ประสบการณ์ผ่าฝีคัณฑสูตร (อจ.อรุณ โรจนสกุล)
ผมเป็นฝีครับ คราวแรกนึกว่าเป็นฝีธรรมดา คือมันเป็นที่ก้น ตรงกลางก้นพอดี จินตนาการว่าถ้านั่งเก้าอี้ ส่วนที่ก้นโดนพื้นครั้งแรกแหละคือตรงนั้น ไปผ่าฝีเอาออกตอนเดือนมกรา ทำแผลมาเรื่อยๆ แต่แผลไม่หายสักที หมอที่ทำแผลก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่หาย ลองตรวจเบาหวานดู ก็ไม่มี (เบาหวานทำให้แผลหายช้า) ทำแผลมาสามสี่เดือนไม่หายผมเลยตัดสินใจย้ายไปคลีนิคใหญ่เพื่อผ่า สรุปว่าเป็นฝีคัณฑสูตรตอนเดือนพฤษภาคม 2563 ตอนนั้นเข่าอ่อนเลย เพราะศึกษาดูอาการไม่มีส่วนไหนเลยที่ผมจะเป็นฝีคัณฑสูตร ผมกินน้ำเยอะ ผมถ่ายดี กินผักผลไม้ตลอด
วันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจเข้า กทม (บ้านผมอยู่สุพรรณ) ไปหา รพ ใหญ่ฝั่งธน หมอคนแรกตรวจอยู่สองอาทิตย์ ก็สรุปว่าเป็นฝีคัณฑสูตรอย่างยาก ท่อฝียาว 10 cm ผมร้องไห้เลย ศึกษาข้อมูลมาเจอแต่ฝีที่อยู่ใกล้รูก้น แต่ของผมมันห่างมาก หมอคนแรกส่งต่อให้หมอคนที่สองที่เป็นอาจารย์หมอ นัดเจอกันอาทิตย์ถัดไป
อาทิตย์กับอาจารย์หมอ แกล้วงก้นผม แล้วนัดไปทำ mri
อาทิตย์ที่ 2 อ่านผล mri แล้วนัดผ่า ผมตัดสินใจผ่าจำได้ว่าราวๆ กลางเดือนมิถุนายน อ่านในใบที่อาจารย์เขียน แกระบุว่าเคสผมจะใช้วิธีการผ่าแบบ lift อาจารย์หมอบอกว่าค่าผ่าราวๆ 1 แสนบาท อ่อ ผมจ่ายค่า mri ไป 17 k ตรวจโควิด 6 k exray ปอดอีกนิดหน่อย
ตื่นเต้นมากตอนผ่า ผมรู้ทีหลังตอนรอผ่าว่ามีหมอ 2 คนที่จะผ่าผม เป็นอาจารย์หมอคนหลัก และหมออีกคน
ผมหลับไปหลังจากอาจารย์หมอเดินเข้ามาในห้องไม่นาน ไม่รู้ตัวเลย ตื่นอีกทีในห้องพักฟื้น เจ็บหน่วงๆ ตรงก้น ผ่านไปสัก 1 ชม จนท เข็นผมกลับห้อง ภรรยาที่เป็นเฝ้าผมแจ้งว่าตอนผ่าเสร็จหมอเรียกเธอไปคุย หมอบอกว่าโอกาสที่ผมจะหาย ราวๆ 80% (วิธีการผ่าแบบ lift ค่าเฉลี่ยที่อาจจะหายก็ราวๆ นี้)
ผมต้องนอน รพ 4 วัน เหตุผลที่ต้องนอนนานคือ หมอกลัวว่าแผลที่แกคว้านเนื้อออกตรงก้นย้อยเลือดจะไม่หยุดไหล(ค่าห้อง รพ วันละ 5.5k ) แต่ผมรู้สึกว่าทุกอย่าง ok ผมสามารถเดินได้ตั้งเเต่วันรุ่งขึ้นแล้ว คืนแรกผมเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ วันรุ่งขึ้น อาจารย์หมอไม่มา แต่ให้หมอรองที่เป็นคนผ่ามาล้างแผล วันที่สองแกมาล้างแผลเอง วันที่สามแกไม่มา วันที่สี่แกไม่มา หมอรองบอกว่าให้ผมกลับได้
