อธิบายบท/เนื้อเรื่อง The Last of Us Part 2 [Game of the Year] ทำได้ดี!! ไม่ห่วย ?

*เนื้อหานี้มีทั้งแบบให้อ่านและดู(วิดีโอ)นะครับ เลือกเอาที่สะดวกเลย (Spoil นะ)
.
- เนื้อหาแบบอ่าน จะไม่มีภาพเคลื่อนไหวและเสียงประกอบ อาจเข้าใจยากนิดนึงเพราะการอธิบายต้องใช้จินตนาการตาม หรือต้องมีประสบการณ์เกี่ยวกับการดูหนังระดับนึง (แล้วก็จะมีต่อยาวนะ เพราะตัวอักษรที่พิมพ์ไปมีมากกว่า 20000 ตัว)
.
- เนื้อหาแบบดู(วิดีโอ)จะมีครบหมด เข้าใจง่ายกว่าและมีการเล่นมีม ทั้งภาพและเสียงจะสอดคล้องกันหมดนะครับ*
.
เอาละมาเริ่มกันเลย!
.
(วิดีโอทางเลือก ความยาว 23 นาที)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 .
สวัสดีทุกคนด้วยนะครับ ผมรู้นะว่าเรื่องนี้มีดราม่ามานานแล้ว เป็นเรื่องเก่าที่คนพูดถึงกัน แล้วผมจะเอามาพูดอีกทำไมละ ? คือผมจะพูดในแง่มุมที่พวกคุณยังไม่เคยฟังกันครับ..
 .
ซึ่งผมเองเป็นคนที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเนื้อเรื่องอยู่แล้ว เกมนี้ก็เป็นเกมที่มีประเด็นเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง อีกอย่างคือผมยังไม่เห็นคนที่อธิบายอย่างชัดเจนเลยว่าเนื้อเรื่องภาคนี้ดีหรือแย่ยังไง มีแต่ออกไปทางแล้วแต่คนชอบ กับออกไปทางความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งก็เลยทำให้ผมอยากอธิบายขึ้นมาครับ
.
.
*ในวันที่ผมเขียน/ทำคลิป /// The Game Awards ยังไม่ประกาศผลรางวัลนะ ผมไม่รู้มาก่อนว่าเกมจะได้รางวัลอะไรบ้าง (ไปดูวันที่และเวลาในคลิปก็ได้ว่าผมอัพก่อน) และหลังจากผลออกมาก็คือ The Last of Us Part 2 กวาดไป 7 รางวัลด้วยกัน ซึ่งจะมี..
.

.
- Game of the Year 
- Best Game Direction 
- Best Narrative 
- Best Audio Design 
- Best Performance 
- Innovation in Accessibility 
- Best Action/Adventure
 .
ถือว่าเยอะมาก และก็พอดีเลยกับเนื้อหาที่ผมทำไว้นี้ น่าจะช่วยอธิบายแง่มุมบางอย่างได้ว่าทำไม The Last of Us Part 2 ถึงกวาดรางวัลไปเยอะขนาดนี้..*
.
.
จบการอัพเดทนะ มาพูดถึงสิ่งที่ผมจะพูดดีกว่า.. โดยทั่วไปแล้วเนื้อเรื่องหรือบทเป็นสิ่งที่อธิบายได้นะครับว่าดีหรือแย่ยังไง (ที่ไม่ใช่แค่ชอบกับไม่ชอบ) แต่เราต้องเข้าใจธรรมชาติและโครงสร้างของมันระดับนึง เหมือนกับที่ผู้สร้างหรือนักวิจารณ์ยกย่องผลงานของใครบางคนน่ะแหละ ยกย่องในแบบที่พูดถึงโครงสร้างและวิธีคิดในงานนั้นๆนะ ไม่ใช่แค่แบบ “โอ้วว้าวฉันชอบเกมนี้จัง มันสนุกมากๆเลย” ถ้าแบบนี้คือใครๆก็พูดได้ครับ ไม่ต้องเล่นไม่ต้องเสพยังพูดได้เลย เหมือนกับบางรีวิวเกมที่เราสามารถรับรู้ได้เลยว่าเขาเล่นไม่จบ แค่พูดตามที่เกมโปรโมทหรือไม่ก็พูดตามคนอื่นเอา..
 .
ซึ่งผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับบทหรือเนื้อเรื่อง วิธีการเล่าเรื่อง วิธีคิดของผู้สร้าง และสิ่งที่เขาอยากจะสื่อนั่นแหละครับ สิ่งเหล่านี้จะช่วยบ่งบอกว่าดีหรือแย่ยังไง ไม่ใช่ความชอบหรือเกลียดนะ
 .

