[Spoil+Review] The Mandalorian S2 Ep.6 >>ข้อตกลงยังไม่บรรลุผล

[ความเดิม] ในซีซั่น 1 ตอนที่ 5 ขณะพระเอกแวะทำธุระบางอย่างบนดาวทะเลทรายทาทูอีน 
มีนักล่าเงินรางวัลมือใหม่ไร้ประสบการณ์ ที่อยากได้ชื่อเสียงจนตัวสั่น มาขอให้เขาช่วยกันจับเฟนเนค แชนด์ (Fennec Shand)
ทหารรับจ้างหญิงผู้โด่งดัง จากวีรกรรมฆาตกรรมคนระดับสูงในองค์กรอาชญากรรมต่างๆ 
และเสนอจะมอบค่าหัวทั้งหมดให้ หากภารกิจสำเร็จลงด้วยดี

อย่างไรก็ตาม นักล่ามือใหม่ทราบจากแชนด์ทีหลัง ว่าพระเอกเองก็ค่าหัวแพง แถมยังน่าจะสร้างชื่อเสียงให้เขาได้มากกว่า
เขาเลยตัดสินใจฆ่าเฟนเนค แชนด์ทิ้งเพื่อลดจำนวนศัตรู และจู่โจมพระเอก ก่อนจบชีวิตลงเพราะหาเรื่องผิดคน


ตอนถัดมา, ดิน จาร์รินไปหาลำไพ่ ด้วยการร่วมมือกับแก๊งค์นักเลง ที่มีอดีตพลแม่นปืนของทัพจักรวรรดิชื่อ เมย์เฟลด์ (Mayfeld) เป็นสมาชิก บุกยานขนส่งนักโทษของสาธารณรัฐใหม่ 
ก่อนเหตุการณ์จะลงเอยที่ต้องซัดเมย์เฟลด์กับสมาชิกแก๊งค์คนอื่นๆ หมอบเกลี้ยง แล้วแอบส่งตัวพวกนี้ให้ทางการ เอาไปยัดเข้าซังเตซะ
โทษฐานพยายามทรยศ โยนความผิดเรื่องขโมยนักโทษและสังหารยามเฝ้ายาน ให้เขาเป็นคนรับเสียทั้งหมด



[สปอยล์] หลังจากซีซั่น 2 ตอนที่ 1 จาร์รินขอเกราะแมนดาโลเรี่ยนของใครไม่รู้ คืนจากคนที่บังเอิญเก็บได้บนทาทูอีน และเพิ่งพบเจไดหญิงชื่ออาโซก้า ทาโน่ไป
เขาพาเด็กชายโกรกูขึ้นยานอวกาศประจำกาย บ่ายหน้ามุ่งสู่วัดเจไดโบราณ บนดาวชื่อไทธอน

แต่ปรากฏว่าวัดตั้งอยู่บนยอดภูเขาขนาดเล็ก แค่ตัวสิ่งก่อสร้างเองก็กินพื้นที่เหนือภูหมด
จะเอายานอวกาศใบมีดโกนจอด ณ จุดหมาย จึงทำบ่ได้, กลายเป็นต้องจอดห่างออกมาจากภูเขา
แล้วใช้วิธีเปิดเจ็ตแพ็คเหินหาว พร้อมอุ้มเด็กติดตัว เพื่อพุ่งทะยานสู่จุดหมายร่วมกัน

ดิน จาร์รินวางเด็กบนก้อนหินใหญ่กลางลานของวัด เพราะอาโซก้าแนะนำมาว่าเมื่อโกรกูสัมผัส 'พลัง' ณ พื้นที่แห่งนี้ เค้าจะรู้ทิศทางชีวิตที่ควรเลือกเดินต่อโดยอัตโนมัติ
ซึ่งโกรกูก็จัดเอฟเฟ็กต์อลังการให้ประจักษ์ชัด ว่ากำลังทำเรื่องเหนือธรรมชาติ อย่างการส่องชะตาของตนอยู่
เพราะจู่ๆ มีสนามพลังที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ผุดขึ้นมาป้องกันเจ้าตัวระหว่างนั่งทางใน

การนั่งทางในกินเวลา และสนามพลังก็ขัดขวางมิให้ใครเข้าไปยุ่มย่าม (ด้วยการดีดร่างผู้บุกรุกกระเด็นกระดอน)
ฉะนั้นเมื่อจาร์รินสังเกตเห็นยานอวกาศของใครไม่รู้ บินมาอยู่ในสายตา
เขาจึงมิอาจพาเด็กออกมาเพื่อหลบภัยได้ และจำใจต้องเผชิญหน้าอีกฝ่ายด้านล่าง เพื่อถ่วงเวลา

บุรุษผู้มากับยานลึกลับคือชายชื่อ 'โบบา เฟตต์' ที่แอบสะกดรอยตามพระเอก มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้สักพัก
โบบา เฟตต์มากับผู้หญิงชื่อ เฟนเนค แชนด์ ซึ่งควรตายไปแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะโบบาช่วยชีวิต และผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะบางส่วนเป็นเครื่องจักร

