[BTS] อธิบาย MV Spring Day และเหตุผลที่เพลงนี้ไม่เคยออกจากชาร์ตเพลงของเกาหลี

สวัสดีค่ะ ยิ้ม 

เรามีความคิดที่อยากจะเขียนกระทู้นี้มีหลายเดือนแล้ว แต่ด้วยความกล้าๆกลัวๆ เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเซนซิทีฟ และบังทันเองก็เลี่ยงที่จะพูดเรื่องนี้มาตลอด จนกระทั่งเมื่อวานเองที่บทความข่าวที่เขียนถึงครอบครัวของผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์เรือเซวอนล่ม ในปี 2014 ทางบิ๊กฮิตและบังทันได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของผู้ประสบภัยและบริจาคเงิน 100 ล้านวอน ตอนนั้นบังทันเดบิวได้เพียง 2 ปีเท่านั้น

เหตุการณ์นี้เหมือนมาสะกิดให้เราคิดได้ว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเขียนกระทู้นี้เพื่อส่งต่อความตั้งใจจริงของบังทันในการทำบทเพลงและ MV นี้เพื่ออุทิศให้กับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเรือเซวอน

โดยเราขออนุญาตนำต้นฉบับ แปลจากคลิป
ที่มา https://www.youtube.com/watch?v=Tye1ONFeKis&t=43s

หมายเหตุ: การอธิบายเป็นเพียงวิเคราะห์ตามทฤษฎีเท่านั้น ไม่มีการยืนยันใดๆจากทางต้นสังกัดหรือทาง BTS

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

BTS Spring Day MV EXPLAINED | Sewol Ferry, Snowpiercer & Survivors

ใน MV บังทันรับบทแสดงเป็นตัวแทนผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์เรือเซวอน

ฉากแทฮยองเอาหน้าแนบกับรางรถไฟ

ในฉากนี้แทฮยองรู้สึกผิดเพราะเพื่อนๆของเขาต้องเสียชีวิตมีเพียงตัวเขาที่รอด ในบทสัมภาษณ์ของผู้ที่รอดชีวิต
พวกเขามักจะมีชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกผิดและมีหลายครั้งที่คิดว่าตัวเองนั้นไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เขามีความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายเพื่อที่จะได้ไปเจอกับเพื่อนๆหรือคนที่เขารัก

ฉากจองกุกบนรถไฟ

จองกุกนั้นเป็นผู้รอดชีวิตเช่นเดียวกัน กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างคิดถึงเพื่อนๆของเขาและเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้น

ฉากจีมินที่ริมทะเล 

จีมินกลับมาที่ริมทะเลเพื่อระลึกความหลัง ที่ๆเพื่อนๆของเขาจากไป

มาถึงหนึ่งในฉากสำคัญแล้ว ฉากนัมจุนบนรถไฟ ฉากนี้เป็นฉากหลักของ MV เรื่องราวจะค่อยๆดำเนินจากต้นจนจบบนฉากรถไฟ

ถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าบนรถไฟจะมีกระเป๋าเดินทางและเสื้อผ้าอยู่มากมายในขบวน แต่ใครเป็นเจ้าของสิ่งของเหล่านี้?

กระเป๋าเดินทางและเสื้อผ้าเหล่านี้สื่อถึงสิ่งของต่างๆที่นักเรียนและเหยื่อผู้เสียชีวิตผู้ที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษานำไปด้วยแต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับมาเอาไป 

เป็นที่รู้กันว่ามีการพูดถึงและวิพากวิจารณ์อย่างหนักถึงการทำงานของรัฐบาลเกาหลีในยุคนั้นถึงการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสื่อเองก็ปกปิดความจริง ครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตตกอยู่ในความมืดมิด ไม่อาจรับรู้ความจริงและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกๆของพวกเขาได้ 

และที่น่าสะเทือนใจที่สุด ในตอนนั้นเองกัปตันเรือได้ขอให้นักเรียนอยู่ในเรือแทนที่จะรีบอพยพออกจากเรือ 
เด็กนักเรียนเกือบทั้งหมดจมน้ำเสียชีวิต ส่วนกัปตันและลูกเรือคนอื่นๆอพยพออกมาจากเรือทัน