ค่าใช้จ่ายที่ผมจ่ายไปคือราวๆ 130 k
ผมและภรรยาตกใจมาก หลักๆ มาจากค่าหมอหลัก 50k หมอรอง 15k
มันพอมีความหวังบ้างว่าอาจจะหาย ผมขยันทำแผลทุกวัน แช่ก้น แผลผมมี 2 ที่ เป็นแผลคว้านเพื่อเอาเนื้อที่ถูกฝีกินตรงก้นย้อยออก กับแผลเย็บที่ผมเข้าใจว่าเป็นแผลที่เปิดเข้าไปทำหัตถการ
ผมไปหาหมอตามนัด เนื้อตรงที่ถูกคว้านใหญ่เท่าลูกมะนาวมันค่อยๆ เต็มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมันปิด แต่ไม่นานหรอก ผมปวดและเจ็บบริเวณที่แผลปิด ผมต้องไปหาหมอก่อนกำหนดนัด หมอฉีดยาและผ่าระบายหนองน้ำตรงนั้นออกมา แกบอกว่าเนื้อมันปิดเร็วเกินไป มีช่องโหว่ตรงนั้นเลือดและหนองที่ส่งมาเลยคลั่ง วันนั้นผมจ่ายค่าทุกอย่างไป 6k
อาจารย์หมอนัดไปดูอาการเรื่อยๆ แกบอกว่าอาจจะต้องรอดูอาการอีก 3 เดือน และอาจจะต้องทำ mri ใหม่
ถึงตอนนั้นผมตัดสินใจย้ายหมอทันที ทำไมผมต้องเสียอีก 17k เพื่อทำกระบวนการเดิมอีกรอบคราวนี้ผมย้ายไปรักษากับอาจารย์หมออรุณ โรจนสกุล ที่บางปะกอก 9 (แกนั่งพฤหัสเช้า 8-10 โมง) ส่วน จ-ศ แกอยู่ที่บำรุงราษฎร์ (ต้องบอกก่อนว่าตอนรักษาที่รพแรก ผมหาข้อมูลมาตลอดอ่านในพันทิพย์เป็นร้อยเป็นพันรอบ ในบล้อคอีกหลายรอบ เทียบเคียงดูว่าของผมเป็นแบบไหนผมเจออาจารย์อรุณในนี้ อาจารย์เป็นคนคิด lift และมีงานวิชาการเกี่ยวกับฝีคัณฑสูตรเยอะมาก) ผมตัดสินใจไปหาแก
ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์อรุณฟัง แกบอกว่าถ้าจะให้ดีผมควรจะเอาผล mri มาให้แก อาจจะเป็นอาทิตย์ถัดไป หรือทริคคือ(พยาบาลบอกผม) ว่าผมควรไปเอาผลแล้วไปที่โรงพยาบาลที่แกประจำอยู่ตอนบ่าย ผมทำตามที่พยาบาลบอก ไปเอาผล mri ทั้งรูปและแบบอ่านผล โทรไปนัดคิวกับอาจารย์ในตอนบ่าย ได้คิวแรก
ผมส่งผลให้อาจารย์ แกอ่านเร็วๆ แล้วบอกว่ามันเป็นท่อตรงธรรมดา แล้วบอกให้ผมกลับไปและนัดแนะกับ รพ บางปะกอก 9 เพื่อนัดผ่า อาจารย์บอกผมว่าอาจารย์ไม่คิดค่าแพทย์ให้ผมไปจ่ายค่าใช้จ่ายของทาง รพ เท่านั้น ตอนผมไปจ่ายเงิน จนท การเงินยังแปลกใจต้องโทรเช็คกับอาจารย์อีกรอบ
