คำสารภาพของเด็กเร่ร่อน(ภาคอดีตกาล) : ตอนที่5 การเดินทางของชีวิต (ตอนจบ)

เรื่องสั้นเมืองนอกในวันวาน จากประสบการณ์จริง ชุด คำสารภาพของเด็กเร่ร่อน(ภาคอดีตกาล) : ตอนที่5 การเดินทางของชีวิต (ตอนจบ)

คำเตือน..              เรต 18+ เนื้อหา ภาษา ไม่เหมาะสำหรับผู้มีอายุต่ำกว่า 18ปี
......................................................................................
ความเดิมตอนที่แล้ว : 
 https://ppantip.com/topic/40356941
 https://ppantip.com/topic/40360873
 https://ppantip.com/topic/40369632
 https://ppantip.com/topic/40373732
........................................................................................... 
ชุด คำสารภาพของเด็กซ่อง (ภาคอนาคตกาล) 
              ตอนที่ 1               https://ppantip.com/topic/40324490
              ตอนที่  2              https://ppantip.com/topic/40329014
              ตอนที่  3              https://ppantip.com/topic/40333434
              ตอนที่  4              https://ppantip.com/topic/40339867
              ตอนที่  5  (จบ)     https://ppantip.com/topic/40344608
..........................................................................................................


Andyได้กลายมาเป็นคู่ขาประจำของCharlie เขามาค้างคืนสัปดาห์ละครั้ง 2ครั้ง บางสัปดาห์มาทุกวัน บางสัปดาห์ก็หายหน้าไปเลย เอาแน่นอนไม่ได้ แล้วแต่อารมณ์

บางครั้ง Andyปรับทุกข์และระบายความในใจให้ฟังว่า ตัวเขาทะเลาะ มีปัญหากับทางบ้านเป็นประจำ เพราะถูกเปรียบเทียบกับพี่ชายคนโตที่เก่งกว่า เอาการเอางานมากกว่า ดูเหมือนพ่อแม่จะรักพี่ชายมากกว่าตนเอง

เวลาทะเลาะกับทางบ้านและไม่มีที่ไป AndyมักนึกถึงCharlie เป็นคนแรกเสมอ เพราะ Charlieดูแลบริการเขาดุจดั่งเจ้าชาย แถมยังเข้าใจรับฟังทุกเรื่องอย่างใส่ใจอีกด้วย ไม่เคยถามจุกจิกซอกแซกให้ต้องรำคาญใจเลย (คนมันหล่อ ต้องคอยเอาใจประคมประหงมกันนิดหนึ่ง ยิ่งเป็นโรคแพ้ความหล่ออยู่ด้วย)
ต่อให้Andyมากดกริ่งเรียกตอนตี1 ตี2   Charlieยินดีเต็มใจที่จะลุกขึ้นมาเปิดประตูให้ โดยไม่ปริปากบ่นซักคำ (ถ้ามาเรียกเวลาดังกล่าว มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือ ต้องทะเลาะกับทางบ้านและโดนไล่ออกจากบ้านมาแน่นอน)

Charlieแอบมีใจให้Andyอยู่บ้าง แต่ยังไม่ให้ใจ100% เต็ม เนื่องจากรสนิยมทางเพศของฝ่ายตรงข้าม สามารถเอาได้ทั้งหญิงและชาย วันหนึ่งหากAndy กลับไปรักชอบพอกับผู้หญิงขึ้นมา ตนคงทำใจลำบาก

ผ่านไปหลายสัปดาห์ Charlieไม่ได้ข่าวคราวAndy เลย (สมัยนั้นโทรศัพท์มือถือยังเป็นของใหม่และมีราคาแพง Charlieมีแค่เบอร์โทรร้านอาหารเท่านั้น ส่วนใหญ่ Andyมักจะติดต่อด้วยการโทรจากตู้หยอดเหรียญเข้ามาหาโทรศัพท์ในห้อง) Charlieเริ่มที่จะรนรานกระวนกระวายร้อนอกร้อนใจด้วยความเป็นห่วง จึงอดใจไม่ไหว ลองโทรไปถามพี่อ้อยซึ่งเป็นผู้จัดการร้านอาหารของทางบ้านAndy

