ขออนุญาติสอบถาม ศาสนาซิกข์ สิกข์ นิกายสหัชธรี หรือนานักปันถิ ว่ามีนับถือในไทยหรือไม่ ถ้ามีอยู่ที่ใดบ้าง

กระทู้คำถาม
ขออนุญาติครับ และขออภัยหากทำให้พี่น้องชาวซิกข์ขุ่นเคืองใจ(รึเปล่า)
ที่ถามถึงนิกายที่ชาวซิกข์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ได้นับถือกัน

คือผมชอบศึกษาศาสนามาก โดยมักที่จะศึกษาทุกศาสนาแยกย่อยไปทีละนิกาย เพื่อหาศาสนาและนิกายที่เข้ากับจริตส่วนตัวมากที่สุด
แล้วผมก็พบศาสนาซิกข์ นิกายสหัชธรี ซึ่งเข้ากับตัวผมมาก อยากรู้จัก อยากเข้าไปศึกษาคลุกคลีกับผู้นับถืออยู่ก่อนให้มากกว่านี้ครับ

จึงขอสอบถามว่านิกายนี้มีนับถือในไทยหรือไม่ แล้วถ้ามี มีอยู่ที่ใดบ้าง มีวัดหรือศาสนาที่ปฏบัติธรรมของพวกเค้าหรือไม่

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
สวัสดีครับ

ขอบคุณสำหรับคำถามครับ

บรรดาซิกข์คุรุศาสดา เองไม่เคยขุ่นเคืองใจเรื่องนิกายต่างๆ ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในสมัยของพระองค์เลย ชาวซิกข์ก็ไม่ขุ่นเคืองใจในเรื่องนี้ เช่นกัน

สิทธิเสรีในการนับถือและสิ่งศรัทธา เป็นของทุกคน ในสมัยของพระองค์เองก็มีบรรดาศิษย์หลายรูปแบบ มีทั้งแบบผู้ที่ถวายชีวิตให้แก่พระองค์ ปฏิบัติธรรมในวีถีของพระองค์ ด้วยกายและใจที่เป็นหนึ่งเดียว และ มีแบบผู้ที่เลือกปฏิบัติ ตามที่ตัวเองสะดวก เช่นกัน

เหมือนศาสนาอื่น ศาสนาซิกข์ก็มีหลายนิกายมากมาย เช่นกัน

มีทั้งหมู่นิกายที่ถูกก่อตั้งขึ้นโดยบรรดาญาติกาของบรรดาพระองค์ศาสดาเอง ผู้ซึ่งมิได้รับการสืบทอดเป็นองค์ ศาสดา แต่ฝืนอยากเป็น และสถาปนาตนเองเป็นองค์ศาสดาของซิกข์ขึ้นมา บางนิกายในหมู่นี้ก็สาบสูญไปด้วยกาลเวลา บางนิกายก็ยังอาจคงอยู่แต่มีสมาชิกน้อย

มีหมู่นิกายที่ไว้เกศา เช่นกัน เพียงเห็นต่างในเรือง บรรดาองค์ศาสดา หรือ พระคัมภีร์ บางนิกายในหมู่นี้ ยึดเหนียวกับเพียงศาสดาองค์แรก เท่านั้น เช่น นิกาย นานักปันถี (Nanak panthis) เดิมแล้ว ทุกคนเชื่อว่าองค์ปฐมศาสดา ไม่เคยเน้นเรื่องเกศา (แม้พระองค์ เองรักษ์เกศา) แต่ราว 80 ปี ก่อน ได้ค้นพบเอกสารพระจักษ์พยานชาวมุสลิมที่ตะวันออกกลาง ซึ่งได้เปิดเผยถึงความสำคัญในการไว้เกศาขององค์ซิกข์ศาสดา เมื่อทรงถูกชาวมุสลิมถามตอนพระองค์เยือน มักกะฮ์ (Mecca) ส่วนบางนิกายก็เชื่อว่า ทศมองค์ศาสดา มิได้เป็นองค์สุดท้ายแห่งซิกข์ศาสดา แต่มีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

บางนิกายก็นิยมประเพณีดั้งเดิมอย่างเคร่งครัดในการเป็นนักรบ

แล้วก็มีหมู่นิกายที่ไม่เห็นความสำคัญของเกศา และไม่รักษาเกศา หมู่นิกายนี้ ย่อมดูไม่ออกว่าเป็นนิกายทางซิกข์ หรือ ทางฮินดู เนื่องจากว่าชาวฮินดูในปัญจาบเอง ก็นับถือซิกข์ศาสดา เช่นกัน เนื่องจากชาวพราหมณ์ฮินดู สามารถนับถือใครก็ได้ สามารถนับถือ องค์ศาสดาของทุกศาสนาและบรรดาเทพเทวาพร้อมกันก็ได้ จึงจะดูไม่ออกว่าเขาเป็นซิกข์หรือเป็นฮินดู และส่วนใหญ่ก็จะถูกมองเป็นฮินดูไป เนื่องจากวิถีซิกข์เป็นวิถีเฉพาะ

ปัจจุบัน ในปัญจาบ ซึ่งสังเกตได้ในวงนักร้องและนักแสดง ก็มีบรรดาผู้ที่กล่าวตนเป็นซิกข์ นับถือบรรดาซิกข์ศาสดาและพระมหาคัมภีร์ และนิยมโพกศีรษะเป็นซิกข์ เช่นกัน แต่ตัดโกนหนวดและเกศา

ปัจจุบัน ลูกหลานชาวซิกข์หลายคนทั้งในเมืองไทยและทั่วโลก ก็นิยมตัดผมและโกนหนวดกัน ไม่นิยมโพกศีรษะเช่นกัน ซึ่งก็มิได้เป็นเรื่องใหม่และมีมาตลอด เช่นกัน

มีชาวต่างศาสนิกชนมากมายในสมัยขององค์ซิกข์ศาสดา เช่นกัน ซึ่งนับถือซิกข์ศาสดา แต่มิได้เปลี่ยนศาสนาของตนมาเป็นซิกข์

พระศาสดาเอง ทรงตรัสว่า พระเจ้าไม่ดูศาสนา ไม่ดูโฉมหรือการแต่งกาย แต่ทรงดูใจและวิถีชีวิตของเรา ซึ่งเราประพฤติตนในความรักของพระเจ้าอย่างถูกศีลหรือไม่ ซึ่ง คุรุศาสดาก็ได้เปิดเผยวิถีของพระองค์ มาตลอด สำหรับผู้ได้ ซึ่งน้อมรับหนทางของพระองค์ และพระองค์ ก็ไม่เคยบอกว่าหนทางแห่งธรรมจะง่าย ทรงตรัสว่ามัน “คมกว่าดาบ และบางกว่าเส้นผม” องค์ศาสดา ศรีคุรุ โควินท์ สิงห์ ทรงตรัสว่า “เรารักศีล ใช่ที่จะรักศิษย์ (ซิกข์)” ซึ่ง แสดงให้เห็นว่า พระองค์ทรงให้ความสำคัญ ยกย่องนับถือ และรักผู้ที่ปฏิบัติธรรมจริง อยู่ในศีลจริง เอาธรรมนำหน้าในชีวิตจริง มากกว่าผู้ที่เป็นเพียงในนาม เพราะโดยปริยาย วิถีธรรม มักจะย้อนกับกระแสของวิถีโลก (มายา) อยู่แล้ว

ทุกอย่างล้วนอยู่ที่เรามีทัศนคติต่อศาสนาอย่างไร มองเป็น ไอเดีย/ทฤษฎี/อุดมการณ์ ที่ตนชอบและสบายใจ เปรียบเสมือนกับเป็นสินค้า หรือมองเป็น พรสวรรค์ ความเมตตาของพระเจ้า เป็นนวิถีที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา ด้วยศีลที่จะช่วยให้เราใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น เหมือนกับบรรดาซิกข์ศาสดาเอง

ขออภัยหากผิดพลาดประการใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่