นัดวันผ่าเรียบร้อย ผมเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งมีที่ต่างกับครั้งเเรกคือ คราวนี้ผมใช้วิธีการบล้อคหลัง ผมสะลึมสะลือ มีสติบ้าง ไม่มีสติบ้าง จนที่สุดก็เสร็จ ผมนอนนิ่งๆ 8 ชม ขาแข็งจากขั้นตอนการบล้อคหลัง อาการชาค่อยๆ หายไป จนที่สุดมันหายชา ผมเดินไปเข้าห้องน้ำได้ รู้สึกเจ็บในก้นกับมีผ้าก๊อซหนาๆ แปะตรงก้นย้อยเอาไว้
วันรุ่งขึ้นอาจารย์มาเยี่ยมผมแต่เช้าราวๆ 6.15 แกบอกว่าของผมอยู่ลึกเข้าไปในรูทวารและท่อยาว ใช้เวลาผ่าผมถึง 1.30 ชม ในขณะที่คนทั่วไป ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ของผมยาก ผมไม่ได้ถามว่าโอกาสหายมากน้อยแค่ไหน ผมเริ่มกลัวแล้วก็ท้อ
หมอให้ผมกลับได้ในวันนั้นเลย และนัดผมมาเจออีกสองอาทิตย์ ค่าใช้จ่ายสำหรับ รพ บางปะกอกอยู่ที่ 76k ผมแปลกใจตรงนี้ ที่ต่างอย่างมากคือค่าผ่าของอาจารย์ อาจารย์อรุณคิดค่าผ่าผม28 k และใช้หมอเพียงเเค่คนเดียว แตกต่างจาก รพ แห่งแรกที่ใช้หมอถึง 2 คนและผมจ่ายรวมถึง 65k
มีท่อ 2 ท่อเป็นรูระบายหนองอยู่ตรงก้นย้อย ไม่ต้องทำแผล อาบน้ำได้(ผิดกับที่แรกที่สั่งห้ามโดนน้ำ ไม่ต้องแช่ก้น พักผ่อนและใช้ชีวิตตามปกติ เจ็บอยู่ราวๆ 10 วันก็หายเจ็บ
ผ่านไป 2 อาทิตย์แรก หมอเอาออกไป 1 ท่อและอีก 2 อาทิตย์ต่อมาก็เอาท่อออกทั้งหมด ผมลุ้นทุกวัน ดูผ้าอนามัยที่ใส่ไว้เพื่อซับหนองทุกวันว่าหนองที่ไหลออกมาน้อยลงไหม อารมณ์แปรปรวนมากช่วงนั้น วันไหนหนองน้อยก็ดีใจ วันไหนหนองมากโคตรหดหู่และกลัวเหลือเกินว่าจะไม่หาย วันที่หมอเอาท่ออันสุดท้ายออก หมอบอกว่าถ้าเจ็บให้มาหาเลย ผมลุ้นทุกวัน จนครบ2 อาทิตย์ ผมไม่เจ็บเลย ผมคลำแผลทุกวัน จนวันเจอหมอ อาจารย์อรุณคลำแผลแล้วบอกผมว่าโอกาสที่ผมจะหายมากกว่า 95% แล้ว ผมดีใจมาก น้ำตาจะไหลอีกรอบ
ณ ถึงตอนนี้ก็ยังเฝ้าดูอาการอยู่ครับ ยังภาวนาว่ามันจะหายไปเลยและขอให้คนที่เป็นฝีทุกคนเข้าสู่กระบวนการรักษาน่ะครับ ถ้ามีเงินเลือกหมอดี รพ ดี ช่วยเราได้เยอะเลยครับ ถ้าไม่มีเงินมากนักผมเเนะนำ รพ จุฬาครับ อาจารย์อรุณเป็นอาจารย์ที่นั่น มีลูกศิษย์แกมากมาย
ผมขอขอบคุณอาจารย์อรุณ โรจนสกุลมากๆ ครับ
