1. ส่วนตัวผมเป็นคนขี้สงสัยอยู่แล้ว และชอบหาคำตอบ โดยเฉพาะในเรื่องที่คิดว่ามันแปลกมากๆ
ไม่สงสัยได้ไง ก็อยู่ๆมาบล๊อคเฟสผมเฉย ทำไมไม่บล๊อคตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่เลิกคุยกัน เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ถ้าบล๊อคไปตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงไม่งง ไม่แปลกใจอะไร ใช่มะ
2. ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมทำงานอยู่ที่โลตัสแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผม อายุ 25 ขวบ
ส่วนผู้หญิงคนที่พูดถึง เธอชื่อ อีฟ (ชื่อเล่นของเธอจริงๆ ไม่ได้สมมุติ) ตอนนั้นเธออายุ 17-18 พึ่งเรียนจบ ม.6
กำลังรอไปเรียนมหาลัย โดยระหว่างนั้น อีฟทำงานที่เซเว่น ใกล้ๆ กับโลตัส ที่ผมทำงานอยู่
3. ทุกครั้งที่ผมเลิกงาน ก็จะชอบชวนเพื่อนๆมาเตะบอลเล่นกัน ตรงลานจอดรถบ้าง ตรงลานข้างๆโลตัสบ้าง
พอเริ่มร้อน เริ่มมีเหงื่อ ผมกับเพื่อนๆ ก็จะไปหาซื้อน้ำกินที่ 7-11 ซึ่งเป็นที่ๆ อีฟทำงานอยู่นั่นเอง
4.ผมเจอกับอีฟประจำที่เซเว่นแห่งนั้น เธอก็จะชวนผมคุยบ้าง แต่ก็ไม่มาก ผมชอบไปซื้อสปอนเซอร์ เธอก็จะถามว่า
แน่ใจเหรอ ไม่เอาเบียร์เหรอ อีฟคงเคยเห็นผมนั่งกินเบียร์กับเพื่อนๆ ก็เลยถามมาแบบนั้น แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไร
ก็คุยไปปกติ
5. (1-2 ปี ก่อนผมมาทำงานที่โลตัส)
ผมเคยเจออีฟมาหลายครั้ง ตั้งแต่อีฟยังเรียนอยู่ ม.4- ม.5 และก็แอบชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกเห็น แต่ด้วยความน่ารักของเธอ ถ้าจัดอันดับ คงติด 1 ใน 3 ของโรงเรียนแน่นอน ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดจีบเธอ แม้กระทั่งแอดเฟสก็ยังไม่กล้า ที่สำคัญผมหน้าตาไม่ได้หล่อ ไม่ได้น่ารักแบบเค้า และอายุมากกว่าตั้ง 7 ปี ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่กล้าไปจีบเธอ
6. ผมเจอเธอประจำที่ห้องสมุดแห่งหนึ่ง ผมชอบไปยืมหนังสืออ่านที่นั่น และอีฟเองก็ชอบมากับเพื่อนๆ และผมก็แอบมองเธอเป็นประจำ เธอมาในชุดนักเรียน เธอน่ารัก ผมชอบเธอ และไม่เคยแอบชอบใครแบบนี้มาก่อนเลย ที่สำคัญตอนนั้นผมยังโสด แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะชอบผม
7. (ย้อนกลับมาตอนที่ผมทำงานที่โลตัส และอีฟทำงานที่เซเว่น)
อยู่ๆ มาวันนึง อีฟมาที่โลตัส ที่ผมทำงานอยู่ และเธอก็ซื้อขนม เป็นนมอัดเม็ด 1 กระปุกเล็ก มาให้ผม และผมก็รับมาแบบ งงๆ
และวันถัดมา เธอก็มาขอเฟสผม ผมก็ให้ไปแบบ งงๆ โดยใช้ปากกาเขียนลงที่มือของเธอ ตอนนั้นผมดีใจมาก จู่ๆ เธอก็เข้าหาผม ทั้งๆที่ มีคนชอบเธอ และมาจีบเธอตั้งมากมาย ทำไมถึงเลือกที่จะมาคุยกับผมหละ ตอนนั้นผมงงมากๆๆๆ แต่ก็ดีใจมากๆ และสิ่งที่มันเกิดขึ้น ยิงกว่าปาฏิหาริย์ ซะอีก
8. แต่แล้วความสุขเหล่านั้นก็หายไปชั่วขณะ เมื่อนึกขึ้นคิดได้ว่า ตอนนี้เราไม่ได้โสดแล้วนี่หว่า ตอนนี้ผมมีเมีย 1 คน ลูก 1 คน แล้ว
ผมคิดในใจว่า "เอาไงดีวะ" "ลูกเมียก็มีแล้ว ไม่ได้โสดแบบตอนนั้น ส่วนอีฟก็คนที่เคยชอบมากๆ ทำไมไม่มาหาผมแบบนี้ตั้งแต่แรกนะ" ผมคิดในใจ และสุดท้ายก็ได้ว่าข้อสรุปว่า อีก 1 เดือน อีฟจะไปเรียนต่อที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ใน กทม.
