The Undoing สุดยอดมินิซีรีส์พิศวาสฆาตกรรมแห่งทศวรรษใหม่ (spoil)

วันดีคืนดี มีโอกาสได้ชมมินิซีรีส์ The Undoing ของ HBO ด้วยว่าได้ยินเสียงลือเสียงเล่าว่าดี
บวกกับว่าเป็นคนชอบแนวสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญ ก็เลยเปิดใจลองดู
ทั้ง ๆ ที่ปรกติไม่ใช่คนชอบดูซีรีส์เท่าไหร่ เพราะมีหลายซีซั่น และต้องคอยตาม
แต่เรื่องนี้ความยาวแค่ 6 ตอน ตอนละชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น

The Undoing ทำให้เรานึกถึง Gone Girl เวอร์ชั่นซีรีส์ที่ถูกขยี้ซ้ำไปมาหลายร้อยรอบ
โดยที่ต้นเหตุของคดีฆาตกรรมเกิดจาก Love affair เหมือนกันทั้งคู่
จะต่างแค่ว่า Gone Girl นั้น นางเอกเป็นคนจัดฉากทั้งหมดเพื่อแก้แค้น
ส่วน The Undoing เกิดจากตัวของพระเอกเองที่กระทำกับชู้รัก

จุดแข็งที่สุดของเรื่องคือบทของซีรีส์ที่รู้เลยว่าทำการบ้านมาดีมาก
สามารถขมวดวงการแพทย์และวงการกฎหมายให้เป็นเรื่องเดียวกัน และเกี่ยวพันโยงใยกันไปหมด 
ทั้ง ๆ ที่พยายามโน้มน้าวด้วยซ้ำว่าบางทีการเห็นอกเห็นใจของอาชีพที่ช่วยชีวิตคน
ไม่น่าจะทะยานจนเดินทางไปสู่จุดจบที่ทำให้เขาคนนั้นเป็นฆาตกรได้
หากแต่เพราะปูมหลังของตัวละครหลักมีปมที่ทำให้การเป็นมนุษย์นั้นบิดเบี้ยว
แถมยังไม่เคยคิดที่จะเหลียวแลหรือกลับไปหาครอบครัวของตัวเอง
นั่นจึงไม่แปลกอะไรนักที่ครอบครัวเลือกจะตัดหางปล่อยวัด ไม่เหลียวแลกลับบ้าง
แถมยังโดนคนเป็นคู่ชีวิตสาวไส้ให้กากินอีกต่างหาก 
ที่ติดใจเป็นพิเศษคงเป็นบทสนทนาระหว่างพ่อกับนางเอก
และบทสนทนาระหว่างทนายกับนางเอก
ไม่ว่าจะฉากที่ทนายความคนแรกที่ว่าความให้พระเอกบอกกับนางเอกว่า
"ถ้าบริสุทธิ์ก็ดี แต่ไม่พูดอะไรออกมาเลยคือดีกว่า"
หรือทนายความหลักที่บอกพระเอกว่า "ไม่ต้องเป็นคนดี แต่อย่าเป็นฆาตกรก็พอ"
หรือแม้กระทั่งการยื่นไพ่ใบสุดท้ายของพ่อที่ไม่อยากให้ลูกสาวต้องลำบากใจในภายภาคหน้า
เพราะภาพของลูกเขยตัวเอง ดันสะท้อนความเลวทรามที่ตัวเองเคยก่อกับภรรยา ผู้เป็นแม่ของลูกสาว
หากแต่สุดท้าย ภรรยากลับรักครอบครัว รักสามี และเลือกที่จะไม่ไปจากเขา จนเขาได้ใจ
แต่กับลูกสาว คนเป็นพ่อกลับอยากให้ลูกสาวตาสว่าง และเลือกที่จะไม่เห็นอกเห็นใจจนกลับไปตายรังอีก
นอกจากนั้นยังมีการเสียดสีสังคมอเมริกันและมหานครนิวยอร์กที่วุ่นวาย
และไม่ได้สวยหรูเหมือนเมืองในฝันอย่างที่เคยคาดคิดไว้

วิธีการเล่าเรื่อง ส่วนตัวชอบการที่ค่อย ๆ เปิดความจริงในทีละด้านออกมาทีละนิด
คือละเมียดละไม ไม่รีบร้อน และไม่ได้ใส่ผู้ต้องสงสัยเยอะขนาดนั้น
แต่ทิ้งหลักฐานบางอย่างไว้เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ที่ผู้ชมมีหน้าที่ปะติดปะต่อเอง
เพราะตัวฆาตกร มีหลักฐานและแรงจูงใจมากพอที่จะกระทำโดยไม่ต้องไปมองหาคนอื่นแทน
และแม้ว่าจะไม่ได้หักมุมอะไรมากมาย เพราะเราเองก็พอจะเดาได้ว่าใครเป็นฆาตกร
และยังเดาถึงทางออกที่มีความเป็นไปได้มากถึง 5 ทางตั้งแต่ตอนแรกที่ดู
แต่ก็ต้องยอมรับว่าสุดท้ายที่เดาไปก็ไม่ใช่จะถูกเสียทีเดียว
จึงไม่อาจเรียกว่าหักมุม แต่เรียกว่าคาดไม่ถึงมากกว่า
ซึ่งแบบนี้กลายเป็นสนุกและชวนให้น่าติดตามตลอดเวลา

นอกจากนั้นคือต้องขอชมว่าการจัด timing ของเรื่องดีมาก เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็น 6 ชั่วโมง
ไม่ใช่หนังยาวที่จะฉายได้ในโรง เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะตัดบางตอนไป
ซึ่งแบบนั้นย่อมไม่ดีแน่ ในเมื่อบทถูกเคี่ยวมาขนาดนี้ และทุกบทมีนัยยะสำคัญหมด
จะตัดตอนใดตอนนึงออกไปไม่ได้เลยจริง ๆ และถ้ายืดให้ยาวกว่านี้ก็ไม่พอดีอีก
มุมกล้องของเรื่องมีการทำให้เบลอ ๆ ข้าง ๆ และถ่าย close-up อยู่บ่อย ๆ
ไปที่ดวงตา ริมฝีปาก ใบหน้า ที่ส่อถึงปฏิกิริยาที่รู้สึกอกสั่นขวัญหายอยู่ตลอด 
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังของนักแสดงที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาไปได้ 
โดยเฉพาะ Nicole Kidman และ Hugh Grant ที่บทส่งสุด ๆ 
แถมยังเล่นสมบทบาทที่ได้รับ ทั้งการเป็นสามีภรรยาและพ่อแม่
Nicole Kidman เป็นภรรยาที่น่าสงสารเพราะถูกสวมเขา แต่ยืนหยัดและต่อสู้เพื่อลูก 
Hugh Grant เป็นสามีที่อีโก้ หลงตัวเอง ไม่น่าไว้ใจ และเอาให้อยู่หมัดยาก

สุดท้ายนี้ ถ้าใครมีเวลาว่าง 6 ชั่วโมงอยากชมผลงานคุณภาพ
ขอแนะนำ The Undoing สุดยอดมินิซีรีส์พิศวาสฆาตกรรมแห่งทศวรรษใหม่
ที่ขึ้นหิ้งและอันดับ 1 ในดวงใจของเราขณะนี้จนไม่อาจละสายตาได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่