╰✨╮ฉันอาจเดินทางผ่านชีวิตนี้เพียงครั้งเดียว
ดังนั้นหากมีสิ่งดีใด ๆ ที่ฉันจะมอบให้เธอได้ จงปล่อยให้ฉันทำ
เพราะฉันอาจไม่ผ่านมาทางนี้อีก╰✨╮
เกล เซเยอส นักปรัชญา
นอกชายฝั่งคาไวของหมู่เกาะฮาวาย
สามหนุ่มเพื่อนสนิทล่องเรือใบกลางทะเล
บังเอิญพบเต่าว่ายหนีคมเขี้ยวฉลามเสือ
เจ้านักล่าดุร้ายงับกระดองหลายครั้ง แต่กระดองเหล็กสะบัดหลุด
แหวกน้ำทวนคลื่นโซเซมาข้างเรือ
"ให้ตายสิ ยังกับเรื่องอูราชิมะ ทาโร ถ้าช่วยเต่าจะพาไปวังมังกรมั้ย ?" หนุ่มผมดำพูดกึ่งเย้ากึ่งตื่นเต้น
"หยุดเพ้อเจ้อเถอะน่า อย่าช่วยดีกว่า ห้ามไปแทรกแทรงวิถีธรรมชาติ" หนุ่มผมหยักศกคิ้วขมวดย่น
"เต่าตัวเดียวผีเสื้อไม่ขยับปีกหรอก!" หนุ่มผมทองประชด
คลื่นกระเซ็นดังซ่า ฉลามไล่ต้อนกระหายหิว
สี่เท้าพุ้ยน้ำตรงหางเสือ ดิ้นรนกระโดดขึ้นทุลักทุเล
ทว่าข้ามไม่ได้ จึงพยายามงับเรือด้วยปากเกาะไว้เหนียวแน่น
เมื่อทั้งสามเห็นการสู้ชีวิตขาดใจ
ชายผมทองตัดสินใจเขยิบใกล้ อุ้มขึ้นอ่อนโยน
สองมือสัมผัสกระดองสั่นเทิ้ม แขนขากระตุกยุบยับ
เขาค่อย ๆ วางบนชูชีพ มันหายใจฟืดฟาดสำรวจรอบ ๆ
เมื่อเรือแล่นไกลจากฉลาม ก็ปล่อยลงใกล้แนวประการัง
ในระรอกคลื่นเล็ก ๆ เต่าตาโตว่ายคึกคัก
"ฉันโล่งใจที่ได้ช่วย ไม่งั้นคงผิดหวังภายหลัง" ชายผมทองพูดด้วยความภาคภูมิ
"ฉันก็ดีใจที่เราได้กู้ภัยครั้งยิ่งใหญ่!" สุ้มเสียงหนุ่มผมดำยินดี สีหน้าเปล่งปลั่งกลางแสงโพล้เพล้
"หึ ฉันเสียใจอยู่อย่าง คือไม่ได้เป็นคนช่วยมันเอง" ชายผมหยักศกยักไหล่จับตามองเพื่อนทั้งสอง
ทั้งสามหัวเราะเอาข้อศอกตีกัน
เจ้าเต่าว่ายเคียงข้างเหมือนขอบคุณ
ก่อนดำดิ่งหายลงคลื่นระยิบระยับ ขณะดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ไม่มีอะไรทำให้เรารู้สึกดี นอกจากได้รับความเอื้ออารีอย่างไม่คาดฝัน
สัตว์ทุกตัวต่างต้องการความเมตตา
การช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกโดยไม่คาดคิด ยิ่งนับเป็นประสบการณ์น่าอัศจรรย์
ตามสัญชาตญาณมนุษย์มักช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่เป็นภัยตนเองอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเหตุการณ์ตรงหน้านาทีชีวิตวิกฤติ อย่าเพิ่งสนเรื่องขัดวัฏจักร
มองในแง่ดี เราช่วยเต่ารอดตาย ส่วนฉลามก็ไม่ต้องฟันหักหรือกระดองติดคอ
PS 25 | เรื่องสั้น-สั้น เต่าผู้รอคอย
สามหนุ่มเพื่อนสนิทล่องเรือใบกลางทะเล
บังเอิญพบเต่าว่ายหนีคมเขี้ยวฉลามเสือ
เจ้านักล่าดุร้ายงับกระดองหลายครั้ง แต่กระดองเหล็กสะบัดหลุด
แหวกน้ำทวนคลื่นโซเซมาข้างเรือ
"ให้ตายสิ ยังกับเรื่องอูราชิมะ ทาโร ถ้าช่วยเต่าจะพาไปวังมังกรมั้ย ?" หนุ่มผมดำพูดกึ่งเย้ากึ่งตื่นเต้น
"หยุดเพ้อเจ้อเถอะน่า อย่าช่วยดีกว่า ห้ามไปแทรกแทรงวิถีธรรมชาติ" หนุ่มผมหยักศกคิ้วขมวดย่น
"เต่าตัวเดียวผีเสื้อไม่ขยับปีกหรอก!" หนุ่มผมทองประชด
คลื่นกระเซ็นดังซ่า ฉลามไล่ต้อนกระหายหิว
สี่เท้าพุ้ยน้ำตรงหางเสือ ดิ้นรนกระโดดขึ้นทุลักทุเล
ทว่าข้ามไม่ได้ จึงพยายามงับเรือด้วยปากเกาะไว้เหนียวแน่น
เมื่อทั้งสามเห็นการสู้ชีวิตขาดใจ
ชายผมทองตัดสินใจเขยิบใกล้ อุ้มขึ้นอ่อนโยน
สองมือสัมผัสกระดองสั่นเทิ้ม แขนขากระตุกยุบยับ
เขาค่อย ๆ วางบนชูชีพ มันหายใจฟืดฟาดสำรวจรอบ ๆ
เมื่อเรือแล่นไกลจากฉลาม ก็ปล่อยลงใกล้แนวประการัง
ในระรอกคลื่นเล็ก ๆ เต่าตาโตว่ายคึกคัก
"ฉันโล่งใจที่ได้ช่วย ไม่งั้นคงผิดหวังภายหลัง" ชายผมทองพูดด้วยความภาคภูมิ
"ฉันก็ดีใจที่เราได้กู้ภัยครั้งยิ่งใหญ่!" สุ้มเสียงหนุ่มผมดำยินดี สีหน้าเปล่งปลั่งกลางแสงโพล้เพล้
"หึ ฉันเสียใจอยู่อย่าง คือไม่ได้เป็นคนช่วยมันเอง" ชายผมหยักศกยักไหล่จับตามองเพื่อนทั้งสอง
ทั้งสามหัวเราะเอาข้อศอกตีกัน
เจ้าเต่าว่ายเคียงข้างเหมือนขอบคุณ
ก่อนดำดิ่งหายลงคลื่นระยิบระยับ ขณะดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ไม่มีอะไรทำให้เรารู้สึกดี นอกจากได้รับความเอื้ออารีอย่างไม่คาดฝัน
สัตว์ทุกตัวต่างต้องการความเมตตา
การช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกโดยไม่คาดคิด ยิ่งนับเป็นประสบการณ์น่าอัศจรรย์
ตามสัญชาตญาณมนุษย์มักช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่เป็นภัยตนเองอยู่แล้ว
โดยเฉพาะเหตุการณ์ตรงหน้านาทีชีวิตวิกฤติ อย่าเพิ่งสนเรื่องขัดวัฏจักร
มองในแง่ดี เราช่วยเต่ารอดตาย ส่วนฉลามก็ไม่ต้องฟันหักหรือกระดองติดคอ