.
เอาละ ผมอยากให้คิดง่ายๆว่าบทหรือเนื้อเรื่องก็เหมือนอาหารครับ เราบอกได้ว่ารสชาติมันดีหรือแย่ยังไง องค์ประกอบในนั้นมีส่วนผสมอะไรบ้าง วัตถุดิบที่ใช้เกรดดีแค่ไหน ขั้นตอนการทำน่าจะเป็นยังไง แต่ต่อให้เราอธิบายได้ว่ามันดีแค่ไหนก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะต้องชอบ เพราะต่อมรับรสแต่ละคนไม่เหมือนกัน ง่ายๆคือชอบกับดีคนละเรื่องกัน ดีไม่ดีอธิบายได้ครับ แต่ชอบกับไม่ชอบไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ มันก็เหมือนความรักน่ะแหละ... (อิอิ)
 .
ทีนี้ผมจะถือว่าทุกคนรู้เรื่องเกมทั้งสองภาคแล้ว ผมจะไม่เล่าเนื้อเรื่องละเอียด แต่จะยกมาบางฉากเพื่อประกอบให้เข้าใจเฉยๆนะ ซึ่งบทเกมส่วนใหญ่จะได้แรงบันดาลใจมาจากหนังนะครับ การรับรู้ไม่เหมือนกันก็จริง คนเล่นจะอินง่ายกว่าคนดู แต่พื้นฐานการเขียนบทเกมจะได้ไอเดียมาจากหนังน่ะแหละ จริงๆคำว่าบทมันก็เริ่มมาจากการเขียนด้วยกันทั้งนั้น เพราะงั้นไม่ต่างกันมากครับ ผมจะยกตัวอย่างบทหรือเนื้อเรื่องหนังบางเรื่องมาประกอบไปด้วยนะ

.
เอาละมาเริ่มจากพล็อตกันก่อนเลย พล็อตในภาคนี้จะเริ่มด้วย Conflict ที่ถูกใส่เข้ามาตั้งแต่ต้น เราจะรู้เลยว่า Joel กับ Ellie มีเรื่องค้างคาใจกัน จากนั้น Conflict ที่ทำให้คนเกลียดก็คือ Joel จะตาย แล้ว Ellie จะออกล้างแค้น ทำให้เกิด Conflict ที่ทำให้ Abby ซึ่งเป็นคนที่ฆ่า Joel หันมาแค้น Ellie 
 .
แถมเราจะได้รู้แง่มุมของ Abby ที่ฆ่า Joel ด้วย โดยเธอจะมี Conflict ของเธออีกพอสมควรเลยก่อนจะมาถึงจุดนี้ จากนั้นจะเป็น Conflict สำคัญที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากันและ Ellie จะแพ้ ทุกคนแยกทาง ซึ่งเหมือนจะจบด้วยดีนะ แต่จะมี Conflict ถูกใส่เพิ่มเข้ามาอีก ทำให้ Ellie ต้องไปสะสางเรื่องที่ยังหลอกหลอนใจอยู่ และสุดท้ายเธอก็จำใจต้องก้าวข้ามมัน กลับไปลำลึกความหลังและพยายาม Move on อีกครั้ง...

ถ้ามองแค่พล็อตก็ดูดีแล้วนะ มีเรื่องราวและ Message ที่ชัดเจน แถมมี Conflict ที่แข็งแรง แต่อย่างว่าครับ พล็อตไม่ใช่บท พล็อตดูดีไม่ได้บ่งบอกว่าบทต้องออกมาดีตาม..
 .
อ้อเผื่อใครสงสัย พล็อตก็คือภาพรวมและจุดสำคัญที่ทำให้เกิดบางอย่างตามที่ผมพูดไป ซึ่งจริงๆในภาคนี้จะมี Conflict ของตัวละครอื่นต่อตัวละครหลักที่ผมไม่ได้พูดในพล็อตด้วยนะ
 .

