สองข้างถนนในต่างประเทศที่มีร้านสินค้าแบรนด์เนมตั้งเรียงรายสองฝั่ง ทำไมกทม ไม่มีแบบนี้?

อยากให้ย่านการค้าของกรุงเทพมีแบบนี้บ้าง ที่พอเห็นมีอยู่ก็ในซอยสยามสแควร์แต่ไม่ถึงกับโดดเด่น
อย่างในภาพนี้เป็นถนน Regent Street ในลอนดอนที่สองฝั่งจะมีแต่ร้านสินค้าตั้งแต่ธรรมดาไปจนถึงหรูหราหมาเห่าเรียงรายตลอด ร้านอาหารหรู
ต่างจากบ้านเราที่ร้านรวงพวกนี้จะไปตั้งอยู่เฉพาะในห้างหรูเช่นสยามพารากอน ดิเอ็มโพเรี่ยม ฯลฯ ไม่มีหรอกที่จะพบเห็นตามท้องถนนหนทาง (ยกเว้นห้างที่ตั้งริมถนนก็จะเห็นแต่ใครจะเข้าร้านก็ต้องเดินเข้าไปในส่วนของห้างอยู่ดี) 
อาคารบ้านเรือนสวยงาม สถาปัตยกรรมงดงามเป็นระเบียบไปยาวสุดลูกหูลูกตา ที่พอจะมีในบ้านเราก็คงเป็นถนนราชดำเนินแต่สภาพร้านค้าย่านถนนราชดำเนินนี่เห็นแล้วเศร้าใจ หลายแห่งเอาไม้กระดานมาปิดเพราะเลิกกิจการ บางแห่งปิดประตูม้วนมองเข้าไปก็น่าจะไม่มีใครเช่า ผมมาคิดว่าถ้าถนนสวยๆ ตึกสวยๆ (ถึงจะไม่ได้แบบบ้านเขา) ถ้ามีร้านค้าสวยๆ แบบนี้บ้างก็คงดี (แต่ถนนราชดำเนินก็ไม่ใช่แหล่งกินเที่ยวหรูแบบสีลม สยาม ราชดำริหรือสุขุมวิท) 
แล้วทางเท้าเค้าจะไม่พบเห็นหาบเร่แผงลอย รถเข็นหรือใครนึกอยากจะทำอะไรกับหน้าร้านตัวเองก็ได้เหมือนบ้านเราที่เอากระถาง ตั้งวางสินค้าล้ำออกมา เอาอะไรต่อมิอะไรแขวนกันรุงรัง ไม่มีสายไฟสายสื่อสารระโยงระยางเป็น...พันกัน ตัวตึกสีเดียวกัน การติดป้ายชื่อร้านจะสังเกตุได้เลยวว่าไม่ใช่นึกจะเอาป้ายอันเท้าช้างมาติดก็ได้ ทุกร้านติดป้ายชื่อร้านในระดับเท่ากันหมด คือมองออกเลยว่าเขามีกฎหมายควบคุม ตัวเลขกำกับก็เหมือนกันทุกร้าน ไม่มีแอร์คอมเพรสเซอร์มาตั้ง ป้ายรอรถเมล์ถูกออกแบบมามิให้บดบังทัศนวิสัยหรือบังหน้าร้าน (แต่อาจไม่เหมาะกับบ้านเราที่แดดแรงและฝนตก) แต่บ้านเขาคงไม่ยืนรอรถเมล์เป็นชั่วโมงๆ แบบเรา)
แต่ที่ไม่เห็นเลยคือ ไม่มีต้นไม้แฮะ บ้านเราทำแบบนี้โดนด่าเช็ดแน่เพราะเมืองไทยอากาศร้อน ต้นไม้มีความจำเป็นกับเมืองมากแต่เราก็ขยันตัดกันบ่อย 

อยากให้สังเกตุอีกอย่างคือ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ทางเท้าคนเดินจะใหญ่กว่า กว้างกว่าถนนเสมอ รัฐให้ความสำคัญกับคนเดินเท้ามากกว่าคนขับรถยนต์ แต่บ้านเราสิ ถนนกว้างมากแต่ทางเท้าแคบจนบางแห่งเดินสวนทางกันไม่ได้เช่นแถวปากเกร็ด หรือตลาดท่าน้ำนนท์ก็เดินไม่ได้เพราะแม่ค้าจองหมด คนต้องลงมาเดินข้างถนนแทน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่