งั้นขอคุยกับอีฟ 1 เดือน หลังจากนั้นก็จะบอกความจริงเค้าทั้งหมด ผมเข้าใจนะว่าเลือกแบบนี้ คือ เห็นแก่ตัวมาก แต่ผมก็อยากคุยกับเธอมากเช่นกัน แค่ช่วงเวลาสั้นๆ 1 เดือนเอง คงไม่เป็นไรมั้ง ผมคิด
9. และผมก็คุยกับอีฟไป 1 เดือน จริงๆ โดยที่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย และเคยนัดมาเจอกันแค่ครั้งเดียว เธอมาหาผมที่สนามฟุตบอล ที่ผมชอบไปเตะเล่นตอนเย็นๆ โดยมากับเพื่อนอีกคนนึงที่ทำงานในเซเว่นที่เดียวกับเธอ และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอเธอ ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อ
10. และอีกไม่กี่วันต่อมา เธอก็เดินทางไป กทม. เพื่อไปเรียนต่อ ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดของผมพอดี เธออวยพรวันเกิดให้ผมผ่านทางไลน์
ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน เมียผมก็จับได้ เพราะมาเห็นข้อความในไลน์ (ปกติเค้าไม่ค่อยดูโทรศัพท์ผม แต่วันนั้นไม่รู้คิดยังไง) ผมก็เล่าทุกอย่างให้เมียฟัง จนสุดท้าย เธอก็เข้าใจทุกอย่าง และผมบอกกับเธอว่า ขอเวลา อีก 3 วัน จะบอกความจริงทุกอย่างกับอีฟ
(ที่จริงผมต้องบอกความจริง ทุกอย่างกับอีฟตั้งแต่วันเกิดผมแล้ว เพราะครบกำหนด 1 เดือน แต่ผมขอเลื่อนเวลาต่อไปอีกอาทิตย์นึง เพื่อขอเวลาทำใจ)
11. แต่ยังไม่ทันครบ 3 วัน เหมือนอีฟจะมีท่าทีเปลี่ยนไป เหมือนจะเริ่มรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวผมบ้างแล้ว โทรไปเริ่มไม่รับสาย
ผมจึงไลน์ไป "ขอโทษทุกๆ อย่างที่เคยโกหกอีฟ" (ที่จริงยาวกว่า แต่จำได้แค่นี้) เราเลิกคุยกันตั้งแต่วันนั้น และขอจบด้วยการเป็นพี่น้องกัน เธอก็ตอบตกลง และผมก็ไม่เคยได้คุยกับใครอีกเลย ตั้งแต่ตอนนั้น นอกจากเมียผม
12. แต่หลังจากนั้นไม่นานอีฟก็ลบเพื่อนผมออกจากเฟสบุ๊ค แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ต้องการเป็นพี่น้องกับคนอย่างผม ซึ่งผมเองก็เข้าใจ และยอมรับตรงนี้ แต่ผมก็ยังแอบส่องเฟสเธออยู่บ้าง ประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง จนกระทั่งในที่สุด วันนึงก็ลืมชื่อเฟสเธอ เพราะไม่ได้เข้าไปนาน ก็กะว่าจะเข้าไปส่องซะหน่อย ว่าเรียนเป็นไงบ้าง จบยัง