โบบามาเพื่อขอเกราะแมนดาโลเรี่ยน ซึ่งจาร์รินได้จากทาทูอีนคืน เนื่องจากมันเป็นสมบัติของเขา
ทั้งสองฟากยังไม่รู้อีกฝั่งจะตอบสนองเช่นไร เลยเริ่มการพบปะโดยหันอาวุธเข้าใส่กัน
จาร์รินไต่ถามความศรัทธาในลัทธินักสู้ เพื่อดูว่าสมควรมอบเกราะแก่โบบาไหม
แต่คำตอบว่า "ข้าไม่สวามิภักดิ์แก่ใครหน้าไหน" ทำให้จาร์ริน ออกอาการมิพึงใจ


อย่างไรก็ดี โบบาอยากเจรจาความแบบสันติมากกว่า
เลยแนะนำให้จาร์รินถอดเจ็ตแพ็ควางบนพื้น เพื่อให้พวกตนสามารถลดอาวุธลงได้อย่างสนิทใจ

จาร์รินยอมใจเย็นลงและถอดเจ็ตแพ็ค ทางโบบาจึงยื่นข้อตกลง ว่าพวกตนจะช่วยการันตีความปลอดภัยของเด็กให้ 
เพราะตอนนี้ค่าหัวไอ้ตัวเล็กสูงลิบลิ่ว แพงเป็นสิบเท่าของราคาเกราะเทพที่พระเอกสวมใส่

หลังยื่นข้อตกลงไปหมาดๆ ขนาดที่จาร์รินยังไม่ทันตอบตกลงหรือปฏิเสธ
การเสวนาดันโดนขัดจังหวะ ด้วยการลงจอดของยานลำเลียงพลจักรวรรดิ
ขณะทัพสตอร์มทรูเปอร์กรูกันออกมา ทางพระเอกรีบบึ่งกลับไปหาเด็กบนยอดเขา ส่วนโบบากับแชนด์เข้าปะทะพวกทหารให้โดยไม่ต้องขอ

โบบากับแชนด์ แยกกันไปรับมือกองกำลังชุดขาวคนละทาง
โบบาใช้การบู๊ระยะประชิดด้วยตะบอง หวดสตอร์มทรูเปอร์เกราะยุบเป็นว่าเล่น, ส่วนแชนด์ใช้วิธีโจมตีจากระยะไกล 


พระเอกพบว่าเด็กยังไม่เสร็จธุระ จึงลงจากเขามาช่วยแชนด์ ที่อยู่ๆ ต้องรับมือทหารทั้งกองเองคนเดียว
เพราะระหว่างการต่อสู้ ไม่รู้โบบาหายหัวไปไหน

พระเอกกับแชนด์ต้านได้อีกเพียงชั่วอึดใจ และชักทานความต่างด้านจำนวนมิไหว
ทว่าในขณะคับขัน, โบบาผู้ย่องตอดเข้ายานใบมีดโกนของจาร์ริน โดยไม่ได้รับอนุญาต
กลับปรากฏกายในสภาพสวมใส่ชุด ซึ่งรับสืบทอดมาจากบิดา
และใช้อาวุธของเกราะเบสคาร์ แสดงความน่าเกรงขามให้เห็น จนทัพสตอร์มทรูเปอร์ยอมถอย

อารมณ์เหมือนพวกพระเอกชนะเรียบร้อย แต่ปรากฏว่าไม่
จู่ๆ ใบมีดโกนก็โดนอาวุธจากชั้นบรรยากาศยิงใส่ ระเบิดบึ้มให้จาร์รินเห็นแล้วใจสลาย

หุ่นยนต์สีดำ/ดาร์คทรูเปอร์ 4 ตัว ถูกส่งตรงจากท้องฟ้าลงสู่ยอดภูเขา
ก่อนจะเอาตัวโกรกู (ที่นั่งทางในเสร็จ ไม่เหลือสนามพลังป้องกันแล้ว) กลับไปให้มอฟฟ์ กิเดียนแบบสบายๆ
เพราะพระเอกที่ตอนนี้ไร้เจ็ตแพ็ค วิ่งกลับขึ้นยอดเขาไปขัดขวางไม่ทัน


แม้ใบมีดโกนโดนแรงระเบิดเผาผลาญ แต่หอกเบสคาร์บริสุทธิ์ที่อยู่ในนั้นยังไม่ถูกทำลาย
ระหว่างไปเก็บหอกตัวเอง จาร์รินกับโบบาสานต่อบทสนทนาที่ยังค้างคา
โบบาแสดงข้อมูลที่บันทึกไว้ในเกราะให้จาร์รินดู เพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
โบบาลงทะเบียนผู้ใช้ตั้งแต่เมื่อ 25 ปีก่อน และแจงโก้ เฟตต์/บิดาของเค้าก็เป็นเด็กกำพร้า ที่ชาวแมนดาลอร์เคยรับตัวไปสอนสั่ง

