สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นหนี้ของบัตรเครดิตที่ไหนคะ?
ลองเข้าไปทำสัญญาประนอมหนี้ที่สาขาใกล้บ้านดูค่ะ
ปัญหาการเงินของคุณคือการไม่รู้จักวางแผนและประมาณตนค่ะ
แก้ปัญหาไปที่ละ Step นะคะ
รถที่ใช้อยู่ เกิดอุบัติเหตุหนัก ถึงขั้นขับต่อไม่ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่คู่กรณีไม่มีประกัน
ค่าซ่อมก็แพงมาก เบ็ดเสร็จเกือบห้าหมื่นบาท เพราะเป็นคนต้องใช้รถทำงาน จึงใช้เงินเก็บที่มีส่วนหนึ่ง บวกกับใช้บัตรกดเงินสด เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน
อันนี้ประกันฝั่งคุณมีมั้ยคะ?
ถ้าไม่มีประกัน แนะนำทำสัญญากับคู่กรณีให้ผ่อนชำระกับอู่ซ่อมรถเอง
คนในครอบครัวเป็นมะเร็งสมอง ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งตอนรักษา ตอนที่รักษาตัว และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆอีกมากมาย
จึงทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากบัตรกดเงินสด
คนไข้ใช้สิทธิอะไรคะ? ลองติดต่อ รพ.ไปดูหรือยัง
ปกติ สิทธบัตรทอง หรือข้าราชการจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่ม
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว ถ้ายากจนจะมีกองทุนฯช่วยเหลือ ลองติดต่อกลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ รพ.ไปหรือยังคะ?
หนี้สินรวมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากหลายๆธนาคารรวมกัน อยู่ที่ประมาณร่วม 4แสนบาท
พยายามหารายได้เสริม พยายามประหยัด แต่มันก็ไม่พอกับดอกเบี้ยที่วิ่งขึ้นไปทุกเดือนๆ
วางแผนการเงินใหม่ รูดบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และสามารถจ่ายได้
เช่น คุณรูดไป 100 บาท คุณต้องมั่นใจว่าสิ้นเดือนเมื่อมีใบเรียกเก็บ คุณสามารถจ่ายได้ครบ 100บาท
ปัญหาวินัยการเงินต้องปรับพฤติกรรมใหม่ค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
ลองเข้าไปทำสัญญาประนอมหนี้ที่สาขาใกล้บ้านดูค่ะ
ปัญหาการเงินของคุณคือการไม่รู้จักวางแผนและประมาณตนค่ะ
แก้ปัญหาไปที่ละ Step นะคะ
รถที่ใช้อยู่ เกิดอุบัติเหตุหนัก ถึงขั้นขับต่อไม่ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่คู่กรณีไม่มีประกัน
ค่าซ่อมก็แพงมาก เบ็ดเสร็จเกือบห้าหมื่นบาท เพราะเป็นคนต้องใช้รถทำงาน จึงใช้เงินเก็บที่มีส่วนหนึ่ง บวกกับใช้บัตรกดเงินสด เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน
อันนี้ประกันฝั่งคุณมีมั้ยคะ?
ถ้าไม่มีประกัน แนะนำทำสัญญากับคู่กรณีให้ผ่อนชำระกับอู่ซ่อมรถเอง
คนในครอบครัวเป็นมะเร็งสมอง ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งตอนรักษา ตอนที่รักษาตัว และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆอีกมากมาย
จึงทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากบัตรกดเงินสด
คนไข้ใช้สิทธิอะไรคะ? ลองติดต่อ รพ.ไปดูหรือยัง
ปกติ สิทธบัตรทอง หรือข้าราชการจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาเพิ่ม
ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัว ถ้ายากจนจะมีกองทุนฯช่วยเหลือ ลองติดต่อกลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ รพ.ไปหรือยังคะ?
หนี้สินรวมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากหลายๆธนาคารรวมกัน อยู่ที่ประมาณร่วม 4แสนบาท
พยายามหารายได้เสริม พยายามประหยัด แต่มันก็ไม่พอกับดอกเบี้ยที่วิ่งขึ้นไปทุกเดือนๆ
วางแผนการเงินใหม่ รูดบัตรเครดิตเท่าที่จำเป็น และสามารถจ่ายได้
เช่น คุณรูดไป 100 บาท คุณต้องมั่นใจว่าสิ้นเดือนเมื่อมีใบเรียกเก็บ คุณสามารถจ่ายได้ครบ 100บาท
ปัญหาวินัยการเงินต้องปรับพฤติกรรมใหม่ค่ะ
ขอให้โชคดีนะคะ
ความคิดเห็นที่ 31
หนี้ 400,000 บาท
ยอดชำระขั้นต่ำโดยทั่วไปคือ 10% หรือ 40,000 บาท
แต่ในช่วง covid นี้ เข้าใจว่าธนาคารส่วนใหญ่ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 5% หรือ 20,000 บาท
ในขณะที่รายได้คุณในตอนนี้อยู่ที่ 15,000 บาท... มันยังไม่พอจ่ายขั้นต่ำด้วยซ้ำไป...
