (เราไม่เคยเห็นลูกค้างคาว หน้าเหมือนลูกหมาเลย น่ารักจัง) นอนคว่ำ ปีกสองข้างกางออก แปะคว่ำอยู่ที่พื้น เป็นจุดอันตรายเพราะ เป็นจุดที่ลมโกรกมาก และเป็นทางสัญจร เนื่องจากอยู่ตรงจุดเชื่อมระหว่างซอกตึกทางเข้าบ้านและลานจอดรถ สามีเราใส่ถุงมือแล้วยื่นทิชชู่ไปที่ข้างๆมันเหมือนจะหยิบ แต่มันก็เกาะทิชชู่เลย เลยเอาขึ้นมาหย่อนใส่ในกล่อง
ขณะปรึกษากันว่าทำไงดี เจ้าตัวเล็กก็ร้อง แล้วก็มีค้างคาวสองตัวบินผ่านไปมาแล้วก็ร้องด้วย จึงเดาว่าสองตัวนี้เป็นพ่อแม่มันแน่ๆ เราเอากล่องใส่เจ้าตัวเล็กไปวางบนฝากระโปรงรถ แล้วตัวเราไปแอบดู แต่เจ้าตัวเล็กมันเงียบแล้ว สงสัยอุ่นสบายในทิชชู่ เราเลยไปยองๆอยู่ข้างรถ เขย่าๆกล่องหน่อย มันก็ร้อง แล้วพ่อกะแม่ก็บินผ่านมาและร้องอีก เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบมากๆ แต่พ่อแม่ก็ไม่ลงมาซะที มันโฉบมาใกล้มากๆเกือบถึงหลังคารถ แต่ไม่ลงจอด เราเลยไปหลบในรถที่อยู่ห่างไปประมาณสี่เมตร (ในขณะที่เราเขย่ากล่อง ยองข้างรถ หลบค้างคาว สามีเราก็จิ้มโทรศัพท์หาข้อมูลไป) เราก็ย้ายที่ลูกค้างคาวไปอีกนิด ตรงที่คิดว่ามันจะลงจอดได้ง่ายขึ้นก็ไม่เป็นผล (พ่อแม่ค้างคาวจะโฉบมาใกล้ทุกประมาณสิบนาที ไม่แลนดิ้ง บินผ่านไปที่อื่นแล้วกลับมาใหม่) สามีเราเริ่มตามัวด้วยความง่วง เราก็ด้วย คือสามีเราเค้าหาเจอแต่วิธีเลี้ยง จนเราเริ่มท้อใจว่าสงสัยต้องเลี้ยงหรือนี่ จนสุดท้ายเจอเว็บไซต์ https://batworld.org/what-to-do-if-you-found_a_bat/
ซึ่งข้อมูลจากที่นี่ทำให้เราช่วยค้างคาวได้สำเร็จค่ะ
ขออนุญาตแปลแบบกระชับ และปรับให้เข้ากับสถานการณ์ เพราะออริจินัลเค้าเน้นไปทางค้างคาวโต
ถ้าคุณเจอลูกค้างคาวที่พื้นนอกบ้าน
1) ดูให้ดีว่าปลอดภัยจากสัตว์นักล่า (บ้านเราก็มีประมาณ มด นก แมว) ยืนเฝ้าไว้
2) อย่า!!ใช้มือ ให้ใช้กิ่งไม้ยาวประมาณ2-3ฟุต แหย่ไปที่เท้าค้างคาว ซึ่งเป็นธรรมชาติที่ค้างคาวจะทำท่าเกาะ (เราใช้ทิชชู่ยื่นไปมันก็เกาะ เราวางกล่องทิชชู่ลงข้างๆ แล้วเอามันลงกล่องเลย)
3) ค่อยๆเคลื่อนที่ค้างคาวไปยังต้นไม้ที่มีกิ่งไม้และใบไม้อย่างช้าๆและระวังมากๆ ควรเลือกกิ่งที่อยู่สูงจากพื้น8ฟุตขึ้นไป สำรวจดีๆว่าไม่มีสัตว์นักล่า มด รังนก มีใบไม้ช่วยพรางได้ (หลังจากที่เราทำแบบไม่รู้เรื่องอยู่นานมาก ก็เอากล่องไปที่ต้นแก้ว เป็นต้นแก้วอายุมาก กิ่งก้านเยอะ ลูงจากพื้นประมาณ4ฟุต ตอนนั้นตามัวแล้ว อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องก็ไม่เห็นว่าเป็น8ฟุต แต่คือ8ฟุตมันสำหรับค้างคาวโตให้มันบินขึ้นได้ อันนี้ลูกค้างคาว ก็ดูให้ดีๆชัวร์ๆว่าให้ปลอดภัยจากสัตว์อันตรายต่างๆ แล้วเราเอากล่องตะแคงเบาๆ ลากทิชชู่ออกมา ลูกค้างคาวก็ออกไปที่อยู่ที่กิ่งไม้ แล้วเราก็ย่องเบาๆเร็วๆจู๊ดออกมาขึ้นรถที่ห่างออกไปประมาณ5เมตร แล้วก็เห็นพ่อแม่บินมาร้องๆ กิ่งไม้เขย่าเล็กน้อย แล้วก็เงียบไป เรารออีกซัก5นาทีได้ ก็เดินไปดูที่ต้นไม้ พ่อแม่มารับลูกน้อยไปแล้วจ้าา เย่ แล้วเราและสามีก็ไปนอนอย่างเป็นสุข สลบเลยจะตีสี่แล้ว)
4) ถ้าค้างคาวไม่ขยับ อาจมีการบาดเจ็บภายใน ต้องรับการรักษา 5)โทรแจ้งศูนย์ (ข้อสี่และข้อห้านี้ใช้ไม่ได้กับสถานการณ์เราค่ะ แปลไว้เฉยๆ)
ถ้าทำตามข้อมูลจากเว็บแต่ต้น คงได้กลับไปนอนตั้งแต่ตีสองแล้ว 555 เอาใจช่วยทุกคนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ค่ะ