เพจดังให้ความรู้! อยู่บ้านพักฟรี ถือเป็นเงินได้เสียภาษี กรณีนายจ้างไม่คิดค่าเช่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2469114
เพจดังให้ความรู้! อยู่บ้านพักฟรี ถือเป็นเงินได้เสียภาษี กรณีนายจ้างไม่คิดค่าเช่า
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม กรณี พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ผิดกรณีมีผู้ร้อง พล.อ.
ประยุทธ์ อยู่อาศัยบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 ขัดรัฐธรรมนูญไปก่อนหน้านี้ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง
ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ
TaxBugnoms เพจให้ความรู้เรื่องภาษีแบบเข้าใจง่าย ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อเรื่อง
“อยู่บ้านพักฟรี ถือเป็นเงินได้เสียภาษี กรณีนายจ้างไม่คิดค่าเช่า”
ข้อความระบุว่า
อยู่บ้านพักนายจ้างฟรี ไม่มีค่าเช่า
ต้องเอามาเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีด้วยนะ
—
ในทางภาษี “เงินได้” มีความหมายกว้าง
ไม่ได้หมายถึง “รายได้” เพียงอย่างเดียว
แต่ยังหมายถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้วย
เช่น การได้อยู่บ้านนายจ้างฟรี
โดยตามคำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป. 23/2533 บอกเอาไว้ว่า
1
กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า
ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มเป็นเงินได้ด้วยนะ
คิดในอัตรา 20% ของเงินเดือนหรือค่าจ้างตลอดปี
แต่ไม่ต้องรวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปีเข้าไปด้วย
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
โดยไม่เสียค่าเช่าอะไร ให้คิด 20% จากเงินเดือนทุกคน
2
กรณีมีการโต้แย้งในเรื่องผลตอบแทนค่าเช่า
ให้เจ้าพนักงานประเมิน (สรรพากร)
ทำการประเมินค่าเช่าของบ้านนั้น ๆ
ว่าสมควรให้เช่าได้ตามปกติปีละเท่าไร
และให้ใช้ยอดนี้ในการประเมิน
เพื่อใช้เป็นเงินได้ของลูกจ้างแทน
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
สำหรับกรณีนี้ ให้หารเฉลี่ยตามจำนวนของลูกจ้าง
3
กรณีที่ลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า
แต่บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่นายจ้างได้ไปเช่ามาอีกต่อ
อันนี้ให้คำนวณตามเงินที่นายจ้างจ่ายไปจริงได้เลย
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
สำหรับกรณีนี้ ให้หารเฉลี่ยตามจำนวนของลูกจ้าง
4
กรณีนายจ้างได้เช่าบ้านให้เป็นที่พักอาศัย
ของพนักงานซึ่งดำรงตำแหน่งระดับ “บริหาร”
โดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าเช่าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าคนสวน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในบ้าน
แม้ต่อมาพนักงานผู้นั้นหรือนายจ้างจะได้ใช้บ้าน
เป็นสถานที่ประชุมและปรึกษาหารือกิจการต่าง ๆ
ก็ยังถือว่าค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่นายจ้างจ่ายไป
เป็นประโยชน์ที่พนักงานผู้นั้นได้รับทั้งจำนวนอยู่ดี
5
สรุปคือ
นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านได้
แต่ต้องเป็นรายได้ลูกจ้างด้วยนะ
แต่ต้องระวังตรงที่
ถ้าลูกจ้างไม่ได้ทำงานในหน้าที่แล้ว
แต่นายจ้างยังให้อยู่บ้านฟรี ๆ อยู่
ถ้ามีรายจ่ายที่นายจ้างออกให้
เอามาเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจไม่ได้นะจ๊ะ
ป.ล.