.
ทีนี้  Conflict คืออะไร ? // เพราะผมพูดบ่อยเหลือเกิน สำหรับคนที่ไม่รู้นะครับ // Conflict คือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเรื่องราวทั้งหมด อันนี้แหละคือสิ่งที่ทำให้บทเข้มข้น มีผลกับจิตใจคนมากที่สุด
 .
บทที่ไม่มี Conflict จะเป็นบทที่ไม่ดี น่าเบื่อ เพราะไม่มีเหตุการณ์สำคัญ แถมตัวละครไม่เกิดพัฒนาการ หรือถ้ามี Conflict แต่ไม่แข็งแรง ผู้คนจะไม่รู้สึกอะไรกับ Conflict เหล่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้าง Conflict  ได้ไม่ดี..
 .
โดยเราจะเห็น Conflict ที่ไม่ดีบ่อยๆในหนังแอคชั่นครับ ถ้าหนังแอคชั่นเรื่องนั้นขับเคลื่อนด้วยการแก้แค้น พอดูจบแล้วก็จบเลยไม่ได้ทำให้เราอินอะไรกับ Conflict ที่เขาใส่มาเท่าไหร่ เราจะแค่รู้สึกถึงความสนุกที่มาจากส่วนของแอคชั่น คนเลยไม่ค่อยชมว่าหนังแอคชั่นบทดีไงครับ
 .
แต่การที่เรารู้สึกแย่ รู้สึกอึดอัด รู้สึกสับสนกับ Conflict ที่เกิดขึ้น ถ้า Conflict ที่เขาใส่ต้องการสื่อถึงความรู้สึกเหล่านั้น ถือว่าเป็น Conflict ที่ดีนะครับ เป้าหมายของ Conflict คือเอาไว้ขับเคลื่อนตัวละคร ไม่จำเป็นต้องทำให้คนเสพรู้สึกดีหรือพึงพอใจ คำและความหมายของมันก็บ่งบอกตัวเองอยู่แล้วนะ
 .
ซึ่งบทโดยทั่วไปต้องมี Conflict ที่สมเหตุสมผลครับ ถ้าเป็นบทที่อาร์ตหรืออยากนำเสนอโดยเน้นอารมณ์ ไม่ต้องสมเหตุสมผลแต่เน้นอารมณ์ล้วนๆก็ได้ แบบประหลาดจนดู Abstract ไปเลยก็มี..
 .
โดยในภาคนี้ Conflict เยอะมากเลยนะ มากกว่าภาคแรกอีก แถมเขาทำให้สมเหตุสมผลด้วย ถ้าเราเล่นหรือติดตามเรื่องราวไปจนจบ เขามีการอธิบายรองรับหมดเลย (ซึ่งผมจะอธิบายตอน Breakdown ตัวละคร) แต่ถ้าเรารู้สึกไม่ชอบ Conflict ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดนะ อย่างที่ผมบอกไปว่า Conflict คืออะไรครับ
 .
.
ส่วนบทจะรวมทุกๆรายละเอียดที่เราเห็น พวกมุมกล้อง ภาพ แสง สี เสียง สถานที่ ฉาก การแสดง สีหน้า ท่าทาง คำพูด บลาๆๆ แม้แต่การไม่พูดก็คือบทนะ แล้วก็ภาพดำๆเปล่าๆก็เป็นบทได้เหมือนกันถ้าเขาจงใจใส่เข้ามา ไม่ได้หมายถึง Loading ในเกมนะ 55555+ 
 .
ทีนี้การจะบอกว่าบทห่วยหรือดีเนี่ย ถ้าให้ดีต้องอธิบายรายละเอียดของตัวบทด้วยครับ การบอกว่าพล็อตแบบนี้ Conflict แบบนั้นเราชอบไม่ชอบคือดีหรือห่วย ถ้าผมพูดแค่นี้แล้วบอกว่าดีหรือห่วย มันจะดูตื้นเขินเกินไป อย่างที่บอกว่าไม่ต้องเล่นไม่ต้องเสพก็พูดได้ครับแบบนี้..
 .
ผมจะยกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายขึ้นละกัน คือถ้าผมบอกว่า Joel ถูกฆ่าแล้ว Ellie แค้นคือบทดี มันสมเหตุสมผลเพราะทั้งคู่ผูกพันกัน ถ้าพูดแค่นี้แล้วบอกว่าบทดี เกมอื่นที่มี Conflict ทำนองนี้ก็จะกลายเป็นบทดีเหมือนกันไปหมด เราจะไม่สามารถอธิบายความแตกต่างได้เลย..
 .

