5 สิ่งที่เปลี่ยนไปหลังเลี้ยงแมว

 
การเลี้ยงแมว เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยคิดมาตลอด เพราะผมรู้สึกว่ามันขัดกับธรรมชาติของผม สำหรับผมเนี้ยหมาน่าจะถูกจริตมากกว่า แต่ติดอย่างเดียวคือหมาต้องใช้พลังงานและเวลาเลี้ยงเยอะมาก ๆ ประเมินความเสี่ยงแล้วก็ไม่น่าไหวแหละ 

หลังจากนั้นไม่นานก็มีใครบางคนทำให้รู้จักโลกของทาสแมว ว่ามันป่วนขนาดไหน โดยการตัดสินใจเลี้ยงได้ภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากเดินผ่านมัน 2-3 ครั้ง
แมวตัวแรกในชีวิตของผมชื่อ จิ๋วหลิว ! ตอนรับน้องมาเลี้ยง (เป็นศัพท์วงการทาสแมว แทนการซื้อ หรือรับมาเลี้ยงจากสถานอุปการะต่าง ๆ หรือตามข้างทาง) พี่จิ๋วตัวเล็กมาก ซนและซ่า และเมื่อเห็นของเล่นคือจะวิ่งไม่คิดชีวิต (ช่วงอายุประมาณ3เดือน) จิ๋วหลิวเกิดเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม 2016

ทั้งชีวิตผมผ่านแมวมาแล้ว 9 ตัว ซึ่งดูขัดกับคนที่บอกไม่คิดจะเลี้ยงแมวมาตอนแลกใช่ไหมครับ ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน สมัยเด็กผมเลี้ยงแมวชื่อไมโล ตัวถัด ๆ มาหลังจากจิ๋วหลิวก็จะมีชื่อ เฟรด , จอร์จ , ดุ๊กดิ๊ก , รอนนี่ , แฮรี่ , พอตเตอร์ , ไมนี่ (เฮอไมโอนี่) ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายหมดเลยหละครับ มีผู้หญิงคือ ไมนี่แค่ตัวเดียว
 
ผมเชื่อว่า การเข้ามาของบางสิ่ง มันจะส่งผลกับชีวิตเราเสมอ และแมวก็เช่นกัน ยิ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างแมวแล้วด้วยมันย่อมส่งไปกับทาสแน่นอนครับ และนี้คือ 5 เรื่องที่แมวเปลี่ยนผมครับ
 
1.       มีวินัยแต่ยืดหยุ่น

หากพูดถึงข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยงแมวนั้นก็มีมากมายครับ แต่รวม ๆ แล้วแมวเปลี่ยนให้เราเป็นคนที่มีวินัยระดับสุด แต่ก็มีความยืดหยุ่นสุด ๆ เช่นกัน เหตุผลเพราะว่า การที่คุณต้องตักกระบะทรายแมวทุกวัน มันเป็นเรื่องที่คุณต้องทำ ถ้าไม่ทำคุณจะพบกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ถึงแม้ผมจะใช้ทรายแมวยี่ห้อที่เปลี่ยนแมวผมเป็นกลิ่นคาราเมล (ยี่ห้อเพ็ตโตะซังครับแนะนำดีมาก) แล้วก็เถอะ แต่ถ้าทิ้งไว้ เกิน 3-4 วันรับรองว่ากลิ่นจะมาแน่ ๆ และด้วยความที่ผมเลี้ยงแมวเยอะด้วยครับ มันหนีไม่พ้น แน่ ๆ

การเลี้ยงแมวของแต่ละคนก็ต่างกันออกไปนะครับ แต่วิธีที่ผมเลี้ยงค่อนข้างให้อิสระกับแมวในเรื่องของเวลากินเวลาเข้าห้องน้ำ แมวเปลี่ยนผมให้รู้จักการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ดี พอเปลี่ยนสภาพแวดล้อมดีแล้วเดี่ยววินัยที่ดีมันก็จะตามมาเองครับ เพราะเวลาเข้าห้องน้ำของแมว แมวค่อนข้างรักสะอาดมาก เขาดูแลตัวเองได้เราไม่ต้องไปบังคับ แค่ตักทรายให้เขาก็พอ แต่ถ้าเราลืมตัก เจ้านายก็มักจะตามให้เราไปตักเสมอ