ในเนื้อเพลง Spring Day ท่อนที่นัมจุนพูดถึง "Snowpiercer" 
Snowpiercer เป็นหนังที่ Bong Joon Ho เป็นผู้กำกับ (เป็นผกก.คนเดียวกันกับเรื่อง Parasite)
โดยในหนังจะสื่อถึงเรื่องชนชั้นในสังคม
"ํI belong to the front, You belong to the tail"
"Know your place" 
ส่วนคนที่อยู่หัวขบวนรถไฟคือ Upper Class/ รัฐบาล และคนที่อยู่ท้ายขบวนคือประชาชนทั่วไป 
 

ซึ่งจากการอ้างอิงดังกล่าวนี้เอง ทำให้ตีความได้ว่าเพลงอาจจะสื่อถึงคนที่โตกว่าหรือมีอิทธิพลมากกว่ามีสิทธิที่จะรอดชีวิตมากกว่าเด็กนักเรียนเพราะเป็นไปตามสถานะของแต่ละคน เด็กนักเรียนเลยถูกปล่อยให้จมน้ำและไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างที่ควรจะได้รับ


ใน MV จะเห็นว่านัมจุนกำลังเดินไปยังต้นขบวนรถไฟ ซึ่งเหมือนกับในฉากของ Snowpiercer ที่มีคนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความอยุติธรรม เขาเดินจากท้ายขบวนเพื่อมายังต้นขบวนซึ่งในที่นี่ก็คือรัฐบาล

ตัดมาที่ฉาก Omelas 


Omelas เป็นชื่อเมืองจากนวนิยายชื่อ The one who walks away from Omelas.

เรื่องนี้เกี่ยวกับ Utopian Society ผู้ที่รอดชีวิตและการมีความสุขนั้นขึ้นอยู่กับความทุกข์ของเด็กๆ
ในเมืองนี้มีบางคนมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น หรือบางคนเลือกที่จะไม่สนใจความทุกข์หรือความเดือดร้อนของคนอื่นเพื่อที่ตัวเองจะมีความสุข
และมีบางคนเลือกที่จะเดินหนีออกจากเมืองนี้

ฉากนัมจุนเดินเข้ามาในห้องและโดนปาเค้กใส่

ฉากนี้มองเผินๆเหมือนทุกคนกำลังสนุกอยู่ แต่จริงๆแล้วฉากนี้เหมือนกับในหนังเรื่อง Snowpiercer ที่ตัวเอกกำลังเดินไปข้างหน้าขบวนแต่กลับถูกขัดขวางในระหว่างขบวนเพื่อไม่ให้ไปถึงต้นขบวน สังเกตจากสีหน้านัมจุนที่ผิดหวังและเจ็บปวด



ฉากจินมองขึ้นมาจากชั้นล่างของบันไดในขณะที่เมมเบอร์คนอื่นๆกำลังวิ่งขึ้นไปด้านบน


ฉากนี้จินเป็นตัวแทนของเหยื่อผู้เสียชีวิตกำลังมองเพื่อนๆของเค้า(ที่รอดชีวิต) ค่อยๆเติบโตขึ้น ส่วนตัวเขาเองติดอยู่ข้างล่างและไม่อาจเติบโตไปพร้อมกับเพื่อนๆได้

ฉากจองกุกที่ม้าหมุน

ฉากม้าหมุนนั้นหมายถึงการสูญเสียเพื่อนในวัยเด็ก 

โดยฉากต่อจากนี้จะเป็นฉากที่บังทันเป็นผู้รอดชีวิตที่หลังจากที่เหตุการณ์ได้ผ่านไปแล้ว กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ค่อยๆเติบโตขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้นในบางครั้งพวกเขาก็ยังรู้สึกถึงความโด่ดเดียวและความว่างเปล่า


ฉากนี้จีมินหยิบรองเท้าข้างนึงขึ้นมาจุ่มน้ำ

ในเหตุการณ์นั้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะนำรองเท้ามาวางไว้ข้างทะเล เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตและรอคอยการกลับมา

มาถึงฉากสำคัญของ MV คือฉากห้องซักผ้า
ข้อความที่แปะอยู่บนเครื่องซักผ้า "Don't forget"