1/12/63
ประสบการณ์ผ่าฝีคัณฑสูตร (อจ.อรุณ โรจนสกุล)
ผมเป็นฝีครับ คราวแรกนึกว่าเป็นฝีธรรมดา คือมันเป็นที่ก้น ตรงกลางก้นพอดี จินตนาการว่าถ้านั่งเก้าอี้ ส่วนที่ก้นโดนพื้นครั้งแรกแหละคือตรงนั้น ไปผ่าฝีเอาออกตอนเดือนมกรา ทำแผลมาเรื่อยๆ แต่แผลไม่หายสักที หมอที่ทำแผลก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่หาย ลองตรวจเบาหวานดู ก็ไม่มี (เบาหวานทำให้แผลหายช้า) ทำแผลมาสามสี่เดือนไม่หายผมเลยตัดสินใจย้ายไปคลีนิคใหญ่เพื่อผ่า สรุปว่าเป็นฝีคัณฑสูตรตอนเดือนพฤษภาคม 2563 ตอนนั้นเข่าอ่อนเลย เพราะศึกษาดูอาการไม่มีส่วนไหนเลยที่ผมจะเป็นฝีคัณฑสูตร ผมกินน้ำเยอะ ผมถ่ายดี กินผักผลไม้ตลอด
วันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจเข้า กทม (บ้านผมอยู่สุพรรณ) ไปหา รพ ใหญ่ฝั่งธน หมอคนแรกตรวจอยู่สองอาทิตย์ ก็สรุปว่าเป็นฝีคัณฑสูตรอย่างยาก ท่อฝียาว 10 cm ผมร้องไห้เลย ศึกษาข้อมูลมาเจอแต่ฝีที่อยู่ใกล้รูก้น แต่ของผมมันห่างมาก หมอคนแรกส่งต่อให้หมอคนที่สองที่เป็นอาจารย์หมอ นัดเจอกันอาทิตย์ถัดไป
อาทิตย์กับอาจารย์หมอ แกล้วงก้นผม แล้วนัดไปทำ mri
อาทิตย์ที่ 2 อ่านผล mri แล้วนัดผ่า ผมตัดสินใจผ่าจำได้ว่าราวๆ กลางเดือนมิถุนายน อ่านในใบที่อาจารย์เขียน แกระบุว่าเคสผมจะใช้วิธีการผ่าแบบ lift อาจารย์หมอบอกว่าค่าผ่าราวๆ 1 แสนบาท อ่อ ผมจ่ายค่า mri ไป 17 k ตรวจโควิด 6 k exray ปอดอีกนิดหน่อย
ตื่นเต้นมากตอนผ่า ผมรู้ทีหลังตอนรอผ่าว่ามีหมอ 2 คนที่จะผ่าผม เป็นอาจารย์หมอคนหลัก และหมออีกคน
ผมหลับไปหลังจากอาจารย์หมอเดินเข้ามาในห้องไม่นาน ไม่รู้ตัวเลย ตื่นอีกทีในห้องพักฟื้น เจ็บหน่วงๆ ตรงก้น ผ่านไปสัก 1 ชม จนท เข็นผมกลับห้อง ภรรยาที่เป็นเฝ้าผมแจ้งว่าตอนผ่าเสร็จหมอเรียกเธอไปคุย หมอบอกว่าโอกาสที่ผมจะหาย ราวๆ 80% (วิธีการผ่าแบบ lift ค่าเฉลี่ยที่อาจจะหายก็ราวๆ นี้)
ผมต้องนอน รพ 4 วัน เหตุผลที่ต้องนอนนานคือ หมอกลัวว่าแผลที่แกคว้านเนื้อออกตรงก้นย้อยเลือดจะไม่หยุดไหล(ค่าห้อง รพ วันละ 5.5k ) แต่ผมรู้สึกว่าทุกอย่าง ok ผมสามารถเดินได้ตั้งเเต่วันรุ่งขึ้นแล้ว คืนแรกผมเดินไปเข้าห้องน้ำเองได้ วันรุ่งขึ้น อาจารย์หมอไม่มา แต่ให้หมอรองที่เป็นคนผ่ามาล้างแผล วันที่สองแกมาล้างแผลเอง วันที่สามแกไม่มา วันที่สี่แกไม่มา หมอรองบอกว่าให้ผมกลับได้
