(ต่อเนื่องมาจากกระทู้ "ลาบวน เกาะเล็กๆ กับ “ตีน” ที่มีทัศนคติ ที่เราไม่กล้าขัดใจ"
https://ppantip.com/topic/40401593 )
กลุ่มมอเตอร์ไซค์เกิดมาประมาณ 10 ปี หลังจากที่มอเตอร์ไซค์ถูกผลิตให้เป็นสินค้าที่สามารถหาซื้อได้
กลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดยังเป็นที่ถกเถียงกันระหว่าง San Francisco Motorcycle Club และ Yonkers MC ซึ่งจุดกำเนิดอยู่ในช่วงปี 1903 – 1904
ในสมัยนั้น กลุ่มมอเตอร์ไซค์ยังไม่สามารถสร้างความหายนะ หรือเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย แต่เป็นกลุ่มที่นัดกันเที่ยวมากกว่า เพราะความเร็วของมอเตอร์ไซค์ในสมัยนั้น ไม่ได้สูงกว่าจักรยานมากสักเท่าไหร่
เมื่อมาถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 สมรรถนะของมอเตอร์ไซค์ก็ถูกพัฒนาไปมาก และมากขึ้นไปอีกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลุ่มมอเตอร์ไซค์ก็มาพบกับจุดหักเหตรงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่เอง (history.co.uk)
จุดหักเหที่ว่าคือจุดเปลี่ยน เปลี่ยนจากกลุ่มมอเตอร์ไซค์ มาเป็นแก้งมอเตอร์ไซค์ มาเป็นเหล่าขบถ
บางคนสรุปเอาว่าจุดเปลี่ยนนี้มาจากชาวอเมริกันที่ผ่านสงคราม เห็นความตายมาแบบต่อหน้าต่อตาแบบจะจะ ชัดๆ เคลียๆ เขาจึงต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่ต้องการกฎระเบียบและข้อจำกัดใดๆในชีวิตอีก รวมไปถึงข้อจำกัดด้านความเร็ว และข้อจำกัดด้านกฎหมาย พวกเขากลับมา รอดชีวิตมาได้และต้องการจะเป็นขบถ
บางคนบอกว่า ชาวอเมริกันที่กลับจากสงครามเสพย์ติดอะดรีนาลินจากเหตการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามรบ ทำให้ต้องการความเสี่ยง หรือความตี่นเต้นอยู่เสมอ และการแหกกฎหรือการเป็นขบถ เป็นการทำให้อะดรีนาลีนในตัวพลุ่งพล่าน
ขณะที่คนส่วนใหญ่ หลังจากกลับมาจากสงครามก็แต่งงาน ซื้อบ้าน ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Baby Boomer แต่กับบางคน ก็มองว่าการจำนองบ้าน การแต่งงาน การมีครอบครัว คือสิ่งที่ตรงข้ามกับอิสรเสรีชัดๆ ประกอบกับยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาไม่ได้รับความบอบช้ำใดๆเลยจากสงคราม เศรษฐกิจบูมมาก มีการตัดถนนเชื่อมต่อระหว่างรัฐอย่างมหาศาล มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ใหญ่ก็ราคาไม่แพง และประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนที่ราบเรียนยาวไกล เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สุดยอด และเป็นสิ่งที่ไขว่คว้าได้ไม่ยาก ...
