หมู่บ้านวันเดอร์พัทยาเป็นยังไง มีอะไรบ้าง ไลฟ์สไตล์และคอนเซ็ปท์งานคืออะไร วันนี้นาวจะมาเล่าให้ฟังจากที่ไปงาน Moobaan Wonder by Wonderfruit มาคะ


ที่เป็นหมู่บ้านวันเดอร์เพราะว่างานปีนี้มีขนาดที่เล็กลง ใช้พื้นที่ 1 ใน 3 ของงาน Wonderfruit ทำให้กิจกรรมซุ้มต่างๆ อยู่ใกล้กันมากขึ้น เดินไปแต่ละจุดง่ายขึ้น
 
คอนเซ็ปท์งานเหมือนเป็นชุมชนแห่งการเฉลิมฉลองศิลปะ ซึมซับวัฒนธรรม และทำให้เราตระหนักถึงวิถียั่งยืน ที่ผ่านมานาวเข้าใจว่างาน Wonderfruit มีแต่คอนเสิร์ต แต่พอไปดูถึงได้รู้ว่า Moobaan Wonder มีมากกว่าดนตรีที่น่าสนใจจริงๆ

ภายในงานคือมีทั้งดนตรี อาหารเครื่องดื่ม เวิร์คช็อป ช้อปปิ้ง ทุ่งดอกไม้ ฟาร์ม และอาร์ตอินสตอลเลชัน ในงานไม่ได้ใช้เงินสด เราจะต้องเติมเงินเข้าไปใน Wristband ของเรา ถ้าเติมเป็นเงินสดสามารถ Refund ได้ แต่ถ้าเป็นบัตรเครดิตต้องใช้ให้หมดภายในวันที่เติมเลย ซึ่งในงานก็จะมีจุดให้เรา Top up และตู้ ATM อยู่หลายจุด เดี๋ยวนาวจะพาทุกคนไปทัวร์บรรยากาศจากภาพที่นาวเก็บมากันนะ

สำหรับสายถ่ายรูปรับรองว่าแต่ละจุดของงานจะได้รูปเก๋ๆ กลับบ้านแน่นอน ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าเราเน้นมาดูงานอาร์ต และถ่ายรูปโดยเฉพาะคะ555 เพราะนอกจากคอนเสิร์ตยังมีหลายสิ่งที่น่าสนใจ

แม่อุ๊ยอาม่า เป็นคาเฟ่ริมน้ำในบรรยากาศสบายๆ มีทั้งอาหารเหนือ อาหารจีนแต้จิ๋ว และมีไอศกรีมอร่อยๆ ด้วยคะ

ข้าวซอยไก่และข้าวแกงกะหรี่ไก่คืออร่อย ที่แปลกใหม่สำหรับนาวคือไอศกรีม มันจะมีคล้ายกับป็อปคอร์นใส่มาด้วย และก็รสชาติไอศกรีมคือไม่เคยกินที่ไหนมาก่อนอยากให้มาลองเปิดประสบการณ์กับรสชาติอาหารใหม่ๆ กันดูน้า

เค้าจะมีจุดทิ้งขยะแต่ละประเภทอยู่ด้วย หลังทานเสร็จให้เราทิ้งขยะตามจุดที่มีบริการ ที่สำคัญภาชนะที่เราใช้สามารถย่อยสลายได้ไม่ทำลายระบบนิเวศ

เทส ออฟ วันเดอร์ แหล่งช้อปปิ้งสินค้า เสื้อผ้า และงานฝีมือชุมชน ที่พลาดไม่ได้ก็คือการเพ้นท์หน้า ที่เห็นเพ้นท์หน้าสวยๆ ในไอจีคือนาวก็พึ่งรู้ว่าเค้าทำกันที่นี่เอง แต่เดินเล่นในงานจนจะกลับพึ่งเเข้าไปเห็นก็อดถ่ายรูปเพ้นท์หน้าสวยๆ ไปตามระเบียบค่า ใครที่มาแนะนำให้รีบมาเลยนะมาเพ้นท์ก่อนแสงจะหมดจะได้ถ่ายรูปกัน