คำแนะนำสำหรับลูกจ้าง
การเช่าบ้านเองแล้วเบิกนายจ้าง
น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากรณีที่ว่ามานี้
แต่สำคัญคือ ทำหน้าที่ลูกจ้างให้ดี
อย่าหวังสวัสดิการระยะสั้นจากนายจ้าง
แต่วัดกันที่ผลงานยาว ๆ ไป
ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กันครับผม
ติดตามเรื่องภาษี
กดที่นี่เลย
TaxBugnoms
#TAXBugnoms
ทั้งนี้เพจ
TaxBugnoms ได้แนบคำสั่งกรมสรรพากร เรื่อง การกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเงินได้ พึงประเมิน
ขอบคุณเฟซบุ๊กแฟนเพจ
TaxBugnoms
เชียงรายยันไม่ประกาศล็อกดาวน์จังหวัด “โควิด” ทำยอดจองห้องพักวูบ 40%
https://www.prachachat.net/local-economy/news-566977
สธ.เชียงรายยันไม่ประกาศล็อกดาวน์จังหวัด “โควิด” ทำยอดจองห้องพักวูบ 40% เผยยันเที่ยวสิงห์ปาร์คได้ปลอดภัย
วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์
ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย นาย
ณรงค์ ลือชา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แถลงในฐานะคณะทำงานสกัดกั้นโรคไว้รัสโควิด-19 จ.เชียงราย ว่าปัจจุบันได้มีข่าวลือเกิดขึ้นโดยเฉพาะในสื่อสาธารณะมากมายว่า จ.เชียงราย จะมีการปิดจังหวัดหรือล็อกดาวน์ ปิดถนน ร้านค้า ตรวจคนเข้าออก ฯลฯ หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 รายนั้น
ตนยืนยันว่าทั้ง 3 ราย ได้รับการรักษาอยู่ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทุกคนได้ตรวจหาเชื้อแล้วปรากฎว่าไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด แสดงว่าจำกัดการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศเมียนมาไม่ได้แพร่ออกไปสู่คนในจังหวัดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อเป็นหญิงสาวอายุ 28 ปี ชาว จ.พะเยา ที่เดินทางจากชายแดน อ.แม่สาย แล้วไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิล 2020 ในสิงห์ปาร์ค อ.เมืองเชียงราย ในคืนวันที่ 29 พ.ย.นั้น ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย เพราะเป็นที่โล่งและนั่งอยู่ที่โต๊ะคู่กับแฟนแค่ 2 คนโดยไม่ได้ออกไปหน้าลานเวทีและยังสวมใส่หน้ากากยกเว้นช่วงดึกเท่านั้นด้วย
นายแพทย์
ทศเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันทางสิงห์ปาร์คได้ให้พนักงานทั้งหมดทำงานอยู่ในบ้าน หรือ Work from home และโรงเรียนหลายแห่งที่มีนักเรียนไปเที่ยวงานก็มีการปิดทำการเรียนหรือให้นักเรียนคนนั้นหยุดไปเรียนชั่วคราว ซึ่งตนขอแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องว่ากรณีนี้ผู้ที่อยู่ภายในงาน แม้จะมีหลายพันคนแต่ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ
โดยจากการสอบประวัติผู้ติดเชื้อเข้าไปนั่งอยู่ในโซนซี 26 และนั่งอยู่โดยไมได้ไปหน้าเวทีและสวมหน้ากากตลอดยกเว้นช่วงดึกแล้ว ก่อนจะออกมาแล้วพักที่โรงแรมเวลา 05.00 น. และตื่นเวลา 12.00 น.แล้วเดินทางไป จ.เชียงใหม่ โดยแวะตามรายทาง เช่น ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจตามรายทางดังกล่าวเพื่อแยกแยะกลุ่มเสี่ยงสูงและต่ำต่าง ๆ แล้ว แต่จากการซักประวัติถือว่ามีความเสียงน้อยยกเว้นแฟนหนุ่มที่ไปด้วยเท่านั้น
ดังนั้นวิธีปฏิบัติกรณีคนไปเที่ยวงานดังกล่าวมาคือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อยและดูอาการตัวเองไปอีก 14 วัน หรือถึงวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ก็ใช้ได้แล้วไม่จำเป็นต้องหยุดงานหรือปิดการเรียนการสอน
“ตามปกติช่วงปีปลายจะมีงานเทศกาลต่าง ๆ ใน จ.เชียงราย มากมาย เช่น งานดอกไม้ งานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ฯลฯ ซึ่งยังสามารถจัดได้ตามปกติ เพราะทางจังหวัดจะมีศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ทุกอำเภอ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามาตรฐานควบคุมโรคหรือนิวนอร์มอลได้อย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวเชียงรายได้อย่างปลอดภัยต่อไป” นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าว
ด้าน น.ส.
กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย กล่าวว่าช่วงก่อนที่จะมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย นั้นเป็นฤดูหนาวละมีงานมหกรรมต่าง ๆ รองรับการท่องเที่ยว รวมทั้งมีวันหยุดยาวตั้งแต่ 10-13 ธ.ค. จึงทำให้มียอดจองห้องพักเข้าไปอย่างคับคั่ง แต่หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อได้ทำให้ยอดจองลดลง 40% ซึ่งก็กระทบไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น รถเช่า รถทัวร์ ท่องเที่ยวและชุมชน ฯลฯ ที่ถูกยกเลิกไปด้วย กระนั้นก็คงต้องดูความเข้าใจข้อมูลของประชาชนและนักท่องเที่ยว
ตามที่นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย ได้แถลงไปแล้วว่ากรณีผู้ติดเชื้อรายหนึ่งไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิลล์ 2020 ที่สิงห์ปาร์ค นั้นไม่ได้ทำให้ต้องกังวลมากอย่างที่คิด และคิดว่าหากนักท่องเที่ยวเข้าใจก็จะทำให้ตัดสินใจไปเยือนเชียงรายได้ตามปกติ เพียงแต่ปฏิบัตินิวนอร์มอลให้ถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ในปี 2562 ที่ผ่านมา จ.เชียงราย มีนักท่องเที่ยวไปเยือนประมาณ 3.6 ล้านบาท สร้างรายได้เข้าจังหวัดนับหมื่นล้านบาท แต่สำหรับปีนี้ลดลงตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้วฝ
JJNY : 4in1 เพจดังให้ความรู้!อยู่บ้านพักฟรี/เชียงรายยอดจองห้องพักวูบ40%/ชาวบ้านรับแม่น้ำโขงเจ็บปวด/อีก4ปีท่องเที่ยวฟื้น
https://www.matichon.co.th/politics/news_2469114
เพจดังให้ความรู้! อยู่บ้านพักฟรี ถือเป็นเงินได้เสียภาษี กรณีนายจ้างไม่คิดค่าเช่า
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ผิดกรณีมีผู้ร้อง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่อาศัยบ้านพักในกรมทหารราบที่ 1 ขัดรัฐธรรมนูญไปก่อนหน้านี้ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง
ล่าสุดเฟซบุ๊กแฟนเพจ TaxBugnoms เพจให้ความรู้เรื่องภาษีแบบเข้าใจง่าย ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อเรื่อง
“อยู่บ้านพักฟรี ถือเป็นเงินได้เสียภาษี กรณีนายจ้างไม่คิดค่าเช่า”
ข้อความระบุว่า
อยู่บ้านพักนายจ้างฟรี ไม่มีค่าเช่า
ต้องเอามาเป็นเงินได้เพื่อเสียภาษีด้วยนะ
—
ในทางภาษี “เงินได้” มีความหมายกว้าง
ไม่ได้หมายถึง “รายได้” เพียงอย่างเดียว
แต่ยังหมายถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ด้วย
เช่น การได้อยู่บ้านนายจ้างฟรี
โดยตามคำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ป. 23/2533 บอกเอาไว้ว่า
1
กรณีลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า
ให้คำนวณประโยชน์เพิ่มเป็นเงินได้ด้วยนะ
คิดในอัตรา 20% ของเงินเดือนหรือค่าจ้างตลอดปี
แต่ไม่ต้องรวมเงินโบนัสที่จ่ายเป็นรายปีเข้าไปด้วย
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
โดยไม่เสียค่าเช่าอะไร ให้คิด 20% จากเงินเดือนทุกคน
2
กรณีมีการโต้แย้งในเรื่องผลตอบแทนค่าเช่า
ให้เจ้าพนักงานประเมิน (สรรพากร)
ทำการประเมินค่าเช่าของบ้านนั้น ๆ
ว่าสมควรให้เช่าได้ตามปกติปีละเท่าไร
และให้ใช้ยอดนี้ในการประเมิน
เพื่อใช้เป็นเงินได้ของลูกจ้างแทน
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
สำหรับกรณีนี้ ให้หารเฉลี่ยตามจำนวนของลูกจ้าง