การขี่มอเตอร์ไซค์บน highway นี่แหล่ะคืออิสรเสรีอย่างแท้จริง
กรกฏาคม 1947 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ในงานมอเตอร์ไซค์ที่จัดโดยสมาพันธ์มอเตอร์ไซค์ของอเมริกา (AMA – American motorcycle associate) ซึ่งจัดเป็นประจำอย่างต่อเนื่องมา 10 ปี ในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย มันเป็นงานที่ผู้คนมาใช้เวลาดีๆกับมอเตอร์ไซค์ ใช้เวลาสนุกสนานไปกับมอเตอร์ไซค์ แต่ในปีนั้นบางคนรู้สึกว่า มันสนุกน้อยไปหน่อย
จากหนังสือ Life Magazine บอกว่า สมาชิกบางส่วนของ Pissed Off Bastards Motorcycle Club ได้สร้างความสนุกเพิ่มขึ้นโดยการแข่งรถมอเตอร์ไซค์กันบนถนน ฝ่าไฟแดง และยังเพิ่มความสนุกด้วยการทุบกระจกร้านค้า ทำลายข้าวของ และยึดเมืองเล็กๆเมืองนั้นซะเลย
ตำรวจก็เข้ามาช่วยและจับชาวมอเตอร์ไซค์ที่รักความสนุกสนานมากกว่าคนอื่นๆนั้นได้หลายคน ส่วนใหญ่เมาเละเทะ และจุดนี้เองคือจุดที่ทำให้โลกได้รับรู้ภาพลักษณ์ของแก้งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย แก้งมอเตอร์ไซค์ขบถ
และหลังจากความวุ่นวายนั้นเอง ประธานของสมาพันธ์ก็ได้กล่าวประนามออกสื่อว่า กลุ่มมอเตอร์ไซค์ 99% เป็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ดี แต่มีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นแก้งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย ไอ้พวกขบถ 1% (The One Percenter) นั่นเอง
ในปี 1948 หนึ่งปีถัดมาหลังจากเหตการณ์นั้น สมาชิกที่รักความสนุกมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆของ Pissed Off Bastards Motorcycle Club ก็มองว่า ไอ้พวกขบถ 1% นี่แหล่ะคือ LIFE STYLE สุดยอดชัดๆ มันคือนิยามของคำว่าขบถ กูนี่แหล่ะเป็นพวก 1% กูนี่แหล่ะไม่ธรรมดา และกูไม่ใช่พวก 99% ที่เหลือ และได้ตัดสินใจแยกออกจากกลุ่ม Pissed Off Bastards Motorcycle Club เพื่อก่อตั้งกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขบถ 1%ขึ้นมา และเป็นกลุ่มที่เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมขบถของมอเตอร์ไซค์อเมริกันมาจนถึงทุกวันนี้ กลุ่มนี้มีชื่อที่ทุกคนคุ้นหูเป็นอย่างดีว่า Hells Angels
และที่มาของสัญลักษณ์ที่ติดเสื้อ 1%ER มาจากตรงนี้เอง นั่นคือ การประณามของ AMA บวกกับการชื่นชมการประนามของพวกขบถทั้งหลาย
เรามาดูเหตการณ์สำคัญสำคัญ ของเหล่าขบถ Hells Angels กัน ซึ่งก็มีในปี 1963 เหล่าขบถ Hells Angels ขึ่มอเตอร์ไซค์เข้าไปยึดเมืองเมืองหนึ่ง และทำอะไรก็ตามที่อยากทำ
หลังจากนั้นอีก 1 ปี ก็โดนคดีพรากผู้เยาว์โดยสมาชิก 4 คนของขบถ Hells Angels และถึงแม้ว่าคดีข่มขืนจะถูกยกฟ้องในอีก 1 ปีถัดมา มันก็พอจะเป็นที่ประจักษ์ว่า พวก 1%ER Hells Angels ทำหน้าที่ขบถของตัวเองได้ดีแค่ไหนในสายตาของคนทั่วไป
หลังจากนั้นก็มีเหตการณ์ที่ถูกจารึกไปตลอดกาลเกิดขึ้น ...
นั่นก็คือเหตการณ์ในปี 1969 ที่ concert ของ Rolling Stone ซึ่งเหล่าขบถ Hells Angels ได้รับการเทียบเชิญจาก Rolling Stone ให้ทำหน้าที่เป็น Body Guard !!!
ดูแล้วเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับความหายนะจริงๆ
แล้วมันก็หายนะจริงๆ
เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น ขบถ Hells Angels ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เอามีดเสียบคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้าได้เกือบจะทันที คว้าปืนจากมือ และลากตัวออกไป จากนั้นคนดูบางส่วนก็เข้ามาร่วมกันรุมตื้บต่อ กล้องก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม จับภาพเหตการณ์เกือบทุกอย่างเอาไว้ได้ และ Hells Angels คนที่ทำหน้าที่เสียบอันทรงเกียร์ตินี้ ก็ต้องไปขึ้นศาลด้วยคดีฆ่าคนตาย ...