2.       จูงใจแต่ไม่บังคับ

แมวผมทั้ง 7 ตัว (ตัดดุ๊กดิ๊กที่ให้คนอื่นไปแล้ว ,และไมโลที่อยู่ในความทรงจำ) ค่อนข้างเป็นแมวที่ติดคนมากขัดกับนิสัยแมวนิดหน่อย แต่มันค่อนข้างจะติดคนครับ เหตุผลที่ติดคนเพราะว่า แฟนเก่าของผมและผมค่อนข้างจะติดแมวตั้งแต่มันยังเล็ก ๆ เธอและผมให้เวลากับแมวเยอะมาก ๆ ในแต่ละวัน ผมเชื่อในเรื่องที่เราเลี้ยงเขาแบบไหนเขาก็จะเป็นแบบนั้นเหมือนกันนะครับ เพราะว่ามันเกิดขึ้นกับผมและ ติดถึงขนาดที่วิ่งเล่นกันได้ 

              แต่ก็มีบางทีที่มันไม่สนใจเราเหมือนกันนะครับ #ก็แมวอะเนอะ แต่การที่เราจะให้แมวสนใจเราเวลาที่เขาไม่ได้ต้องการมันก็ไม่ดีเหมือนกันถ้าใช้วิธีในการบังคับ แมวเปลี่ยนผมให้ลองดีลกับปัญหานี้ครับ เหมือนฝึกทักษะในการเจรจาต่อรอง โน้มน้าวใจ แต่แน่นอนเราคงคุยกับมันไม่รู้เรื่อง

              มันยังมีสิ่งหนึ่งที่ทำได้ครับก็คือการ เอาสิ่งที่น้องชอบไปล่อ ซึ่งของที่ชอบของแต่ละตัวนั้นก็ต่างกันไปครับ อย่างแมวไทยก็จะไม่ค่อยอินกับกัญชาแมวมากนัก แต่ถ้าเป็นจิ๋วหลิวจะแทบบ้ากับกัญชาแมวเลยครับ แต่สิ่งที่มีความชอบเหมือน ๆ กันนั้นก็คือ ขนมแมวเลียครับ เราสามารถเปลี่ยนให้แมวหันมาสนใจเราได้ทันทีเมื่อมีแมวเลียครับ !
 
3.       มอบความรักแบบผู้ใหญ่ 

ความรักแบบผู้ใหญ่ที่หมายถึงคือความที่รักแบบมีวุฒิภาวะ คือแมวเนี้ยจะมีความรักตัวเองในประมาณนึงครับ แมวจะไม่มานั่งรอเราเวลาเราไปทำงาน หรือรอให้เราเล่นด้วยตลอดเวลา แมวสามารถดูแลชีวิตของเขาเองได้ถ้าเราดูแลสภาพแวดล้อมให้เขาแล้วอย่างดีพอ 

แต่ก็มีบางเวลาที่เขาต้องการจะเล่นกับเรา นอนทับบนตัวเรา เขาก็จะใช้เวลานั้นอย่างมีคุณภาพเช่นกัน น้องแสดงให้เห็นถึงแบบอย่างการรักตัวเอง ทำในสิ่งที่อยากทำ และการที่เขารักเราเช่นกันครับ เขาสามารถจัดสรรเวลาในแต่ละวันได้อย่างมีประโยชน์ โดยที่ไม่ได้มาตัวติดหรือวุ่นวายอะไรกับเราเยอะ แต่เขายังทำให้เรารู้สึกว่า เราสำคัญต่อชีวิตของพวกเขาเช่นกัน และเรารู้สึกได้ถึงความรักและความผูกพันธ์ที่เขามีให้แม้ในเวลาที่เขานั่งยู่ไกล ๆ และมองหน้าเราอยู่
 

