เรื่องมีอยู่ว่าผมคบกับแฟยคนนี้ได้สามปีแล้วครับ
เราคุยกันและเราแลกเปลี่ยนคำถามกันเหมือนคู่รักคนอื่นๆทั่วไปจนมาสะดุดอยู่คำถามนึงว่า
ญ=เราเป็นโรคซึมเศร้านะ
ผม=หรอ!
ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไรมากมายในตอนนั้นเพราะผมคิดว่าผมรักเขาสุดหัวใจผมสามารถช่วยเขสได้ผมสามารถรักษาเขาได้ด้วยทั้งคำพูดการดูแลการเอาใจใส่ในหลายๆมุมหลายๆจุดจนกระทั้งผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวบ้านแฟน(ไม่ขอเอ่ยนะครับว่าที่ไหน)ผมเจอแม่เขาครั้งแรกก็ปกติดีทำความรู้จักกันไปๆมาๆจนกระทั้งเกิดโรคละบาด โควิด19 เราทั้งคู่ตกงานเลยตัดสินใจกลับไปที่บ้านเกิดของเขาและได้มาทำการซึมซับอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนนั้นก็คือ เรื่องราวของโรคซึมเศร้า
**ผมต้องอธิบายก่อนว่าโรคนี้มันไม่ใช่โรคที่ทุกคนนั้นเข้าใจ**
*โรคนี้คนที่เป็นนั้นจะไม่ทำร้ายคนอื่นแน่นอน97%ถ้าหาดคุณไม่ได้ท้าทายหรือพูดอะไรออกไปในทางที่มันก่อให้เกิดความรุนแรงกับตัวคุณเอง
*โรคนี้คนส่วนมากจะสมาธิสั้น
*โรคนี้ต้องการให้คนสนใจเป็นพิเศษ(แต่ไม่ใช่การเรียกร้องความสนใจแบบนั้นนะครับ)
*โรคนี้มักจะมีอาการที่เรียกได้ว่ามักง่าย(ผมไม่ได้ว่าหรือกล่าวหานะครับผมเจอมากับตัวเอง)
*โรคนี้มีบางอารมณ์ที่พูดคนเดียวหรือเกือบเข้าขั้นประสาทหลอน
*โรคนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่คนปกติเขาไม่ทำเขาไม่พูด
ซึ่งผมซึมซับมาหมดทุกอย่างของโรคนี้เท่าที่ผมได้สัมผัสมาและทุกอย่างที่ผมเห็นไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ผมจะเตือนแฟนผมทุกครั้งไม่ว่าจะวางของไม่เป็นที่หรือพูดอะไรหรือๆๆๆเป็นอะไร
ถ้าให้ถามว่าผมรักเขาไหม?
ผมรักเขาครับผมรักมากและสงสารด้วย
ผมซึมซับมาประมาณ3ปีครับ 3ปี ตอนนี้เท่าที่ผมสังเกตุตัวเองก็จะเป็นการ หลุดหัวเราะออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจครับ ผมกลัวผมเป็นโรคนี้ ผมกลัวผมจะไม่สามารถอยู่เพื่อรักษาคนที่ผมรักได้ ผมควรทำยังไงครับ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ รายได้ผมติดลบ
ผมค่อนข้างเคลียด ผมมืด 8 ด้านมาก
ผมไม่มีทางออก แต่ผมมีกำลังใจกำลังใจที่กินไม่ได้
ผมอยากหาทางออกจากการเป็นหนี้
ผมอยากลงทุนอีกครั้งแต่ไม่มีเงินทุน
ผมขายของที่ตลาดลองขายมา3เดือนเเล้วครับติดลบตลอดจนตอนนี้ไม่มีเงินจะไปซื้อของมาขายเเล้วครับตอนนี้
ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับชีวิตผมไม่ได้แย่ขนาดนั้นเพระมีคนที่ทุกข์ว่าผมมากมายผมเเค่มาแชร์ประสบการณ์เฉยๆ
ขอโทษที่ตัดจบแบบ งงๆนะครับเพราะรู้สึกว่าสมองมันอื้อไปหมด
ขอบคุณที่ออกความเห็นช่วยล่วงหน้านะครับ
ขอบคุณครับ
ปล.โรคซึมเศร้านั้นน่ากลัวนะครับ
ทำยังไงดีครับผมมีแฟนเป็นโรคซึมเศร้าเเละอยู่กับครอบครัวที่เป็นโรคซึมเศร้าของเขา
เราคุยกันและเราแลกเปลี่ยนคำถามกันเหมือนคู่รักคนอื่นๆทั่วไปจนมาสะดุดอยู่คำถามนึงว่า
ญ=เราเป็นโรคซึมเศร้านะ
ผม=หรอ!
ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไรมากมายในตอนนั้นเพราะผมคิดว่าผมรักเขาสุดหัวใจผมสามารถช่วยเขสได้ผมสามารถรักษาเขาได้ด้วยทั้งคำพูดการดูแลการเอาใจใส่ในหลายๆมุมหลายๆจุดจนกระทั้งผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวบ้านแฟน(ไม่ขอเอ่ยนะครับว่าที่ไหน)ผมเจอแม่เขาครั้งแรกก็ปกติดีทำความรู้จักกันไปๆมาๆจนกระทั้งเกิดโรคละบาด โควิด19 เราทั้งคู่ตกงานเลยตัดสินใจกลับไปที่บ้านเกิดของเขาและได้มาทำการซึมซับอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนนั้นก็คือ เรื่องราวของโรคซึมเศร้า
**ผมต้องอธิบายก่อนว่าโรคนี้มันไม่ใช่โรคที่ทุกคนนั้นเข้าใจ**
*โรคนี้คนที่เป็นนั้นจะไม่ทำร้ายคนอื่นแน่นอน97%ถ้าหาดคุณไม่ได้ท้าทายหรือพูดอะไรออกไปในทางที่มันก่อให้เกิดความรุนแรงกับตัวคุณเอง
*โรคนี้คนส่วนมากจะสมาธิสั้น
*โรคนี้ต้องการให้คนสนใจเป็นพิเศษ(แต่ไม่ใช่การเรียกร้องความสนใจแบบนั้นนะครับ)
*โรคนี้มักจะมีอาการที่เรียกได้ว่ามักง่าย(ผมไม่ได้ว่าหรือกล่าวหานะครับผมเจอมากับตัวเอง)
*โรคนี้มีบางอารมณ์ที่พูดคนเดียวหรือเกือบเข้าขั้นประสาทหลอน
*โรคนี้มีอะไรหลายๆอย่างที่คนปกติเขาไม่ทำเขาไม่พูด
ซึ่งผมซึมซับมาหมดทุกอย่างของโรคนี้เท่าที่ผมได้สัมผัสมาและทุกอย่างที่ผมเห็นไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ผมจะเตือนแฟนผมทุกครั้งไม่ว่าจะวางของไม่เป็นที่หรือพูดอะไรหรือๆๆๆเป็นอะไร
ถ้าให้ถามว่าผมรักเขาไหม?
ผมรักเขาครับผมรักมากและสงสารด้วย
ผมซึมซับมาประมาณ3ปีครับ 3ปี ตอนนี้เท่าที่ผมสังเกตุตัวเองก็จะเป็นการ หลุดหัวเราะออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจครับ ผมกลัวผมเป็นโรคนี้ ผมกลัวผมจะไม่สามารถอยู่เพื่อรักษาคนที่ผมรักได้ ผมควรทำยังไงครับ ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ รายได้ผมติดลบ
ผมค่อนข้างเคลียด ผมมืด 8 ด้านมาก
ผมไม่มีทางออก แต่ผมมีกำลังใจกำลังใจที่กินไม่ได้
ผมอยากหาทางออกจากการเป็นหนี้
ผมอยากลงทุนอีกครั้งแต่ไม่มีเงินทุน
ผมขายของที่ตลาดลองขายมา3เดือนเเล้วครับติดลบตลอดจนตอนนี้ไม่มีเงินจะไปซื้อของมาขายเเล้วครับตอนนี้
ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะครับชีวิตผมไม่ได้แย่ขนาดนั้นเพระมีคนที่ทุกข์ว่าผมมากมายผมเเค่มาแชร์ประสบการณ์เฉยๆ
ขอโทษที่ตัดจบแบบ งงๆนะครับเพราะรู้สึกว่าสมองมันอื้อไปหมด
ขอบคุณที่ออกความเห็นช่วยล่วงหน้านะครับ
ขอบคุณครับ
ปล.โรคซึมเศร้านั้นน่ากลัวนะครับ