ค่าใช้จ่ายที่ผมจ่ายไปคือราวๆ 130 k
ผมและภรรยาตกใจมาก หลักๆ มาจากค่าหมอหลัก 50k หมอรอง 15k
มันพอมีความหวังบ้างว่าอาจจะหาย ผมขยันทำแผลทุกวัน แช่ก้น แผลผมมี 2 ที่ เป็นแผลคว้านเพื่อเอาเนื้อที่ถูกฝีกินตรงก้นย้อยออก กับแผลเย็บที่ผมเข้าใจว่าเป็นแผลที่เปิดเข้าไปทำหัตถการ
ผมไปหาหมอตามนัด เนื้อตรงที่ถูกคว้านใหญ่เท่าลูกมะนาวมันค่อยๆ เต็มขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดมันปิด แต่ไม่นานหรอก ผมปวดและเจ็บบริเวณที่แผลปิด ผมต้องไปหาหมอก่อนกำหนดนัด หมอฉีดยาและผ่าระบายหนองน้ำตรงนั้นออกมา แกบอกว่าเนื้อมันปิดเร็วเกินไป มีช่องโหว่ตรงนั้นเลือดและหนองที่ส่งมาเลยคลั่ง วันนั้นผมจ่ายค่าทุกอย่างไป 6k
อาจารย์หมอนัดไปดูอาการเรื่อยๆ แกบอกว่าอาจจะต้องรอดูอาการอีก 3 เดือน และอาจจะต้องทำ mri ใหม่
ถึงตอนนั้นผมตัดสินใจย้ายหมอทันที ทำไมผมต้องเสียอีก 17k เพื่อทำกระบวนการเดิมอีกรอบคราวนี้ผมย้ายไปรักษากับอาจารย์หมออรุณ โรจนสกุล ที่บางปะกอก 9 (แกนั่งพฤหัสเช้า 8-10 โมง) ส่วน จ-ศ แกอยู่ที่บำรุงราษฎร์ (ต้องบอกก่อนว่าตอนรักษาที่รพแรก ผมหาข้อมูลมาตลอดอ่านในพันทิพย์เป็นร้อยเป็นพันรอบ ในบล้อคอีกหลายรอบ เทียบเคียงดูว่าของผมเป็นแบบไหนผมเจออาจารย์อรุณในนี้ อาจารย์เป็นคนคิด lift และมีงานวิชาการเกี่ยวกับฝีคัณฑสูตรเยอะมาก) ผมตัดสินใจไปหาแก
ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์อรุณฟัง แกบอกว่าถ้าจะให้ดีผมควรจะเอาผล mri มาให้แก อาจจะเป็นอาทิตย์ถัดไป หรือทริคคือ(พยาบาลบอกผม) ว่าผมควรไปเอาผลแล้วไปที่โรงพยาบาลที่แกประจำอยู่ตอนบ่าย ผมทำตามที่พยาบาลบอก ไปเอาผล mri ทั้งรูปและแบบอ่านผล โทรไปนัดคิวกับอาจารย์ในตอนบ่าย ได้คิวแรก
ผมส่งผลให้อาจารย์ แกอ่านเร็วๆ แล้วบอกว่ามันเป็นท่อตรงธรรมดา แล้วบอกให้ผมกลับไปและนัดแนะกับ รพ บางปะกอก 9 เพื่อนัดผ่า อาจารย์บอกผมว่าอาจารย์ไม่คิดค่าแพทย์ให้ผมไปจ่ายค่าใช้จ่ายของทาง รพ เท่านั้น ตอนผมไปจ่ายเงิน จนท การเงินยังแปลกใจต้องโทรเช็คกับอาจารย์อีกรอบ