4.       สังเกต และใส่ใจ สิ่งรอบข้าง

การที่เราอยู่กับน้อง น้องจะพูดภาษาเดียวกับเราไม่ได้แต่ น้องแมวแต่ละตัวจะมีวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันไป อย่างผมที่เลี้ยงอยู่ 7 ตัวจะเห็นท่าทีในการแสดงออกของแต่ละตัวค่อนข้างต่างกัน อย่างเวลาจิ๋วหลิวอยากเข้าห้องน้ำ เขาจะเดินมาสกิดเรา ส่วนรอนนี่หากเขาหิวข้าวก็ก็จะเดินเอาหัวมาชนเรา อะไรประมาณนี้ครับ

ซึ่งถ้าเราไม่หัดสังเกตท่าที เราจะไม่เข้าใจพวกเขาเลย ทั้ง7 ตัวนี้ของผมเปลี่ยนให้กลายเป็นคนช่างสังเกตมากยิ่งขึ้น และแค่สังเกตมันอาจจะยังไม่จบ พอเรารับรู้ถึงสัญญาณความผิดปกติของพวกเขาแล้วนั้น เราได้ฝึกความใส่ใจของพวกเขาด้วยครับ อย่างมีตอนนึงที่ ผมและแฟนเก่าผมรับไมนี่มาใหม่ ๆ ก็จะมีโรคติดมาด้วยก็คือหวัดแมว ตอนแรกก็ไม่รู้ครับเพราะไมนี่ดูปกติ มีการแยกกันวัคซีนให้เรียบร้อยนะครับ แต่ก็อาการป่วยก็เกิดขึ้นได้ แฟนเก่าผมค่อนข้างรักแมวและใส่ใจแมวเป็นพิเศษมาก ๆ ครับ การที่แมวเปลี่ยนไปนิดหน่อยเธอจะรู้ทันทีว่าแมวตัวไหนจะไม่สบาย เริ่มจากรอนนี่เล่นน้อยลง แยกตัว เธอรู้ทันทีว่ารอนนี่ป่วยและพาไปหาหมอด้วยความรวดเร็วครับ เราได้ทักษะสังเกตและใส่ใจมาจากแก๊งแมวนี้แหละครับ
 
5.       ระวังแต่ไม่ระแวง

ด้วยความที่แมวเป็นนักล่าโดยกำเนิด เขาสามารถกำจัดจิ้งจก หรือสัตว์ต่าง ๆ ที่เราไม่ต้องการได้อย่างเสมอ ๆ ด้วยสัญชาตญาณที่เขาตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมตลอด ๆ ก็ทำให้เขามีไหวพริบที่ดีมาก ๆ เช่นกันครับ แต่ถ้าเรามัวไประแวงแมวของเราเราก็ไม่สามารถทำให้เขาคุ้นเคยหรือสนิทกับเราได้ แต่มีสิ่งนึงที่ผมคิดว่าต้องดูสม่ำเสมอครับก็คือเรื่องของ 

              เล็บของแมว คือเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เราเจ็บตัวได้ การที่มันเปลี่ยนผมให้เป็นคนคอยหมั่นดูเรื่องของเล็บแมวเนี้ยก็เป็นการป้องกันตัวของผมอย่างหนึ่งเหมือนกัน เพราะเวลาเราเล่นกับแมว น้องไม่ได้มีความตั้งใจทำให้เราเจ็บหรอกครับ แต่แค่น้องเล็บยาวเฉย ๆ ก็เลยอาจจะเกิดบาดแผลระหว่างการกอดรัดฟัดเหวี้ยงกันบ้าง ดังนั้นแมวก็เปลี่ยนผมให้กลายเป็นคนที่ระวังต่อสิ่งต่าง ๆ แต่ไม่ระแวงต่อสิ่งใดครับ
 
 
ก็นี้คือ 5 ข้อที่ผมเปลี่ยนเมื่อเลี้ยงแมว หลายคนที่เลี้ยงแมวอาจจะมีสิ่งที่เรียนรู้ต่างกันบ้าง ก็อยากให้คอมเม้นมาได้นะครับว่าแมวเปลี่ยนอะไรในตัวคุณบ้างครับ 
 
“อยากได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำครับ”
อ้างอิง | https://www.bigdreamblog.com/2020/12/23/ชีวิตเปลี่ยนเพราะ-เลี้ย/
อ่าน คำคมอื่น ๆ หรือ บทความสร้างแรงบันดาลใจ