https://www.posttoday.com/world/640611
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ 17 ประเทศในปี 2021 ซึ่งใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงิน 11 ข้อ โดยบลูมเบิร์กจัดให้อนาคตเศรษฐกิจของไทยอยู่ในอันดับ 1 ของตาราง
บลูมเบิร์กให้เหตุผลว่า ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองที่มั่นคงและมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดเงินทุนเข้าประเทศ และยังคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของไทยจะเติบโต 3.9% ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีจะเกินดุล 3.1% และดุลงบประมาณต่อจีดีพีจะขาดดุล 4.9% ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ 41%
ส่วนประเทศจีนอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง แม้บลูมเบิร์กจะคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของจีนจะขยายตัวถึง 8.1% ก็ตาม เนื่องจากต้องเผชิญกับความคาดหวังสูงอยู่แล้ว
จากการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กยังพบอีกว่า บรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่มีความพร้อมที่จะฟื้นตัวจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะในเอเชีย เป็นตัวช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนจากปัจจัยภายนอก
…………………………………………
บลูมเบิร์กชี้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตดีที่สุดในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ด้วยกันในปี 2021
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจของประเทศตลาดเกิดใหม่ 17 ประเทศในปี 2021 ซึ่งใช้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงิน 11 ข้อ โดยบลูมเบิร์กจัดให้อนาคตเศรษฐกิจของไทยอยู่ในอันดับ 1 ของตาราง
บลูมเบิร์กให้เหตุผลว่า ประเทศไทยมีเงินทุนสำรองที่มั่นคงและมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดเงินทุนเข้าประเทศ และยังคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของไทยจะเติบโต 3.9% ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อจีดีพีจะเกินดุล 3.1% และดุลงบประมาณต่อจีดีพีจะขาดดุล 4.9% ขณะที่หนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ 41%
ส่วนประเทศจีนอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง แม้บลูมเบิร์กจะคาดการณ์ว่าปีหน้าจีดีพีของจีนจะขยายตัวถึง 8.1% ก็ตาม เนื่องจากต้องเผชิญกับความคาดหวังสูงอยู่แล้ว
จากการวิเคราะห์ของบลูมเบิร์กยังพบอีกว่า บรรดาประเทศตลาดเกิดใหม่มีความพร้อมที่จะฟื้นตัวจากความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะในเอเชีย เป็นตัวช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนจากปัจจัยภายนอก
…………………………………………