มันเป็นคดีฆาตรกรรมแน่ๆอยู่แล้ว แต่ Hells Angels ไม่ชอบความมีอยู่ของกฎหมาย เขาเป็นขบถต่อกฎหมาย เขาไม่ได้ตอบว่ามันเป็นการป้องกันตัว หรือเหตสุดวิสัย หรืออะไรก็ตามที่เป็นภาษาทางกฎหมาย เขาเป็นขบถ 1%ER ... เขาตอบอย่างชัดเจนตาม Life Style ของเหล่าขบถนอกกฎหมายว่า มันเอาปืนออกมา กูก็เอามีดเสียบมัน ทุกอย่างก็ถูกต้องแล้วนี่หว่า ...
เหตการณ์ต่างๆ ที่ Hells Angels ได้ทำขึ้นในอดีต ทำให้เขาเป็นที่รักบ้าง เป็นที่ชังบ้าง ทั้งโดยอเมริกันชน และโดยของรัฐบาลอเมริกัน เรื่องราวเหล่านี้ สนุกสนาน ตื่นเต้น น่าตกใจ และแน่นอน ขบถ แต่นั่นมันก็เป็นอดีตที่ผ่านไปนานพอสมควรแล้ว... ... ปัจจุบันเล่า ?
แก้งมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ตัวย่อว่า MG (Motorcycle Gang) ถูกขอร้องให้เปลี่ยนเป็น MC (Motorcycle Club) และก็ไม่ได้เป็นอันธพาลหรือทำตัวนอกกฎหมายอย่างนั้นอีกต่อไป แต่กลับเข้มข้นในการเลือกสมาชิก และคัดสมาชิกเข้าสู่กลุ่มอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้คนประเภทเดียวกันเข้ามา แต่ความรู้สึก กลิ่นอาย ของความเป็นขบถ ซึ่งกลายมาเป็นวัฒนธรรมอเมริกันที่มีเสน่ห์ ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้กฏระเบียบของกลุ่มที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เมื่อพวกเราได้มอเตอร์ไซค์มา ก็พยายามจะหากลุ่มเข้า ก็ปรากฏว่า บางกลุ่มจะขี่มอเตอร์ไซค์กันตอนเย็น และรักการดื่มอีกต่างหาก บางกลุ่มก็มีกฎระเบียบบังคับว่าต้องทำอะไรบ้าง บางกลุ่มก็บังคับกลายๆให้ขี่ไปเป็นกลุ่มโดยใช้ความเร็วให้ทันกับคนที่ขี่นำ บางกลุ่มเมื่อเข้าไปแล้วก็เป็นน้องเล็ก มีตำแหน่งความอาวุโสให้ไต่เต้าขึ้นไป ทั้งหมดให้ความรู้สึกเหมือนกับไปทำงาน ต้องมีกฏระเบียบ มีข้อผูกมัด ไม่ให้ความรู้สึกอิสรเสรีที่ได้จากมอเตอร์ไซค์ (อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของพวกเรา) เมื่อสรุปได้อย่างนี้แล้ว จึงชักชวนกับเพื่อนและพี่ที่รู้จัก รวม 3 คน ก่อกำเนิดกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ชื่อ Breakfast Biker Club ขึ้นมา
กลุ่มนี้ทำตรงข้ามกับกลุ่มส่วนใหญ่ ... ใช่ เราเป็นขบถ เราเป็น 1%ER ... และจะเรียกว่าเราเป็น ขบถของขบถก็คงไม่ผิดนัก
ขณะที่กลุ่มอื่นมีกฏระเบียบคอยบังคับ กลุ่ม Breakfast Biker Club ไม่มีกฎระเบียบใดๆ
ขณะที่กลุ่มอื่นมักจะขี่กันตอนสาย บ่ายหรือเย็น กลุ่ม Breakfast Biker Club ขี่กันตอนเช้าตรู่
ขณะที่กลุ่มอื่นมีหัวหน้ากลุ่ม และมีตำแหน่งต่างๆในกลุ่ม ขบถBreakfast Biker Club ไม่มีตำแหน่งใดๆในกลุ่ม
กลุ่มอื่นมีสมาชิกที่ชัดเจนว่ามีใครบ้างอยู่ในกลุ่มบ้าง ขบถ Breakfast Biker Club ยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าใครเป็นสมาชิก และใครไม่ได้เป็นบ้าง
กลุ่มอื่นบังคับให้ขี่กันเป็นกลุ่ม ใช้ความเร็วให้ทันกับคนขี่นำ ขบถ Breakfast Biker Club ให้ขี่ในความเร็วของใครของมัน ในความเร็วที่จะประสบกับความรื่นรมณ์สูงสุด ประสบกับความพึงพอใจสูงสุด บนปลอดภัยสูงสุดของตัวเอง
... ใช่ เราเป็น ขบถของพวกขบถอีกที
ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่ม Breakfast Biker Club อยู่ใน LINE 54 คน อยู่ในกลุ่มใน FACEBOOK 212 คน