แถมยังมีภาระผ่อนบ้านอีก....
ตรงๆนะ....
ด้วยรายได้คุณในตอนนี้ ไม่มีทางเลยที่จะใช้หนี้ก้อนนี้ได้....
ทางเดียวที่คุณจะหลุดจากหนี้ก้อนนี้ได้คือการ " ขาย " เท่านั้น
ขายทุกอย่างที่ขายได้....
- รถอายุ 20 ปี ถ้าขายคงได้ราคาหลักหมื่น... (สมมติว่า 8 หมื่น)
- บ้าน เข้าไปคุยกับแบงค์ตรงๆว่าผ่อนไม่ไหวแล้ว อาจได้เงินมาสักก้อนนึง และไม่มีภาระต้องผ่อนต่อ
- ไปอยู่กับพ่อแม่ หรือญาติ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า
- หางานใหม่ที่ใกล้ๆ กับที่อยู่ใหม่
ที่แนะนำแบบนี้ เพราะ..... ถ้าคุณดึงดันที่จะไม่ขาย แต่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้...
สุดท้ายแล้ว เจ้าหนี้ก็จะฟ้องบังคับคดี เพื่อใช้หนี้อยู่ดี...
คุณต้องยอมรับความจริงว่าทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของคุณเอง...
คุณใช้เงินไม่ระวัง และขาดการวางแผนที่ดี...
" เคยทำงานในโรงงานเป็นระดับ ผจก. เงินเดือน 30k อยู่ที่ต่างจังหวัด จนโรงงานเจอพิษโควิด จนต้องปิดตัวไป
เลยกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เงินเดือนเหลือ 15k แต่ก็ต้องทำ เพราะมีภาระผ่อนบ้าน "
" รถที่ใช้อยู่ เกิดอุบัติเหตุหนัก ถึงขั้นขับต่อไม่ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่คู่กรณีไม่มีประกัน
ค่าซ่อมก็แพงมาก เบ็ดเสร็จเกือบห้าหมื่นบาท เพราะเป็นคนต้องใช้รถทำงาน จึงใช้เงินเก็บที่มีส่วนหนึ่ง
บวกกับใช้บัตรกดเงินสด เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน "
จาก 2 ประโยคข้างต้น แสดงให้เห็นว่า คุณใช้เงินเกินตัวครับ...
คุณใช้จ่ายโดยไม่ได้เก็บเงินสำรองไว้มากพอ เพราะค่าซ่อมรถ 50k คุณยังต้องใช้เงินจากบัตรกดเงินสดมาช่วย
นั่นหมายความว่า " เงินเก็บ " ของคุณมีไม่ถึง 50k...
สมัยคุณยังรายได้ 30k คุณควรจะมีเงินเก็บ ณ ตอนนั้นอย่างน้อย 180k นะครับ....
แล้วยิ่งคุณบอกว่า " โรงงานเจอพิษโควิด จนต้องปิดตัวไป "
มันหมายถึง คุณควรจะได้รับเงินชดเชยมาอีกก้อนนึง ถูกต้องไหมครับ ? แล้วเงินนั้นไปไหน ?
เรื่องซ่อมรถ คุณไม่ควรจะรับมาเป็นภาระตัวเองด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ความผิดคุณ...
จริงๆแล้วคุณควรให้คู่กรณีไปคุยกับอู่เรื่องการชำระเงินเอง คุณสนใจแค่อู่ซ่อมรถให้คุณก็พอ ที่เหลือคุณไม่จำเป็นต้องรับรู้...
เรื่องรักษาพยาบาลคนในครอบครัวที่เป็นมะเร็งสมอง อันนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องจำเป็น แต่......
คนในครอบครัวที่ว่านี้ไม่มีสิทธิ์บัตรทอง / ประกันสังคม อะไรเลยหรือครับ ? ที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายถูกลงได้มากกว่านี้...
