สวัสดีค่ะ
เรามีคนรู้จักป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว เมื่อก่อนเขาเคยป่วยด้วยโรคนี้มาก่อนและอาการของโรครุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตค่ะ และได้ทำการรักษา ซึ่งเขาบอกว่าเขาหายแล้วและหยุดยาแล้ว ในส่วนนี้เราไม่ทรายว่าเขาหยุดยาเองหรือแพทย์ปรับลดยาจนหยุดไป
แต่เมื่อไม่กี่ปีหลังมานี้เขาก็เริ่มมีอาการอีกครั้ง และกลับเข้าสู้กระบวนการรักษา ซึ่งช่วงแรกเป็นอะไรที่ทรมาณมาก เค้าอารมณ์รุนแรงมากเมื่อต้องกลับมารักษาอีกครั้ง และมีอาการหงุดหงิดที่ต้องพบแพทย์
แต่ต่อหน้าแพทย์เขาพูดดีกับแพทย์นะคะ แต่มาเหวี่ยงกับเราแทน แล้วเหวี่ยงเสร็จก็บอกเราว่าอย่าไปบอกหมอนะ เดี๋ยวหมอหาว่าเขาบ้าอีก เราเหนื่อยกับเรื่องนี้ก็ส่วนหนึ่งค่ะ
คือเค้าเพิ่มเริ่มกินยา แล้วหมอให้ปรับขนาดยาทุกครั้งที่ไปพบ อย่างรอบแรกกินวันละหนึ่งเม็ด พอไปพบหมอครั้งที่ 2 ก็ปรับยาเป็นครั้งละ 2 เม็ด แล้วเดี๋ยวจะถึงกำหนดวันนัดครั้งที่ 3 แล้วค่ะ เราเองได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับยาและโรคนี้มา คิดว่าต้องมีการปรับยาเพิ่มแน่ ๆ แต่เขาบอกให้เราไปบอกหมอให้ลดยา ถ้าต้องกินยาวันละหลาย ๆ เม็ดเขาผูกคอตายดีกว่า (พอเราบอกว่าจะบอกหมอตามนี้เขาก็บอกว่าเขาแค่ประชดเรื่องตายอีก เห้อ)
เขาชอบบอกว่ากินยาแล้วอาการแย่ลงบ้าง กินแล้วจะอ้วกบ้าง ถ้าเรารักเขาก็อย่าให้เขากินยาเลย ซึ่งจริงๆแล้วเรามองว่าตอนที่เขากินยาเขาก็กินข้าวเหมือนเดิม นอนเยอะขึ้น และควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าตอนก่อนกินยาด้วยซ้ำไป (ยกเว้นเรื่องทรรศนคติต่อการรักษา เขาต่อต้านเหมือนเดิม)
เราที่ต้องให้เขากินยาทุกวันเหมือนเป็นสนามอารมณ์สำหรับเขาเลย เขาจะโยนคำพูดแย่ ๆ ใส่หูเรา ด่าหมอ ด่าพยาบาล ด่าคนที่อยากให้เค้ารับการรักษา นี่ก็ไม่รู้ว่าลับหลังเราเขาจะด่าเราหรือเกลียดเราด้วยรึเปล่า เพราะเราเป็นคนคอยบอกให้เขากินยา คอยแย้งเรื่องกระบวนการรักษา เรื่องเพิ่มลดขนาดยา เรื่องการกินยาต่อเนื่อง อะไรแบบนี้
เขาชอบบอกว่าถ้ารักเขาก็ให้ฟังเค้าว่าเขาไม่ต้องกินยาก็หายได้ มันอยู่ที่ใจเขา ถ้าเรารักเขาก็อย่าบังคับเขา
เราต้องฟังอะไรแบบนี้บ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงที่หมอนัด ซึ่งมันก็บั่นทอนจิตใจเรามาก มีหลายครั้งโดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่เขาโวยวายไม่หยุดเพราะต้องกลับสู่กระบวนการรักษา เราท้อจนอยากหนีไปไกล ๆ แล้วทิ้งปัญหาของเขาไว้กับตัวเขาเองมากๆ
เพื่อน ๆ คิดว่าเราควรปล่อยเขาไปตามยถากรรมมั้ยคะ จริง ๆ ถ้าเราไม่ยุ่งเรื่องของเขา คนที่จะต้องเจอปัญหาโดยตรงไม่ใช่เราหรอก (แต่เราอาจจะเจอโดยอ้อมได้)
ตอนให้กินยาคนที่ได้ประโยชน์ก็มีแค่ตัวเขาที่ควบคุมสติและใช้ชีวิตกับคนในสังคมได้ดีขึ้น ส่วนเรามีแต่ถูกบั่นทอนจิตใจให้แย่ลงทุกวัน