เมื่อเห็นข้อมูล, จาร์รินยอมคืนเกราะโบบาโดยดี และคิดว่าจากนี้ต้องแยกย้ายคนละทาง เพราะโบบากับแชนด์ทำตามข้อตกลงแล้ว
แต่ทางสองคนนั้นไม่เห็นด้วย, โบบาแจ้งว่าถ้าเด็กยังไม่ปลอดภัย ข้อตกลงก็ยังไม่บรรลุผล
พวกเขาจะให้การช่วยเหลือต่อ จนกว่าพระเอกจะพาโกรกูหนีพ้นเงื้อมมือมาร


จาร์รินนั่งยานไปหาสหายนาม คาร่า ดูน บนดาวเนวาร์โร
เพื่อขอการสนับสนุนภารกิจแหกคุก เอาตัวเมย์เฟลด์ออกมาจากการจองจำของสาธารณรัฐใหม่
เพราะเมย์เฟลด์น่าจะสามารถแกะรอยหา ยานประจำตัวของมอฟฟ์ กิเดียนได้

คาร่าอิดออดเนื่องจากตอนนี้สาธารณรัฐใหม่ ให้การรับรองเธอในฐานะ 'นายอำเภอ' ของเนวาร์โรอย่างเป็นทางการ
หากกระทำการอันส่งผลเสียต่อรัฐบาล ย่อมไม่งาม
จาร์รินเลยเผยให้เพื่อนทราบเพิ่มว่า เด็กโดนตากิเดียนจับไปแล้ว


[วิจารณ์] ตอนนี้น่าจะสั้นที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพราะเนื้อหาจริงๆ ใช้เวลาเล่าเพียงไม่ถึง 30 นาทีดี
ถ้าไม่คิดแตะรายละเอียดปลีกย่อย แค่พิมพ์ไม่กี่บรรทัด เอาประมาณ
"พระเอกพาเด็กไปนั่งสมาธิ ระหว่างนั้นโบบากับกิ๊ก(?) มาทวงเกราะ แล้วก็จับพลัดจับผลูต้องช่วยกันตื้บสตอร์มทรูเปอร์ของกิเดียน
แต่สุดท้ายเด็กยังโดนลักพาตัวไปบริจาคเลือดอยู่ดี" นี่คงได้

แต่ถ้ามองลึกถึงรายละเอียดปลีกย่อย บทที่ฟาฟโรเขียนก็เก็บดีเทล (detail) ดีเหมือนเดิม ตอนนี้
- ลำเลิกความหลัง ดึงตัวประกอบจากพวกตอนที่ไม่ค่อยสำคัญกับเนื้อเรื่องในซีซั่นแรกนัก กลับมาสมทบบทบาท
- เคลียร์เรื่องความเป็นแมนดาโลเรี่ยนของโบบา เฟตต์
- ปูพื้นเหตุการณ์สู่ไคลแมกซ์ในช่วง 2 ตอนสุดท้าย 
- แถมบอกว่าคาร่า ดูน กลายเป็นคนของสาธารณรัฐใหม่ในลักษณะไหน จากที่เคยใบ้ไว้เมื่อหลายตอนก่อนด้วย

ยังไงก็ตาม สิ่งที่โดดเด่นมากของตอนนี้คือฉากบู๊ ซึ่งผู้กำกับโรเบิร์ต รอดริเกซ นำเสนอต่างหาก
คนที่เคยผ่านมาหมด ทั้งแอ็คชั่นเม็กซิกันสไตล์ Desperado, ทำ Spy Kids เอาใจเด็ก, ผลิตหนังคัลท์ Machete หรืองานทุนสูงแบบ Alita: Battle Angel แสดงฝีมือด้านนี้ได้โดดเด่นนัก 

ฉากต่อสู้ในตอนค่อนข้างเยอะ แถมเกิดเพลากลางวันสว่างจ้า การใช้คอมพิวเตอร์ทำเทคนิคพิเศษจะยาก
แต่เห็นชัดว่าตอนนี้พึ่งคอมพิวเตอร์น้อย และให้เหล่าสตั๊นท์แมนวาดลวดลายต่อยตี, ยิงปืน หรือหลบระเบิดของจริงที่เซ็ตไว้เอา
รอดริเกซเอาการถ่ายทำหนังบู๊สไตล์เก่า เข้ามาผสมในซีรีส์แนวแฟนตาซีอวกาศ ได้เป็นอย่างดี 



[ปล.1] ไม่ทราบผู้สร้างจะสื่ออะไรบางอย่างหรือแค่เอาฮา แต่อาวุธคู่ใจโบบา เฟตต์ตอนไร้เกราะ
ดันเป็นตะบองหรือเมซ (Mace) ที่พ้องกับชื่อเมซ วินดู (Mace Windu) บุรุษที่บั่นคอพ่อของเขา

[ปล.2] พี่กิเดียนไม่เคยเห็นโยดาตอนใช้กระบี่แสง ถึงกล้าเอาไปแกว่งเล่นต่อหน้าเด็กคนนี้สินะครับ 
ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าพี่เคยเห็นมาก่อน คงไม่กล้าลองของแหง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่