และที่ผมไม่เข้าใจที่สุดก็คือตรงนี้ครับ.... " เบิกเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต เพื่อจ่ายค่ารักษา "
โรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาโรคมะเร็งสมองได้ ไม่รับรูดบัตรดิตหรือครับ ?
คุณไม่รู้หรือว่าการกดเงินจากบัตรเครดิต จะโดนชาร์จค่าธรรมเนียมทันที 3% และเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่กด ?
หลายๆโรงพยาบาลสามารถรูดบัตรแล้วผ่อน 0% ได้ด้วยซ้ำไป...
ยอดชำระขั้นต่ำโดยทั่วไปคือ 10% หรือ 40,000 บาท
แต่ในช่วง covid นี้ เข้าใจว่าธนาคารส่วนใหญ่ลดยอดชำระขั้นต่ำเหลือ 5% หรือ 20,000 บาท
ในขณะที่รายได้คุณในตอนนี้อยู่ที่ 15,000 บาท... มันยังไม่พอจ่ายขั้นต่ำด้วยซ้ำไป...
แถมยังมีภาระผ่อนบ้านอีก....
ตรงๆนะ....
ด้วยรายได้คุณในตอนนี้ ไม่มีทางเลยที่จะใช้หนี้ก้อนนี้ได้....
ทางเดียวที่คุณจะหลุดจากหนี้ก้อนนี้ได้คือการ " ขาย " เท่านั้น
ขายทุกอย่างที่ขายได้....
- รถอายุ 20 ปี ถ้าขายคงได้ราคาหลักหมื่น... (สมมติว่า 8 หมื่น)
- บ้าน เข้าไปคุยกับแบงค์ตรงๆว่าผ่อนไม่ไหวแล้ว อาจได้เงินมาสักก้อนนึง และไม่มีภาระต้องผ่อนต่อ
- ไปอยู่กับพ่อแม่ หรือญาติ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า
- หางานใหม่ที่ใกล้ๆ กับที่อยู่ใหม่
ที่แนะนำแบบนี้ เพราะ..... ถ้าคุณดึงดันที่จะไม่ขาย แต่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้...
สุดท้ายแล้ว เจ้าหนี้ก็จะฟ้องบังคับคดี เพื่อใช้หนี้อยู่ดี...
คุณต้องยอมรับความจริงว่าทั้งหมดเกิดจากความผิดพลาดของคุณเอง...
คุณใช้เงินไม่ระวัง และขาดการวางแผนที่ดี...
" เคยทำงานในโรงงานเป็นระดับ ผจก. เงินเดือน 30k อยู่ที่ต่างจังหวัด จนโรงงานเจอพิษโควิด จนต้องปิดตัวไป
เลยกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เงินเดือนเหลือ 15k แต่ก็ต้องทำ เพราะมีภาระผ่อนบ้าน "
" รถที่ใช้อยู่ เกิดอุบัติเหตุหนัก ถึงขั้นขับต่อไม่ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่คู่กรณีไม่มีประกัน
ค่าซ่อมก็แพงมาก เบ็ดเสร็จเกือบห้าหมื่นบาท เพราะเป็นคนต้องใช้รถทำงาน จึงใช้เงินเก็บที่มีส่วนหนึ่ง
บวกกับใช้บัตรกดเงินสด เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน "
จาก 2 ประโยคข้างต้น แสดงให้เห็นว่า คุณใช้เงินเกินตัวครับ...
คุณใช้จ่ายโดยไม่ได้เก็บเงินสำรองไว้มากพอ เพราะค่าซ่อมรถ 50k คุณยังต้องใช้เงินจากบัตรกดเงินสดมาช่วย
นั่นหมายความว่า " เงินเก็บ " ของคุณมีไม่ถึง 50k...
สมัยคุณยังรายได้ 30k คุณควรจะมีเงินเก็บ ณ ตอนนั้นอย่างน้อย 180k นะครับ....
แล้วยิ่งคุณบอกว่า " โรงงานเจอพิษโควิด จนต้องปิดตัวไป "
มันหมายถึง คุณควรจะได้รับเงินชดเชยมาอีกก้อนนึง ถูกต้องไหมครับ ? แล้วเงินนั้นไปไหน ?
เรื่องซ่อมรถ คุณไม่ควรจะรับมาเป็นภาระตัวเองด้วยซ้ำ มันไม่ใช่ความผิดคุณ...