13. ตอนนั้นก็คิดว่า อีฟคงบล๊อคเฟสผมไปแล้ว แต่ความจริงแล้วผมพิมพ์ชื่อเฟสเธอผิด กว่าจะรู้เรื่องก็เมื่อ 2 ปีก่อน เธอแชร์ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าเข้ามาในกลุ่มเฟสประมูลสินค้า ซึ่งผมเป็นแอดมินกลุ่มนั้นอยู่พอดี จึงได้รู้ว่าเค้ายังไม่ได้บล๊อคเฟสผม
ผมกดเข้าไปดู เห้ย อีฟนี่หว่า บัญเอิญมาก ผมกดเข้าไปดู เค้าเรียนจบเรียบร้อย ทำงานอย่างดีที่โชว์รูมนิสสันแห่งหนึ่ง ส่วนผมมาเป็นพนักงานคุมประแจที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง แถวๆบ้าน ไม่ได้ทำที่โลตัสแล้ว ลาออกไปตั้งแต่เลิกคุยกับอีฟได้ไม่นาน
14. 2 ปีต่อมา (ปัจจุบัน) วันที่ 12 ธ.ค. 2563 เวลาประมาณ 18.30 น.
ผมกับเมียคนเดิม 1 คน และลูกคนเดิม 1 คน พากันไปนั่งกินอาหาร ที่ริมทะเล แถวๆบ้าน ที่นั่นมีของขายมากมาย คล้ายๆตลาดนัด เปิดท้าย หรือเรียกว่าตลาดริมเลก็ได้ มีเพลง มีโต๊ะที่นั่ง ไว้บริการสำหรับคนไปเที่ยว หรือไปหาไรกิน ที่นั่นบรรยากาศดีมาก ผมชอบพาครอบครัวไปเป็นประจำ
15. ระหว่างที่ผมนั่งกินอะไรกันอยู่กับลูกและเมีย อีฟเดินผ่านตรงที่ผมนั่ง แต่ผมมองผ่านๆ จำไม่ได้ว่าใคร เค้ามากับเพื่อนๆ
เค้าเดินผ่านผมอีกรอบนึง เหมือนเดินหาซื้ออะไรกินสักอย่าง ผมมองขึ้นไป "หน้าคล้ายๆ อีฟเลย แต่ตัวเล็กกว่าเยอะ ไม่น่าใช่" ผมคิดในใจ
อีฟยังเดินวนไปวนมา หาซื้อของกินอยู่แถวนั้น ผมก็พยายามมองอยู่นาน เค้าก็หันมามองผม ผมมองเค้าจนเมียเริ่มงอล
16. จนกระทั่งกลับไปบ้าน ก็คุยกับเมียว่า ที่มองอะอยากรู้ว่าใช่คนที่คิดไว้รึปล่าว ในใจผมคือถ้าใช่อีฟ ก็แค่อยากทักทายเฉยๆ ว่า
เป็นไงบ้างเรา เรียนจบแล้วเหรอ สบายดีมั้ย อะไรประมาณนี้ และเปิดเฟสอีฟให้เมียดู และอธิบายจนเมียเข้าใจ
แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ แค่อยากทักทาย อย่างน้อยก็เคยรู้สึกดีต่อกัน
และที่สำคัญผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับอีฟแบบเมื่อก่อนแล้ว ไม่น่ามีอะไรเสียหาย
17. หลังจากเข้าไปดูเฟส ก็พร้องเห็นกับเมียว่า ใช่อีฟ ตัวเล็ก กว่าเดิมมาก ผมไม่ได้เข้ามาดูเฟสเค้านานแล้ว เลยไม่รู้ว่าเค้าจะตัวเล็กลงขนาดนี้
