วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ EP1 - คุณกำลังติดหนี้สินแบบไหน❓
ถ้าคุณมีหนี้สิน ไม่มีเงินเก็บ เงินไม่เคยพอใช้ จ่ายหนี้ขั้นต่ำทีไรเงินก็หมดกระเป๋าแล้ว…
ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ❓❓ สาเหตุของหนี้มันคืออะไรกัน แล้วตอนนี้เราเป็นหนี้แบบไหน จะแก้ไขยังไงดีนะ🤔🤔
ไม่มีหนี้ ไม่มีหน้า" แต่หลาย ๆ คนกลับอยากจะเลือกมีหน้ามีตา เป็นที่ยอมรับในสังคม จึงจำยอมที่จะตกเป็นหนี้เป็นสินไปด้วย ทว่าหนี้สินก็เหมือนบาดแผลสด หากมีแต่หนี้สินเปล่ามันก็ดีไป แต่!! หากหนี้นั้นก่อดอกเบี้ยไปด้วย นั่นหมายถึงเลือดกำลังค่อย ๆ ไหลออกจากร่างกายคุณไปด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจธรรมชาติของหนี้ ไม่เคยคำนวณดูความน่ากลัวของดอกเบี้ย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน จึงทำให้ปลดหนี้ยาก นาน และเรื้อรังกว่าที่คิดไว้
👉ฉะนั้น ผมเลยตั้งใจจะเขียนบทความวิธีปลดหนี้สไตล์ของผมเอง เพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถค่อย ๆ คิดและเข้าใจธรรมชาติของหนี้สิน ดอกเบี้ย และวิธีปลดหนี้ได้อย่างเป็นระบบ และมีวินัยมากขึ้น เพื่อให้คุณได้ป้องกันและรู้ถึงวิธีการ "ห้ามเลือด" ก่อน "รักษาบาดแผล" นั้น ให้คุณหายโดยไวที่สุดกันครับ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงว่า คุณกำลังติดหนี้สินแบบไหน?! และผลเสียคืออะไร บทความนี้รอคุณอยู่ครับ
✅ประเภทที่ 1 เงินกู้ในระบบ (ธนาคาร,สถานที่รับจำนำ)
💪การค้ำประกัน : ทรัพย์สิน ที่ดิน อาคาร สิ่งของ
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : ต้องบอกก่อนนะครับว่า การกู้หนี้ยืมสินจากธนาคารเป็นเรื่องที่มีการคัดกรองที่ “ค่อนข้างสูง” โดยมีองค์ประกอบสำคัญหลัก ๆ เป็นทรัพย์สินของผู้กู้ รายรับและคนกู้
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 10-15%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 1.25%
✅ประเภทที่ 2 ขายฝาก (นอกระบบ)
💪การค้ำประกัน : ลักษณะคล้ายกับเงินกู้ในระบบ ทรัพย์สิน ที่ดิน อาคาร
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : อยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ยังมีเรื่องทรัพย์สิน รายรับ และคน เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ ซึ่งข้อเสียของการเป็นหนี้ขายฝากมักจะถูกประเมินทรัพย์สนของผู้กู้ให้มีราคาที่ต่ำ และเมื่อไหร่ที่คุณไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหรือไถ่คืนโอกาสกาสที่จะถูกยึดก็จะมีมากกว่าการกู้หนี้ในระบบ
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 15-20%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 1.5-1.8%
❤️วิธีแก้ไข : ส่วนใหญ่คนที่มีหนี้สินประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ในระบบ (ธนาคาร,สถานที่รับจำนำ) หรือ ขายฝาก (นอกระบบ) มักจะเป็น นักธุรกิจ ผู้ประกอบการที่มีกิจการขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปถ้าหากคุณไม่สามารถแก้ไขหนี้สินในส่วนนี้ได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือ คุณต้องยอมขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อเคลียร์หนี้สินที่มีอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ก้อนใหญ่ และรีบหารายได้ที่สามารถหาเงินได้เร็วและลงทุนน้อยที่สุด เช่น การทำธุรกิจออนไลน์ ขายของออนไลน์ เป็นต้น และที่สำคัญพยายามลดการไม่เพิ่มหนี้สิน หรือไม่เป็นหนี้เลยก็จะถือว่าดีที่สุด
