สวัสดีครับ
ถ้าผ่านมาก็แวะมาให้กำลังใจผมหน่อยละกันนะ ผมรู้สึกแย่ๆครับ แต่เดี๋ยวก้หายแหล่ะครับ ฮือ ฮือ
เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่าช่วงต้นเดือนตุลา ผมอ่ะไปเจองานประมูลในอินเตอร์เนตที่อเมริกา (ไม่ใช่ Ebay นะครับ) เป็นงานประมูลที่เป็นการ นำของใช้และเฟอร์นิเจอร์ของโรงแรมที่ชื่อว่า วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก (Waldorf Astoria New York) ออกประมูล
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่คิดอะไร มันก็แค่งานประมูลธรรมดา เอาของใช้และเฟอร์นิเจอร์มาจขาย แต่ด้วยการที่โรงแรม วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก (Waldorf Astoria New York) มีสาระสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างนึงที่ คนไทยน้อยคนจะรู้ คือ โรงแรมวอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก (Waldorf Astoria New York)เป็นโรงแรมที่ในหลวง ร.9 เสด็จประทับ ตอนที่เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา ในคราวต้นร้ชกาลที่ 9
คือโรงแรมนี้ ถือว่าเป็นโรงแรมในตำนานและมีระดับที่สุดของนครนิวยอร์ก เวลามีแขกบ้านแขกเมือง หรือบุคคลสำคัญมาเยือนสหรัฐอเมริกา และนครนิวยอร์ก ก็มักจะพักที่โรงแรมนี้ โรงแรมนี้เก่ามาก เพราะเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1893 หรือเมื่อ 127 ปี ถือเป็น Waldorf Astoria สาขาแรก ในเมืองไทยก็มี คือ Waldorf Astoria Bangkok เปิดให้บริการในปี 2018 และเมื่อปี 2017 วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก (Waldorf Astoria New York) มีแผนที่จะรีโนเวท ปรับปรุงโรงแรมใหม่ จึงโล๊ะ ของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์เก่าออกทั้งหมด รวมกันประมาณ 80,000 ชิ้น ถือเป็นงานประมูลที่มีของเข้าประมูลมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ในปี 2020 ซึ่งเป็นสิ่งของในช่วงต้นๆยุค 1900-1950
โดยทั่วไป ถ้าหากมีดาราหรือแขกคนสำคัญ เจ้าของกิจการก็มักจะเก็บรูปแปะข้างฝาเป็นที่ระลึก เหมือนที่เราเห็นเวลาเราไปกินร้านอาหารที่เคยมีดาราไปกินอาหาร วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก ก็เช่นกัน คือมีรูป หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ร.9 ถูกประดับไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่โรงแรมเหมือนกันและรูปนั้นก็ถูกนำออกมาประมูลด้วย!! ด้วยการที่ผมชอบสะสมอะไรแบบนี้ อยู่แล้ว ผมไม่พลาดแน่นอน ถือเป็นสิ่งของทางประวัติศาตร์ และคิดว่าราคาไม่สูง ก็เลยขอร่วมประมูล สรุปก็คือผมก็ประมูลได้ 1 เซต มีรูปในหลวง ร.9 จักรพรรดิอากิฮิโตะ และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ผมก็จ่ายค่าของ และค่าส่งเอารูปไปพักไว้ที่บริษัทชิปปิ้ง ที่เขารับส่งของเข้าไทยก่อน หลังจากนั้นก็จะส่งเข้าไทยอีกที ผมใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการรอรูปเซตนี้ กล่องมีขนาดใหญ่มาก และหนักถึง 18 กิโลกรัม ผมโดนเฉพาะค่าส่ง ตกทั้งหมดที่ราวๆ 700 USD หรือ 21,000 กว่าบาท คือช็อคมาก ไม่คิดว่าจะหนักและใหญ่ขนาดนี้ ก็เลยแกะด้วยความตื่นเต้น และผลก็เป็นอย่างในภาพ ส่งสลับกัน !! กลายเป็นภาพ interior ของโรงแรมแทน แต่เพื่อนผมบอกว่า น่าจะโดนโกง เฮ้อออ
ผมช็อคมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนโกง เลยติดต่อคนส่งปรากฏว่า ชิ้ปปิ้งที่ชื่อว่า UPS ที่เป็นชิ้ปปิ้งที่ทางสถาบันประมูลแนะนำ แพคของ และส่งของ ของผมสลับกับอีกเจ้าหนึ่ง เขาบอกว่า ให้ผมส่งกลับ ไปแล้วเขาจะออกค่าส่งให้หลังจากส่งแล้ว และเข้าจะส่งรูปเซตที่ถูกต้อง ที่บริษัทชิปปิ้ง ที่เขารับส่งของเข้าไทย เหมือนในครั้งแรก ถ้าผมทำตามเขาผมต้องเสียเงินค่าส่งทั้งหมด ประมาณ 35000 บาท