ตัวเล็กเท่าๆ เด็กม.ปลายเลยทีเดียว ทีแรกที่ริมเลผมยังคิดเลยว่าเด็กม.ปลายที่ไหนมาเดิน หน้าเหมือนอีฟเชียว
18. วันที่ 13 ธ.ค. 2563 ผมตัดสินใจ จะแชทไปถามชัวๆ เลย ว่าใช่มั้ย ขอแบบไม่คิดไปเอง เพราะวันนั้นก็เห็นไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะที่นั่นไฟค่อนข้างสลัวๆ
ผมเข้าเฟสบุ๊ค และไปที่ค้นหา เพื่อจะไปที่เฟสอีฟ และจะแชทถามว่า มะวานใช่อีฟป่าว และก็จะทักทายนิดๆ หน่อยๆ ปรากฏว่า ประวัติการค้นหา ไม่มีชื่อเฟสอีฟอยู่แล้ว ทั้งๆที่พึ่งเปิดให้เมียดูไปเอง ไปเช็คที่รายชื่อก็ไม่ได้มีใครบล๊อค เลยลองใช้เฟสหลุม ไปค้นหาดู ปรากฏว่าเจอ แต่เฟสฟลักไม่เจอ T^T
19. แสดงว่าอีฟบล๊อคผมไปแล้ว พึ่งบล๊อคไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้แน่ๆ เพราะตอนแรกยังเข้าไปดูได้อยู่เลย เราทำอะไรผิดปะหวะ อยู่ๆ บล๊อคมาเฟสทำไม ผมคิดในใจ วันรุ่งขึ้นผมเลยให้เพื่อนรุ่นน้องแชทไปถาม เค้าก็ตอบว่า บล๊อคใคร? จำไม่ได้ เหมือนอีฟจะตีมึนใส่ซะงั้น
ผมเลยเอาเฟสหลุมแชทไปถามก่อนว่า ตกลงเมื่อวานเย็นที่ทะเล ใช่อีฟใช่มั้ย เธอตอบว่า "ใช่อีฟเอง"
ผมก็ตอบเธอว่า "ตัวเล็กกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ นึกว่าจำคนผิดซะแล้ว"
20. ผมก็พยายามถามอีฟไปว่า บล๊อคผมเรื่องไร เรื่องผมไปมองหน้าหรือปล่าว ถ้าใช่ แล้วถ้าเจอกันอีก ผมจะได้ก้มหน้าไว้ หรือมองไปทางอื่นแทน เพราะว่าวันนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเค้าเลย นอกจากมองหน้า จึงถามไปแบบนั้น แต่เค้าก็ไม่ตอบคำถามผม
21. ถ้าอีฟบล๊อคผมไปตั้งแต่ก่อนเจอกัน ผมคงไม่งงเท่านี้ แต่พอเจอหน้ากันปุ๊บ บล๊อคเฉย หรือพึ่งหาเฟสผมเจอ ก็ไม่น่าใช่
หรืออีฟคิดว่าผมยังชอบเธออยู่ เพราะผมมองเค้าหลายรอบ ทั้งๆที่มากับเมีย ก็เลยไม่พอใจ
22. ตกลงผมผิดอะไรครับ ใครพอสรุปได้บ้าง ไม่เคยเจอจริงๆ มองหน้า=บล๊อคเฟส
ต่อไปนี้ผมคงไม่กล้ามองหน้าเธออีกแล้วแหละ เธอคงเกลียดผมเอามากๆ T_T
แฟนเก่าบล๊อคเฟสเพราะมองหน้า? ทั้งๆที่เลิกกันไปตั้ง 6 ปีแล้ว ทำไมไม่บล๊อคตั้งแต่ตอนนั้น เหตุผลคืออะไรหนอ?