✅ประเภทที่ 3 หนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด
💪การค้ำประกัน : ไม่ใช้ทรัพย์สินใด ๆ
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : การคัดกรองอยู่ในระดับปานกลาง โดยจะดูที่รายรับของผู้ใช้บัตรเป็นหลัก ยกตัวอย่าง พนักงานประจำ อาจจะต้องทำเรื่องขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ ใบรับรองเงินเดือนของบริษัท เพื่อยื่นเรื่องขอทำบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด แล้วทางธนาคารจะเป็นผู้ประเมินวงเงินให้ตามมาตราการของบริษัทนั้น ๆ
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : เฉลี่ยอยู่ที่ 28%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 2.5%
✅ประเภทที่ 4 เงินกู้นอกระบบ
💪การค้ำประกัน : ไม่ใช้ทรัพย์สิน
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : ไม่ค่อยมีการคัดกรองหรือมีเกณฑ์เลือกที่ต่ำ ส่วนใหญ่จะดูที่คนว่าทำอาชีพอะไร และรายรับมีเท่าไหร่สามารถชำระได้หรือไม่
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 120-180%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 10-15%
❤️วิธีแก้ไข : เชื่อว่าคนกลุ่มใหญ่มักจะเป็น หนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดหรือเงินกู้นอกระบบ ประเภทนี้กันเสียมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องมีทรัพย์สินใดมาค้ำประกันและเป็นการกู้ที่ค่อนข้างง่าย และส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นหนี้ลักษณะนี้มักจะมาในรูปแบบของ พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า แต่ก็อย่างว่าครับอะไรที่ได้มาง่าย ๆ สุดท้ายแล้วเราก็ต้องจ่ายคืนให้เขาหลายเท่า ซึ่งเมื่อคุณไม่มีทรัพย์สินเบื้องต้นคุณก็ต้องรู้จักบริหารเงินให้เป็น และจะต้องหยุดหมุนเงิน หยุดหาหนี้ใหม่มาจ่ายหนี้เก่าโดยเด็ดขาด จะต้องอยู่ให้ได้ด้วยเงินเดือนตัวเอง
💡💡ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นหนี้ในรูปแบบไหน สุดท้ายแล้วการเป็นหนี้ก็คือการเป็นหนี้ ที่ย่อมจะส่งผลเสียตามมาในอนาคตและเกิดจากการบริหารจัดการเรื่องเงินที่ไม่ดีของคุณเอง ซึ่งวันนี้มีเจตนาให้คุณรู้ตัวเองก่อนว่าคุณกำลังเป็นหนี้ประเภทไหน จะได้รู้ถึงการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของการเป็นหนี้ในแต่ละรูปแบบ และแน่นอนว่าบทความนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น และผมก็จะมีข้อคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาในบทความต่อไปนะครับ
💚💚เป็นอย่างไรกันบ้างครับ คุณคิดว่าตอนนี้คุณเป็นหนี้ประเภทไหน แล้วพอจะหาทางออกได้แล้วหรือไม่ ซึ่งปัญหาการเงิน ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันส่วนใหญ่จะมาจากรายได้ลดลง แต่รายจ่ายเท่าเดิม ทำให้ต้องพยายามหมุนเงินจากที่อื่น เพื่อให้พอกับรายจ่ายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมันยิ่งทำให้ระบบการเงินแย่ลง และจะกลายเป็นคนที่มีหนี้สินมากขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถ
คอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ😊😊
