▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
จังหวัดกาญจนบุรี
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
เที่ยวไทย
[CR] อีต่อง... ไปคนเดียวก็ได้ แบบไม่มีรถส่วนตัวค่ะ
การเดินทางคนเดียวครั้งแรกตลอดทั้งทริปนี้ของเรา เริ่มจากการที่เราได้เห็นภาพหมู่บ้านอีต่องในยามค่ำคืน แล้วก็อยากจะมาเห็นด้วยตาตัวเอง อยากถ่ายภาพนั้นด้วยมือของเราเอง เราเริ่มชวนเพื่อน แต่.... ไม่มีใครว่างมากับเรา
เราเกือบจะทิ้งที่แห่งนี้ไปแล้ว แต่....แล้วเราก็เลือกที่จะมาคนเดียว เพราะเราไม่อยากเฝ้ารอใครสักคนอีกต่อไป
อีต่อง มาจาก ณัตเอ่งต่อง ที่แปลว่า ภูเขาแห่งเทพเจ้าหรือเขาเทวดา
05:00น. เราเลือกจองรถมินิบัสวินกาญจนบุรีเอ็กซ์เพรส (สายใต้ใหม่-กาญ 086-3111426 หรือจองบน Facebook)
รอบเช้าที่สุด ใช้เวลาเดินทางมาจนถึงบขส.กาญประมาณ 07:00น. (เดินทางวันธรรมดาเดือนตุลาคม 63)
จากบขส.กาญ สามารถเลือกนั่งรถหวานเย็นซึ่งจอดที่บขส. หรือจะเดินออกมานั่งรถมินิบัสไปยังตลาดทองผาภูมิ ซึ่งรถจะวิ่งไปจนถึงสังขละบุรี
08:00น. รถมินิบัสวินบริษัทเอเซียไทรโยค (ท่ากาญ 081-7638448, ท่าทองผาภูมิ 081-8578789) รอบแรกของวันนี้ที่เราได้เริ่มออกเดินทาง ประมาณ 10:30น. ก็เดินทางมาถึงตลาดทองผาภูมิ ถ้ามารถมินิบัสแบบเราจะต้องต่อพี่วินเพื่อเข้ามาที่ท่ารถสองแถวขึ้นอีต่องในตลาดทองผาภูมิ
เนื่องจากเรามาวันธรรมดาและช่วงนี้คนน้อย ก็เลยเดินไปสอบถามที่ท่ารถสองแถวก่อนว่าวันนี้รถจะออกกี่โมง ลุงก็บอกว่า 11:30น. ซึ่งเราก็ทำการบ้านมาว่าเราควรมาถึงตลาดทองผาภูมิไม่ควรเกิน 12:00น. เพื่อที่เราจะได้มาทันรถโดยไม่ต้องเหมารถขึ้นไป เราก็เลยเดินเล่นหาอะไรรองท้องที่ตลาดก่อน เตรียมใจไปเจอหลุมที่หนักกว่าโค้ง 399 โค้งแน่ๆ (081-3613127 เบอร์โทรสอบถามเวลาการเดินรถค่ะ)
ระหว่างทางที่เราไปอีต่อง เฮ้ย..........เขากำลังทำถนนใหม่ และถนนบางช่วงคือใหม่กริบ วิ่งสบายมาก เหลือไม่กี่ช่วงเท่านั้นที่ยังเป็นหลุมอยู่ ที่โหดๆเลยเหลืออยู่ช่วงเดียวแล้วแหละ มีหยุดรอรถปูนเทปูนบ้าง แต่เราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ลุงทูลก็ชวนเราคุยตลอดทาง ลุงเปิดร้านขายของในตลาดอีต่องแล้วก็มีที่พักกับร้านสเต็กของลูกชายที่หมู่บ้านด้วย อยู่ตรงทางเดินขึ้นเขาเนินช้างศึก
ลุงทูลจอดรถแวะพักที่จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 15 หรือจุดชมวิวทางขึ้นเหมืองปิล๊อก ซึ่งตรงนี้จะมีห้องน้ำให้บริการและวิวสวยๆแบบนี้ค่ะ
เราเดินทางมาจนถึงหมู่บ้านอีต่องประมาณ 14:30น. ซึ่งเราจองที่พักมา 2 คืนที่บ้านเคียงหมอก มีให้เลือกแบบเต็นท์กับห้องพัก อยู่ตรงบ่อน้ำกลางหมู่บ้าน ที่นี่ไม่มีอาหารเช้าแต่มีน้ำกับขนมปังส่วนกลางให้ทาน เป็นที่พักที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ถึงแล้วก็เช็คอินเข้าที่พักไปเก็บกระเป๋าล้างหน้าสักหน่อย
ก็ขอเอาฤกษ์เอาชัยขึ้นไปไหว้พระก่อนที่วัดเหมืองปิล๊อก ไปไหนมาไหนขออุ่นใจไหว้พระก่อนดีกว่า
ด้านล่างหน้าวัดจะเป็นลานจอดเฮลิคอปเตอร์ซึ่งมองลงไปก็จะเจอโรงเรียน ที่น้องๆกำลังเลิกเรียนพอดี บรรยากาศโดยรอบเป็นวิวทิวเขา เห็นเนินช้างศึกที่จะไปเย็นนี้อยู่ลิบๆ มีร้านชายสี่เปิดอยู่แถวนี้ด้วยน้า
พอถึงเวลาประมาณ 16:30น. เราจะได้ยินเสียงพี่ๆลุงๆเรียกไปดูพระอาทิตย์ตกที่เนินช้างศึกซึ่งรถจะจอดกันตรงแถวบริเวณสะพานเหมืองแร่ ซึ่งเรานัดกับลุงทูลไว้แล้วเรียบร้อยที่ตลาด (ช่วงนี้ช่องมิตรภาพ-เนินเสาธง ไม่เปิดให้ขึ้นไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด) ทางที่ขึ้นไปทุลักทุเลพอสมควร มีหลุมใหญ่ๆโหดสุดอยู่หลุมนึง ที่เหลือก็หัวสั่นคลอนแหละ รถเล็กไม่ควรขึ้น วิวระหว่างทางก็สวยจนเราลืมสนใจเส้นทางเลย ใช้เวลาไม่นานก็ถึงเนินช้างศึก มีน้องๆเจ้าถิ่นออกมาต้อนรับด้วยค่ะ
เรานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกกับวิวทิวเขา ดูเมฆที่ลอยไปลอยมาค่อยๆเคลื่อนผ่านเราไป มันทำให้เรารู้สึกอยากนั่งเอื่อยๆอยู่ตรงนี้ ไม่อยากไปไหนเลย ยิ่งใกล้มืดก็ยิ่งหนาว หมอกก็เริ่มลง เราพยายามตักตวงทุกสิ่งจากธรรมชาติตอนนั้น เก็บบรรยากาศแบบนี้ไว้ในส่วนหนึ่งของความทรงจำ ปล่อยให้ธรรมชาติได้โอบกอดเราไว้แบบนี้
ในวันพรุ่งนี้พระอาทิตย์ก็จะทอแสงสว่างไสวเหมือนเดิม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้