ไม่สงสัยได้ไง ก็อยู่ๆมาบล๊อคเฟสผมเฉย ทำไมไม่บล๊อคตั้งแต่ตอนนั้น ตั้งแต่เลิกคุยกัน เมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ถ้าบล๊อคไปตั้งแต่ตอนนั้น ก็คงไม่งง ไม่แปลกใจอะไร ใช่มะ
2. ย้อนไปเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมทำงานอยู่ที่โลตัสแห่งหนึ่ง ตอนนั้นผม อายุ 25 ขวบ
ส่วนผู้หญิงคนที่พูดถึง เธอชื่อ อีฟ (ชื่อเล่นของเธอจริงๆ ไม่ได้สมมุติ) ตอนนั้นเธออายุ 17-18 พึ่งเรียนจบ ม.6
กำลังรอไปเรียนมหาลัย โดยระหว่างนั้น อีฟทำงานที่เซเว่น ใกล้ๆ กับโลตัส ที่ผมทำงานอยู่
3. ทุกครั้งที่ผมเลิกงาน ก็จะชอบชวนเพื่อนๆมาเตะบอลเล่นกัน ตรงลานจอดรถบ้าง ตรงลานข้างๆโลตัสบ้าง
พอเริ่มร้อน เริ่มมีเหงื่อ ผมกับเพื่อนๆ ก็จะไปหาซื้อน้ำกินที่ 7-11 ซึ่งเป็นที่ๆ อีฟทำงานอยู่นั่นเอง
4.ผมเจอกับอีฟประจำที่เซเว่นแห่งนั้น เธอก็จะชวนผมคุยบ้าง แต่ก็ไม่มาก ผมชอบไปซื้อสปอนเซอร์ เธอก็จะถามว่า
แน่ใจเหรอ ไม่เอาเบียร์เหรอ อีฟคงเคยเห็นผมนั่งกินเบียร์กับเพื่อนๆ ก็เลยถามมาแบบนั้น แต่ตอนนั้นผมก็ยังไม่ได้คิดอะไร
ก็คุยไปปกติ
5. (1-2 ปี ก่อนผมมาทำงานที่โลตัส)
ผมเคยเจออีฟมาหลายครั้ง ตั้งแต่อีฟยังเรียนอยู่ ม.4- ม.5 และก็แอบชอบเธอตั้งแต่ครั้งแรกเห็น แต่ด้วยความน่ารักของเธอ ถ้าจัดอันดับ คงติด 1 ใน 3 ของโรงเรียนแน่นอน ทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดจีบเธอ แม้กระทั่งแอดเฟสก็ยังไม่กล้า ที่สำคัญผมหน้าตาไม่ได้หล่อ ไม่ได้น่ารักแบบเค้า และอายุมากกว่าตั้ง 7 ปี ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่กล้าไปจีบเธอ
6. ผมเจอเธอประจำที่ห้องสมุดแห่งหนึ่ง ผมชอบไปยืมหนังสืออ่านที่นั่น และอีฟเองก็ชอบมากับเพื่อนๆ และผมก็แอบมองเธอเป็นประจำ เธอมาในชุดนักเรียน เธอน่ารัก ผมชอบเธอ และไม่เคยแอบชอบใครแบบนี้มาก่อนเลย ที่สำคัญตอนนั้นผมยังโสด แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะชอบผม
7. (ย้อนกลับมาตอนที่ผมทำงานที่โลตัส และอีฟทำงานที่เซเว่น)
อยู่ๆ มาวันนึง อีฟมาที่โลตัส ที่ผมทำงานอยู่ และเธอก็ซื้อขนม เป็นนมอัดเม็ด 1 กระปุกเล็ก มาให้ผม และผมก็รับมาแบบ งงๆ