คนป่วยไม่อยากกินยา คนดูแลท้อจังค่ะ ควรเลิกบังคับแล้วปล่อยเค้าไปตามยถากรรมดีมั้ยคะ
เรามีคนรู้จักป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว เมื่อก่อนเขาเคยป่วยด้วยโรคนี้มาก่อนและอาการของโรครุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตค่ะ และได้ทำการรักษา ซึ่งเขาบอกว่าเขาหายแล้วและหยุดยาแล้ว ในส่วนนี้เราไม่ทรายว่าเขาหยุดยาเองหรือแพทย์ปรับลดยาจนหยุดไป
แต่เมื่อไม่กี่ปีหลังมานี้เขาก็เริ่มมีอาการอีกครั้ง และกลับเข้าสู้กระบวนการรักษา ซึ่งช่วงแรกเป็นอะไรที่ทรมาณมาก เค้าอารมณ์รุนแรงมากเมื่อต้องกลับมารักษาอีกครั้ง และมีอาการหงุดหงิดที่ต้องพบแพทย์
แต่ต่อหน้าแพทย์เขาพูดดีกับแพทย์นะคะ แต่มาเหวี่ยงกับเราแทน แล้วเหวี่ยงเสร็จก็บอกเราว่าอย่าไปบอกหมอนะ เดี๋ยวหมอหาว่าเขาบ้าอีก เราเหนื่อยกับเรื่องนี้ก็ส่วนหนึ่งค่ะ
คือเค้าเพิ่มเริ่มกินยา แล้วหมอให้ปรับขนาดยาทุกครั้งที่ไปพบ อย่างรอบแรกกินวันละหนึ่งเม็ด พอไปพบหมอครั้งที่ 2 ก็ปรับยาเป็นครั้งละ 2 เม็ด แล้วเดี๋ยวจะถึงกำหนดวันนัดครั้งที่ 3 แล้วค่ะ เราเองได้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับยาและโรคนี้มา คิดว่าต้องมีการปรับยาเพิ่มแน่ ๆ แต่เขาบอกให้เราไปบอกหมอให้ลดยา ถ้าต้องกินยาวันละหลาย ๆ เม็ดเขาผูกคอตายดีกว่า (พอเราบอกว่าจะบอกหมอตามนี้เขาก็บอกว่าเขาแค่ประชดเรื่องตายอีก เห้อ)
เขาชอบบอกว่ากินยาแล้วอาการแย่ลงบ้าง กินแล้วจะอ้วกบ้าง ถ้าเรารักเขาก็อย่าให้เขากินยาเลย ซึ่งจริงๆแล้วเรามองว่าตอนที่เขากินยาเขาก็กินข้าวเหมือนเดิม นอนเยอะขึ้น และควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่าตอนก่อนกินยาด้วยซ้ำไป (ยกเว้นเรื่องทรรศนคติต่อการรักษา เขาต่อต้านเหมือนเดิม)
เราที่ต้องให้เขากินยาทุกวันเหมือนเป็นสนามอารมณ์สำหรับเขาเลย เขาจะโยนคำพูดแย่ ๆ ใส่หูเรา ด่าหมอ ด่าพยาบาล ด่าคนที่อยากให้เค้ารับการรักษา นี่ก็ไม่รู้ว่าลับหลังเราเขาจะด่าเราหรือเกลียดเราด้วยรึเปล่า เพราะเราเป็นคนคอยบอกให้เขากินยา คอยแย้งเรื่องกระบวนการรักษา เรื่องเพิ่มลดขนาดยา เรื่องการกินยาต่อเนื่อง อะไรแบบนี้
เขาชอบบอกว่าถ้ารักเขาก็ให้ฟังเค้าว่าเขาไม่ต้องกินยาก็หายได้ มันอยู่ที่ใจเขา ถ้าเรารักเขาก็อย่าบังคับเขา
เราต้องฟังอะไรแบบนี้บ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงที่หมอนัด ซึ่งมันก็บั่นทอนจิตใจเรามาก มีหลายครั้งโดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่เขาโวยวายไม่หยุดเพราะต้องกลับสู่กระบวนการรักษา เราท้อจนอยากหนีไปไกล ๆ แล้วทิ้งปัญหาของเขาไว้กับตัวเขาเองมากๆ
เพื่อน ๆ คิดว่าเราควรปล่อยเขาไปตามยถากรรมมั้ยคะ จริง ๆ ถ้าเราไม่ยุ่งเรื่องของเขา คนที่จะต้องเจอปัญหาโดยตรงไม่ใช่เราหรอก (แต่เราอาจจะเจอโดยอ้อมได้)
ตอนให้กินยาคนที่ได้ประโยชน์ก็มีแค่ตัวเขาที่ควบคุมสติและใช้ชีวิตกับคนในสังคมได้ดีขึ้น ส่วนเรามีแต่ถูกบั่นทอนจิตใจให้แย่ลงทุกวัน