ได้มีโอกาสพาเพื่อนที่ลงมาเที่ยวเกาะช้างแวะไปทานข้าวและนั่งชมทะเลรับลมที่ เขานอกโฮมสเตย์ ครับ 29 พฤศจิกายน 2563 พอดีที่นี่เขาอยู่ใกล้ๆกับที่ทำงานและเจ้าของโฮมสเตย์ (คุณประทีป คุณกุล คุณป้อม) ก็เป็นลูกค้าที่ร้านเราซึ่งเคยมาชวนให้เข้าไปชมความสวยงามและความรีเล็กส์ของที่นี่ สบโอกาสเนื่องจากมีเพื่อนเก่าสมัยมัธยมลงมาเที่ยวเลยตั้งใจพาไปนั่งชิวกัน

.

เราโทรไปถามคุณกุลก่อนเลยว่าถ้าจะเข้าไปในวันนั้น (29 พฤศจิกายน 2563) จะเข้าไปได้หรือไม่เพราะบางครั้งถ้าทางโฮมสเตย์มีลูกค้าอยู่ก็คงไม่สะดวก ซึ่งเราเคยคุยเกริ่นไว้ก่อนสัก 1 สัปดาห์ก่อนที่เพื่อนจะลงมาว่าอยากเข้าไปเที่ยว และอาจให้จัดอาหารกลางวันให้ หรือถ้าอากาศดี คลื่นลมไม่แรงจะให้จัดเรือเร็วออกไปเกาะอื่นๆ (คือเราอยากไปเกาะกระดาษน่ะ) แต่สรุปสุดท้ายคุณกุลแจ้งว่าแขกเช็คเอ้าท์ไปหมดในช่วงเช้าของวันที่ 29 สะดวกมากที่เราจะเข้าไปนั่งเล่นและสามารถจัดอาหารซีฟู้ดมื้อกลางวันให้สำหรับแขก 4 คน ส่วนการจะจัดเรือเร็วออกไปเกาะอื่นได้หรือไม่ เบื้องต้นคุณประทีป (ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการเดินเรือ) แจ้งพยากรณ์ลมว่าในวันนั้นลมแรงไม่น่าจะนำเรือออกไปได้แบบสนุก (คือถ้าจะออกไปจริงๆ ก็ได้แต่เรืออาจกระแทกจนคนนั่งเมาเรือ ช้ำใน อ่อนเพลีย ฯลฯ เสียจนไม่สนุก) และจริงๆ สุดท้ายในวันนั้นก็ไม่ได้ออกไปครับ

.

ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปคู่กับเรือ

เราเข้าไปถึงประมาณ 11.49 น. โดยเขานอกโฮมสเตย์แห่งนี้อยู่ในบริเวณที่เรียกว่าเขานอก อยู่ในเขตบ้านบางเบ้า ตำบลเกาะช้างใต้ ทางเข้าเป็นถนนคอนกรีตขนาดไม่กว้างนัก ขับรถต้องระวังรถสวนทางมาด้วย แต่ในวันธรรมดาที่ไม่มีนักท่องเที่ยวมาก รถสวนเข้าออกแทบจะไม่ค่อยมี เขามีป้ายประชาสัมพันธ์เป็นระยะๆ ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับการไปไหว้ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เขานอก) เราเข้าไปถึงในขณะที่รีสอร์ทค่อนข้างเงียบแล้ว แดดแรง และลมก็ยังคงแรงอยู่ (คุณประทีปบอกว่าลมแบบนี้เรียกว่าลมว่าว) คลื่นในทะเลเห็นเป็นริ้วเล็กๆหัวแตกเป็นฟองสีขาวไปทั่ว

เราถือวิสาสะเดินเข้าไปจนถึงตัวบ้านขนาดใหญ่ซึ่งเปิดโล่งรับลมที่เหมือนจัดไว้ให้สำหรับแขกนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหาร คุณกุลเดินออกมาต้อนรับ แล้วพาเราไปนั่งโต๊ะที่จัดไว้ให้ (แต่เราเลือกจะไปนั่งอีกที่) แล้วแจ้งว่ากำลังเตรียมอาหารให้ ส่วนเมนูปูม้าคุณแม่ของพี่ประทีปกำลังจะเดินไปเอาขึ้นมาจากกระชังที่ปลายสะพาน เราจึงขอเดินไปดูด้วย

คุณยายบอกว่า ปูม้าเหล่านี้ส่วนหนึ่งคุณตากับคุณยายไปวางอวนด้วยตัวเองและอีกส่วนหนึ่งรับซื้อมาจากชาวประมงพื้นบ้านระแวกนี้โดยก่อนที่จะนำไปทำอาหารจะต้องน็อคด้วยน้ำจืดก่อน และการวางอวนปูก็เป็นสิ่งที่คุณยายทำจนกลายเป็นมืออาชีพไปแล้ว คุณยายเดินนำปูม้าเข้าบ้านเพื่อไปทำอาหาร ส่วนพวกเราก็เดินถ่ายรูปและรับลมเย็นๆได้สักพักจึงเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่กำลังจะมีอาหารมาเสิร์ฟ

.

เมนูของมื้อนั้นได้แก่ 

1. ปูม้าต้มทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ก็คือปูม้าที่เราเพิ่งไปนำขึ้นมาจากทะเลนั่นแหล่ะครับ ผ่านการน็อคด้วยน้าจืดแล้วจึงนำไปทำอาหาร พร้อมอุปกรณ์พื้นบ้านช่วยให้ทานปูได้ง่ายขึ้น มันทำจากกิ่งของต้นโกงกาง

 

2. ต้มยำทะเลหม้อไฟ(ถ่านไม้) มีกลิ่นหอมถ่านไม้ครับ ถ่านไม้ทำให้ไฟในหม้อไฟไม่แรงเกินไปแต่ร้อนนานและถ่านไม้ไม่ให้กลิ่นฉุนของเมทิลแอลกอฮอล์ 

3. ส้มตำปูม้า ผักกรอบและสด ส่วนปูจะมีเนื้อน้อยสักหน่อย เหมือนจะเป็นปูตัวที่คุณยายจับดูแล้วบอกว่า "ตัวนี้เนื้อไม่แน่น หยิบดูแล้วเบาโหยง" 

4. ปลาโฉมงาม(เฉพาะเนื้อ)ทอดน้ำปลา เนื้อปลาหวานแน่น และการมาเฉพาะเนื้อทำให้ทานง่ายและไม่มีก้าง เสิร์ฟมาพร้อมมะนาวเสี้ยวเล็กๆ แก้เลี่ยน

(รูปแรกนี้แบบเต็มตัวในมือของกัปตันเมื่อวันก่อน พี่ประทีปแกไปตกมาเองกับมือ)

และนี่คือที่แร่มาแต่เนื้อนำมาประกอบอาหาร

และ 5. ทอดมันปลาอินทรีย์ เมนูนี้คุณกุลถามเราขณะที่ยกเมนูอื่นมาเสิร์ฟว่าอร่อยมั้ย เราตอบว่าอร่อย แล้วคุณกุลก็เฉลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูเดียวที่ซื้อเขามาไม่ได้ทำเอง

เครื่องดื่มที่นี่เขาเสิร์ฟน้ำเปล่า แต่คุณกุลยกน้ำส้มคั้นขวดมาให้ชิมต่างหาก และหลังจากอิ่มหนำสำราญพร้อมเอนหลังให้ข้าวเรียงเม็ดเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาพายเรือคายัคออกแรงสักหน่อย ใช่ครับ ที่นี่เขาบริการเรือคายัคฟรีสำหรับแขกที่มาพักด้วย สามารถพายเล่นในบริเวณหน้าโฮมสเตย์ และอ่าวบางเบ้า ซึ่งถ้าใครจะแข็งแรงและพายไปไกลกว่านี้ก็ได้ แต่ที่เราถามคุณกุลว่าโดยปกติคนที่พายเรือคายัคบริเวณนี้เขาพายไปไหนได้ คุณกุลบอกว่า ก็พายเลาะไปตามชายฝั่งของเกาะช้าง มุ่งหน้าไปทางอ่าวใบลาน หรือจะพายในอ่าวบางเบ้าแล้วไปขึ้นที่หาดคลองกลอยก็ได้ แถมเล่าให้เราฟังอีกว่าในช่วงไฮซีซั่นของปีปกติ (ที่ไม่ใช่ปีโควิด) มักจะมีฝรั่งว่ายน้ำจากฝั่งหาดคลองกลอย มาขึ้นบริเวณศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่อยู่ไม่ห่างจากโฮมสเตย์

 

เราถามว่าแล้วถ้าจะเข้ามาไหว้กรมหลวงชุมพรฯ แต่แวะเขามานั่งเล่นในรีสอร์ทได้มั้ย คุณกุลเล่าว่าในช่วงไฮซีซั่นปกติก็เคยมีฝรั่ง (หมายถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ) เข้ามานั่งเล่นที่ริมทะเลภายในโฮมสเตย์อยู่บ่อยๆ ซึ่งคุณกุลก็ไม่ว่าอะไร แต่จริงๆแล้วถ้ามองที่พื้นที่ของโฮมสเตย์ซึ่งก็มีความเป็นส่วนตัวอยู่พอสมควร การเข้ามานั่งเล่นนอนเล่น อาจต้องขออนุญาตเจ้าของพื้นที่สักหน่อยก็จะทำให้น่าเอ็นดูมากขึ้น

.

ที่นี่เขารับแขกเป็นแพคเกจนะครับ แบบ 3 วัน 2 คืน และแบบ 2 วัน 1 คืน จัดกิจกรรมไว้ให้แบบไม่ให้เบื่อกันเลยทีเดียว แถมมีคายัคให้พายแบบอันลิมิเต็ดด้วย

สำหรับเรา หลังจากพายคายัคได้สักไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ขึ้นมาอาบน้ำล้างตัว ก็ได้เวลาบอกลาคุณกุลที่บวกด้วยน้องกัปตันและอันดา คุณปู่ (คุณตาที่ไปวางอวนปูกับคุณยายเมื่อตอนต้นเรื่องนั่นแหล่ะ) ที่วันนี้คุณปู่นั่งดูทีวีอยู่แถวๆที่เรานั่งๆนอนๆอยู่ก่อนหน้า ส่วนคุณประทีปกับคุณป้อมคงไปทำธุระอะไรต่อมิอะไรแล้ว ได้แต่บอกขอบคุณกันผ่านโลกโซเชียล

--------------------- 

 คุณหมูยอ

 แวะไปเยี่ยมเขานอกโฮมสเตย์เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2563

บันทึกไว้เมื่อ 8 ธันวาคม 2563

---------------------