และวันถัดมา เธอก็มาขอเฟสผม ผมก็ให้ไปแบบ งงๆ โดยใช้ปากกาเขียนลงที่มือของเธอ ตอนนั้นผมดีใจมาก จู่ๆ เธอก็เข้าหาผม ทั้งๆที่ มีคนชอบเธอ และมาจีบเธอตั้งมากมาย ทำไมถึงเลือกที่จะมาคุยกับผมหละ ตอนนั้นผมงงมากๆๆๆ แต่ก็ดีใจมากๆ และสิ่งที่มันเกิดขึ้น ยิงกว่าปาฏิหาริย์ ซะอีก
8. แต่แล้วความสุขเหล่านั้นก็หายไปชั่วขณะ เมื่อนึกขึ้นคิดได้ว่า ตอนนี้เราไม่ได้โสดแล้วนี่หว่า ตอนนี้ผมมีเมีย 1 คน ลูก 1 คน แล้ว
ผมคิดในใจว่า "เอาไงดีวะ" "ลูกเมียก็มีแล้ว ไม่ได้โสดแบบตอนนั้น ส่วนอีฟก็คนที่เคยชอบมากๆ ทำไมไม่มาหาผมแบบนี้ตั้งแต่แรกนะ" ผมคิดในใจ และสุดท้ายก็ได้ว่าข้อสรุปว่า อีก 1 เดือน อีฟจะไปเรียนต่อที่มหาลัยแห่งหนึ่ง ใน กทม.
งั้นขอคุยกับอีฟ 1 เดือน หลังจากนั้นก็จะบอกความจริงเค้าทั้งหมด ผมเข้าใจนะว่าเลือกแบบนี้ คือ เห็นแก่ตัวมาก แต่ผมก็อยากคุยกับเธอมากเช่นกัน แค่ช่วงเวลาสั้นๆ 1 เดือนเอง คงไม่เป็นไรมั้ง ผมคิด
9. และผมก็คุยกับอีฟไป 1 เดือน จริงๆ โดยที่ไม่ได้มีอะไรเกินเลย และเคยนัดมาเจอกันแค่ครั้งเดียว เธอมาหาผมที่สนามฟุตบอล ที่ผมชอบไปเตะเล่นตอนเย็นๆ โดยมากับเพื่อนอีกคนนึงที่ทำงานในเซเว่นที่เดียวกับเธอ และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอเธอ ก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อ
10. และอีกไม่กี่วันต่อมา เธอก็เดินทางไป กทม. เพื่อไปเรียนต่อ ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดของผมพอดี เธออวยพรวันเกิดให้ผมผ่านทางไลน์
ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่วัน เมียผมก็จับได้ เพราะมาเห็นข้อความในไลน์ (ปกติเค้าไม่ค่อยดูโทรศัพท์ผม แต่วันนั้นไม่รู้คิดยังไง) ผมก็เล่าทุกอย่างให้เมียฟัง จนสุดท้าย เธอก็เข้าใจทุกอย่าง และผมบอกกับเธอว่า ขอเวลา อีก 3 วัน จะบอกความจริงทุกอย่างกับอีฟ
(ที่จริงผมต้องบอกความจริง ทุกอย่างกับอีฟตั้งแต่วันเกิดผมแล้ว เพราะครบกำหนด 1 เดือน แต่ผมขอเลื่อนเวลาต่อไปอีกอาทิตย์นึง เพื่อขอเวลาทำใจ)
11. แต่ยังไม่ทันครบ 3 วัน เหมือนอีฟจะมีท่าทีเปลี่ยนไป เหมือนจะเริ่มรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวผมบ้างแล้ว โทรไปเริ่มไม่รับสาย
ผมจึงไลน์ไป "ขอโทษทุกๆ อย่างที่เคยโกหกอีฟ" (ที่จริงยาวกว่า แต่จำได้แค่นี้) เราเลิกคุยกันตั้งแต่วันนั้น และขอจบด้วยการเป็นพี่น้องกัน เธอก็ตอบตกลง และผมก็ไม่เคยได้คุยกับใครอีกเลย ตั้งแต่ตอนนั้น นอกจากเมียผม