3
กรณีที่ลูกจ้างได้อยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า
แต่บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่นายจ้างได้ไปเช่ามาอีกต่อ
อันนี้ให้คำนวณตามเงินที่นายจ้างจ่ายไปจริงได้เลย
กรณีลูกจ้างหลายคนได้บ้านของนายจ้างหลังเดียวอยู่รวมกัน
สำหรับกรณีนี้ ให้หารเฉลี่ยตามจำนวนของลูกจ้าง
4
กรณีนายจ้างได้เช่าบ้านให้เป็นที่พักอาศัย
ของพนักงานซึ่งดำรงตำแหน่งระดับ “บริหาร”
โดยนายจ้างเป็นผู้ออกค่าเช่าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าคนสวน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในบ้าน
แม้ต่อมาพนักงานผู้นั้นหรือนายจ้างจะได้ใช้บ้าน
เป็นสถานที่ประชุมและปรึกษาหารือกิจการต่าง ๆ
ก็ยังถือว่าค่าเช่าบ้านและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่นายจ้างจ่ายไป
เป็นประโยชน์ที่พนักงานผู้นั้นได้รับทั้งจำนวนอยู่ดี
5
สรุปคือ
นายจ้างให้ลูกจ้างอยู่บ้านได้
แต่ต้องเป็นรายได้ลูกจ้างด้วยนะ
แต่ต้องระวังตรงที่
ถ้าลูกจ้างไม่ได้ทำงานในหน้าที่แล้ว
แต่นายจ้างยังให้อยู่บ้านฟรี ๆ อยู่
ถ้ามีรายจ่ายที่นายจ้างออกให้
เอามาเป็นค่าใช้จ่ายของธุรกิจไม่ได้นะจ๊ะ
ป.ล.
คำแนะนำสำหรับลูกจ้าง
การเช่าบ้านเองแล้วเบิกนายจ้าง
น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากรณีที่ว่ามานี้
แต่สำคัญคือ ทำหน้าที่ลูกจ้างให้ดี
อย่าหวังสวัสดิการระยะสั้นจากนายจ้าง
แต่วัดกันที่ผลงานยาว ๆ ไป
ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กันครับผม
ติดตามเรื่องภาษี
กดที่นี่เลย
TaxBugnoms
#TAXBugnoms
ทั้งนี้เพจ TaxBugnoms ได้แนบคำสั่งกรมสรรพากร เรื่อง การกำหนดมูลค่าของการได้อยู่บ้านที่นายจ้างให้อยู่โดยไม่เสียค่าเช่าเป็นเงินได้ พึงประเมิน
ขอบคุณเฟซบุ๊กแฟนเพจ TaxBugnoms
เชียงรายยันไม่ประกาศล็อกดาวน์จังหวัด “โควิด” ทำยอดจองห้องพักวูบ 40%
https://www.prachachat.net/local-economy/news-566977
สธ.เชียงรายยันไม่ประกาศล็อกดาวน์จังหวัด “โควิด” ทำยอดจองห้องพักวูบ 40% เผยยันเที่ยวสิงห์ปาร์คได้ปลอดภัย
วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เขียงราย นายณรงค์ ลือชา หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงราย แถลงในฐานะคณะทำงานสกัดกั้นโรคไว้รัสโควิด-19 จ.เชียงราย ว่าปัจจุบันได้มีข่าวลือเกิดขึ้นโดยเฉพาะในสื่อสาธารณะมากมายว่า จ.เชียงราย จะมีการปิดจังหวัดหรือล็อกดาวน์ ปิดถนน ร้านค้า ตรวจคนเข้าออก ฯลฯ หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 3 รายนั้น
ตนยืนยันว่าทั้ง 3 ราย ได้รับการรักษาอยู่ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ทุกคนได้ตรวจหาเชื้อแล้วปรากฎว่าไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด แสดงว่าจำกัดการติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศเมียนมาไม่ได้แพร่ออกไปสู่คนในจังหวัดแต่อย่างใด
ส่วนกรณีผู้ติดเชื้อเป็นหญิงสาวอายุ 28 ปี ชาว จ.พะเยา ที่เดินทางจากชายแดน อ.แม่สาย แล้วไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิล 2020 ในสิงห์ปาร์ค อ.เมืองเชียงราย ในคืนวันที่ 29 พ.ย.นั้น ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย เพราะเป็นที่โล่งและนั่งอยู่ที่โต๊ะคู่กับแฟนแค่ 2 คนโดยไม่ได้ออกไปหน้าลานเวทีและยังสวมใส่หน้ากากยกเว้นช่วงดึกเท่านั้นด้วย
นายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า ปัจจุบันทางสิงห์ปาร์คได้ให้พนักงานทั้งหมดทำงานอยู่ในบ้าน หรือ Work from home และโรงเรียนหลายแห่งที่มีนักเรียนไปเที่ยวงานก็มีการปิดทำการเรียนหรือให้นักเรียนคนนั้นหยุดไปเรียนชั่วคราว ซึ่งตนขอแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องว่ากรณีนี้ผู้ที่อยู่ภายในงาน แม้จะมีหลายพันคนแต่ก็เป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ
โดยจากการสอบประวัติผู้ติดเชื้อเข้าไปนั่งอยู่ในโซนซี 26 และนั่งอยู่โดยไมได้ไปหน้าเวทีและสวมหน้ากากตลอดยกเว้นช่วงดึกแล้ว ก่อนจะออกมาแล้วพักที่โรงแรมเวลา 05.00 น. และตื่นเวลา 12.00 น.แล้วเดินทางไป จ.เชียงใหม่ โดยแวะตามรายทาง เช่น ร้านสะดวกซื้อ ปั๊มน้ำมัน ฯลฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจตามรายทางดังกล่าวเพื่อแยกแยะกลุ่มเสี่ยงสูงและต่ำต่าง ๆ แล้ว แต่จากการซักประวัติถือว่ามีความเสียงน้อยยกเว้นแฟนหนุ่มที่ไปด้วยเท่านั้น
ดังนั้นวิธีปฏิบัติกรณีคนไปเที่ยวงานดังกล่าวมาคือสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อยและดูอาการตัวเองไปอีก 14 วัน หรือถึงวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ก็ใช้ได้แล้วไม่จำเป็นต้องหยุดงานหรือปิดการเรียนการสอน
“ตามปกติช่วงปีปลายจะมีงานเทศกาลต่าง ๆ ใน จ.เชียงราย มากมาย เช่น งานดอกไม้ งานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ฯลฯ ซึ่งยังสามารถจัดได้ตามปกติ เพราะทางจังหวัดจะมีศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค (ศปก.) ทุกอำเภอ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามาตรฐานควบคุมโรคหรือนิวนอร์มอลได้อย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวเชียงรายได้อย่างปลอดภัยต่อไป” นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าว
ด้าน น.ส.กรุณา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย กล่าวว่าช่วงก่อนที่จะมีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.เชียงราย นั้นเป็นฤดูหนาวละมีงานมหกรรมต่าง ๆ รองรับการท่องเที่ยว รวมทั้งมีวันหยุดยาวตั้งแต่ 10-13 ธ.ค. จึงทำให้มียอดจองห้องพักเข้าไปอย่างคับคั่ง แต่หลังจากมีการพบผู้ติดเชื้อได้ทำให้ยอดจองลดลง 40% ซึ่งก็กระทบไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น รถเช่า รถทัวร์ ท่องเที่ยวและชุมชน ฯลฯ ที่ถูกยกเลิกไปด้วย กระนั้นก็คงต้องดูความเข้าใจข้อมูลของประชาชนและนักท่องเที่ยว
ตามที่นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย ได้แถลงไปแล้วว่ากรณีผู้ติดเชื้อรายหนึ่งไปเที่ยวงานฟาร์มเฟสติวัล ออนเดอะฮิลล์ 2020 ที่สิงห์ปาร์ค นั้นไม่ได้ทำให้ต้องกังวลมากอย่างที่คิด และคิดว่าหากนักท่องเที่ยวเข้าใจก็จะทำให้ตัดสินใจไปเยือนเชียงรายได้ตามปกติ เพียงแต่ปฏิบัตินิวนอร์มอลให้ถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ในปี 2562 ที่ผ่านมา จ.เชียงราย มีนักท่องเที่ยวไปเยือนประมาณ 3.6 ล้านบาท สร้างรายได้เข้าจังหวัดนับหมื่นล้านบาท แต่สำหรับปีนี้ลดลงตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้วฝ