สถาบันประมูลที่แนะนำชิปปิ้งเจ้านี้ ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรในกรณีนี้ เพราะถือว่าชิ้ปปิ้งเป็นฝ่ายรับผิดชอบ แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่เช็คก่อนว่าของถูกหรือเปล่าก่อนส่งมาไทย ก็คือไม่ได้เช็ค เพราะชิ้ปปิ้งที่ส่งกลับไทยมีหน้าที่แค่เช็คว่าของถูกส่งมาแล้ว และมีหน้าที่ส่งกลับไทย อย่างเดียวเท่านั้น
ผมก็เลยจำใจยอมรับในชะตากรรม ก็ช่างมันครับ ผมได้ระบายล่ะผมสบายใจล่ะครับ ขอบคุณมากถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้
ผมว่าผมจะเอาไปขายในกลุ่มค้าขาย Facebook ที่เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย และกะจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหนึ่งรูปครับ
ใครรู้จักกลุ่มดีๆแบบที่บอกช่วยแนะนำหน่อยครับ
เป็นเรื่องแย่ๆ ส่งท้ายปีเลย เฮ้อออ
ขออนุญาติเพิ่ม tag ประวัติศาสตร์ ไปด้วยนะครับ
อดได้รูปที่มีคุณค่าประวัติศาสตร์ เพราะการทำงานแย่ๆของชิ้ปปิ้งในอเมริกา เฮ้อ
ถ้าผ่านมาก็แวะมาให้กำลังใจผมหน่อยละกันนะ ผมรู้สึกแย่ๆครับ แต่เดี๋ยวก้หายแหล่ะครับ ฮือ ฮือ
เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่าช่วงต้นเดือนตุลา ผมอ่ะไปเจองานประมูลในอินเตอร์เนตที่อเมริกา (ไม่ใช่ Ebay นะครับ) เป็นงานประมูลที่เป็นการ นำของใช้และเฟอร์นิเจอร์ของโรงแรมที่ชื่อว่า วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก (Waldorf Astoria New York) ออกประมูล
โดยทั่วไป ถ้าหากมีดาราหรือแขกคนสำคัญ เจ้าของกิจการก็มักจะเก็บรูปแปะข้างฝาเป็นที่ระลึก เหมือนที่เราเห็นเวลาเราไปกินร้านอาหารที่เคยมีดาราไปกินอาหาร วอร์ดอฟแอสโทเลีย นิวยอร์ก ก็เช่นกัน คือมีรูป หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ร.9 ถูกประดับไว้เพื่อเป็นเกียรติแก่โรงแรมเหมือนกันและรูปนั้นก็ถูกนำออกมาประมูลด้วย!! ด้วยการที่ผมชอบสะสมอะไรแบบนี้ อยู่แล้ว ผมไม่พลาดแน่นอน ถือเป็นสิ่งของทางประวัติศาตร์ และคิดว่าราคาไม่สูง ก็เลยขอร่วมประมูล สรุปก็คือผมก็ประมูลได้ 1 เซต มีรูปในหลวง ร.9 จักรพรรดิอากิฮิโตะ และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ผมก็จ่ายค่าของ และค่าส่งเอารูปไปพักไว้ที่บริษัทชิปปิ้ง ที่เขารับส่งของเข้าไทยก่อน หลังจากนั้นก็จะส่งเข้าไทยอีกที ผมใช้เวลาประมาณ 2 เดือนในการรอรูปเซตนี้ กล่องมีขนาดใหญ่มาก และหนักถึง 18 กิโลกรัม ผมโดนเฉพาะค่าส่ง ตกทั้งหมดที่ราวๆ 700 USD หรือ 21,000 กว่าบาท คือช็อคมาก ไม่คิดว่าจะหนักและใหญ่ขนาดนี้ ก็เลยแกะด้วยความตื่นเต้น และผลก็เป็นอย่างในภาพ ส่งสลับกัน !! กลายเป็นภาพ interior ของโรงแรมแทน แต่เพื่อนผมบอกว่า น่าจะโดนโกง เฮ้อออ
ผมช็อคมาก ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนโกง เลยติดต่อคนส่งปรากฏว่า ชิ้ปปิ้งที่ชื่อว่า UPS ที่เป็นชิ้ปปิ้งที่ทางสถาบันประมูลแนะนำ แพคของ และส่งของ ของผมสลับกับอีกเจ้าหนึ่ง เขาบอกว่า ให้ผมส่งกลับ ไปแล้วเขาจะออกค่าส่งให้หลังจากส่งแล้ว และเข้าจะส่งรูปเซตที่ถูกต้อง ที่บริษัทชิปปิ้ง ที่เขารับส่งของเข้าไทย เหมือนในครั้งแรก ถ้าผมทำตามเขาผมต้องเสียเงินค่าส่งทั้งหมด ประมาณ 35000 บาท
สถาบันประมูลที่แนะนำชิปปิ้งเจ้านี้ ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรในกรณีนี้ เพราะถือว่าชิ้ปปิ้งเป็นฝ่ายรับผิดชอบ แล้วถ้าถามว่าทำไมไม่เช็คก่อนว่าของถูกหรือเปล่าก่อนส่งมาไทย ก็คือไม่ได้เช็ค เพราะชิ้ปปิ้งที่ส่งกลับไทยมีหน้าที่แค่เช็คว่าของถูกส่งมาแล้ว และมีหน้าที่ส่งกลับไทย อย่างเดียวเท่านั้น
ผมก็เลยจำใจยอมรับในชะตากรรม ก็ช่างมันครับ ผมได้ระบายล่ะผมสบายใจล่ะครับ ขอบคุณมากถ้าคุณอ่านมาถึงตรงนี้
ผมว่าผมจะเอาไปขายในกลุ่มค้าขาย Facebook ที่เป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในไทย และกะจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหนึ่งรูปครับ
ใครรู้จักกลุ่มดีๆแบบที่บอกช่วยแนะนำหน่อยครับ
เป็นเรื่องแย่ๆ ส่งท้ายปีเลย เฮ้อออ
ขออนุญาติเพิ่ม tag ประวัติศาสตร์ ไปด้วยนะครับ