12. แต่หลังจากนั้นไม่นานอีฟก็ลบเพื่อนผมออกจากเฟสบุ๊ค แสดงให้เห็นว่า เธอไม่ต้องการเป็นพี่น้องกับคนอย่างผม ซึ่งผมเองก็เข้าใจ และยอมรับตรงนี้ แต่ผมก็ยังแอบส่องเฟสเธออยู่บ้าง ประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง จนกระทั่งในที่สุด วันนึงก็ลืมชื่อเฟสเธอ เพราะไม่ได้เข้าไปนาน ก็กะว่าจะเข้าไปส่องซะหน่อย ว่าเรียนเป็นไงบ้าง จบยัง
13. ตอนนั้นก็คิดว่า อีฟคงบล๊อคเฟสผมไปแล้ว แต่ความจริงแล้วผมพิมพ์ชื่อเฟสเธอผิด กว่าจะรู้เรื่องก็เมื่อ 2 ปีก่อน เธอแชร์ไลฟ์สดขายเสื้อผ้าเข้ามาในกลุ่มเฟสประมูลสินค้า ซึ่งผมเป็นแอดมินกลุ่มนั้นอยู่พอดี จึงได้รู้ว่าเค้ายังไม่ได้บล๊อคเฟสผม
ผมกดเข้าไปดู เห้ย อีฟนี่หว่า บัญเอิญมาก ผมกดเข้าไปดู เค้าเรียนจบเรียบร้อย ทำงานอย่างดีที่โชว์รูมนิสสันแห่งหนึ่ง ส่วนผมมาเป็นพนักงานคุมประแจที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง แถวๆบ้าน ไม่ได้ทำที่โลตัสแล้ว ลาออกไปตั้งแต่เลิกคุยกับอีฟได้ไม่นาน
14. 2 ปีต่อมา (ปัจจุบัน) วันที่ 12 ธ.ค. 2563 เวลาประมาณ 18.30 น.
ผมกับเมียคนเดิม 1 คน และลูกคนเดิม 1 คน พากันไปนั่งกินอาหาร ที่ริมทะเล แถวๆบ้าน ที่นั่นมีของขายมากมาย คล้ายๆตลาดนัด เปิดท้าย หรือเรียกว่าตลาดริมเลก็ได้ มีเพลง มีโต๊ะที่นั่ง ไว้บริการสำหรับคนไปเที่ยว หรือไปหาไรกิน ที่นั่นบรรยากาศดีมาก ผมชอบพาครอบครัวไปเป็นประจำ
15. ระหว่างที่ผมนั่งกินอะไรกันอยู่กับลูกและเมีย อีฟเดินผ่านตรงที่ผมนั่ง แต่ผมมองผ่านๆ จำไม่ได้ว่าใคร เค้ามากับเพื่อนๆ
เค้าเดินผ่านผมอีกรอบนึง เหมือนเดินหาซื้ออะไรกินสักอย่าง ผมมองขึ้นไป "หน้าคล้ายๆ อีฟเลย แต่ตัวเล็กกว่าเยอะ ไม่น่าใช่" ผมคิดในใจ
อีฟยังเดินวนไปวนมา หาซื้อของกินอยู่แถวนั้น ผมก็พยายามมองอยู่นาน เค้าก็หันมามองผม ผมมองเค้าจนเมียเริ่มงอล
16. จนกระทั่งกลับไปบ้าน ก็คุยกับเมียว่า ที่มองอะอยากรู้ว่าใช่คนที่คิดไว้รึปล่าว ในใจผมคือถ้าใช่อีฟ ก็แค่อยากทักทายเฉยๆ ว่า
เป็นไงบ้างเรา เรียนจบแล้วเหรอ สบายดีมั้ย อะไรประมาณนี้ และเปิดเฟสอีฟให้เมียดู และอธิบายจนเมียเข้าใจ
แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ นะ แค่อยากทักทาย อย่างน้อยก็เคยรู้สึกดีต่อกัน
และที่สำคัญผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับอีฟแบบเมื่อก่อนแล้ว ไม่น่ามีอะไรเสียหาย
17. หลังจากเข้าไปดูเฟส ก็พร้องเห็นกับเมียว่า ใช่อีฟ ตัวเล็ก กว่าเดิมมาก ผมไม่ได้เข้ามาดูเฟสเค้านานแล้ว เลยไม่รู้ว่าเค้าจะตัวเล็กลงขนาดนี้
ตัวเล็กเท่าๆ เด็กม.ปลายเลยทีเดียว ทีแรกที่ริมเลผมยังคิดเลยว่าเด็กม.ปลายที่ไหนมาเดิน หน้าเหมือนอีฟเชียว
18. วันที่ 13 ธ.ค. 2563 ผมตัดสินใจ จะแชทไปถามชัวๆ เลย ว่าใช่มั้ย ขอแบบไม่คิดไปเอง เพราะวันนั้นก็เห็นไม่ชัดเท่าไหร่ เพราะที่นั่นไฟค่อนข้างสลัวๆ
ผมเข้าเฟสบุ๊ค และไปที่ค้นหา เพื่อจะไปที่เฟสอีฟ และจะแชทถามว่า มะวานใช่อีฟป่าว และก็จะทักทายนิดๆ หน่อยๆ ปรากฏว่า ประวัติการค้นหา ไม่มีชื่อเฟสอีฟอยู่แล้ว ทั้งๆที่พึ่งเปิดให้เมียดูไปเอง ไปเช็คที่รายชื่อก็ไม่ได้มีใครบล๊อค เลยลองใช้เฟสหลุม ไปค้นหาดู ปรากฏว่าเจอ แต่เฟสฟลักไม่เจอ T^T
19. แสดงว่าอีฟบล๊อคผมไปแล้ว พึ่งบล๊อคไปไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้แน่ๆ เพราะตอนแรกยังเข้าไปดูได้อยู่เลย เราทำอะไรผิดปะหวะ อยู่ๆ บล๊อคมาเฟสทำไม ผมคิดในใจ วันรุ่งขึ้นผมเลยให้เพื่อนรุ่นน้องแชทไปถาม เค้าก็ตอบว่า บล๊อคใคร? จำไม่ได้ เหมือนอีฟจะตีมึนใส่ซะงั้น
ผมเลยเอาเฟสหลุมแชทไปถามก่อนว่า ตกลงเมื่อวานเย็นที่ทะเล ใช่อีฟใช่มั้ย เธอตอบว่า "ใช่อีฟเอง"
ผมก็ตอบเธอว่า "ตัวเล็กกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ นึกว่าจำคนผิดซะแล้ว"
20. ผมก็พยายามถามอีฟไปว่า บล๊อคผมเรื่องไร เรื่องผมไปมองหน้าหรือปล่าว ถ้าใช่ แล้วถ้าเจอกันอีก ผมจะได้ก้มหน้าไว้ หรือมองไปทางอื่นแทน เพราะว่าวันนั้นผมไม่ได้ทำอะไรเค้าเลย นอกจากมองหน้า จึงถามไปแบบนั้น แต่เค้าก็ไม่ตอบคำถามผม
21. ถ้าอีฟบล๊อคผมไปตั้งแต่ก่อนเจอกัน ผมคงไม่งงเท่านี้ แต่พอเจอหน้ากันปุ๊บ บล๊อคเฉย หรือพึ่งหาเฟสผมเจอ ก็ไม่น่าใช่
หรืออีฟคิดว่าผมยังชอบเธออยู่ เพราะผมมองเค้าหลายรอบ ทั้งๆที่มากับเมีย ก็เลยไม่พอใจ
22. ตกลงผมผิดอะไรครับ ใครพอสรุปได้บ้าง ไม่เคยเจอจริงๆ มองหน้า=บล๊อคเฟส
ต่อไปนี้ผมคงไม่กล้ามองหน้าเธออีกแล้วแหละ เธอคงเกลียดผมเอามากๆ T_T