ภายในระยะเวลาเริ่มต้นเมื่อ 2016 เพียงไม่ถึง 3 ปี เรามีสมาชิกได้มากถึงเพียงนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรมาก
ทุกเช้าวันเสาร์ เราจะนัดกันไปขี่มอเตอร์ไซค์ และเนื่องจากเรานัดกันเช้ามาก บางทีก็หกโมงเช้า ก็เลยพบกับพวก ขบถ ของขบถ ของขบถ อีกที นั่นก็คือ
พวกไปกันเช้าขนาดนี้ กูขอเป็นขบถ
สมาชิกเป็นร้อย นัดขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกันทีไร (
) มาไม่เกิน 4 คัน .....
กลุ่มขบถผู้ยิ่งใหญ่ Breakfast Biker Club 555555555555
https://www.facebook.com/groups/299123683835762/
https://www.facebook.com/redmotorcyclepb
เฮลล์สเองเจิลส์ (Hells Angels) ขบถผู้ยิ่งใหญ่ 1%ER กับกลุ่มมอเตอร์ไซค์ล้านนาเบรคฟัสท์ไบเกอร์คลับ (Breakfast Biker Club)
https://ppantip.com/topic/40401593 )
กลุ่มมอเตอร์ไซค์เกิดมาประมาณ 10 ปี หลังจากที่มอเตอร์ไซค์ถูกผลิตให้เป็นสินค้าที่สามารถหาซื้อได้
กลุ่มที่เก่าแก่ที่สุดยังเป็นที่ถกเถียงกันระหว่าง San Francisco Motorcycle Club และ Yonkers MC ซึ่งจุดกำเนิดอยู่ในช่วงปี 1903 – 1904
ในสมัยนั้น กลุ่มมอเตอร์ไซค์ยังไม่สามารถสร้างความหายนะ หรือเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย แต่เป็นกลุ่มที่นัดกันเที่ยวมากกว่า เพราะความเร็วของมอเตอร์ไซค์ในสมัยนั้น ไม่ได้สูงกว่าจักรยานมากสักเท่าไหร่
เมื่อมาถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 สมรรถนะของมอเตอร์ไซค์ก็ถูกพัฒนาไปมาก และมากขึ้นไปอีกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลุ่มมอเตอร์ไซค์ก็มาพบกับจุดหักเหตรงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นี่เอง (history.co.uk)
จุดหักเหที่ว่าคือจุดเปลี่ยน เปลี่ยนจากกลุ่มมอเตอร์ไซค์ มาเป็นแก้งมอเตอร์ไซค์ มาเป็นเหล่าขบถ
บางคนสรุปเอาว่าจุดเปลี่ยนนี้มาจากชาวอเมริกันที่ผ่านสงคราม เห็นความตายมาแบบต่อหน้าต่อตาแบบจะจะ ชัดๆ เคลียๆ เขาจึงต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่ต้องการกฎระเบียบและข้อจำกัดใดๆในชีวิตอีก รวมไปถึงข้อจำกัดด้านความเร็ว และข้อจำกัดด้านกฎหมาย พวกเขากลับมา รอดชีวิตมาได้และต้องการจะเป็นขบถ
บางคนบอกว่า ชาวอเมริกันที่กลับจากสงครามเสพย์ติดอะดรีนาลินจากเหตการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามรบ ทำให้ต้องการความเสี่ยง หรือความตี่นเต้นอยู่เสมอ และการแหกกฎหรือการเป็นขบถ เป็นการทำให้อะดรีนาลีนในตัวพลุ่งพล่าน
ขณะที่คนส่วนใหญ่ หลังจากกลับมาจากสงครามก็แต่งงาน ซื้อบ้าน ต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข และเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Baby Boomer แต่กับบางคน ก็มองว่าการจำนองบ้าน การแต่งงาน การมีครอบครัว คือสิ่งที่ตรงข้ามกับอิสรเสรีชัดๆ ประกอบกับยุคสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อเมริกาไม่ได้รับความบอบช้ำใดๆเลยจากสงคราม เศรษฐกิจบูมมาก มีการตัดถนนเชื่อมต่อระหว่างรัฐอย่างมหาศาล มอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ใหญ่ก็ราคาไม่แพง และประสบการณ์ขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนที่ราบเรียนยาวไกล เป็นประสบการณ์ใหม่ที่สุดยอด และเป็นสิ่งที่ไขว่คว้าได้ไม่ยาก ...
