การฉีดจู๋นี่โศกนาฏกรรมของคนที่เดินทางผิดที่แท้ทรู และเป็นเรื่องที่เบื่อสุดๆ ของหมอสาขานี้เลยหละครับ

การฉีดพวกสารแปลกปลอมสารพัดนี่ มีมานานมาก ๆ และก็เน่าเยอะมาก ๆ ข่าวออกทีก็เปลี่ยนชื่อที จากฉีดน้ำมันมะกอก เป็นฉีดพาราฟิน เป็นน้ำมันมวย เปลี่ยนเป็นฉีดเพนนิซิลิน ฉีดคลอแรม สารพัดจะตั้งชื่อให้ดูดี อนาคตคงมีฉีดเวย์ ฉีดเอสเคทู แต่สุดท้ายปลายทางเหมือนกันครับ เน่าแน่ ๆ
หลายคนชอบบอกว่าพี่คนนั้นดี ไม่เน่า คนนี้ใหญ่นาน หมออย่ามาอำ อันนี้แหละครับที่ทำให้หลายคนยังแห่ไปฉีดกันอยู่ จริง ๆ ก็คือเวลาเอามาโชว์กันเค้าก็ต้องเอาแต่ตอนดีๆมาให้ดูแหละครับ ใครมันจะเอาตอนเน่าหรือตอนแก้แล้วมาเปิดให้ดู เลยทำให้หนุ่มๆหลายคนไม่รู้ และหลงแห่ไปทำกัน
ผมอยู่รพ. มีคนไข้พวกนี้มาปรึกษาทุกวัน บางคนจะมาแบบสถานเบา คือยังไม่เน่าแต่ทนหน้าตามันไม่ได้ หรือทำความสะอาดไม่ได้ เลยอยากเอาออกก่อนเพราะกลัวตาย และบางคนก็มาแบบสถานหนัก คือเน่าแล้ว เฟะแล้ว หนองทะลักทุกทิศทาง อยากจะเอาออกในตอนนี้เดี๋ยวนี้ ซึ่งต้องบอกว่าฉงฉารและมีความเวมากครับ

เพราะวิธีการรักษามันมีวิธีเดียว คือต้องลอกเอาหนังที่มีสิ่งแปลกปลอมพวกนี้ออกหมด ฉะนั้นหลังแก้จะเล็กและสั้นลงมากๆแน่ๆ มากกว่าตอนก่อนฉีดด้วย บางคนมาบอกเอาออกแค่นี้ ปลิ้นตรงนู่น แต่งแค่นี้ได้ไหม ตอบไม่ได้ครับ เนื่องจากมันไม่ใช่ธรรมชาติของมัน ทำให้แผลไม่หายและปะทุออกมาอีก  นอกจากนี้คือโรคนี้ เป็นโรคที่คนไข้ทำมาเอง ดังนั้นการแก้ไข จะใช้สิทธิอะไรไม่ได้เลย ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ เบิกไม่ได้ทั้งนั้นครับ ต้องจ่ายเอง รพ.รัฐก็ 2-30000 เอกชนก็เฉียดแสนครับ ขายบ้านขายช่องรักษากันเลยทีเดียว

แล้วถ้าไม่เอาออก ไม่แก้ไขหละ เกิดไรขึ้น

ตอบ ด้วยความที่เป็นสารแปลกปลอมครับ วันร้ายคืนร้ายร่างกายมันก็จะต่อต้าน เป็นแผลเป็น ๆหาย ๆ สามวันดี สี่วันหนอง บางคนก็จะพยายามยื้อซื้อยามากิน หายามาล้างแผล ไปทำบุญไปบนไปเข้าทรง มันก็จะบรรเทาได้ซักพักและก็เป็นอีกครับ จนสุดท้ายก็มะเร็งนั่นแหละครับ ซึ่งถ้ารักษาทันก็แค่ตัดทิ้งทั้งอัน ถ้าไม่ทันก็ตายได้ เพราะฉะนั้นรีบไปรักษาดีแล้วครับ

ผมทำเพจเกื่ยวกับเรื่องทางเดินปัสสาวะและเพศศึกษาสนุก ๆ ไว้ มีโอกาสลองเข้าไปติดตามดูนะครับที่
เพจ   http://www.facebook.com/sarikahappymen  ฝากกดไลค์ให้ด้วยนะครับ