==========
วรัทภพ รชตนามวงษ์
วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ EP1 - คุณกำลังติดหนี้สินแบบไหน❓
ถ้าคุณมีหนี้สิน ไม่มีเงินเก็บ เงินไม่เคยพอใช้ จ่ายหนี้ขั้นต่ำทีไรเงินก็หมดกระเป๋าแล้ว…
ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ❓❓ สาเหตุของหนี้มันคืออะไรกัน แล้วตอนนี้เราเป็นหนี้แบบไหน จะแก้ไขยังไงดีนะ🤔🤔
ไม่มีหนี้ ไม่มีหน้า" แต่หลาย ๆ คนกลับอยากจะเลือกมีหน้ามีตา เป็นที่ยอมรับในสังคม จึงจำยอมที่จะตกเป็นหนี้เป็นสินไปด้วย ทว่าหนี้สินก็เหมือนบาดแผลสด หากมีแต่หนี้สินเปล่ามันก็ดีไป แต่!! หากหนี้นั้นก่อดอกเบี้ยไปด้วย นั่นหมายถึงเลือดกำลังค่อย ๆ ไหลออกจากร่างกายคุณไปด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจธรรมชาติของหนี้ ไม่เคยคำนวณดูความน่ากลัวของดอกเบี้ย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน จึงทำให้ปลดหนี้ยาก นาน และเรื้อรังกว่าที่คิดไว้
👉ฉะนั้น ผมเลยตั้งใจจะเขียนบทความวิธีปลดหนี้สไตล์ของผมเอง เพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถค่อย ๆ คิดและเข้าใจธรรมชาติของหนี้สิน ดอกเบี้ย และวิธีปลดหนี้ได้อย่างเป็นระบบ และมีวินัยมากขึ้น เพื่อให้คุณได้ป้องกันและรู้ถึงวิธีการ "ห้ามเลือด" ก่อน "รักษาบาดแผล" นั้น ให้คุณหายโดยไวที่สุดกันครับ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงว่า คุณกำลังติดหนี้สินแบบไหน?! และผลเสียคืออะไร บทความนี้รอคุณอยู่ครับ
✅ประเภทที่ 1 เงินกู้ในระบบ (ธนาคาร,สถานที่รับจำนำ)
💪การค้ำประกัน : ทรัพย์สิน ที่ดิน อาคาร สิ่งของ
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : ต้องบอกก่อนนะครับว่า การกู้หนี้ยืมสินจากธนาคารเป็นเรื่องที่มีการคัดกรองที่ “ค่อนข้างสูง” โดยมีองค์ประกอบสำคัญหลัก ๆ เป็นทรัพย์สินของผู้กู้ รายรับและคนกู้
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 10-15%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 1.25%
✅ประเภทที่ 2 ขายฝาก (นอกระบบ)
💪การค้ำประกัน : ลักษณะคล้ายกับเงินกู้ในระบบ ทรัพย์สิน ที่ดิน อาคาร
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : อยู่ในระดับปานกลาง แต่ก็ยังมีเรื่องทรัพย์สิน รายรับ และคน เข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจ ซึ่งข้อเสียของการเป็นหนี้ขายฝากมักจะถูกประเมินทรัพย์สนของผู้กู้ให้มีราคาที่ต่ำ และเมื่อไหร่ที่คุณไม่สามารถหาเงินมาจ่ายหรือไถ่คืนโอกาสกาสที่จะถูกยึดก็จะมีมากกว่าการกู้หนี้ในระบบ
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 15-20%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 1.5-1.8%
❤️วิธีแก้ไข : ส่วนใหญ่คนที่มีหนี้สินประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น เงินกู้ในระบบ (ธนาคาร,สถานที่รับจำนำ) หรือ ขายฝาก (นอกระบบ) มักจะเป็น นักธุรกิจ ผู้ประกอบการที่มีกิจการขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ เมื่อเวลาผ่านไปถ้าหากคุณไม่สามารถแก้ไขหนี้สินในส่วนนี้ได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือ คุณต้องยอมขายทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อเคลียร์หนี้สินที่มีอยู่ เพราะไม่เช่นนั้นคุณก็จะไม่หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ก้อนใหญ่ และรีบหารายได้ที่สามารถหาเงินได้เร็วและลงทุนน้อยที่สุด เช่น การทำธุรกิจออนไลน์ ขายของออนไลน์ เป็นต้น และที่สำคัญพยายามลดการไม่เพิ่มหนี้สิน หรือไม่เป็นหนี้เลยก็จะถือว่าดีที่สุด