การขี่มอเตอร์ไซค์บน highway นี่แหล่ะคืออิสรเสรีอย่างแท้จริง
กรกฏาคม 1947 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ในงานมอเตอร์ไซค์ที่จัดโดยสมาพันธ์มอเตอร์ไซค์ของอเมริกา (AMA – American motorcycle associate) ซึ่งจัดเป็นประจำอย่างต่อเนื่องมา 10 ปี ในเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย มันเป็นงานที่ผู้คนมาใช้เวลาดีๆกับมอเตอร์ไซค์ ใช้เวลาสนุกสนานไปกับมอเตอร์ไซค์ แต่ในปีนั้นบางคนรู้สึกว่า มันสนุกน้อยไปหน่อย
จากหนังสือ Life Magazine บอกว่า สมาชิกบางส่วนของ Pissed Off Bastards Motorcycle Club ได้สร้างความสนุกเพิ่มขึ้นโดยการแข่งรถมอเตอร์ไซค์กันบนถนน ฝ่าไฟแดง และยังเพิ่มความสนุกด้วยการทุบกระจกร้านค้า ทำลายข้าวของ และยึดเมืองเล็กๆเมืองนั้นซะเลย
ตำรวจก็เข้ามาช่วยและจับชาวมอเตอร์ไซค์ที่รักความสนุกสนานมากกว่าคนอื่นๆนั้นได้หลายคน ส่วนใหญ่เมาเละเทะ และจุดนี้เองคือจุดที่ทำให้โลกได้รับรู้ภาพลักษณ์ของแก้งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย แก้งมอเตอร์ไซค์ขบถ
และหลังจากความวุ่นวายนั้นเอง ประธานของสมาพันธ์ก็ได้กล่าวประนามออกสื่อว่า กลุ่มมอเตอร์ไซค์ 99% เป็นกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ดี แต่มีเพียง 1% เท่านั้นที่เป็นแก้งมอเตอร์ไซค์นอกกฎหมาย ไอ้พวกขบถ 1% (The One Percenter) นั่นเอง
ในปี 1948 หนึ่งปีถัดมาหลังจากเหตการณ์นั้น สมาชิกที่รักความสนุกมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆของ Pissed Off Bastards Motorcycle Club ก็มองว่า ไอ้พวกขบถ 1% นี่แหล่ะคือ LIFE STYLE สุดยอดชัดๆ มันคือนิยามของคำว่าขบถ กูนี่แหล่ะเป็นพวก 1% กูนี่แหล่ะไม่ธรรมดา และกูไม่ใช่พวก 99% ที่เหลือ และได้ตัดสินใจแยกออกจากกลุ่ม Pissed Off Bastards Motorcycle Club เพื่อก่อตั้งกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขบถ 1%ขึ้นมา และเป็นกลุ่มที่เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมขบถของมอเตอร์ไซค์อเมริกันมาจนถึงทุกวันนี้ กลุ่มนี้มีชื่อที่ทุกคนคุ้นหูเป็นอย่างดีว่า Hells Angels
และที่มาของสัญลักษณ์ที่ติดเสื้อ 1%ER มาจากตรงนี้เอง นั่นคือ การประณามของ AMA บวกกับการชื่นชมการประนามของพวกขบถทั้งหลาย
เรามาดูเหตการณ์สำคัญสำคัญ ของเหล่าขบถ Hells Angels กัน ซึ่งก็มีในปี 1963 เหล่าขบถ Hells Angels ขึ่มอเตอร์ไซค์เข้าไปยึดเมืองเมืองหนึ่ง และทำอะไรก็ตามที่อยากทำ
หลังจากนั้นอีก 1 ปี ก็โดนคดีพรากผู้เยาว์โดยสมาชิก 4 คนของขบถ Hells Angels และถึงแม้ว่าคดีข่มขืนจะถูกยกฟ้องในอีก 1 ปีถัดมา มันก็พอจะเป็นที่ประจักษ์ว่า พวก 1%ER Hells Angels ทำหน้าที่ขบถของตัวเองได้ดีแค่ไหนในสายตาของคนทั่วไป
หลังจากนั้นก็มีเหตการณ์ที่ถูกจารึกไปตลอดกาลเกิดขึ้น ...