นัดวันผ่าเรียบร้อย ผมเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้งมีที่ต่างกับครั้งเเรกคือ คราวนี้ผมใช้วิธีการบล้อคหลัง ผมสะลึมสะลือ มีสติบ้าง ไม่มีสติบ้าง จนที่สุดก็เสร็จ ผมนอนนิ่งๆ 8 ชม ขาแข็งจากขั้นตอนการบล้อคหลัง อาการชาค่อยๆ หายไป จนที่สุดมันหายชา ผมเดินไปเข้าห้องน้ำได้ รู้สึกเจ็บในก้นกับมีผ้าก๊อซหนาๆ แปะตรงก้นย้อยเอาไว้
วันรุ่งขึ้นอาจารย์มาเยี่ยมผมแต่เช้าราวๆ 6.15 แกบอกว่าของผมอยู่ลึกเข้าไปในรูทวารและท่อยาว ใช้เวลาผ่าผมถึง 1.30 ชม ในขณะที่คนทั่วไป ใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้นเอง ของผมยาก ผมไม่ได้ถามว่าโอกาสหายมากน้อยแค่ไหน ผมเริ่มกลัวแล้วก็ท้อ
หมอให้ผมกลับได้ในวันนั้นเลย และนัดผมมาเจออีกสองอาทิตย์ ค่าใช้จ่ายสำหรับ รพ บางปะกอกอยู่ที่ 76k ผมแปลกใจตรงนี้ ที่ต่างอย่างมากคือค่าผ่าของอาจารย์ อาจารย์อรุณคิดค่าผ่าผม28 k และใช้หมอเพียงเเค่คนเดียว แตกต่างจาก รพ แห่งแรกที่ใช้หมอถึง 2 คนและผมจ่ายรวมถึง 65k
มีท่อ 2 ท่อเป็นรูระบายหนองอยู่ตรงก้นย้อย ไม่ต้องทำแผล อาบน้ำได้(ผิดกับที่แรกที่สั่งห้ามโดนน้ำ ไม่ต้องแช่ก้น พักผ่อนและใช้ชีวิตตามปกติ เจ็บอยู่ราวๆ 10 วันก็หายเจ็บ
ผ่านไป 2 อาทิตย์แรก หมอเอาออกไป 1 ท่อและอีก 2 อาทิตย์ต่อมาก็เอาท่อออกทั้งหมด ผมลุ้นทุกวัน ดูผ้าอนามัยที่ใส่ไว้เพื่อซับหนองทุกวันว่าหนองที่ไหลออกมาน้อยลงไหม อารมณ์แปรปรวนมากช่วงนั้น วันไหนหนองน้อยก็ดีใจ วันไหนหนองมากโคตรหดหู่และกลัวเหลือเกินว่าจะไม่หาย วันที่หมอเอาท่ออันสุดท้ายออก หมอบอกว่าถ้าเจ็บให้มาหาเลย ผมลุ้นทุกวัน จนครบ2 อาทิตย์ ผมไม่เจ็บเลย ผมคลำแผลทุกวัน จนวันเจอหมอ อาจารย์อรุณคลำแผลแล้วบอกผมว่าโอกาสที่ผมจะหายมากกว่า 95% แล้ว ผมดีใจมาก น้ำตาจะไหลอีกรอบ
ณ ถึงตอนนี้ก็ยังเฝ้าดูอาการอยู่ครับ ยังภาวนาว่ามันจะหายไปเลยและขอให้คนที่เป็นฝีทุกคนเข้าสู่กระบวนการรักษาน่ะครับ ถ้ามีเงินเลือกหมอดี รพ ดี ช่วยเราได้เยอะเลยครับ ถ้าไม่มีเงินมากนักผมเเนะนำ รพ จุฬาครับ อาจารย์อรุณเป็นอาจารย์ที่นั่น มีลูกศิษย์แกมากมาย
ผมขอขอบคุณอาจารย์อรุณ โรจนสกุลมากๆ ครับ
1/12/63