70ปี สบู่นกแก้ว “ตำนานสบู่ก้อนที่ยังมีชีวิต”


เริ่มเป็นสบู่ก้อน เมื่อปี พ.ศ. 2490 นับถึงปัจจุบัน สบู่หอมนกแก้วมีอายุยาวนานถึง 70 ปีเต็ม อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้แบรนด์สบู่ก้อนยี่ห้อนี้เดินทาง
มาได้ยาวไกล

ประวัติสบู่ก้อน ตรานกแก้วเกิดในช่วงรอยต่อของวงการค้าของไทยที่ฝรั่งเข้ามามีบทบาทในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2 จบลงสภาพในขณะนี้คนไทยใช้สบู่กรด หรือไม่ก็ไม่ใช่สบู่ในการทำความสะอาดร่างกาย เมืองไทยไม่มีสบู่หอมมาก่อน หากใครเป็นผู้ใหญ่วัย 50 ปีขณะนี้คงจะได้ทันสบู่กรด สีน้ำงานเจือขาว ไม่มีแพคเก็จจิ้งใดๆ ก้อนสบู่กดเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส หรือไม่หากเป็นก้อนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า

สบู่ที่มีทรงเป็นก้อนนั้น ยี่ปั๊วขายส่งจะขายยกกล่อง ซาปั๊วไปแกะแบ่งขาย ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นก้อนๆ ไม่มีฉลากใด ทั้งนั้น ใช้ได้สารพัด ซักผ้า ไม่ได้เอาไปถูตัว อาบน้ำ กลิ่นสบู่ไม่มีความหอม คงเป็นกลิ่นธรรมชาติของเคมีทำสบู่
สบู่ก้อนหอม ก้อนแรกของสยามถูกคิดค้นโดย ” วอลเตอร์ เลโอ ไมเยอร์” ชาวสวิส ที่เข้ามาทำงานในไทย ในฐานะเป็นประธานกรรมการบริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (ปี 1981-1991) เนื่องจากมองเห็นว่าประเทศไทยยังไม่มีการผลิตสบู่ และด้วยความที่เป็นคนชอบเดินป่า เขาเคยได้สำรวจป่าและ พบกับ”นกแก้ว”นกสวยงามของเมืองไทย และนำมาเป็นแบรนด์ของสบู่ที่มีแผนทำออกขาย

ในขณะที่กลิ่นหอมของสบู่นกแก้วที่เป็นเอกลักษณ์ นั้นได้มาจากกลิ่นธรรมชาติของป่า และกลิ่นดอกไม้ป่าของไทยในขณะนั้น จึงเป็นที่มาของความหอม ที่เป็นเอกลักษณ์โดยการนำมาผสมกับน้ำหอมจากฝรั่งเศษ ดังนั้นสบู่หอมจึงกำเหนิดขึ้นมา โดยให้ชื่อว่า “นกแก้ว”
(อ่านประวัติเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ และผู้ก่อตั้ง)
สบู่นกแก้วนี้นมีเอกลักษณ์อยู่อย่างหนึ่งจนถึงวันนี้ นั่นคือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ด้วยการห่อกระดาษ ไม่ผนึกแน่นเหมือนสินค้าอื่นๆ เนื่องจากว่า วอลเตอร์ เลโอ ไมเยอร์ ต้องการให้กลิ่นของสบู่ออกมาได้ ลูกค้าสามารถพิสูจน์กลิ่นความหอมโดยไม่ต้องแกะออกดม
ในยุคที่สบู่ก้อนตกต่ำเพราะว่า มีผู้ผลิตที่เป็นคู่แข่งทำสบู่เหลวออกมาสู่ตลาด หลายคนในวงการสบู่คิดว่า “นกแก้ว”ต้องถึงช่วงสุดท้ายของตัวเองในตลาดเพราะว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันมาใช้”ครีมอาบน้ำ “ทำให้สบู่นกแก้วต้องหันมาทำ ตลาดสบู่เหลวในขวดเพื่อสนองความต้องการของตลาด แต่กาลเวลาผ่านไป สบู่ก้อนก็ยังคงได้รับความนิยมชมชอบจากผู้ใช้ไม่ได้ ล้มหายไปจากตลาด
ข้อเด่นของสบู่นกแก้ว ที่มีลักษณะก้อน ยังถือว่า เป็นจุดแข็งนั่นคือ “ไม่หมดง่าย”ใช้งานนาน ในขณะที่ราคาของสบู่นกแก้ว ที่จำหน่ายก้อนละ 12 บาท ไม่สูง เกินไป (แพค4ก้อน 45 บาท)
สบู่นกแก้วได้เพิ่มกลิ่นใหม่ๆ ออกมาเพื่อทำตลาดจากกลุ่มพฤกษา ดั้งเดิม เช่นในวาระครบรอบ 70 ปีในปี 2560 สบู่นกแก้วมีกลิ่นให้เลือก คือ กลิ่นบุปผาธรรมชาติ กลิ่มมะลิ กลิ่นกล้วยไม้ป่ากลิ่นลีลาวดีและ กลิ่นไม้หอม (2017)
สาเหตุที่นกแก้วเพิ่มกลิ่นหลากหลาย ก็เพื่อให้ผู้บริโภค สามารถใช้งานได้ตามที่ต้องการ บ้านหนึ่งอาจจะมีห้องน้ำหลายห้อง มีคนหลายคน ก็ใช้คนล่ะกลิ่นไปตามใจชอบ แน่นอนว่า กลยุทธ์ของนกแก้ว คือ ความพยายามให้ทุกคนในครอบครัว มีโอกาสสัมผัสหรือมีประสบการณ์ตรงกับการใช้สบู่และประสบการณ์ตรงนี้จะสามารถ สานต่อให้คนรุ่นต่อไป โดยการบอกต่อและ จดจำ “นกแก้ว” ต่อเนื่องยาวนานมา ได้เป็นชั่วอายุคนเลยทีเดียว
” วันนี้คุณเคยได้มีโอกาสสัมผัส”นกแก้ว” ตำนานสบู่ก้อนมีชีวิต สักครั้งหรือยัง?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่