"ผู้คนมักจะบอกให้เราลืมเรื่องนี้ไปซะแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 
แต่พวกเราจะจดจำและระลึกถึงเพื่อนๆของเราเสมอ 
เพราะว่าการไม่ลืมพวกเขานั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเราพอจะทำได้ 
ขอแค่พวกเราจำพวกเขาได้ 
ได้โปรดอย่าลืมพวกเขาเลย"
 
- อายุ18,ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือเซวอน

ฉากกองภูเขาเสื้อผ้าที่ยุนกินั่งอยู่

กองเสื้อผ้านั้นสื่อถึงเหยื่อผู้เสียชีวิต
ได้แรงบัลดานใจมาจากผลงาน Clothes As Bodies: The Art of Christian Boltanski 2010


ฉากม้าหมุนและริบบิ้นสีเหลือง

ริบบิ้นสีเหลืองนั้นถูกใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความไว้อาลัยให้กับผู้เสียชึวิตในเหตุการณ์เรือเซวอน

กลับมาที่ฉากรถไฟ จองกุกตื่นขึ้นมาและเดินไปยังต้นขบวนทางเดียวกับที่นัมจุนกำลังไป



ในระหว่างทางจองกุกได้เจอกับเพื่อนๆที่ร่วมต่อสู้เพื่อตามหาความจริงไปด้วยกัน 

ทันใดนั้นเองจองกุกมองเห็นตัวเองกำลังนั่งรถไฟวิ่งผ่านไป

ฉากนี้สื่อถึงว่า ไม่ว่าการตามหาความจริงหรือความยุติธรรมจะสำเร็จหรือไม่
อะไรที่ผ่านไปแล้วย่อมต้องปล่อยให้มันผ่านไป สิ่งที่สูญเสียไปแล้วย่อมไม่หวนคืนกลับมา


จองกุกและนัมจุนค่อยๆหลับตาลง ยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามพวกเขายังจะคงอยู่ในความทรงจำเสมอ


ในเรื่อง Snowpiercer  ผู้คนติดอยู่ในรถไฟ ไม่สามารถออกมาข้างนอกได้เพราะอากาศติดลบเป็นน้ำแข็ง สื่อถึงผู้คนส่วนใหญ่อยู่ในสังคมที่ถูกควบคุมกดขี่โดยรัฐ ไม่มีทางหนีออกไปได้ อย่างไรก็ตามตัวมีตัวละครในเรื่องที่เริ่มมองเห็นความเป็นไปได้ที่จะออกจากรถไฟเพราะมองเห็นเกล็ดหิมะ
ค่อยๆร่วงลงมา (การที่จะมีเกล็ดหิมะแสดงว่าอากาศเริ่มอุ่นขึ้น พอที่มนุษย์จะใช้ชีวิตได้)


เนื้อเพลงของ Spring Day "เกล็ดหิมะค่อยๆร่วงล่น และจางหายไปทีละนิด..."
หมายถึงมีความหวังที่จะออกไปข้างนอกขบวนรถไฟ มีความหวังที่จะเริ่มต้นชึวิตใหม่อีกครั้ง

ฉากจีมินออกจากขบวนรถไฟและชวนเพื่อนๆให้ออกมาด้วยกัน

จีมินกำลังชวนเพื่อนๆ ในที่นี่คือผู้รอดชีวิต รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตให้ออกมาจากความเจ็บปวดจากการสูญเสีย ความรู้สึกผิด ความสิ้นหวังจากความอยุติธรรม ให้ออกมาเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

ฉากทุกคนเดินมาที่ต้นไม้

ต้นไม้สื่อถึง ความหวัง, การเริ่มต้นชีวิตใหม่, ฤดูใบไม้ผลิ (Spring Day)

ในตอนจบของ MV จีมินนำรองเท้าไปห้อยต้นไม้

สื่อถึงการไวอาลัยให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

--------------------------------------------------

เมื่อสิ้นสุดลมหนาว
จนกว่าฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง
จนกว่าดอกไม้จะแบ่งบานอีกครั้ง
ได้โปรดอยู่ตรงนั้นอีกสักหน่อย
อดทนรออีกสักหน่อย
- Spring Day

--------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่