จริงๆแล้วคุณควรให้คู่กรณีไปคุยกับอู่เรื่องการชำระเงินเอง คุณสนใจแค่อู่ซ่อมรถให้คุณก็พอ ที่เหลือคุณไม่จำเป็นต้องรับรู้...
เรื่องรักษาพยาบาลคนในครอบครัวที่เป็นมะเร็งสมอง อันนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องจำเป็น แต่......
คนในครอบครัวที่ว่านี้ไม่มีสิทธิ์บัตรทอง / ประกันสังคม อะไรเลยหรือครับ ? ที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายถูกลงได้มากกว่านี้...
และที่ผมไม่เข้าใจที่สุดก็คือตรงนี้ครับ.... " เบิกเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต เพื่อจ่ายค่ารักษา "
โรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาโรคมะเร็งสมองได้ ไม่รับรูดบัตรดิตหรือครับ ?
คุณไม่รู้หรือว่าการกดเงินจากบัตรเครดิต จะโดนชาร์จค่าธรรมเนียมทันที 3% และเริ่มคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่กด ?
หลายๆโรงพยาบาลสามารถรูดบัตรแล้วผ่อน 0% ได้ด้วยซ้ำไป...
แสดงความคิดเห็น
[ขอความช่วยเหลือ] เป็นหนี้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดท่วมหัวด้วยเหตุจำเป็น อยากหาทางออก
จึงอยากจะมาขอปรึกษาว่า พอจะมีวิธีชะลอหนี้ หรือหยุดดอกเบี้ย หรืออะไรก็ได้ ที่พอจะทำให้ผ่อนชำระทั้งหมดได้ในก้อนเดียวบ้างน่ะครับ
หรือว่าผมสามารถเจรจากับทางธนาคาร เพื่อตัดบัตร หยุดดอกเบี้ย หรืออะไรลักษณะนี้ พอเป็นไปได้หรือไม่ครับ?
ก่อนหน้านี้ เคยทำงานในโรงงานเป็นระดับ ผจก. เงินเดือน 30k อยู่ที่ต่างจังหวัด จนโรงงานเจอพิษโควิด จนต้องปิดตัวไป
เลยกลับเข้ามาทำงานที่กรุงเทพ เงินเดือนเหลือ 15k แต่ก็ต้องทำ เพราะมีภาระผ่อนบ้าน และค่าใช้จ่ายประจำเดือนทั่วไป รวมถึงส่งเงินให้พ่อแม่
ช่วงแรกที่กลับเข้ามาทำกรุงเทพ ก็ตะกุกตะกักบ้าง เหลือกิน เหลือเก็บน้อยหน่อย หรืออาจจะไม่เหลือ แต่ก็ถือว่ายังไม่เดือดร้อนอะไร
จนมาถึงเหตุจำเป็นในชีวิตครั้งที่หนึ่ง รถที่ใช้อยู่ เกิดอุบัติเหตุหนัก ถึงขั้นขับต่อไม่ได้ ซึ่งตัวผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่คู่กรณีไม่มีประกัน
ค่าซ่อมก็แพงมาก เบ็ดเสร็จเกือบห้าหมื่นบาท เพราะเป็นคนต้องใช้รถทำงาน จึงใช้เงินเก็บที่มีส่วนหนึ่ง บวกกับใช้บัตรกดเงินสด เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถไปก่อน
ส่วนคู่กรณีเนื่องจากฐานะไม่ดี บอกว่าจะขอผ่อนให้ขั้นต่ำเดือนละสองพันบาท (ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังส่งเงินให้อยู่เรื่อยๆครับ ไมได้หายไปไหน)
และเหตุจำเป็นอีกครั้งนึง ก็คือ คนในครอบครัวเป็นมะเร็งสมอง ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งตอนรักษา ตอนที่รักษาตัว และค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆอีกมากมาย
จึงทำให้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินจากบัตรกดเงินสด และยังลามไปถึงการเบิกเงินสดออกมาจากบัตรเครดิต เพื่อจ่ายค่ารักษา
จน ณ ตอนนี้ หนี้สินรวมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากหลายๆธนาคารรวมกัน อยู่ที่ประมาณร่วม 4แสนบาท
พยายามหารายได้เสริม พยายามประหยัด แต่มันก็ไม่พอกับดอกเบี้ยที่วิ่งขึ้นไปทุกเดือนๆ ทุกวันนี้ก็ทำได้แค่พยายามหาเงินมาจ่ายขั้นต่ำ
หากใครมีคำแนะนำ หรือทางออก ที่ยังไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนอกระบบ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบพระคุณมากครับ