ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับปี 2021 ที่จะถึงในอีกไม่กี่วัน ก็ขอให้เป็นปีที่ดี
สำหรับปี 2020 ก็คงเป็นปีที่สุดโหดเหี้ยมสุดหิน สำหรับพวกเราทุกๆคน เพราะตั้งแต่ต้นปีก็มีเรื่องให้เราตามลุ้นกันทุกเวลาหลังอาหาร แน่นอนว่าหนึ่งในเรื่องนั้นก็คงหนีไม่พ้นโควิด ถึงขั้นต้อง stay at home กันยาวๆ ส่วนตัวผมยังคงต้องไปทำงานอยู่ เพราะทำธุรกิจส่วนตัว (แบบส่วนตัวมาก เพราะทำอยู่คนเดียวจริงๆ ฮ่าาาา) หลังโควิดผ่านมาได้ซักระยะนึงประมาณเดือนพฤษภาคม รายได้ของร้านก็เริ่มหายไปอย่างมีนัยยะสำคัญ คือโดนกันทุกคนแหละ อยู่ที่ว่าใครจะมาก ใครจะน้อย
"รายได้น้อยลง รายจ่ายเท่าเดิม" ก็เกิดเป็นโกโก้ครั้นซ์สิครับ ฮ่าาา คำถามในตอนนั้นคือเราจะผ่านช่วงเวลานี้ได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจ SME รายเล็กๆอย่างเรา ที่มีข้อจำกัดมากมาย ฮ่าาาา ผมเองก็คิดออกอยู่ได้ไม่กี่อย่าง
1. ทำการตลาดเพิ่ม คืองี้นะ โควิดเล่นเอาการค้าขายชะงักกันทั่วโลก เอ็งจะไปส่งเสริมการขายใคร - ข้อนี้ผมปัดตกไปก่อน
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ เข้! ยิ่งกว่ามีแผนก R&D คือคนมันว่างก็ต้องหาทำกันไป ผมเลยพยายามมองหาอะไรกันน้า! จะพาข้าพบทางสว่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมทำธุรกิจเกี่ยวกับพวกสิ่งพิมพ์ งานอิงเจ็ท ส่วนใหญ่เป็นพวกฉลากสินค้า
2.1 what, where, when, who, why และ how (5W1H ก็มา ฮ่าาาา) ตอนนั้นผมมองว่าการแข่งขันในวงการของผม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะแข่งขันกันเรื่องราคา (มันก็เหมือนธุรกิจอื่นแหละ) แต่เรามองว่าเราไม่สามารถแข่งขันกับผู้อื่นในเรื่องราคาได้ เนื่องจากกำลังการผลิตที่ต่ำกว่าเจ้าอื่นมาก ร่วมถึงต้นทุนในการผลิต ผมเลยมองหา product ใหม่ไปเลย ฮ่าาาาาา
2.2 product ใหม่? ตอนนั้นผมพยายามที่มองหาสินค้าและบริการใหม่ ที่ยังจะพอเกี่ยวกับงานในสายที่ทำอยู่ คืออุตส่าห์อยู่กับงานนี้มาเป็นปีแล้วอ่ะ จะทิ้งไปเลยก็เสียเปล่าเกินไป เลยค้นหาไปเรื่อยๆว่า "อะไรจะส่งเสริมเราขึ้นไปได้กว่านี้" หลังจากผ่านการค้นหาอยู่นานก็เจอสิ่งที่จะพัฒนางานขึ้นไปอีกขั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือตอนนี้เรารับพิมพ์ฉลากสินค้าอย่างเดียวใช่แม๊ะ แล้วถ้าเราสามารถสร้างโมเดลสินค้าขึ้นมาได้ด้วยหล่ะ
2.3 หลังจากได้โจทย์ในการทำงาน ก็เริ่มค้นหาวิธีที่ในการทำงาน
3. self-learning
อะไรครับเนี่ย! อยู่ๆคุณมาซงมาเซล ฮ่าาาา คืออีทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเองในยุคนี้ ถ้าเปรียบเป็นการสร้างบ้าน ทักษะนี้ก็คือคานอะ ก็คือต้องมีทุกคน! แต่ๆคุณลองจินตรการในสภาพวะที่แบบ "เราจะทำอย่างไรกับชีวิตในตอนนี้ดีวะ" ในขณะนั้นอ่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะที่เราจะกล้าฝึกในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน แล้วจะแก้ไขอย่างไร
3.1 self-esteem จะช่วยเราได้ อะไรคือเซลเอสตีม? what are you talking about? ฮ่าาาา อี self-esteem เนี่ยผมก็ฟังมาจาก podcast นะ มันประมาณว่า มันคือภูมิคุมกันทางด้านความรู้สึกของเราอ่ะ คือเราควรที่จะรักษาระดับของมันไม่ได้ลดต่ำจนเกินไปเว้ย แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเข้มแข็งตลอดนะ คือคนเราอ่ะมันท้อได้อยู่แล้ว เราเสียใจได้ ก็ยอมรับมันซะว่าเราไม่โอเค (I'm not ok) แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นมองด้อยค่าตัวเองว่า "เออคนแบบชั้นมันก็สมควรแล้วที่ต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ" "เออชั้นมันไม่เก่งพอ" หรืออะไรก็ตามที่จะบั้นทอนจิตใจของเรา โดยตัวเราเอง! ผมอยากให้คุณลองมองภาพง่ายๆ สมมุติคุณเริ่มที่จะไม่มีเงินกินข้าวหล่ะ ฮ่าาา อาจจะแบบกินแค่ข้าวเช้ากับเที่ยง แล้วอดข้าวเย็นในแต่ละวัน คือถ้าคุณมี self-esteem ที่ต่ำ คุณอาจแบบร้องไห้ขึ้นมา ในขณะที่เห็นคนอื่นๆกำลังนั่งทานข้าวเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ถ้าเรามองอีกแบบหล่ะ เรามองว่าเรากำลังถือศีล 8 อยู่หล่ะ ก็คือไม่กินข้าวเพราะถือศีล8จ้า ไม่เคยเห็นพระสงฆ์องค์เจ้าท่านไหน นั่งร้องไห้ว่า "เออ!ไอ่เราก็เกิดมาเป็นมนุษย์เช่นคนอื่นเขา ทำไมเราไม่มีข้าวเย็นกินหล่ะ" ฮ่าาาาา เราทุกคนมีวันที่ยากเสมอ เพราะฉะนั้นเราควรมองปัญหาอย่างที่มันเป็น คือทุกอย่างมันมีขั้นตอนที่ยากของมันเสมอ เราก็แค่ต้องค่อยๆต้องหาวิธีผ่านมันไป ไม่ว่าการเรียนรู้นั้นจะเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเราแค่ไหน เราก็ต้องเจอขั้นตอนที่ยากอยู่เสมอ และเราก็แค่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหานั้นไปเรื่อยๆ
สำหรับหลายๆคนอาจมองว่าเราไม่สามารถแก้ได้ทุกปัญหาได้หรอก สำหรับผมมองว่าแก้ได้ แต่ยาก (จะยากมาก ยากน้อยขึ้นอยู่กับปัญหา) ฮ่าาาาา
3.2 หลังจากมายด์เซ็ทเริ่มเข้าที่เข้าท่าแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวในการลงมือทำจริง โดยการมองหาภาพรวมในสิ่งที่เรากำลังจะทำ
ผมยกตัวอย่างในงานที่ผมทำ ผมใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า blender คือ blender ทำได้หลายอย่างมาก แม้แต่ในการสร้างโมเดล ยังสร้างได้สารพัดโมเดลอ่ะ คุณจะสร้างรถถัง ปืนใหญ่ ผู้หญิงเอเชีย ผู้ชายแอฟริกา-อเมริกัน ยังได้อ่ะ เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทำคือกำหนดสิ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ในงานของตัวเอง เช่นความรู้พื้นฐานในการสร้างโมเดล 3D การจัดแสง การrender บลาๆ
3.3 let's do it ฮ่าาาา ก็นั้นหล่ะครับ คุณต้องใช้เวลาไปกับการลงมือทำ มากกว่าการคิดที่จะทำ
ผมเริ่มทำงานโมเดลประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือเริ่มต้นจาก 0 กันเลย
ตอนนั้นคือสร้างแก้วน้ำได้ ก็ดีใจมากแล้ว โพสต์ลง IG story แบบรัวๆ ไม่รู้จะดีใจอะไรขนาดนั้น
ขยับสเตปขึ้นมาอีกหน่อยเริ่มทำ packaging ได้แล้วด้วย และก็ยังคงโพสต์อย่างรัวๆ ฮ่าาา
และนี่คือผลงานตอนนี้
ถ้าถามว่าเทียบกับคนอื่นในสายงาน เราอยู่ประมาณไหน? ผมมั่นใจว่าผมเป็นแค่มือใหม่แน่นอน แต่ถ้าเทียบกับผมเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่าน ผมตอนนี้ก็เก่งกว่าเยอะอ่ะครับ ฮ่าาาาาา
// ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกผ่าน ในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง self-learning แล้วก็อย่างลืมที่จะดูไม่ให้ self-esteem เราลดลงต่ำลงไปในวันที่เราไม่โอเคนะครับ เพราะเราทุกคนล้วนมีจุดสูงสุด จุดต่ำสุดเสมอครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ใครๆก็สามารถฝึกทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ถ้าคุณมีสิ่งนี้
สำหรับปี 2020 ก็คงเป็นปีที่สุดโหดเหี้ยมสุดหิน สำหรับพวกเราทุกๆคน เพราะตั้งแต่ต้นปีก็มีเรื่องให้เราตามลุ้นกันทุกเวลาหลังอาหาร แน่นอนว่าหนึ่งในเรื่องนั้นก็คงหนีไม่พ้นโควิด ถึงขั้นต้อง stay at home กันยาวๆ ส่วนตัวผมยังคงต้องไปทำงานอยู่ เพราะทำธุรกิจส่วนตัว (แบบส่วนตัวมาก เพราะทำอยู่คนเดียวจริงๆ ฮ่าาาา) หลังโควิดผ่านมาได้ซักระยะนึงประมาณเดือนพฤษภาคม รายได้ของร้านก็เริ่มหายไปอย่างมีนัยยะสำคัญ คือโดนกันทุกคนแหละ อยู่ที่ว่าใครจะมาก ใครจะน้อย
"รายได้น้อยลง รายจ่ายเท่าเดิม" ก็เกิดเป็นโกโก้ครั้นซ์สิครับ ฮ่าาา คำถามในตอนนั้นคือเราจะผ่านช่วงเวลานี้ได้อย่างไร
สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจ SME รายเล็กๆอย่างเรา ที่มีข้อจำกัดมากมาย ฮ่าาาา ผมเองก็คิดออกอยู่ได้ไม่กี่อย่าง
1. ทำการตลาดเพิ่ม คืองี้นะ โควิดเล่นเอาการค้าขายชะงักกันทั่วโลก เอ็งจะไปส่งเสริมการขายใคร - ข้อนี้ผมปัดตกไปก่อน
2. พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ เข้! ยิ่งกว่ามีแผนก R&D คือคนมันว่างก็ต้องหาทำกันไป ผมเลยพยายามมองหาอะไรกันน้า! จะพาข้าพบทางสว่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.1 what, where, when, who, why และ how (5W1H ก็มา ฮ่าาาา) ตอนนั้นผมมองว่าการแข่งขันในวงการของผม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะแข่งขันกันเรื่องราคา (มันก็เหมือนธุรกิจอื่นแหละ) แต่เรามองว่าเราไม่สามารถแข่งขันกับผู้อื่นในเรื่องราคาได้ เนื่องจากกำลังการผลิตที่ต่ำกว่าเจ้าอื่นมาก ร่วมถึงต้นทุนในการผลิต ผมเลยมองหา product ใหม่ไปเลย ฮ่าาาาาา
2.2 product ใหม่? ตอนนั้นผมพยายามที่มองหาสินค้าและบริการใหม่ ที่ยังจะพอเกี่ยวกับงานในสายที่ทำอยู่ คืออุตส่าห์อยู่กับงานนี้มาเป็นปีแล้วอ่ะ จะทิ้งไปเลยก็เสียเปล่าเกินไป เลยค้นหาไปเรื่อยๆว่า "อะไรจะส่งเสริมเราขึ้นไปได้กว่านี้" หลังจากผ่านการค้นหาอยู่นานก็เจอสิ่งที่จะพัฒนางานขึ้นไปอีกขั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.3 หลังจากได้โจทย์ในการทำงาน ก็เริ่มค้นหาวิธีที่ในการทำงาน
3. self-learning
อะไรครับเนี่ย! อยู่ๆคุณมาซงมาเซล ฮ่าาาา คืออีทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเองในยุคนี้ ถ้าเปรียบเป็นการสร้างบ้าน ทักษะนี้ก็คือคานอะ ก็คือต้องมีทุกคน! แต่ๆคุณลองจินตรการในสภาพวะที่แบบ "เราจะทำอย่างไรกับชีวิตในตอนนี้ดีวะ" ในขณะนั้นอ่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะที่เราจะกล้าฝึกในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยทำมาก่อน แล้วจะแก้ไขอย่างไร
3.1 self-esteem จะช่วยเราได้ อะไรคือเซลเอสตีม? what are you talking about? ฮ่าาาา อี self-esteem เนี่ยผมก็ฟังมาจาก podcast นะ มันประมาณว่า มันคือภูมิคุมกันทางด้านความรู้สึกของเราอ่ะ คือเราควรที่จะรักษาระดับของมันไม่ได้ลดต่ำจนเกินไปเว้ย แต่ไม่ใช่ว่าเราจะต้องเข้มแข็งตลอดนะ คือคนเราอ่ะมันท้อได้อยู่แล้ว เราเสียใจได้ ก็ยอมรับมันซะว่าเราไม่โอเค (I'm not ok) แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นมองด้อยค่าตัวเองว่า "เออคนแบบชั้นมันก็สมควรแล้วที่ต้องเจอแต่เรื่องแย่ๆ" "เออชั้นมันไม่เก่งพอ" หรืออะไรก็ตามที่จะบั้นทอนจิตใจของเรา โดยตัวเราเอง! ผมอยากให้คุณลองมองภาพง่ายๆ สมมุติคุณเริ่มที่จะไม่มีเงินกินข้าวหล่ะ ฮ่าาา อาจจะแบบกินแค่ข้าวเช้ากับเที่ยง แล้วอดข้าวเย็นในแต่ละวัน คือถ้าคุณมี self-esteem ที่ต่ำ คุณอาจแบบร้องไห้ขึ้นมา ในขณะที่เห็นคนอื่นๆกำลังนั่งทานข้าวเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่ถ้าเรามองอีกแบบหล่ะ เรามองว่าเรากำลังถือศีล 8 อยู่หล่ะ ก็คือไม่กินข้าวเพราะถือศีล8จ้า ไม่เคยเห็นพระสงฆ์องค์เจ้าท่านไหน นั่งร้องไห้ว่า "เออ!ไอ่เราก็เกิดมาเป็นมนุษย์เช่นคนอื่นเขา ทำไมเราไม่มีข้าวเย็นกินหล่ะ" ฮ่าาาาา เราทุกคนมีวันที่ยากเสมอ เพราะฉะนั้นเราควรมองปัญหาอย่างที่มันเป็น คือทุกอย่างมันมีขั้นตอนที่ยากของมันเสมอ เราก็แค่ต้องค่อยๆต้องหาวิธีผ่านมันไป ไม่ว่าการเรียนรู้นั้นจะเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับเราแค่ไหน เราก็ต้องเจอขั้นตอนที่ยากอยู่เสมอ และเราก็แค่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหานั้นไปเรื่อยๆ
สำหรับหลายๆคนอาจมองว่าเราไม่สามารถแก้ได้ทุกปัญหาได้หรอก สำหรับผมมองว่าแก้ได้ แต่ยาก (จะยากมาก ยากน้อยขึ้นอยู่กับปัญหา) ฮ่าาาาา
3.2 หลังจากมายด์เซ็ทเริ่มเข้าที่เข้าท่าแล้ว คราวนี้ก็ถึงคราวในการลงมือทำจริง โดยการมองหาภาพรวมในสิ่งที่เรากำลังจะทำ
ผมยกตัวอย่างในงานที่ผมทำ ผมใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า blender คือ blender ทำได้หลายอย่างมาก แม้แต่ในการสร้างโมเดล ยังสร้างได้สารพัดโมเดลอ่ะ คุณจะสร้างรถถัง ปืนใหญ่ ผู้หญิงเอเชีย ผู้ชายแอฟริกา-อเมริกัน ยังได้อ่ะ เพราะงั้นสิ่งที่ต้องทำคือกำหนดสิ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนรู้ในงานของตัวเอง เช่นความรู้พื้นฐานในการสร้างโมเดล 3D การจัดแสง การrender บลาๆ
3.3 let's do it ฮ่าาาา ก็นั้นหล่ะครับ คุณต้องใช้เวลาไปกับการลงมือทำ มากกว่าการคิดที่จะทำ
ผมเริ่มทำงานโมเดลประมาณเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือเริ่มต้นจาก 0 กันเลย
ตอนนั้นคือสร้างแก้วน้ำได้ ก็ดีใจมากแล้ว โพสต์ลง IG story แบบรัวๆ ไม่รู้จะดีใจอะไรขนาดนั้น
ขยับสเตปขึ้นมาอีกหน่อยเริ่มทำ packaging ได้แล้วด้วย และก็ยังคงโพสต์อย่างรัวๆ ฮ่าาา
และนี่คือผลงานตอนนี้
ถ้าถามว่าเทียบกับคนอื่นในสายงาน เราอยู่ประมาณไหน? ผมมั่นใจว่าผมเป็นแค่มือใหม่แน่นอน แต่ถ้าเทียบกับผมเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่าน ผมตอนนี้ก็เก่งกว่าเยอะอ่ะครับ ฮ่าาาาาา
// ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกผ่าน ในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตัวเอง self-learning แล้วก็อย่างลืมที่จะดูไม่ให้ self-esteem เราลดลงต่ำลงไปในวันที่เราไม่โอเคนะครับ เพราะเราทุกคนล้วนมีจุดสูงสุด จุดต่ำสุดเสมอครับ เป็นกำลังใจให้ครับ