.
แต่ถ้าผมอธิบายว่าในฉากที่ Joel กำลังถูกฆ่า ดนตรีจะให้ความรู้สึกทุ้มๆหนักๆเพื่อถ่ายทอดความหนักหน่วง // Ellie จะเข้ามาเห็น Joel กำลังถูกฟาดจนเละพอดี 
 .
ภาพจะตัดไปถ่ายสีหน้าของ Ellie ที่แสดงความรู้สึก แล้วเธอจะต่อสู้จนถูกจับกด ดนตรีจะรุนแรงขึ้นเพื่อแสดงถึงสถานการณ์ความหนักหน่วงที่เพิ่มขึ้น..
 .
จากนั้นกล้องจะเคลื่อนลงมาให้เราเห็นแบบมุมมองของ Ellie // เพื่อให้เราเข้าใจมุมมองเธอในตอนนี้มากขึ้น อินมากขึ้น รู้สึกราวกับที่เธอรู้สึก จากนั้นก็ตัดกลับไปถ่ายสีหน้าของเธอต่อ Joel ที่กำลังจะถูกกระทำต่อจากนี้ เราจะเห็นความเจ็บปวดที่ออกมาทางการแสดงแทน ตัดกลับไปที่ Joel เพื่อย้ำเตือนสิ่งที่ Ellie ต้องเห็น
 .
ก่อนที่ดนตรีจะบิ้วขีดสุด และจบลงให้วิ้งตอน Joel ตาย เพื่อบ่งบอกว่าโฟกัสของ Ellie ตอนนี้มีแค่ความคิดที่จะฆ่าพวกนั้น คำพูดของตัวละครอื่นต่อจากนี้เลยไม่จำเป็นต้องจับใจความได้ครับ (เสียงอู้อี้ฟังไม่รู้เรื่อง)
 .
.
ทั้งหมดทำเพื่อให้เราเข้าใจมุมมองของ Ellie ที่ต้องเจอเรื่องเหล่านี้ ทำไมเขาเลือกเคลื่อนกล้องลงมา ? ทำไมไม่แค่จับภาพเฉยๆ ? ทำไมดนตรีต้องบิ้วและจบแบบนี้ ? ทำไมเขาตัดภาพไปมาให้เราเห็นหน้าตัวละครแบบนั้น ? ก็เพื่อให้เราเข้าใจความผูกพันและความรู้สึกของ Ellie อย่างลึกซึ้ง เห็นความแตกต่างกับการอธิบายแบบแรกแล้วนะครับ ผมคงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าการอธิบาย 2 แบบนี้อันไหนจะทำให้คนฟังรับรู้ได้ว่าบทดีหรือแย่มากกว่ากัน..
 .
อ้อแล้วก็แบบนี้เรียกว่าบทดีนะ เพราะมีรายละเอียดชัดเจน สอดคล้อง และส่งเสริมกันทั้งหมด
 .
ทีนี้ต่อให้เกมอื่นมี Conflict แบบนี้ แต่ถ้าเขาใส่ดนตรีชะชะช่า ตั้งกล้องมุมเดียว ไม่ตัดไปที่ใครเลย ถ่ายอยู่มุมเดียวหน้าตัวละครเดียว แต่อยากจะสื่อแบบนี้ อยากให้อารมณ์ออกมาแบบนี้ คือมันก็สื่อได้เหมือนกันแหละ เข้าใจได้เหมือนกัน แต่อารมณ์ที่ได้จะต่างกัน แล้วถ้าองค์ประกอบหลายๆอย่างไม่ได้ส่งเสริมกัน แถมถ่ายทอดออกมาไม่ถึงอารมณ์ จะถือว่าเป็นบทที่ไม่ค่อยดีครับ
 .
สังเกตมั้ยว่าบทที่ดีต้องมาจากการตัดต่อ การเล่าเรื่อง หรือแม้กระทั่งการกำกับที่ดีด้วย (จริงๆมันมากกว่านี้) หลายๆอย่างต้องส่งเสริมกันหมดนะ เราเลยไม่เห็นหนัง(เกม)แย่ที่ได้รางวัลบทดีไง เพราะงั้นถ้าผมพูดถึงแค่พล็อตหรือ Conflict อย่างเดียว มันก็ตื้นเขินเกินไปตามที่ว่า แถมไม่ได้อธิบายสิ่งที่ดีหรือแย่ของตัวงานนั้นจริงๆครับ
.
.
มีต่อ...
.
Edit* ใส่รูปเพิ่ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่