เมื่อได้คุยกับพี่อ้อย Charlieตกใจช็อคชนิดเหงื่อออกตามอุ้งมือทั้งสองข้าง พี่อ้อยบอกว่า Andyเผลอไปทำผู้หญิงนักเรียนไทยท้อง เลยต้องบินไปเจรจาสู่ขอกับครอบครัวของผู้หญิงคนนั้นที่เมืองไทย

Charlieรู้สึกเสียใจเศร้าใจ แต่มันยังไม่สุดเท่าไหร่ น้ำตาซักหยดไม่ยอมไหลออกมา อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ได้คิดเผื่อใจเอาไว้แล้ว พอเขาจากไปจริงๆ เลยไม่ต้องเล่นใหญ่ไฟกระพริบจัดเต็มครบเครื่องตามสูตรของคนอกหัก ยิ่งมีกลุ่มเพื่อนๆ คอยพูดคุยให้กำลังใจด้วยแล้ว เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ สามารถผ่านมันมาได้ด้วยดี

อีกไม่กี่เดือนต่อมา สมาชิกในกลุ่มเริ่มแตกกระจายแยกย้ายกันไปคนละทิศทางตามวิถีชีวิตของแต่ละคน

พี่เอก กลับเมืองไทยเพื่อไปเสริมหน้าอก ผ่าตัดแปลงเพศ หลังจากพักฟื้นและแผลหายกลับมาเป็นปรกติดีแล้ว นางมีโครงการเดินสายโปรโมตธุรกิจขายอาหารทะเล (พอเดากันออกเนอะ) ที่เยอรมันและหลายประเทศในยุโรป

พี่จิ๋ว ย้ายไปอยู่กับแฟนที่เมืองMelbourne รัฐVictoria (ยังติดต่อกันอยู่จนถึงทุกวันนี้)

พี่ซ้ง กลับเมืองไทย ใช้ชีวิตเป็นอาซ้อสายเปย์ เปิดฮาเร็มเลี้ยงเด็กหนุ่ม

พี่อ้อย ยังอยู่ที่เดิม พักหลังๆ นางงานยุ่งมาก จนไม่มีเวลาปลีกตัวไปไหนเลย

ชีวิตของCharlie เริ่มกลับมาสู่วังวนเดิมอีกครั้ง เหมือนตอนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่อาคารแห่งนี้ใหม่ๆ แต่ละวันมีแค่… ห้อง ที่ทำงาน ซุปเปอร์มาร์เก็ต 
ส่วนวันหยุด ออกไปเดินเล่นตามศูนย์การค้าบ้าง ไชน่าทาวน์ ไทยทาวน์ หรือไม่ก็เข้าเกย์ซาวน่า (เวลาเกิดอารมณ์เปลี่ยว) ซ้ำซากจำเจอยู่ตลอด

วันหนึ่งต้นปี1998 Charlieได้มีโอกาสเจอหนุ่มลูกครึ่งอินเดียนแดง -แคนาเดียน อายุประมาณ 26 ปี บนฟุตบาททางเดินถนนOxford St. หลังจากส่งยิ้มให้กัน สบตากัน และส่งสัญญาณความกำหนัดให้กันและกันรับรู้

Charlieได้พาหนุ่มลูกครึ่งอินเดียนแดงคนนั้น มาขยี้สวาทที่ห้อง หลังจากได้ปลดปล่อยอารมณ์สวาทแล้ว ทั้งสองจึงพูดคุยเรื่องสัพเพเหระต่างๆ จนกระทั่งเขาเล่าเรื่องการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกให้ฟัง

ชายหนุ่มลูกครึ่งอินเดียนแดง ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินแบบพิเศษเป็นตั๋วเดินทางรอบโลก โดยมีเงื่อนไขต้องใช้เวลาเดินทางภายใน 1ปี รอบโลก ทวีปละ 3ประเทศ ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่อยู่ในตั๋วเดินทางของเขาด้วย

Charlieตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจ พร้อมถามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมทั้งคำแนะนำที่เป็นประโยชน์

วันรุ่งขึ้น Charlieเดินไปหา travel agent แห่งหนึ่งในย่าน Kings Cross เพื่อถามรายละเอียด ราคาของตั๋วชนิดนี้