ใครที่สนใจเรื่องกาแฟเค้ามีสอน Workshop ความรู้เกี่ยวกับกาแฟตั้งแต่ยังเป็น green bean coffee ไปจนถึงการคั่ว การบด และการชงเลย 

และได้ลอง Mix ระหว่างกาแฟกับน้ำผลไม้ดู ไม่น่าเชื่อว่ารสชาติมันจะอร่อย ไม่ขมมาก และเข้ากันได้ 

Art Installation ภายในงานต้องการสื่อถึงงานศิลปะที่ให้เราได้ใช้โสตประสาทรับรู้ถึงธาตุดิน น้ำ โลหะ อากาศ โดยซาวด์อินสตอลเลชันถูกบันทึกเสียงสนามจากทั้งศิลปินไทยและชาวต่างชาติ นอกจากจะเป็นศิลปะให้เราได้ชื่นชมแล้วยังถ่ายรูปได้อีกด้วยคะ เราจะพาไปหามุมกันนน 

Embrace (ธาตุดิน) จะได้ยินซาวด์เสียงที่มีความพุทธ ท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย เป็นมุมที่ถ่ายรูปได้แปลกแต่สวยมาก

Rueng Loy (ธาตุน้ำ) ซาวด์เสียงเหมือนคลื่นใต้มหาสมุทร เสียงจากบางสิ่งใต้น้ำกระทบกัน โซนนี้ถ้ามีเครื่องดื่มมานั่งจิบชิลๆ ฟังเสียงจากใต้น้ำจะได้ฟีลมากค่า

Sonic Path (ธาตุโลหะ) เหมือนกับคลื่นเสียงที่ถูกสร้างด้วยเหล็ก เป็นอีกมุมที่ถ่ายรูปได้สวยแปลกตา

Aeropendulum (ธาตุลม) จากในแผนที่จะอยู่ใกล้กับโซนเวที นาวคิดว่าน่าจะเป็นแถวนี้ เพราะเค้ามีการใช้ขวดพลาติดมาทำเป็นกังหันลม และดอกไม้ต่างๆ ได้ฟีลแบบทุ่งเทเลทับบี้ 

ถ่ายกับธงสะบัดก็เก๋ดี เป็นอีกมุมที่ควรมาโดนน้าสาวๆ

มุมถ่ายรูปยอดฮิตที่สุดในงานก็คือดวงจันทร์เรืองแสงยามค่ำคืนของ Moonism with Sangsom แลนด์มาร์คสุดอลังใจกลางหมู่บ้านวันเดอร์ ในคอนเซ็ปท์วงโคจรรอบดวงจันทร์ ที่ไม่ว่าเราจะโคจรอยู่ตรงไหน เราก็จะมองเห็นความสวยงามจากดวงจันทร์ทั่วทุกมุมแบบ 360 องศา แอบบอกบ้านนี้เราเห็นดารามานั่งหลายคนเลย

นอกจากบ้านแสงโสมที่คนจะไปนั่งดื่มฟังเพลงชิลๆ แล้ว ยังมี Baan Ziggurat with Singha บ้านนี้ยิ่งดึกคนยิ่งเยอะ และ Marrok Werewolf นั่งทานอาหารจิบเครื่องดื่มดูมวยมันส์ๆ 


A Singing Sea ของบางอย่างอาจเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับคนหนึ่ง แต่อาจเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับใครบางคน เป็นอาร์ตอินสตอลเลชันที่ทั้งสร้างสรรค์ สวยงาม เหมือนชุบชีวิตขยะขึ้นมาใหม่อีกครั้งนึง 