✅ประเภทที่ 3 หนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด
💪การค้ำประกัน : ไม่ใช้ทรัพย์สินใด ๆ
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : การคัดกรองอยู่ในระดับปานกลาง โดยจะดูที่รายรับของผู้ใช้บัตรเป็นหลัก ยกตัวอย่าง พนักงานประจำ อาจจะต้องทำเรื่องขอ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน หรือ ใบรับรองเงินเดือนของบริษัท เพื่อยื่นเรื่องขอทำบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด แล้วทางธนาคารจะเป็นผู้ประเมินวงเงินให้ตามมาตราการของบริษัทนั้น ๆ
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : เฉลี่ยอยู่ที่ 28%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 2.5%
✅ประเภทที่ 4 เงินกู้นอกระบบ
💪การค้ำประกัน : ไม่ใช้ทรัพย์สิน
📢ระดับการคัดกรองสินเชื่อ : ไม่ค่อยมีการคัดกรองหรือมีเกณฑ์เลือกที่ต่ำ ส่วนใหญ่จะดูที่คนว่าทำอาชีพอะไร และรายรับมีเท่าไหร่สามารถชำระได้หรือไม่
อัตราดอกเบี้ยต่อปี : 120-180%
อัตราดอกเบี้ยต่อเดือน : 10-15%
❤️วิธีแก้ไข : เชื่อว่าคนกลุ่มใหญ่มักจะเป็น หนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสดหรือเงินกู้นอกระบบ ประเภทนี้กันเสียมากกว่า เนื่องจากไม่ต้องมีทรัพย์สินใดมาค้ำประกันและเป็นการกู้ที่ค่อนข้างง่าย และส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นหนี้ลักษณะนี้มักจะมาในรูปแบบของ พนักงานประจำ ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า แต่ก็อย่างว่าครับอะไรที่ได้มาง่าย ๆ สุดท้ายแล้วเราก็ต้องจ่ายคืนให้เขาหลายเท่า ซึ่งเมื่อคุณไม่มีทรัพย์สินเบื้องต้นคุณก็ต้องรู้จักบริหารเงินให้เป็น และจะต้องหยุดหมุนเงิน หยุดหาหนี้ใหม่มาจ่ายหนี้เก่าโดยเด็ดขาด จะต้องอยู่ให้ได้ด้วยเงินเดือนตัวเอง
💡💡ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นหนี้ในรูปแบบไหน สุดท้ายแล้วการเป็นหนี้ก็คือการเป็นหนี้ ที่ย่อมจะส่งผลเสียตามมาในอนาคตและเกิดจากการบริหารจัดการเรื่องเงินที่ไม่ดีของคุณเอง ซึ่งวันนี้มีเจตนาให้คุณรู้ตัวเองก่อนว่าคุณกำลังเป็นหนี้ประเภทไหน จะได้รู้ถึงการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นของการเป็นหนี้ในแต่ละรูปแบบ และแน่นอนว่าบทความนี้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น และผมก็จะมีข้อคิดและแนวทางการแก้ไขปัญหาในบทความต่อไปนะครับ
💚💚เป็นอย่างไรกันบ้างครับ คุณคิดว่าตอนนี้คุณเป็นหนี้ประเภทไหน แล้วพอจะหาทางออกได้แล้วหรือไม่ ซึ่งปัญหาการเงิน ที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันส่วนใหญ่จะมาจากรายได้ลดลง แต่รายจ่ายเท่าเดิม ทำให้ต้องพยายามหมุนเงินจากที่อื่น เพื่อให้พอกับรายจ่ายซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะมันยิ่งทำให้ระบบการเงินแย่ลง และจะกลายเป็นคนที่มีหนี้สินมากขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ หรือคุณคิดว่าอย่างไรสามารถ
คอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ😊😊
==========
วรัทภพ รชตนามวงษ์