เมื่อทราบข้อมูลที่ต้องการและพึงพอใจกับราคา Charlieตัดสินใจซื้อตั๋วเดินทางรอบโลกทันที เพื่อเป็นการให้รางวัลชีวิตตัวเองที่ทำงานหนักมาหลายปี โดยไม่มีโอกาสได้ออกไปท่องเที่ยวที่ไหนไกลๆ เปิดหูเปิดตาหาประสบการณ์เหมือนคนอื่นเขา ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก มันไม่ได้ทำกันง่ายๆ บ่อยๆ

ตั๋วเดินทางรอบโลกของCharlie ราคา AU$2,900 (ราคาโปรโมชั่นยุคนั้น) เป็นตั๋ว 1ปี สามารถบินเข้า-ออกทวีปละ 2-3 ประเทศ (บางทวีปได้แค่ 2ประเทศ และบางทวีปได้แค่ 3ประเทศ)
Sydney – Tokyo - Vancouver – San Francisco - LA - Santiago - Buenos Aires – Madrid – Berlin – Cairo – Johannesburg – New Delhi – Bangkok – Sydney

ระยะเวลาที่Charlie วางแผนเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 8เดือน (เพราะต้องรีบกลับมาทำมาหากิน ขืนไปเที่ยว 1ปี มีหวังกลับมาต้องกินแกลบ & ไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่)

ก่อนเดินทาง สิ่งแรกที่ต้องทำคือ รีบแจ้งให้ที่ทำงานทราบเรื่องขอลาออก รวมถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ว่าจะคืนห้องพักเมื่อไหร่ ตามด้วยการเคลียร์ข้าวของทั้งหลายที่มีชิ้นใหญ่ออกให้หมด โดยแบ่งเป็น 2ส่วน คือ ส่วนแรกยกไปบริจาคให้องค์กรการกุศลต่างๆ และอีกส่วนเอาไปฝากไว้ที่บ้านพี่อ้อย

ข้อมูลการเดินทาง ไกด์บุ๊คเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการเดินทาง นิสัยรักการอ่านของCharlie ทำให้ห้องสมุดเป็นแหล่งคลังข้อมูลท่องเที่ยวชั้นยอดที่ดีที่สุดในยุคนั้น (ยุคปัจจุบันนี้สะดวกสบายหลายร้อยหลายพันเท่า แค่มี smart phone  & สัญญาณ wifi   โลกทั้งใบก็อยู่ในมือของเรา)

ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ  กล้องถ่ายรูป   เอาไว้ถ่ายภาพความทรงจำอันประทับใจ  คนรู้จักแนะนำมาว่า ไปซื้อที่ Downtown duty free  จะได้ราคาปลอดภาษี พอจ่ายเงินเสร็จทางร้านจะห่องของใส่แพ็คเกจปิดผนึกอย่างดี ห้ามแกะจนกว่าจะเอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรขาออกที่สนามบิน ดึงขั้วเอกสารที่เย็บติดไว้บนถุงช้อปปิ้ง ออกมา  จึงสามารถเปิดใช้งานได้

วันแรกของการเดินทาง Charlieตื่นเต้นอย่างมาก   ตลอดระยะเวลาการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลก สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพที่สวยงาม วัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่แปลกแตกต่าง 

การเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ได้ประโยชน์เกินคุ้มมากกว่าที่คิดไว้ตั้งแต่แรก มันเป็นอีกหนึ่งในความสุขทางใจที่สามารถใช้เงินทองซื้อหาได้  นอกจากเป็นการผ่อนคลายทางด้านจิตใจแล้ว ยังได้เปิดโลกทัศน์ รวมทั้งยังได้ความรู้ทางด้านอื่นๆ อีกมากมายติดตัวมาประยุกต์ใช้ด้วย ดั่งสำนวนจีนโบราณ "อ่านหนังสือหมื่นเล่ม มิอาจสู้เดินทางหมื่นลี้" 

ปลายปี1998 Charlieได้เดินทางกลับมาออสเตรเลีย

ชีวิตในอนาคตข้างหน้าของCharlie จะดำเนินต่อไปอย่างไร  สามารถติดตามอ่านได้ในชุด "คำสารภาพของเด็กซ่อง" (ภาคอนาคตกาล) ซึ่งได้โพสลงก่อนหน้านี้แล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่