นั่นก็คือเหตการณ์ในปี 1969 ที่ concert ของ Rolling Stone ซึ่งเหล่าขบถ Hells Angels ได้รับการเทียบเชิญจาก Rolling Stone ให้ทำหน้าที่เป็น Body Guard !!!
ดูแล้วเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับความหายนะจริงๆ
แล้วมันก็หายนะจริงๆ
เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น ขบถ Hells Angels ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม เอามีดเสียบคนที่ยิงปืนขึ้นฟ้าได้เกือบจะทันที คว้าปืนจากมือ และลากตัวออกไป จากนั้นคนดูบางส่วนก็เข้ามาร่วมกันรุมตื้บต่อ กล้องก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม จับภาพเหตการณ์เกือบทุกอย่างเอาไว้ได้ และ Hells Angels คนที่ทำหน้าที่เสียบอันทรงเกียร์ตินี้ ก็ต้องไปขึ้นศาลด้วยคดีฆ่าคนตาย ...
มันเป็นคดีฆาตรกรรมแน่ๆอยู่แล้ว แต่ Hells Angels ไม่ชอบความมีอยู่ของกฎหมาย เขาเป็นขบถต่อกฎหมาย เขาไม่ได้ตอบว่ามันเป็นการป้องกันตัว หรือเหตสุดวิสัย หรืออะไรก็ตามที่เป็นภาษาทางกฎหมาย เขาเป็นขบถ 1%ER ... เขาตอบอย่างชัดเจนตาม Life Style ของเหล่าขบถนอกกฎหมายว่า มันเอาปืนออกมา กูก็เอามีดเสียบมัน ทุกอย่างก็ถูกต้องแล้วนี่หว่า ...
เหตการณ์ต่างๆ ที่ Hells Angels ได้ทำขึ้นในอดีต ทำให้เขาเป็นที่รักบ้าง เป็นที่ชังบ้าง ทั้งโดยอเมริกันชน และโดยของรัฐบาลอเมริกัน เรื่องราวเหล่านี้ สนุกสนาน ตื่นเต้น น่าตกใจ และแน่นอน ขบถ แต่นั่นมันก็เป็นอดีตที่ผ่านไปนานพอสมควรแล้ว... ... ปัจจุบันเล่า ?
