หนูยื่นบิลตรวจค่าสายตาให้แม่ดู แล้วแม่ก็บอกว่า "ไม่จริง วันเวลาในบิลยังผิดเลย ไม่เห็นน่าเชื่อถือเลย เขามาตรวจที่โรงเรียนก็เป็นอย่างนี้แหละ ตรวจในห้างกับร้านท็อปเจริญดีกว่า" แต่ความจริงแล้วหนูไปตรวจเองที่แว่นท็อปเจริญนั้นแหละคะ แม่ก็บอกอีกว่า "เดี๋ยวไปตรวจที่ห้าง ครอบครัวเรายังไม่มีใครใส่แว่นเลย จะรีบใส่ทำไม พ่อกับแม่อายุตั้ง 40 ยังไม่เห็นต้องใส่เลย" หนูก็งงว่าทำไมต้องเกี่ยวกับสายตาพ่อแม่ เพราะสายตาหนูก็ไม่เกี่ยวกับตาพ่อแม่อยู่แล้ว หนูก็ใช้ชีวิตประจำวันไม่เหมือนกับพ่อแม่ ยังจะเปรียบเทียบสายตากันอีก แม่พูดต่อ "ยังเห็นหน้าแม่อยู่มั้ย ถ้าสายตาสั้นจริงๆ" หนูก็เลยงงกับคำพูดของแม่ แล้วก็คิดในใจว่า "คนสายตาสั้นนะไม่ใช่คนตาบอด" หนูว่าแม่ไม่รู้อะไรเลย แม้แต่เรื่องสายตาก็ทำเป็นเรื่องที่สำคัญน้อยกว่าฟัน แม้สายตาสั้นก็เอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นในเมื่อไม่เกี่ยวกันเลย
ประเด็นอย่างหนึ่งคือแม่หนูบอกว่า: "ยิ่งใส่แว่นยิ่งสายตาเสีย ไม่ต้องตัดแว่นหรอก" ในเมื่อความจริงไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ใส่แว่นตาที่ค่าเลนส์ถูกกับค่าสายตา แล้วสายตาจะเสีย (นอกจากค่าผิดถึงจะสายตาเสียจริงๆ และเรื่องความเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาทุกๆปี)
แต่พอเรื่อง "ฟัน" ก็รีบขอให้หนูไปหาหมอ ไม่เหมือนกับเรื่อง "สายตาสั้น" ที่แม่พยายามเปลี่ยนประเด็น หาข้อโต้แย้งที่เหตุผลก็ฟังไม่ขึ้น เพื่อที่หนูจะได้ไม่ต้องตัดแว่น แม่คงไม่ชอบที่หนูใส่แว่นเพราะน่าจะคิดว่าหนูอยากสวยอยากเด่น หนูว่าเรื่องฟันก็สำคัญรองจากเรื่องสายตาที่ส่งผลต่อผลการเรียนของหนู
เพราะสายตาสั้นทำให้ผลการเรียนแย่ยังไง:
- มองกระดานไม่เห็น (ถึงนั่งหน้าห้องสุด)
- พอมองกระดานไม่เห็นก็ต้องถ่ายรูป (กล้องที่หนูเคยว่าถ่ายไม่ชัด แต่พอคิดดูอีกทีก็เห็นตัวอักษรบนกระดานชัดกว่าตาเราอีก)
- ตอนครูสอนแล้วหนูก็ต้องถ่ายรูปไปมาเรื่อยๆเลยฟังครูไม่รู้เรื่อง (เลยไม่เข้าใจ)
- หนูไม่เข้าใจแล้วถามครู ครูก็อธิบายบนกระดาน หนูก็มองไม่เห็น ก็เลยตอบครูว่าเข้าใจคะ แบบยังงงๆอยู่
- เวลากล้องซูมไม่ถึงก็ต้องยืมเพื่อนลอก (ประเด็นคือครูให้ส่งในคาบแล้วเราเขียนไม่ทัน)
- ตอนเรียนพิเศษวิชาคณิตสาสตร์ยิ่งยาก เพราะถ้าไม่เข้าใจคือจบ เขียนตอบคำถามไม่ได้เลย
- แย่ที่สุดคือครูบางท่านไม่ให้ใช้โทรศัพท์ในเวลาเรียน ทำให้ถ่ายรูปบนกระดานไม่ได้ (แล้วครูบอกต้องส่งในคาบ เราก็ไม่ทันเหมือนเดิม)
พ่อแม่ไม่ให้ตัดแว่น หนูควรทำยังไงดีคะ
ประเด็นอย่างหนึ่งคือแม่หนูบอกว่า: "ยิ่งใส่แว่นยิ่งสายตาเสีย ไม่ต้องตัดแว่นหรอก" ในเมื่อความจริงไม่มีทางเป็นไปได้ ที่ใส่แว่นตาที่ค่าเลนส์ถูกกับค่าสายตา แล้วสายตาจะเสีย (นอกจากค่าผิดถึงจะสายตาเสียจริงๆ และเรื่องความเปลี่ยนแปลงของค่าสายตาทุกๆปี)
แต่พอเรื่อง "ฟัน" ก็รีบขอให้หนูไปหาหมอ ไม่เหมือนกับเรื่อง "สายตาสั้น" ที่แม่พยายามเปลี่ยนประเด็น หาข้อโต้แย้งที่เหตุผลก็ฟังไม่ขึ้น เพื่อที่หนูจะได้ไม่ต้องตัดแว่น แม่คงไม่ชอบที่หนูใส่แว่นเพราะน่าจะคิดว่าหนูอยากสวยอยากเด่น หนูว่าเรื่องฟันก็สำคัญรองจากเรื่องสายตาที่ส่งผลต่อผลการเรียนของหนู
เพราะสายตาสั้นทำให้ผลการเรียนแย่ยังไง:
- มองกระดานไม่เห็น (ถึงนั่งหน้าห้องสุด)
- พอมองกระดานไม่เห็นก็ต้องถ่ายรูป (กล้องที่หนูเคยว่าถ่ายไม่ชัด แต่พอคิดดูอีกทีก็เห็นตัวอักษรบนกระดานชัดกว่าตาเราอีก)
- ตอนครูสอนแล้วหนูก็ต้องถ่ายรูปไปมาเรื่อยๆเลยฟังครูไม่รู้เรื่อง (เลยไม่เข้าใจ)
- หนูไม่เข้าใจแล้วถามครู ครูก็อธิบายบนกระดาน หนูก็มองไม่เห็น ก็เลยตอบครูว่าเข้าใจคะ แบบยังงงๆอยู่
- เวลากล้องซูมไม่ถึงก็ต้องยืมเพื่อนลอก (ประเด็นคือครูให้ส่งในคาบแล้วเราเขียนไม่ทัน)
- ตอนเรียนพิเศษวิชาคณิตสาสตร์ยิ่งยาก เพราะถ้าไม่เข้าใจคือจบ เขียนตอบคำถามไม่ได้เลย
- แย่ที่สุดคือครูบางท่านไม่ให้ใช้โทรศัพท์ในเวลาเรียน ทำให้ถ่ายรูปบนกระดานไม่ได้ (แล้วครูบอกต้องส่งในคาบ เราก็ไม่ทันเหมือนเดิม)