Mindfulness กระจกที่ทำให้เราสะท้อนเห็นทั้งตัวเองและทุกสิ่งทุกอย่างในงาน แต่เมื่อเราเข้าไปเดินวนอยู่ข้างในเราจะไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากข้างนอก นอกจากความเงียบกับตัวเราเอง

The Walk เส้นทางเดินคดเคี้ยวยกระดับสูงต่ำที่ลอยอยู่เหนือพื้นหญ้า เพื่อเตือนให้เราไม่มองข้ามสิ่งเล็กๆ ในระบบนิเวศที่เราทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเราโดยตรง
 
 ภายในงานมีน้ำดื่มฟรีบริการแค่พกกระติกน้ำไปเองก็เซฟเงินในกระเป๋าของเราได้ด้วย

เค้ามีกิจกรรมเล่นว่าวด้วยนะเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตอนที่นาวไปคือดอกทานตะวันกำลังจะบาน แล้วดอกใหญ่สวยมากกก ใครที่ไปสัปดาห์หลังคิดว่าคงได้ถ่ายรูปสวยๆ กับทุ่งทานตะวันบานสะพรั่งแน่เลย

Camp Edible ตอนเดินเล่นถ่ายรูปจนเหนื่อยเราก็มานั่งพักหลบแดดอยู่ข้างในนี้แหละ

จุดนี้เด็กสามารถมาเล่นได้ด้วยนะคะ มีขอนไม้ให้นั่งเล่นเหมือนชิงช้า ช่วงเย็นจะมีแสงสีคล้ายดอกไม้ไฟ ขึ้นไปชมวิวดูบรรยากาศของงานและพระอาทิตย์ตกด้านบนฟีลดีจริง สวยมาก 

อีกอย่างงานนี้มาได้ทุกวัย เด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าฟรี ถือว่ามาเปิดประสบการณ์ในพื้นที่กว้างให้ลูกๆ ของคุณไปด้วย
 
คนที่มางานก็จะแต่งตัวสไตล์โบฮีเมียน หรือจะมาแนวชิค แนวฮิปก็ได้ ใครจะมาแบบสายชิวแต่งสบายๆ ก็มีนะ หรือจะจัดเต็มทั้งเสื้อผ้า หน้าผม รองเท้า กระเป๋า นาวว่าก็เวิร์คมากสำหรับสายเน้นถ่ายรูป แบบนาวคือเบาๆ ไปเลย
 
ความสนุกมีทุกวัน ศ. ส. อา. เหลืออีกแค่ 4 สัปดาห์เท่านั้น ชวนเพื่อนๆ ชาวแก๊งค์ ชวนแฟน พาครอบครัวมา hangout หรือเปิดประสบการณ์กันน้า สำหรับนาวงานนี้ถือว่าเป็นทริปปีใหม่ที่น่าประทับใจมากคะ ใครที่เป็นสายแดนซ์เน้นมาฟังเพลงดูคอนเสิร์ตก็สามารถดูคิวศิลปินได้ที่หน้าเพจ Wonderfruit 

ราคาบัตรเข้างานเริ่มต้นแค่ 690 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงคนทั่วไปมากยิ่งขึ้น ถ้าซื้อบัตรผ่านเว็บ wonderfru.it/moobaanticket ก็จะถูกกว่ามาซื้อหน้างาน 

FB: Wonderfruit
IG: wonderfruitfestival
Web: http://wonderfruit.co/
Tel: 02 216 2014
บัตรวันศุกร์ 690 บาท เวลา 15.00 - 03.00 น.
บัตรวันเสาร์ 1,290 บาท เวลา 11.00 - 03.00 น.
บัตรวันอาทิตย์ 1,290 บาท เวลา 11.00 - 00.00 น.
(บัตรสุดสัปดาห์ 2,190 บาท) 

ทริปนี้นาวไม่ได้เก็บบรรยากาศความมันส์มาฝากแต่ต้องไม่พลาดไปกันนะ ยังไงก็ขอฝากติดตามนาวได้ที่ Facebook page : Come with now ด้วยค่า