แก้งมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ตัวย่อว่า MG (Motorcycle Gang) ถูกขอร้องให้เปลี่ยนเป็น MC (Motorcycle Club) และก็ไม่ได้เป็นอันธพาลหรือทำตัวนอกกฎหมายอย่างนั้นอีกต่อไป แต่กลับเข้มข้นในการเลือกสมาชิก และคัดสมาชิกเข้าสู่กลุ่มอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้คนประเภทเดียวกันเข้ามา แต่ความรู้สึก กลิ่นอาย ของความเป็นขบถ ซึ่งกลายมาเป็นวัฒนธรรมอเมริกันที่มีเสน่ห์ ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ภายใต้กฏระเบียบของกลุ่มที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เมื่อพวกเราได้มอเตอร์ไซค์มา ก็พยายามจะหากลุ่มเข้า ก็ปรากฏว่า บางกลุ่มจะขี่มอเตอร์ไซค์กันตอนเย็น และรักการดื่มอีกต่างหาก บางกลุ่มก็มีกฎระเบียบบังคับว่าต้องทำอะไรบ้าง บางกลุ่มก็บังคับกลายๆให้ขี่ไปเป็นกลุ่มโดยใช้ความเร็วให้ทันกับคนที่ขี่นำ บางกลุ่มเมื่อเข้าไปแล้วก็เป็นน้องเล็ก มีตำแหน่งความอาวุโสให้ไต่เต้าขึ้นไป ทั้งหมดให้ความรู้สึกเหมือนกับไปทำงาน ต้องมีกฏระเบียบ มีข้อผูกมัด ไม่ให้ความรู้สึกอิสรเสรีที่ได้จากมอเตอร์ไซค์ (อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของพวกเรา) เมื่อสรุปได้อย่างนี้แล้ว จึงชักชวนกับเพื่อนและพี่ที่รู้จัก รวม 3 คน ก่อกำเนิดกลุ่มมอเตอร์ไซค์ที่ชื่อ Breakfast Biker Club ขึ้นมา
กลุ่มนี้ทำตรงข้ามกับกลุ่มส่วนใหญ่ ... ใช่ เราเป็นขบถ เราเป็น 1%ER ... และจะเรียกว่าเราเป็น ขบถของขบถก็คงไม่ผิดนัก
ขณะที่กลุ่มอื่นมีกฏระเบียบคอยบังคับ กลุ่ม Breakfast Biker Club ไม่มีกฎระเบียบใดๆ
ขณะที่กลุ่มอื่นมักจะขี่กันตอนสาย บ่ายหรือเย็น กลุ่ม Breakfast Biker Club ขี่กันตอนเช้าตรู่
ขณะที่กลุ่มอื่นมีหัวหน้ากลุ่ม และมีตำแหน่งต่างๆในกลุ่ม ขบถBreakfast Biker Club ไม่มีตำแหน่งใดๆในกลุ่ม
กลุ่มอื่นมีสมาชิกที่ชัดเจนว่ามีใครบ้างอยู่ในกลุ่มบ้าง ขบถ Breakfast Biker Club ยังไม่ค่อยแน่ใจเลยว่าใครเป็นสมาชิก และใครไม่ได้เป็นบ้าง
กลุ่มอื่นบังคับให้ขี่กันเป็นกลุ่ม ใช้ความเร็วให้ทันกับคนขี่นำ ขบถ Breakfast Biker Club ให้ขี่ในความเร็วของใครของมัน ในความเร็วที่จะประสบกับความรื่นรมณ์สูงสุด ประสบกับความพึงพอใจสูงสุด บนปลอดภัยสูงสุดของตัวเอง
... ใช่ เราเป็น ขบถของพวกขบถอีกที
ปัจจุบันมีสมาชิกในกลุ่ม Breakfast Biker Club อยู่ใน LINE 54 คน อยู่ในกลุ่มใน FACEBOOK 212 คน
ภายในระยะเวลาเริ่มต้นเมื่อ 2016 เพียงไม่ถึง 3 ปี เรามีสมาชิกได้มากถึงเพียงนี้ ถือว่ายิ่งใหญ่เกรียงไกรมาก
ทุกเช้าวันเสาร์ เราจะนัดกันไปขี่มอเตอร์ไซค์ และเนื่องจากเรานัดกันเช้ามาก บางทีก็หกโมงเช้า ก็เลยพบกับพวก ขบถ ของขบถ ของขบถ อีกที นั่นก็คือ
พวกไปกันเช้าขนาดนี้ กูขอเป็นขบถ
สมาชิกเป็นร้อย นัดขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกันทีไร () มาไม่เกิน 4 คัน .....
กลุ่มขบถผู้ยิ่งใหญ่ Breakfast Biker Club 555555555555
https://www.facebook.com/groups/299123683835762/
https://www.facebook.com/redmotorcyclepb